enjoyjam.net

กิน - เที่ยว เปรี้ยวซ่า => กิน - เที่ยว เปรี้ยวซ่า => Topic started by: wmt on February 14, 2020, 02:33:07 PM

Title: สัมผัสมนต์เสน่ห์ของอิซุด้วยรถไฟด่วนพิเศษสำหรับท่องเที่ยวโฉมใหม่กับรถไฟด่วนสุดหรู
Post by: wmt on February 14, 2020, 02:33:07 PM
สัมผัสมนต์เสน่ห์ของอิซุด้วยรถไฟด่วนพิเศษสำหรับท่องเที่ยวโฉมใหม่กับรถไฟด่วนสุดหรู SAPHIR ODORIKO EXPRESS เปิดตัว 14 มี.ค.นี้

บริษัท East Railway Japan (หรือเรียกสั้นๆว่า JR East สำนักงานใหญ่: ชิบุยะ โตเกียว ประธานกรรมการ: นายฟุกะซาวะ ยูจิ) เปิดตัวรถไฟด่วนพิเศษ SAPHIR ODORIKO EXPRESS สำหรับท่องเที่ยวในพื้นที่บริเวณอิซุซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ โดยรถไฟขบวนนี้จะเริ่มให้บริการในวันที่ 14 มีนาคม 2563 และเปิดให้สำรองที่นั่งตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป บริเวณอิซุเป็นพื้นที่ที่เดินทางได้ง่ายจากโตเกียว ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ชาวญี่ปุ่นมักมาเที่ยวกับเพื่อนและครอบครัว คอนเซ็ปต์ของรถไฟขบวนใหม่นี้คือต้องการให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ที่แท้จริงของอิซุผ่านการท่องเที่ยวแบบเฟิร์สคลาสทั้งขบวน ด้วยขบวนรถโดยสารที่นั่งพิเศษแบบ Green ทุกที่นั่ง และพิเศษยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มที่นั่งแบบ Premium Green ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของรถไฟในเครือ JR East ที่ให้บริการที่นั่งสุดพิเศษเช่นนี้อีกด้วย นอกจากนี้รถไฟขบวนนี้ยังมีบริการอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งไฮไลท์จะอยู่ที่เมนูเส้นซึ่งเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการกินของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
 


ข้อมูลของ SAPHIR ODORIKO EXPRESS
【ชื่อของรถไฟด่วนพิเศษสำหรับท่องเที่ยว】
                                                                                                   
※SAPHIR มาจากภาษาฝรั่งเศสมีความหมายเดียวกับ SAPPHIRE (แซฟไฟร์) คือ อัญมณีไพลิน โดยชื่อของรถไฟขบวนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสีของท้องฟ้าและทะเลของอิซุที่มีสีฟ้าสดใสเหมือนดั่งหินแซฟไฟร์ ผู้โดยสารที่นั่งรถไฟจะได้รับประสบการณ์การเดินทางอย่างมีระดับและงดงาม



【ข้อมูลการเดินรถ】
・วันเริ่มให้บริการ: วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2020
・เส้นทางการเดินรถ: สถานี Tokyo / Shinjuku – สถานี Izukyu Shimoda

กำหนดการเดินรถทุกวัน
SAPHIR ODORIKO 1: Tokyo → Izukyu Shimoda ออก 11.00⇒ถึง 13.29
SAPHIR ODORIKO 2: Izukyu Shimoda → Tokyo ออก 14.12⇒ถึง 16.49

กำหนดการเดินรถชั่วคราว
SAPHIR ODORIKO 3: Tokyo → Izukyu Shimoda ออก 12.30⇒ถึง 15.30
SAPHIR ODORIKO 4: Izukyu Shimoda → Tokyo ออก 16.30⇒ถึง 19.20
SAPHIR ODORIKO 5: Shinjuku → Izukyu Shimoda ออก 12.25⇒ถึง 15.30

วันเริ่มขายบัตรโดยสาร: วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2020 (เวลาญี่ปุ่น)
*ทุกที่นั่งเป็น Green Car, Premium Green หรือ Green Private Compartment เท่านั้น จึงต้องจองที่นั่งล่วงหน้า
*กรณีที่ใช้บัตร JR TOKYO Wide Pass แล้วใช้บริการ SAPHIR ODORIKO จะมีค่าธรรมเนียมโดยสารด่วนพิเศษและค่าธรรมเนียม Green Car เพิ่มเติม

สามารถเลือกจองที่นั่ง SAPHIR ODORIKO ได้ก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น ผ่านเว็บไซต์ JR-EAST Train Reservation หมดปัญหาเรื่องไม่มีที่นั่งบนรถไฟเมื่อมาถึงญี่ปุ่นแน่นอน

ใช้บริการเว็บไซต์ JR-EAST Train Reservation ได้ที่:
https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/common/Menu/Menu.aspx

【การตกแต่งภายนอกตัวรถ】
การตกแต่งภายนอกตัวรถแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติอันยิ่งใหญ่อุดมสมบูรณ์ของอิซุ โดยขบวนรถใช้สีฟ้าครามแทนท้องทะเลและท้องฟ้าของอิซุ และบริเวณด้านหน้าและหลังคาใช้สีขาวซึ่งแสดงออกถึงหาดทรายขาวสะอาดของอิซุที่สะท้อนแสงแดดสีทอง สีเทาด้านข้างตัวรถแสดงออกถึงโขดหินลาวาสีเทาดำของชายฝั่งโจกาซากิ สำหรับหน้าต่างรถได้รับการออกแบบให้เป็นกระจกบานกว้างเพื่อให้ภายในดูโปร่งสบายและเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามภายนอกรถไฟได้
 



【ลักษณะเด่นและความพิเศษของรถไฟขบวนนี้】
รถไฟรุ่น E261 นำมาปรับปรุงใหม่ มีขบวนละ 8 ตู้โดยสาร จำนวน 2 ขบวน รองรับผู้โดยสารได้รวม 164 คน
・ตู้โดยสารที่ 1 / Premium Green
 ครั้งแรกของ JR East ที่ให้บริการแบบ Premium Green ซึ่งจัดที่นั่งเพียงแถวละ 1 ที่นั่งเพื่อให้ผู้โดยสารได้มีพื้นที่ส่วนตัวและได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางสุดพรีเมี่ยม แสงแดดที่ส่องเข้ามาผ่านกระจกบานใหญ่และวิวด้านนอกจะทำให้ผู้โดยสารรู้สึกเพลิดเพลินกับการเดินทาง 
       



・ตู้โดยสารที่ 2 และ 3 / ห้องโดยสารส่วนตัว Green Private Compartment
ห้องโดยสารส่วนตัวที่ให้ผู้โดยสารได้ใช้เวลาสบายๆ กับครอบครัวที่รักและเพื่อนที่รู้ใจจนถึงจุดหมาย โดยมีห้อง 2 ประเภทให้บริการคือ ห้องสำหรับ 1-4 ท่านและห้องสำหรับ 1-6 ท่าน ให้ผู้โดยสารได้มีช่วงเวลาที่เงียบสงบ ผ่อนคลายราวกับนั่งชิวอยู่ในคาเฟ่
       
・ตู้โดยสารที่ 4 / ห้องอาหาร
ห้องอาหารจะเป็นสไตล์ครัวแบบเปิด เสิร์ฟเมนูจำพวกบะหมี่ ทำให้การเดินทางไปอิซุมีสีสันมากขึ้น โดยเมนูนี้ได้รับการดูแลจากหัวหน้าเชฟร้าน DEN คุณฮาเซะกาวะ ไซริว ให้ผู้โดยสารได้ลิ้มรสชาติสุดอร่อยของบะหมี่ไปพร้อมๆกับชมวิวอันงดงามของอ่าวซากามิ
   



・ตู้โดยสารที่ 5 – 8 / Green Car
ที่นั่งแบบคู่ กว้างขวางนั่งสบาย 1 แถวมี 2 ที่นั่ง แสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาผ่านชั้นวางสัมภาระที่ทำจากกระจกทำให้ภายในตู้โดยสารมีแสงส่องอย่างทั่วถึง สร้างบรรยากาศสบายๆ ชวนให้เพลิดเพลินกับการเดินทาง
ในแต่ละขบวนมีที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ไว้บริการ อย่างเช่นห้องส่วนตัวแบบ Green Car Private Compartment ในตู้โดยสารที่ 2 และ 3 ภายในห้องจะมีพื้นที่สำหรับวางสัมภาระ ทุกๆที่นั่งและทุกห้องส่วนตัวจะมีปลั๊กไฟสำหรับชาร์ตโทรศัพท์หรือโน้ตบุ้ค ทั้งยังมีระบบเครือข่าย LAN ไร้สายให้บริการฟรีอีกด้วย
   



【แนะนำบริการอาหารและเครื่องดื่ม】
ห้องอาหารภายในตู้โดยสารที่ 4 มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม ทีเด็ดอยู่ที่เมนูเส้น ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการกินที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและเป็นเอกลักษณ์ที่ควรค่าแก่การเผยแพร่สู่ชาวโลกผ่านรถไฟด่วนพิเศษสำหรับท่องเที่ยวขบวนใหม่นี้
เมนูเส้นจะเปลี่ยนไปแต่ละช่วง สำหรับเมนูแรกที่จะนำเสนอคือ โชยุราเมน ราเมนต้นตำรับของร้าน DEN ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่ได้ 2 ดาวจาก Michelin Guide Tokyo ปี 2020 นอกจากจะสามารถมาทานที่ตู้โดยสารที่ 4 แล้วยังมีบริการเดลิเวอรี่ถึงห้องส่วนตัวในตู้โดยสารที่ 2 และ 3 อีกด้วย
 


เข้าชมรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SAPHIR ODORIKO ได้ที่: https://www.jreast.co.jp/saphir/en/

มาร่วมเดินทางกับ SAPHIR ODORIKO EXPRESS กันเถอะ! แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณอิซุ
อิซุเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมซึ่งถือเป็นมนต์เสน่ห์อย่างแท้จริง ทั้งยังมีแหล่งออนเซ็นจำนวนมากจนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแหล่งอุทยานธรณีโลก และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของญี่ปุ่นเพราะเดินทางจากโตเกียวได้ง่าย เราจึงอยากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณอิซุที่สามารถเดินทางไปได้อย่างสะดวกสบายด้วย SAPHIR ODORIKO EXPRESS รถไฟด่วนพิเศษสำหรับท่องเที่ยว

【เมืองชิโมะดะบริเวณอิซุ จังหวัดชิซุโอกะ】
เป็นเมืองท่าที่สำคัญตอนเปิดประเทศสมัยบาคุมัตสึ เมืองนี้ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกทางตอนใต้ของคาบสมุทรอิซุ มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์งดงาม รายล้อมไปด้วยภูเขาและทะเล ในปลายสมัยเอโดะ กองทัพเรือดำของอเมริกานำโดยพลเรือจัตวาแมทธิว ซี เพอร์รี่ ได้มาเซ็นสนธิสัญญาคานากาวะมีผลให้ญี่ปุ่นเปิดเมืองท่าชิโมะดะแห่งนี้เพื่อทำการค้าขายกับอเมริกา ทำให้มีบุคคลสำคัญในสมัยบาคุมัตสึมากมายมาเยือนเมืองนี้ทั้งนายพลเพอร์รี่, ซากะโมโตะ เรียวมะ, โยชิดะ โชอิน และคัตสึ ไคชู ดังที่ปรากฎในละครช่อง NHK เรื่อง Taiga นอกจากนี้เมืองนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย ทำให้ผู้เยี่ยมชมเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศเก่าๆ ของเมืองราวกับได้ย้อนเวลากลับไปยังสมัยนั้นจริงๆ
☞ วิธีการเดินทาง:ลงที่สถานี Izukyu Shimoda



ถนนเพอร์รี่



ชายฝั่งชิโมะดะ
ในสมัยบาคุมัตสึ พลเรือจัตวาแมทธิว ซี เพอร์รี่ นายพลของอเมริกา ได้กล่าวชมความงามของทะเลของชิโมะดะว่า "ทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดนั้นช่างงดงามเหลือเกิน" (จากบันทึกการเดินทางของนายพลเพอร์รี่)
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยความสวยงามของทะเลชิโมะดะก็ยังเป็นที่ประทับใจของผู้ที่มาเยี่ยมเยือนไม่เสื่อมคลาย เมืองชิโมะดะรายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์มีชายหาดน้อยใหญ่มากมาย ซึ่งแต่ละที่ต่างก็มีเอกลักษณ์ของตน รับรองว่าทัศนียภาพอันสวยงามของหาดทรายขาวและทะเลสีฟ้าโคบอลต์สะอาดตาจะต้องตราตรึงอยู่ในความทรงจำของทุกคน



ชิโมะดะออนเซ็น
ออนเซ็นเมืองชิโมะดะขึ้นชื่อในเรื่องปริมาณน้ำร้อนที่อุดมสมบูรณ์ การแช่ออนเซ็นถือเป็นกิจวัตรประจำวันของชาวเมืองตั้งแต่อดีต จนปัจจุบันที่นี่กลายเป็นเมืองออนเซ็นที่มีที่พักพร้อมออนเซ็นหลากหลายรูปแบบให้บริการทั้งแบบค้างคืนและแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือถ้าใครไม่ชินกับการเข้าออนเซ็นก็มีออนเซ็นมือและเท้าให้บริการอีกด้วย หากมาที่นี่แล้วก็อย่าลืมมาแช่ออนเซ็นผ่อนคลายกายและใจให้หายเหนื่อยล้าจากการเดินทาง



ปลาคินเมได ของขึ้นชื่อของเมืองชิโมะดะ
ปลาคินเมได (Kinmedai) เป็นปลาที่มีหนังสีแดงสด เนื้อด้านในสีขาวมีไขมันแทรกอยู่ จุดเด่นของปลาชนิดนี้คือมีเนื้อแน่นให้รสสัมผัสที่ดีจึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากและราคาค่อนข้างสูง จัดว่าเป็นปลาชั้นดี ท่าเรือที่มีปริมาณการจับปลาคินเมไดเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่นก็คือท่าเรือชิโมะดะแห่งเมืองชิโมะดะ จังหวัดชิซุโอกะ หากกล่าวถึงเมนูเด็ดที่ทำจากปลาคินเมไดแล้ว ก็ย่อมได้แก่ซาชิมิ ต้มซีอิ๊วและชาบูชาบู  นอกจากนี้ยังมีเมนูทานง่ายอย่างเบอร์เกอร์และโคร็อกเกะให้ได้เลือกทานอีกด้วย ปลาคินเมไดมีเนื้อเยอะ ก้างน้อยและนิ่มจึงทานง่ายเหมาะกับทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ถ้าอยากลิ้มรสปลาคินเมไดสดๆ รสชาติดั้งเดิมต้องมาที่เมืองชิโมะดะที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งคินเมไดอันดับ 1 ของญี่ปุ่นแห่งนี้เท่านั้น

【ชายฝั่งโจกะซากิ จังหวัดชิซุโอกะ】
ชายฝั่งโจกะซากิเกิดจากการแข็งตัวของลาวาที่ไหลออกมาตอนภูเขาไฟโอมุโระปะทุเมื่อประมาณ 4000 ปีที่แล้ว บริเวณนี้มีสถานที่น่าสนใจหลายจุด เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติและเส้นทางสำหรับปิคนิคที่มีระยะทางรวมกว่า 9 กิโลเมตร สะพานคาโดวากิซุริที่สูง 23 เมตร ยาว 48 เมตรก็เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและน่าตื่นเต้น อีกจุดหนึ่งคือประภาคารคาโดวากิที่สามารถชมวิวของเกาะทั้ง 7 ของคาบสมุทรอิซุและเทือกเขาอามะกิได้แบบพาโนรามา 360 องศา นอกจากความสวยตระการตาของวิวทิวทัศน์แล้ว ที่นี่ยังมีดอกไม้สวยงามมากมายให้ชมตลอดปีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นดอกไฮเดรนเยียช่วงเดือนมิถุนายน ดอกลิลลี่ซุคาชิและดอกลิลลี่ฮามะคันโซช่วงเดือนกรกฎาคม และดอกไม้แสนน่ารักอย่างดอกเก๊กฮวยและดอกซึวะบุคิที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ร่วง
☞ วิธีการเดินทาง:ลงที่สถานี Jogasakikaigan แล้วเดินต่อประมาณ 25 นาที



ชายฝั่งโจกะซากิ

【เมืองคาวะซุ จังหวัดชิซุโอกะ】
เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณปลายคาบสมุทรอิซุ จังหวัดชิซุโอกะ เสน่ห์ของที่นี่คือมีธรรมชาติทั้งทะเล ภูเขา แม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์และมีดอกไม้บานตลอดทั้งปี สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาที่นี่คือการชมซากุระคาวะซุที่จะบานสะพรั่งทั่วทั้งเมือง ซากุระชนิดนี้เป็นซากุระที่เติบโตด้วยสภาพอากาศอบอุ่นของอิซุ มีสีสันเป็นเอกลักษณ์และจะบานแค่เพียง 1 เดือนเท่านั้น คือตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์จนถึงต้นเดือนมีนาคม และในช่วงนี้ของทุกๆ ปีจะมีเทศกาลซากุระคาวะซุ ทั้งเมืองจะแต่งแต้มไปด้วยสีชมพูเข้มของซากุระซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการประกาศก้าวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ นอกจากที่นี่จะโดดเด่นเรื่องซากุระแล้ว ดอกคาเนชั่น ดอกกุหลาบและดอกไอริสของที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กัน
☞ วิธีการเดินทาง:สถานี Kawazu



ซากุระของเมืองคาวะซุ

บริเวณอิซุเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ทั้งยังเดินทางจากโตเกียวได้สะดวก จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ยิ่งเดินทางด้วย SAPHIR ODORIKO EXPRESS ของ JR East ยิ่งทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายและเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถชมวิวสวยๆ ได้ตลอดการเดินทางและยังสามารถแวะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในอิซุได้มากมาย อาทิ ชายฝั่งโจกะซากิและเมืองคาวะซุ ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ของอิซุได้อย่างแท้จริง

■ ท่องเที่ยวโตเกียวและเมืองข้างเคียงได้สนุกยิ่งขึ้นด้วย JR TOKYO Wide PASS
การใช้ JR TOKYO Wide PASS จะทำให้คุณท่องเที่ยวโตเกียวและเมืองข้างเคียงได้สนุกและสะดวกสบายยิ่งขึ้นเพราะสามารถขึ้นรถไฟของ JR East ได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน โดยตั๋วผู้ใหญ่จำหน่ายในราคา 10,180 เยน และตั๋วเด็กราคา 5,090 เยน
เข้าไปดูรายละเอียดได้เลยที่นี่: https://www.jreast.co.jp/multi/pass/tokyowidepass.html

■ จองที่นั่งผ่าน JR-EAST Train Reservation
เพื่อการท่องเที่ยวที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
ท่านสามารถเดินทางได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยบริการจองที่นั่งบนรถไฟและรถไฟชิงคันเซ็นล่วงหน้าผ่านอินเตอร์เน็ตก่อนเดินทางมาประเทศญี่ปุ่น หมดปัญหาเรื่องไม่มีที่นั่งบนรถไฟ
เข้าไปดูรายละเอียดได้เลยที่นี่: https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/common/Menu/Menu.aspx

■ ดูข้อมูลการท่องเที่ยวที่น่าสนใจของญึ่ปุ่นได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ JR EAST
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ JR EAST นำเสนอข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และเสน่ห์ของญี่ปุ่นทั้ง 4 ฤดูให้ได้ศึกษาเพื่อวางแผนก่อนมาเที่ยวญี่ปุ่น ลองเข้าไปดูกันได้เลย!
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ JR EAST: https://eastjapanrailway.com/th/2020-winter