Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - happy

Pages: 1 ... 2248 2249 [2250] 2251 2252 ... 2261
33736
อกาลิโก ได้สิทธิ์"พระนารายณ์อวตาร"หนังการ์ตูนอินเดีย ตำนานอวตาร 10 ปาง ของเทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู

ปกพระนารายณ์อวตาร





หลังจากประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง จากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง "พระพิฆเนศมหาเทพแห่งปัญญา" อกาลิโก เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ค่ายหนังน้องใหม่เดินหน้าต่อด้วยการนำเข้าภาพยนตร์ ANIMATION เรื่องที่ 2 "DASHAVATAR"ชื่อภาษาไทยว่า "พระนารายณ์อวตาร" นำทีมโดย  สมเกียรติ เรือนประภัสสร์ ประธานกรรมการบริษัท อกาลิโก เอ็นเตอร์เทนเม็นท์ จำกัด เผยว่า
"ขณะนี้ได้รับมอบลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ ANIMATION เรื่อง "DASHAVATAR" ซึ่งเป็นงานสร้างของ Shemaroo Entertainment ผู้สร้างการ์ตูน "พระพิฆเนศ"  สำหรับเนื้อหาของ"พระนารายณ์อวตาร" นี้เล่าถึงเรื่องราวการอวตารของพระนารายณ์ หรือ พระวิษณุเทพ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู  มีหน้าที่ในการปกป้องดูแลเหล่าทวยเทพและมวลมนุษย์จากความชั่วร้าย
ในการทำหน้าที่ให้สมบูรณ์นั้น มีหลายครั้งที่พระนารายณ์ได้ถืออวตารมาในรูปแบบต่างๆตามสถานการณ์แต่ละห้วงเวลาในคัมภีร์พระเวทมีการกล่าวถึงการอวตารของพระนารายณ์ว่า ได้อวตารมาในรูปแบบต่างๆ ถึง 24 อวตาร แต่ที่สำคัญนั้นมีอยู่ 10 อวตารคือ
1.    มัตสยาอวตาร โดยถืออวตารเป็นปลา
2.    กูรมาอวตาร โดยทรงอวตารมาเป็นเต่า
3.    วราหอวตาร ทรงอวตารมาเป็น หมู่ป่า
4.    นรสิงห์อวตาร เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งสิงห์
5.    วามนาอวตาร ทรงมาเป็นคนแคระ
6.    ปรศุรามอวตาร เป็นนักบวชที่ถืออาวุธ
7.    รามาอวตาร เป็นพระราม เพื่อปราบ ทศกัณฐ์
8.    กฤษณะอวตาร เป็นพระกฤษณะผู้ทรงประทาน คัมภีร์ภัควัตคีตาให้กับชาวโลก
9.    พุทธอวตาร หรือสมเด็จพระสัมามัมพุทธเจ้า ผู้ทรงชี้นำทางแห่งอหิงสา
10.  กัลกิอวตาร อัศวินขี่ม้าขาวจะอวตารมาในอีกประมาณ 2500 ปี
ซึ่งภาพยนตร์การตูนเรื่องนี้เต็มไปด้วยสีสันและแอ็คชั่นรวมถึงการผจญภัย โดยหยิบเอาตอนสำคัญๆของแต่ละอวตารมาผูกโยงเข้าเป็นเรื่องเดียวกันอย่างกลมกลืนและเข้าใจง่าย  ในเรื่องราวการอวตารทั้ง 10 ภาคของพระนารายณ์  ผมมั่นใจว่าจะเป็นที่สนใจของเยาวชนและเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วไป โดยการ์ตูน พระนารายณ์อวตาร จะออกสู่สายตาเยาวชนและผู้ศรัทธาในศาสนาฮินดูปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ครับ”





















33737
ฉลองหอแต๋วแตก


















33738
โดราเอม่อน ตอน โนบิตะ กับ ตำนานยักษ์พฤกษา 





เนื้อเรื่องย่อ
       
เริ่มต้นจากการที่โนบิตะไปเก็บเอาต้นอ่อนมาจากภูเขาหลังโรงเรียน และ
โนบิตะได้ใช้ยาวิเศษของโดราเอมอนทำให้ต้นอ่อนเคลื่อนไหวและพูดเองได้ โนบิตะตั้งชื่อให้ว่า "คีโบ" วันหนึ่งเมื่อทุกคนพากันไปที่ภูเขาหลังโรงเรียนจู่ๆก็มีน้ำวนยักษ์ปรากฏขึ้น มา แล้วก็ดูดพวกโนบิตะเข้าไปและพาพวกเขาไปยังโลกอันแสนประหลาดที่มีต้นไม้ยักษ์ แผ่กิ่งก้านสาขากว้างใหญ่ที่มีชื่อว่า "ดาวแห่งสีเขียว"ซึ่งมีพวกพืชที่มีวิวัฒนาการจนสามารถพูดได้เหมือน อย่างคีโบปกครองอยู่โดยมีเจ้าหญิงรีเรเป็นผู้นำและอำมาตย์ใหญ่ชีร่าผู้วาง แผนลับเพื่อปกป้องอนาคตของดาวสีเขียวเอาไว้เป็นผู้รับใช้อยู่เบื้องหลัง โนบิตะ โดราเอมอน และเพื่อนๆ จะทำเช่นไร? เพื่อกลับคืนสู่โลกเดิมของตน และตำนานคนยักษ์สีเขียวในตำนานคืออไรกันแน่?...!










พร้อมเข้าฉายอย่างเป็นทางการ
วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม 2552
ทุกโรงภาพยนตร์ SF เท่านั้น

โดราเอม่อน ตอน  ตำนานยักษ์พฤกษา

โดราเอม่อน เดอะมูวี่ ตอน  ตำนานยักษ์พฤกษา เรื่องที่ 28 เข้าโรงภาพยนตร์
ที่ญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อ วันที่ 8 มีนาคม 2008 และกวาดรายได้ไปอย่างมหาศาล โดยกวาดรายได้ ถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเป็นเงินราว 5 ร้อยล้านเย็น ในการออกฉายเพียงแค่สัปดาห์แรก แซงหน้า หนังดังอย่างจั้มป์เปอร์ของทางฮอลิวูดลิบลิ่วถึงกว่า 4 แสนดอลล่าเลยทีเดียว และกวาดรายได้ตลอดการออกฉาย 7 สัปดาห์ที่ญี่ปุ่นรวมรายได้ทั้งหมด 31,580,353 ดอลล่า สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินญี่ปุ่น กวาดรายได้ไปถึง 3,375 ล้านเยนนับได้ว่าเป็นภาพยนตร์การ์ตูนที่สร้างรายได้มหาศาลอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนั้นเรื่องนี้ได้ทำการออกอากาศในช่องฟรีทีวีของทางญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2009 เวลา 19.00 น. และได้รับเรตติ้งการออกอากาศอย่างถ้วมท้นถึง 12.1 %เลยทีเดียว เท่ากับว่าคน 100 คนในประเทศญี่ปุ่น รับชมการออกอากาศของการ์ตูนเรื่องนี้สูงถึง 12 คนเลยทีเดียว

การ์ตูนในเวรอ์ชั่นภาพยนตร์เรื่องนี้ สร้างมาจากพื้นเรื่องเดิม ของโดราเอม่อน
ซีรี่ส์ จากเล่ม 26 ในชื่อตอน ชีวิตในพงไพร และ ในเล่มที่ 33 กับชื่อตอน “ลาก่อนคิโบ” และนี่เป็นเรื่องแรกในโดราเอม่อนเดอะมูวี่หลังจากที่ครบคอบฉลอง 25 ปีโดราเอม่อนที่ไม่ได้เป็นการรีเมค แต่ประการใด แต่อย่างไรก็ตาม ตัวละครหลักของเรื่องนี้ที่ชื่อว่า คิโบ    ได้เคยมีการออกสู่สายตาประชาชนกันแล้วในรูปแบบของภาพยนตร์โดราเอม่อนตอน      “ตะลุยอาณาจักรเมฆ” ของปี 1992 ซึ่งชื่อของ คิโบ หนึ่งในตัวละครหลักของภาคนี้นั้น        มีความหมายมาจากคำว่า คิ ที่แปลว่า ต้นไม้ และคำว่า โบว ที่แปลว่า แท่ง ซึ่งหมายถึง     แท่งไม้ แต่ทว่า คำว่า คิโบ ก็ยังคงเป็นคำพ้องเสียงของคำว่า คิโบ ที่แปลว่า ความหวังได้อีกด้วย ซึ่งตรงจุดนี้ ก็เป็นการเชื่อมโยงกับคำโปรยทีว่า “การขับเคลื่อนวิถีแห่งอนาคต คือความหวังของพวกเรานั่นเอง”

33739
STAR SHOW มหา"ลัยสยองขวัญ ณ.ศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า
โดยมีดารานำมาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับหนังเรื่องมหา'ลัยสยองขวัญ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2552ที่ผ่านมา















33740
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว


33741
ของสะสมประเภท handbill / PC/เฉือน
« on: October 22, 2009, 11:47:02 AM »
คงมีแจกตามเมเจอร์ เห็นมีโลโก้เมเจอร์ด้วย


33742
ข่าวภาพยนตร์ / CROSSING OVER
« on: October 19, 2009, 03:59:11 PM »
CROSSING OVER
ครอสซิ่ง โอเวอร์ สกัดแผนยื้อฉุดนรก

เฉพาะในเครือ SF CINEMA CITY

19 พฤศจิกายนนี้










-เรื่องย่อ-   
             อเมริกามักเสนอความหวังให้คุณ แต่มันต้องมีค่าใช้จ่ายเสมอ หลายคนสามารถขอเป็นพลเมืองอเมริกันที่ถูกกฎหมายได้โดยผ่านขั้นตอนทางราชการอันยืดยาว แต่อีกหลายๆ คนก็พบว่าโชคไม่อยู่เคียงข้างพวกเขาในประเทศที่อะไรก็ซื้อได้ ไม่ว่าเซ็กส์, ความรุนแรง หรือการหลอกลวง ล้วนเป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น บางคนรอคอยอยู่ที่เส้นพรมแดนประเทศสหรัฐฯ ขณะที่คนอื่นกุมชะตาชีวิตไว้ในกำมือของตนเอง
             งานของแม็กซ์ โบรแกน (แฮร์ริสัน ฟอร์ด) เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง (ICE) แห่งลอส แองเจลีส คือการรักษากฎระเบียบเรื่องการผ่านแดนอย่างเคร่งครัด เขาต้องพบเจอผู้คนนับหมื่นที่พยายามเข้ามาในสหรัฐอเมริกาเพื่อแสวงหาอนาคตที่ดีกว่า เมื่อมองผ่านชีวิตของแม็กซ์ โบรแกน และเพื่อนคู่หูอย่าง ฮามิด บาราเฮอรี (คลิฟฟ์ เคอร์ติส) รวมทั้งเดนิซ แฟรงเคล (แอชลีย์ จัดด์) นักกฎหมายประจำหน่วย และสามีของเธอ โคล แฟรงเคล (เรย์ ลิออตต้า) ผู้มีหน้าที่พิจารณาคำร้องขอ เราจะเห็นภาระหนักหนาของความรับผิดชอบที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวของพวกเขา
             ด้วยความจำเป็น, เหตุบังเอิญ หรือพรหมลิขิตก็แล้วแต่ ชีวิตของพวกเขาต้องไปทาบทับกับชีวิตของมิเรอยา ซานเชส (อลิซ บรากา) สาวโรงงานชาวเม็กซิกัน, ซาฮ์รา บาราเฮอรี (เมโลดี้ คาซาอี) น้องสาวของฮามิด, ทาสลิมา จาฮานจีร์ (ซัมเมอร์ บิชิล) เด็กสาวชาวบังคลาเทศ, เกวิน คอสเซฟ (จิม สเตอร์เจส) นักดนตรีหนุ่มชาวอังกฤษ, แคลร์ เชพพาร์ด (อลิซ อีฟ) นักแสดงสาวชาวออสเตรเลีย และคิม ยอง (จัสติน ชอน) เด็กหนุ่มจากเกาหลี
             แต่ละคนต่างต้องดิ้นรนบนเส้นทางของตนเอง ในสถานะแม่ผู้เดินทางจากลูกของเธอมา, นักเรียนหญิงผู้ถูกเพ่งเล็งโดยเอฟบีไอ, นักแสดงผู้ยอมขายตัวเพื่อแลกกับกรีนการ์ด, นักดนตรีผู้ไขว่คว้าหาความสำเร็จ และเด็กหนุ่มผู้ตกอยู่ท่ามกลางสองวัฒนธรรมที่แตกต่าง และสิ่งที่โบรแกนต้องรับมืออยู่ทุกวัน ก็คือสิ่งเดียวกันกับที่ประเทศของเขาต้องรับมือในตอนนี้
             ใน Crossing Over ผู้ชมจะได้เรียนรู้ว่าสิ่งเดียวที่จะเอาชนะสิ่งที่แบ่งแยกเราออกจากกันได้ ก็คือความฝันที่พวกเรามีร่วมกันนั่นเอง ผู้กำกับ/ผู้เขียนบท เวย์น เครเมอร์ ผู้สร้างชื่อจากผลงานชิ้นแรกในปี 2003 เรื่อง The Cooler ยกขบวนทีมงานคู่ใจกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องนี้ อาทิ เจมส์ วิเทเกอร์ ผู้กำกับภาพ, โทบี้ คอร์เบ็ทท์ ผู้ออกแบบงานสร้าง, อาเธอร์ โคเบิร์น ผู้ลำดับภาพ และผู้ออกแบบเสื้อผ้า คริสทิน เบิร์ก
           Crossing Over เป็นผลงานการสร้างของบริษัท เดอะ ไวน์สไตน์ คอมพานี โดยแฟรงค์ มาร์แชลล์ โปรดิวเซอร์ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ถึง 4 ครั้ง ซึ่งอำนวยการสร้างร่วมกับเกร็ก เทย์เลอร์ และมีไมเคิล บีอักก์ เป็นผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร








-นักแสดง-
แฮร์ริสัน ฟอร์ด (แม็กซ์ โบรแกน)
             หนึ่งในนักแสดงชายผู้มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องมากที่สุดในยุคของเรา พิสูจน์ได้จากผลงานภาพยนตร์ทั้งสิ้น 41 เรื่อง และมีถึง 11 เรื่องที่ทำรายได้มากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เช่น ภาพยนตร์ชุด Star Wars และ Indiana Jones รวมถึง Air Force One (1997), The Fugitive (1993) และ Patriot Games (1992) ส่งผลให้เขากลายเป็นฮีโร่อเมริกันผู้ยิ่งใหญ่ของแฟนภาพยนตร์ทั่วโลก
             ฟอร์ดได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ และลูกโลกทองคำจากภาพยนตร์เรื่อง Witness (1985) ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำจาก Sabrina (1995), The Fugitive และ The Mosquito Coast (1986)
             สมาคมผู้ประกอบธุรกิจโรงภาพยนตร์ยกให้เขาเป็นดาราแห่งศตวรรษเมื่อปี 1994 นิตยสาร People เลือกฟอร์ดเป็น “บุรุษผู้เซ็กซี่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่” ในปี 1998 และปีนั้นเองที่เขาได้รับรางวัล People’s Choice Award ในฐานะดาราภาพยนตร์ผู้เป็นที่นิยมตลอดกาล และได้รางวัลนี้อีกครั้งในปี 2000 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่สถาบันภาพยนตร์อเมริกันได้มอบรางวัล Life Achievement Award ให้เขา และในปี 2002 ฟอร์ดก็ได้รับรางวัล Cecil B. DeMille จากสถาบันลูกโลกทองคำ ในฐานะผู้ประสบความสำเร็จในสาขาอาชีพของตน

-ผลงานเด่นเรื่องอื่นของแฮร์ริสัน ฟอร์ด-
American Graffiti (1973)   โดยผู้กำกับ จอร์จ ลูคัส
Hanover Street (1979)   โดยผู้กำกับ ปีเตอร์ ไอแอมส์
Blade Runner (1982)   โดยผู้กำกับ ริดลีย์ สก็อตต์
Frantic (1988)   โดยผู้กำกับ โรมัน โปลันสกี
Working Girl (1988)   โดยผู้กำกับ ไมค์ นิโคลส์
Persumed Innocent (1990)   โดยผู้กำกับ อลัน เจ พาคูลา
Regarding Henry (1991)   โดยผู้กำกับ ไมค์ นิโคลส์
Clear and Present Danger (1994)   โดยผู้กำกับ ฟิลลิป นอยซ์
Random Hearts (1999)   โดยผู้กำกับ ซิดนีย์ พอลแล็ค
What Lies Beneath (2000)   โดยผู้กำกับ โรเบิร์ต เซเมคคิส

เรย์ ลิออตต้า (โคล แฟรงเคล)
             อาชีพนักแสดงของเรย์ ลิออตต้า เริ่มต้นอย่างสวยหรูด้วยการได้รับเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากภาพยนตร์เรื่อง Something Wild เมื่อปี 1986 ตามมาด้วยบทเด่นในภาพยนตร์อีกสองเรื่องคือ Dominic and Eugene (1988) และ Field of Dreams (1989) จนกระทั่งมาถึง Goodfellas ผลงานชั้นเยี่ยมของมาร์ติน สกอร์เซซีในปี 1990 ที่ส่งให้ชื่อของเขาเป็นที่จดจำเพียงชั่วข้ามคืน
             ด้วยผลงานมากกว่า 25 เรื่อง ลิออตต้าเลือกรับบทที่แตกต่างในภาพยนตร์หลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เบาสมองอย่าง Heartbreakers (2001) และ Corrina, Corrina (1994) หรือภาพยนตร์แอ็คชั่นระทึกขวัญอย่าง Smokin’ Ace (2006), Hannibal (2001), No Escape (1994) และ Unlawful Entry (1992)
             ลิออตต้าเริ่มต้นงานด้านอำนวยการสร้างครั้งแรก ควบคู่ไปกับการแสดงในผลงานเรื่อง Narc (2002) ซึ่งทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัล IFP Award สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมด้วย ผลงานเด่นเรื่องอื่นของเขาได้แก่ Revolver (2005), Identity (2003), John Q (2002), Blow (2001), Cop Land (1997) และภาพยนตร์โทรทัศน์ที่ออกอากาศทางช่อง HBO เรื่อง The Rat Pack (1998) ซึ่งทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัล Screen Actors Guild จากการรับบทเป็น “แฟรงค์ ซินาตร้า”

แอชลีย์ จัดด์ (เดนิซ แฟรงเคล)
             จัดด์พิสูจน์ความสามารถด้านการแสดงของเธอเป็นครั้งแรกจากบท “รูบี้ ลี จิสซิ่ง” ในภาพยนตร์เรื่อง Ruby in Paradise ที่ทำให้เธอคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก Chicago Film Critics Association Award และ Independent Spirit Award ในปี 1993 จากนั้นเธอก็มีผลงานตามมาอย่างต่อเนื่อง เรื่องที่รู้จักกันดี ได้แก่ High Crimes (2002), Someone Like You (2001), Where the Heart Is (2000), Double Jeopardy (1999), Eye of the Beholder (1999), Kiss the Girls (1997), A Time to Kill (1996), Heat (1995) รวมถึงภาพยนตร์ที่ออกฉายทางสถานีโทรทัศน์ HBO เรื่อง Norma Jean & Marilyn ซึ่งทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมี่ และลูกโลกทองคำประจำปี 1996 จากบท “นอร์มา จีน ดัฟเฮอร์ตี้”
             นอกจากการเป็นนักแสดง จัดด์ยังเป็นนักต่อสู้เพื่อสังคมด้วย เธอภูมิใจมากที่รับตำแหน่งทูตประจำ YouthAIDS ซึ่งเป็นองค์กรที่ริเริ่มโครงการระดมเงินทุนเพื่อนำมาช่วยป้องกันการแพร่กระจายโรคเอดส์ไปยังประชากรเด็กทั่วโลก จัดด์ต้องเดินทางไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, แอฟริกา, สาธารณรัฐคองโก, รวันดา, อเมริกากลาง และอินเดีย เพื่อเยี่ยมเยือนสถานเด็กกำพร้า, ชุมชนแออัด, ซ่องโสเภณี, คลินิก, ที่พักผู้ป่วย และศูนย์เยาวชนในประเทศเหล่านั้น

คลิฟฟ์ เคอร์ติส (ฮามิด บาราเฮอรี)
             นักแสดงชายมากพรสวรรค์จากนิวซีแลนด์ ผู้เคยฝากฝีมือไว้ในภาพยนตร์ของผู้กำกับชื่อดังมานับไม่ถ้วน อาทิ Bringing Out the Dead (1999) ของมาร์ติน สกอร์เซซี, The Insider (1999) ของไมเคิล มานน์, Three Kings (1999) ของเดวิด โอ รัสเซลล์, Sunshine (2007) ของแดนนี่ บอยล์, The Majestic (2001) ของแฟรงค์ ดาราบองท์, The Piano (1993) ของเจน แคมเพียน, Training Day (2001) ของอังตวน ฟูคัว, The Fountain (2006) ของดาร์เรน อาโรนอฟสกี, Fracture (2004) ของเกรกอรี่ ฮอบลิท และ 10,000 BC (2008) ของโรลันด์ เอ็มเมอริช
             เคอร์ติสแจ้งเกิดจากการแสดงคู่กับไคชา คาสเซิล ฮิวส์ ใน Whale Rider () ภาพยนตร์นิวซีแลนด์เรื่องดังโดยผู้กำกับ นิกิ คาโร ในปี 1993 เขาได้รับรางวัล New Zealand Film Award สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Desperate Remedies
             ผลงานเด่นเรื่องอื่นของเคอร์ติส ได้แก่ Die Hard 4: Live Free or Die Hard (2007), Runaway Jury (2003), Blow (2001) และ Once Were Warriors (1994) 

จิม สเตอร์เจส (เกวิน คอสเซฟ)
             นักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษ ผู้โด่งดังมาจากบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Across the Universe (2007) โดยผู้กำกับ จูลี่ เทย์เมอร์ ที่นำบทเพลงอมตะของเดอะ บีเทิลส์ มาร้อยเรียงเป็นเรื่องราว ผลงานก่อนหน้า Crossing Over ของเขาคือ The Other Boleyn Girl (2008) ของผู้กำกับ จัสติน แชดวิค, 21 (2008) ของผู้กำกับ โรเบิร์ต ลูเคติค และ Fifty Dead Men Walking (2008) ของผู้กำกับ แครี สกอกลันด์

อลิซ บรากา (มิเรอยา)
             นักแสดงสาวดาวรุ่งชาวบราซิล ผู้ถูกจับตามองหลังจากร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง City of God (2002) ซึ่งทำให้เธอได้มาเยือนฮอลลีวูด ด้วยการประกบคู่กับวิล สมิธ ใน I Am Legend (2007) ตามด้วย Redbelt (2008) ผลงานกำกับของเดวิด มาเม็ท แล้วจึงกลับมาร่วมงานกับเฟอร์นันโด ไมเรลเลส ผู้กำกับ City of God อีกครั้งใน Blindness (2008)
             ผลงานเรื่องอื่นของเธอ ได้แก่ The Milky Way (2007), Drained (2006), Journey to the End of the Night (2006), Only God Knows (2006) และ Lower City (2005)


33743
ข่าวภาพยนตร์ / THE BROTHERS BLOOM
« on: October 19, 2009, 03:32:40 PM »
                                       THE BROTHERS BLOOM



5 พฤศจิกายนนี้ เฉพาะที่ SFW เซ็นทรัลเวิล์ด และ APEX สยามสแควร์

-เนื้อหา-

             เอเดรียน โบรดี้ นักแสดงชายรางวัลออสการ์จาก The Pianist (2002), ราเชล ไวซ์ นักแสดงหญิงรางวัลออสการ์จาก The Constant Gardener (2005), มาร์ค รัฟเฟโล (Zodiac) และริงโกะ คิคูชิ นักแสดงสาวชาวญี่ปุ่นผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์จาก Babel (2006) ร่วมประชันบทบาทกันใน The Brothers Bloom ภาพยนตร์เบาสมองเรื่องของการผจญภัยครั้งสุดท้ายของสองหนุ่มนักต้มตุ๋นมือหนึ่งของโลก

             ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของคู่พี่น้องตระกูลบลูม โลกที่การหลอกลวงคือศิลปะ และไม่มีสิ่งใดเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น สองพี่น้องมีฝีไม้ลายมืออันหาที่ติไม่ได้ตลอดระยะเวลาหลายปีของการร่วมงานกัน บัดนี้ทั้งคู่ตัดสินใจทำงานชิ้นสุดท้าย ด้วยการวางแผนหลอกล่อสาวสวยรวยทรัพย์นิสัยประหลาดคนหนึ่ง ให้เดินเข้าสู่หลุมพรางที่ทำให้พวกเขาต้องออกเดินทางท่องไปทั่วโลก

             เท่าที่จำความได้ สตีเฟ่น  (มาร์ค รัฟเฟโล) และบลูม  (เอเดรียน โบรดี้) มีเพียงกันและกันตลอดมาตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่เป็นสิบแปดมงกุฎระดับชาติ ทั้งสองแบ่งปันทุกสิ่งร่วมกัน สตีเฟ่นเป็นคนคิดแผนการอันซับซ้อน ขณะที่บลูมผู้น้องยังคงใฝ่ฝันถึงการผจญภัยอันแท้จริง แบบที่ไม่ต้องพึ่งพาแผนการของพี่ชาย และเมื่ออยากวางมือ บลูมรับปากทำงานกับสตีเฟ่นเป็นครั้งสุดท้าย โดยเข้าไปตีสนิทกับเพเนโลพี (ราเชล ไวซ์) ทายาทมหาเศรษฐีจากนิวเจอร์ซีย์ จนเมื่อความสัมพันธ์เริ่มเบ่งบาน เพเนโลพีก็เชื่อว่าตนเองกำลังจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต เธอและ บลูม พร้อมด้วยสตีเฟ่น และแบงแบง (ริงโกะ คิคูชิ) ผู้ช่วยสาวของพวกเขา ร่วมเดินทางข้ามมหาสมุทรไปกรีซ และตระเวนไปทั่วโลก จากกรุงเอเธนส์ ไปกรุงปราก ไปเม็กซิโก สู่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มก้าวเข้าใกล้จุดอันตราย บลูมจึงได้รู้ว่าแผนครั้งนี้ของพี่ชายคือแผนที่เสี่ยงตายที่สุดในชีวิตการเป็นนักต้มตุ๋นของเขา









-เบื้องหลังงานสร้าง-

             ในฐานะนักสร้างภาพยนตร์รุ่นใหม่ไฟแรง  ไรอัน จอห์นสัน ผู้เขียนบทและผู้กำกับ The Brothers Bloom มีประสบการณ์เกี่ยวกับหนังมาตั้งแต่ช่วงวัยแรกรุ่น จากการดูหนังคลาสสิค และทำหนังโฮมมูฟวี่ร่วมกับเพื่อนๆ ของเขา Brick ผลงานขนาดยาวเรื่องแรกของจอห์นสันที่เป็นหนังสืบสวนในโรงเรียนมัธยม ชนะรางวัล Special Jury Prize จากเทศกาลภาพยนตร์ซันดานซ์ปี 2005 และผลงานต่อมาคือ The Brothers Bloom เรื่องนี้ คือการนำสไตล์เล่าเรื่องอันโดดเด่นในแบบของเขา มาใส่ไว้ในหนังแนวคลาสสิค

             ท่ามกลางภาพยนตร์มากมายหลายเรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจให้จอห์นสันในวัยเด็ก  มีหนังเบาสมองอย่าง The Sting และ Dirty Rotten Scoundrels ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักต้มตุ๋นมืออาชีพ ผู้ที่ชีวิตของพวกเขาต้องก้าวล้ำนำหน้าคนอื่นไปขั้นหนึ่งเสมอ “ผมอยากทำหนังตลกเกี่ยวกับนักต้มตุ๋น” เขากล่าว “ผมค่อยๆ เขียนเรื่องของสองพี่น้องและหญิงสาวคนหนึ่งที่พวกเขาพบ และในที่สุดมันก็เกิดเป็นหนังเรื่องนี้ขึ้นมา”

             บรรดาตัวละครพิเศษที่จอห์นสันสร้างสรรค์ขึ้นมา ทำให้เขาต้องออกไปค้นหาโลเคชั่นแปลกๆ ทั่วโลก มารองรับความใหญ่โตของเรื่องราว “มันกลายเป็นหนังผจญภัยเรื่องยิ่งใหญ่ ที่ต้องท่องเที่ยวไปทั่วยุโรป” จอห์นสันกล่าว “เรามีฉากเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก, รถไฟวิ่งผ่านหุบเขาฮังกาเรี่ยน และตรอกซอกซอยในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีทุกอย่างที่เป็นจินตนาการอันสวยสดงดงามเกี่ยวกับยุโรปของชาวอเมริกัน”

             ด้วยเหตุที่ Brick ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง จอห์นสันจึงไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยมากนักกับการหานายทุนมาสร้างภาพยนตร์เรื่องที่สองของเขา “เราไม่ได้โยนบท The Brothers Bloom ให้ใครสุ่มสี่สุ่มห้า” ผู้อำนวยการสร้าง แรม เบิร์กแมน กล่าว “เราไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น นี่คือหนังเรื่องต่อมาของไรอัน จอห์นสัน มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสองหนุ่มนักต้มตุ๋นผู้ผจญภัยไปทั่วโลก แค่นี้ใครๆ ก็อยากอ่านมันแล้ว ทุกคนชอบ Brick หรือถ้าไม่ชอบ พวกเขาก็ยังชื่นชมพรสวรรค์ของไรอัน และอยากร่วมงานกับเขาอยู่ดี”

             ตอนที่เบิร์กแมนอ่านบทหนังเรื่องแรกของจอห์นสัน เขาเชื่อว่าตัวเองค้นพบเพชรเม็ดงามเข้าแล้ว “แต่คุณก็ไม่รู้หรอกว่าเขามีพรสวรรค์จริงหรือเปล่า จนกว่าจะได้ทำงานกับเขา ตั้งแต่ตอนถ่ายฉากแรก เขาก็เป็นผู้นำได้อย่างดีแล้ว เขารู้ว่าเขาต้องการอะไร มันเป็นหนังเรื่องแรกที่ผมสามารถพูดว่า ‘ฉันไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ ผู้กำกับคนนี้รู้ดีว่าเขากำลังทำอะไร’ และที่น่าประหลาดใจที่สุดคือ เขายังเป็นชายหนุ่มที่สุภาพน่ารักที่สุดในโลกด้วย”

             The Brothers Bloom เป็นผลงานการสร้างโดย Endgame Films บริษัทผลิตภาพยนตร์ที่อยู่เบื้องหลังหนังดังอย่าง Hotel Rwanda และ I’m Not There “เราโชคดีอย่างเหลือเชื่อที่ได้อ่านบทหนังของไรอันตั้งแต่เนิ่นๆ และเราก็หลงรักมันทันที” เจมส์ สเทิร์น หัวหน้าฝ่ายบริหารของ Endgame กล่าว “เรารู้เดี๋ยวนั้นว่า เราอยากสร้างหนังเรื่องนี้”

             เวนดี้ จาเฟ็ท ประธานฝ่ายผลิตของ Endgame บอกว่า แม้เธอจะได้อ่านบทภาพยนตร์จำนวนมากมายมหาศาลตลอดชีวิตการทำงานของเธอ แต่ The Brothers Bloom ก็โดนใจเธอด้วยเหตุผลหลายประการ “การเขียนบทที่ชาญฉลาด ความสนุกสนาน และเนื้อหาที่มองโลกในแง่ดี ไรอันเข้าใจตัวละครที่เขาเขียนอย่างถ่องแท้ ว่าทำไมพวกเขาถึงทำอย่างที่พวกเขาทำ และการเดินทางที่เกิดขึ้นนั้นมีความหมายอย่างไร”

             “หนังเรื่องนี้มีท่วงทำนองและโลกของมันเอง” จาเฟ็ท เจ้าของผลงานอำนวยการสร้างภาพยนตร์อย่าง The Italian Job และ Without a Paddle กล่าว “มันอบอุ่นและมีอารมณ์ขัน ฉันชอบหนังที่ทำให้เรารู้สึกถึงบางสิ่ง ตอนที่ฉันอ่านบท ฉันหัวเราะ แล้วก็ร้องไห้ ฉันคิดว่าลูกสาวของฉันก็คงชอบหนังเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะว่ามันมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับพลังอำนาจของเพศหญิงแฝงอยู่ในเรื่อง ซึ่งฉันชอบมันจริงๆ”

             หนึ่งในเหตุผลของการตัดสินใจรับบทบาทผู้อำนวยการสร้าง  The Brothers Bloom ของเบิร์กแมน ภายใต้การลงทุนของสตูดิโอใหญ่แห่งหนึ่งคือ “หน้าที่อย่างหนึ่งของผมคือการปกป้องไรอัน” เบิร์กแมนกล่าว “มุมมองของเขาไม่เหมือนใคร และคุณต้องช่วยให้เขามีอิสระในการทำตามใจ หนังเรื่องแรกของเขาประสบความสำเร็จเพราะเขาสามารถทำมันตามความคิดของตัวเอง เขาทำทุกอย่าง ทั้งเขียนบท กำกับ ตัดต่อ ส่วนเราก็ช่วยให้เขาทำในสิ่งที่เขาอยากทำ และก็เผยแพร่มันออกไป”

             จาเฟ็ท ผู้ทำงานภายใต้ระบบสตูดิโอ บอกว่าบริษัทสร้างภาพยนตร์อิสระเปิดโอกาสให้เธอได้ร่วมงานกับบรรดานักสร้างหนังผู้มีวิสัยทัศน์ “ไรอันคือหนึ่งในคนทำหนังเหล่านั้น” เธอกล่าว “และนั่นเป็นโชคของเรา บวกกับจังหวะที่เขามีบทหนังอยู่ในมือพอดี เราจึงคว้ามันเอาไว้”

             การถ่ายทำในสถานที่ต่างๆ ของยุโรปตะวันออก ทำให้นักแสดงและทีมงานต้องเผชิญกับงานหนักหนาสารหัส แต่จากถ้อยคำของเจมส์ สเทิร์นที่บอกว่าเบิร์กแมนคือผู้รวบรวมกลุ่มคนผู้เชี่ยวชาญมาไว้ด้วยกันเป็นทีมหนึ่ง “ผมชอบทำงานกับแรม” สเทิร์นกล่าว “การทำหนังไม่เคยเป็นเรื่องง่าย และงานนี้ต้องยกย่องไรอันและแรม ที่ทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่นมาก คุณต้องทำหนังมาสักหลายๆ เรื่อง ก่อนที่คุณจะพบทีมงานที่เหมาะสม”

             เมื่อตอนกำกับภาพยนตร์ครั้งแรก จอห์นสันทำเรื่องสืบสวนในโรงเรียนมัธยมให้ออกมาเป็นหนังแนวฟิล์มนัวร์ แต่กับ The Brothers Bloom เขาสร้างเรื่องราวผจญภัยของคู่นักเสี่ยงโชคยุคปัจจุบัน ให้ออกมาเป็นลักษณะกึ่งจริงกึ่งฝัน “เราสร้างโลกที่เป็นของเราเอง เพราะหนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องภายในโลกที่สตีเฟ่นเป็นคนสร้างขึ้นมา” ผู้กำกับกล่าว “มันเป็นโลกแห่งมายา ที่ทุกสิ่งดูจะเกินจริงไปนิดหน่อย และสตีเฟ่นจงใจใส่ความรู้สึกเพ้อฝันลงไปเพื่อชักจูงเพเนโลพีให้คล้อยตาม ลองจินตนาการดูสิว่า ถ้าทุกคนที่คุณเจอล้วนเป็นนักแสดงที่กำลังเล่นไปตามบท แต่คุณเป็นคนเดียวที่ไม่มีบท นั่นคือสิ่งที่ดึงดูดใจสำหรับเรื่องนี้ ในฐานะผู้ชม เราอาจเป็นส่วนหนึ่งของโลกนั้น มันทำให้เราสนุกสนานไปกับเรื่องราวนั้นด้วย”

             จอห์นสันเติบโตขึ้นมาพร้อมกับการสร้างหนังสั้นร่วมกับเพื่อนๆ และครอบครัว “การทำหนังไม่เคยเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องแยกตัวเองออกจากผู้คนที่อยู่รอบกาย มันควรให้ความรู้สึกเหมือนว่าคุณหยิบกล้องขึ้นมา แล้วก็ออกไปถ่ายหนังกับเพื่อน เช่นเดียวกับการสร้างหนังเรื่องนี้ที่ต้องใช้เงินทุนสูง และถ่ายทำในสถานที่มากมาย สิ่งหนึ่งที่ผมกังวลคือ มันจะให้ความรู้สึกเหมือนเดิมหรือเปล่า









-นักแสดง-

เอเดรียน  โบรดี้ (บลูม)

             ภาพยนตร์เรื่อง The Pianist ของผู้กำกับ โรมัน โปลันสกี้ ทำให้โบรดี้เป็นนักแสดงอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลสาขาเดียวกันนี้บนเวทีลูกโลกทองคำ, Screen Actors Guild Award และ BAFTA ด้วย

            โบรดี้เกิดและโตในนิวยอร์ค เข้าศึกษาในโรงเรียนการแสดง และเรียนต่อที่ American Academy of Dramatic Arts ผลงานที่ทำให้เขาเริ่มถูกจับตามองคือ King of the Hill (1993) ตามมาด้วย Summer of Sam (1999) และ Liberty Heights (1999) ส่วนภาพยนตร์เด่นเรื่องอื่นๆ ของเขาได้แก่ Cadillac Records (2008), The Darjeeling Limited (2007), Hollywoodland (2006), King Kong (2005), The Village (2004), The Thin Red Line (1998) และ The Last Time I Committed Suicide (1997) 


ราเชล ไวซ์ (เพเนโลพี)

             นักแสดงสาวชาวอังกฤษ ที่มักได้รับบทเป็นผู้หญิงกล้าหาญและชาญฉลาดคนนี้  ยังคงมองหาบทที่ท้าทายความสามารถของเธออยู่เสมอ หลังจากที่การแสดงอันยอดเยี่ยมของเธอในภาพยนตร์ดราม่าเรื่อง The Constant Gardener ทำให้เธอคว้ารางวัลมากมาย ทั้ง Screen Actors Guild Award, ลูกโลกทองคำ และออสการ์

             ไวซ์ก้าวเข้าสู่อาชีพนักแสดงตั้งแต่เธอยังเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์  ที่ซึ่งเธอได้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Talking Tongues Theatre เพื่อนำเสนอละครแนวทดลองหลายเรื่อง จนได้รับรางวัล Guardian Award จากเทศกาลเอดินเบิร์ก

             ผลงานภาพยนตร์เด่นเรื่องอื่นของไวซ์  ได้แก่ My Blueberry Nights (2007), The Fountain (2006), Runaway Jury (2003), The Shape of Things (2003), About a Boy (2002), Enemy at the Gate (2001), The Mummy (1999) และ Stealing Beauty (1996)

             

มาร์ค รัฟเฟโล (สตีเฟ่น)

             หนึ่งในนักแสดงชายที่มีคนต้องการร่วมงานด้วยมากที่สุดในฮอลลีวูด รัฟเฟโลเริ่มต้นอาชีพนักแสดงในวงการละคร และได้รับรางวัล Lucille Award สาขานักแสดงชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง This is Our Youth รวมถึงได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลโทนี่จากบทบาทบนเวทีบรอดเวย์เรื่อง Awake and Sing!

             สำหรับวงการภาพยนตร์ รัฟเฟโลโด่งดังจาก You Can Count on Me ในปี 2000 ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์มอนทรีอัล และรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมจากสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งลอส แองเจลิส

             รัฟเฟโลขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงที่เข้าถึงบทบาทได้ในภาพยนตร์ทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ดราม่าอย่าง Reservation Road (2007), Zodiac (2007), All the King’s Men (2006) ภาพยนตร์เบาสมองอย่าง Rumor Has It… (2005), Just Like Heaven (2005), 13 Going on 40 (2004) หรือภาพยนตร์แอ็คชั่นอย่าง Collateral (2004), Windtalkers (2002)     

             

ริงโกะ  คิคูชิ (แบงแบง)

             ริงโกะ (หรือชื่อเดิมว่ายูริโกะ) คิคูชิ เริ่มต้นอาชีพนางแบบและนักแสดงตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น  ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอคือ  Ikitai ในปี 1999 จากนั้นก็มีผลงานโฆษณาและภาพยนตร์ตามมาอีกมากมาย อาทิ The Reason (2004), The Taste of Tea (2004), Funky Forest (2005), Portrait of the Wind (2005), Arch Angels (2006) และ Tokyo Serendipity (2007) แต่ผลงานที่สร้างชื่อให้เธอโด่งดังขึ้นมาอย่างแท้จริงคงหนีไม่พ้น Babel ภาพยนตร์อเมริกันเรื่องแรกของเธอ ซึ่งการแสดงอันเปี่ยมพลังในบทเด็กสาวหูหนวก ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ และลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมในปี 2006 


ร็อบบี้ โคลเทรน (เดอะ คูเรเทอร์)

             โคลเทรนปรากฏตัวบนจอภาพยนตร์ตั้งแต่ยุค  80 ในผลงานอย่าง Britannia Hospital (1982), Krull (1983), Defence of the Realm (1985), Caravaggio (1986) และ Mona Lisa (1986) แต่เขามาเป็นที่จดจำจากบทจิตแพทย์ชื่อฟิทซ์ ในซีรีส์ยอดนิยมเรื่อง Cracker ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัล BAFTA สาขานักแสดงโทรทัศน์ชายยอดเยี่ยม

             เขาเคยรับบทเป็นวาเลนทิน  ซูคอฟสกี้ คู่ปรับของเจมส์  บอนด์ ในเรื่อง Goldeneye (1995) และ The World is Not Enough (1999) ผลงานเด่นเรื่องอื่นของโคลเทรน ได้แก่ Ocean’s Twelve (2004), Van Helsing (2004), From Hell (2001), The Pope Must Die (1991), Nuns on the Run (1990) และภาพยนตร์ชุด Harry Potter

             

แม็กซิมิเลี่ยน เชลล์ (ไดม่อน ด็อก)

             อีกหนึ่งผู้ชนะรางวัลออสการ์  และเป็นบุคคลที่ได้รับรางวัลทางด้านการแสดงมาอย่างมากมายนับไม่ถ้วนตลอดอาชีพของเขา  ตัวอย่างเช่น ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์  6 ครั้ง, ชนะรางวัลจากชมรมนักวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งนิวยอร์ค 3 ครั้ง, รางวัลลูกโลกทองคำอีกหลายครั้ง รวมถึงรางวัล Deutscher Filmpreis 7 ครั้ง เป็นต้น

             เชลล์ได้ชื่อเป็นนักแสดงที่พูดภาษาเยอรมันผู้ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฮอลลีวูด เขาเกิดที่กรุงเวียนนา เป็นบุตรของกวีชาวสวิส และนักแสดงหญิงชาวออสเตรีย เริ่มแสดงละครเวทีเมื่อปี 1954 และแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องแรกเมื่อปี 1958 คือ The Young Lions ประกบกับดาราใหญ่ มาร์ลอน แบรนโด และมอนต์โกเมอรี่ คลิฟท์ สามปีต่อมา เชลล์ก็ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว ด้วยการพิชิตรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง Judgment at Nuremberg จากนั้นก็ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ในสาขาเดิมอีกครั้งจาก The Man in the Glass Booth (1975) และสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก Julia (1977) นอกจากการเป็นนักแสดงฝีมือเยี่ยม เขายังเป็นผู้กำกับฝีมือดีด้วย งานกำกับเรื่อง First Love (1970) และ The Pedestrian (1973) ได้รับเลือกเป็นตัวแทนจากประเทศเยอรมนีในการเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม และในปี 1984 ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Marlene ของเขา ก็ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ รวมถึงได้รับรางวัลจากชมรมนักวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งนิวยอร์ค และ National Board of Review

             ผลงานภาพยนตร์เรื่องเด่นของเชลล์มีดังนี้ Topkapi (1964), The Castle (1968), The Odessa File (1974), Cross of Iron (1977), Peter the Great (1986), The Freshman (1990), Little Odessa (1994) และ Deep Impact (1998) 

33744
“นิวยอร์ค นครแห่งรัก”
โปรเจ็คหนังเล็กไม่ธรรมดาที่รวมผู้กำกับสุดเจ๋งไว้เพียบ
ยูไนเต็ด โฮม เอนเตอร์เทนเมนท์ ส่งลงจอพิสูจน์ความรักหลายรูปแบบ
15 ตุลาคมนี้ เฉพาะที่ Apex Siam Square  / SF World Cinema  / SFX Emporium










กลายเป็นที่ฮือฮาที่สุดหลังจากที่สุดยอดหนังรักอย่าง PARIS, JE T’AIME ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย และอีกไม่นานความประทับใจและซาบซึ้งแบบนั้นกำลังจะกลับมาอีกครั้งโดยทีมผู้สร้างชุดเดิม NEW YORK I LOVE YOU หรือชื่อไทย “นิวยอร์ค นครแห่งรัก” หนังรักที่มากมายเหตุผล มากมายทุกหัวใจรัก และมากมายผู้กำกับ โดยในโปรเจ็คนี้ได้ผู้กำกับมือหนึ่งจากหลายชาติมาถักทอความรักถึง 11 เรื่อง โดยในแต่ละเรื่องจะเล่าเรื่องราวที่อบอวลไปด้วยความรักในรูปแบบที่ต่างกันแต่มีแบล็คกราวด์เป็นเมืองนิวยอร์คแห่งนี้
   กลุ่มผู้กำกับภาพยนตร์ฝีมือเยี่ยมทั่วโลก ได้แก่ เจียงเหวิน จาก IN THE HEAT OF THE SUNที่ชนะรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์เวนิซ พร้อมกับได้รับรางวัลม้าทองคำ 6 สาขา, มิรา แนร์ ผู้กำกับหญิงที่สร้างชื่อจาก SALAAM BOMBAY ภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ และ MONSOON WEDDING, ชุนจิ อิวาอิ ผู้กำกับชาวญี่ปุ่นจาก ALL ABOUT LILY CHOU-CHOU และ HANA AND ALICE , อีวอง อัตตาล จาก AND THEY LIVED HAPPILY EVER AFTER, เบร็ท แรทเนอร์ เจ้าของผลงานแอ็คชั่นเรื่องดังอย่าง RUSH HOUR, X-MEN: THE LAST STAND, อัลเลน ฮิวส์ จาก FROM HELL , เชคาร์ กาปูร์ ผู้กำกับชาวอินเดียที่โด่งดังกับผลงานเรื่อง ELIZABETH, นาตาลี พอร์ทแมน นักแสดงที่การันตีฝีมือมาแล้วหลายเรื่องแต่ครั้งนี้เธออยากกำกับหนังสั้นซักเรื่อง , ฟาตีห์ อาคิน ผู้กำกับสายเลือดเยอรมัน-เตอร์กิชกับผลงานล่าสุดเรื่อง THE EDGE OF HEAVEN ของเขายังชนะรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 2007 จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์, โจชัว มาร์สตัน ผู้กำกับชาวนิวยอร์ค เจ้าของผลงานเรื่อง MARIA FULL OF GRACE ที่ชนะรางวัลมากมายจากหลายเทศกาล และ แรนดี้ บัลส์เมเยอร์ พวกเขาจะนำผู้ชมไปสัมผัสชีวิตที่แท้จริงของชาวนิวยอร์ค ในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาความรัก
ยูไนเต็ด โฮม เอนเตอร์เทนเม้นท์ เตรียมส่งหนังรัก NEW YORK I LOVE YOU “นิวยอร์ค นครแห่งรัก” ที่จะเข้าฉาย 15 ตุลาคมนี้ ก่อนอเมริกา เฉพาะที่ Apex Siam Square  / SF World Cinema  / SFX Emporium เท่านั้นรับประกันความประทับใจที่คุณจะไม่มีวันลืมเลือน
 

33745
ได้มาเมื่อวันเสาร์ที่17ต.ค.งานแถลงข่าวที่หน้าเซ็ลทรัลเวิล์ด



ด้านหน้าเป็นรายละเอียดของงาน ด้านหลังเป็นเนื้อเพลงที่ร่วมกันร้อง เพลง YOU ARE NOT ALONE


33746
ขนาดA5แผ่นคู่ เปิดกลาง


33747
                                                                              เรื่องย่อละคร หงส์ฟ้า

                                                                                                                           บทประพันธ์  โยษิตา

                                                                                                                           บทโทรทัศน์  ภาคย์รพี

                                                                                                       กำกับการแสดง  โดย  เอกภพ ตันหยงมาศกุล

                                                                                               ผลงานการผลิตของค่าย กันตนา / ออกอากาศทางช่อง 7 สี




















เรื่องราวของเด็กหญิง  ธิดารัชทายาทรัฐอิสระแห่งหนึ่ง  ซึ่งชะตากรรมทำให้ต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ผู้สูงส่ง ไปอยู่ในความอุปการะของขอทาน  ผู้มีกะลาเป็นเครื่องมือหากิน  เธอจึงได้ชื่อว่า “กะลา” แต่ด้วยความดี ความงาม ความกตัญญู และความอดทน ทำให้เธอฝ่าฟันอุปสรรคนานา พิสูจน์คุณค่าของความเป็น “กะลาทอง” 

 

เรื่องย่อ
      นาฏลดาถูกเรียกตัวกลับจากอเมริกา พร้อมครรภ์แก่ใกล้คลอด คุณหญิงชฎาผู้เป็นแม่ทำเช่นนี้เพราะก่อนที่สามีของเธอจะตายได้หมั้นหมายนาฏลดากับอนุวัฒน์  นักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง ชฎาคิดว่าจับลูกสาวใส่ตะกร้าล้างน้ำได้ เธอส่งนาฏลดาไปคลอดลูกที่ต่างจังหวัด โดยมีสำลี แม่นมของนาฏลดาคอยช่วยเหลือ นาฏลดาคลอดทารกเพศหญิง เธอผูกเส้นเชือกซึ่งเป็นหูกระเป๋าผ้าไหมจีนลายหงส์ทองกับข้อมือของทารก  ซึ่งเป็นของสิ่งสุดท้ายที่เจ้ามิ่งหล้า  คนรักของเธอมอบให้ ก่อนที่เขาจะหนีจากไป  นาฏลดารู้เพียงว่าเขาเป็นเจ้าชายจากรัฐอิสระรัฐเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศไทย แต่ต้องจากเธอไปด้วยเหตุผลทางการเมือง  มิ่งหล้าไม่สามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขาได้  เพราะเกรงว่านาฏลดากับลูกจะมีภัย

      วิทย์ ได้รับคำสั่งจากคุณหญิงชฎาให้ขโมยลูกของนาฏลดาไปทิ้ง นาฏลดาเสียใจมาก มีเพียงสำลีที่คอยปลอบใจ  เธอถูกส่งตัวเข้าพิธีแต่งงานตามฤกษ์ที่ซินแสให้อย่างกะทันหัน...ส่วนเด็กทารกนั้นวิทย์ นำใส่รถตู้ไปทิ้งไว้ข้างบุญช่วย ขอทานริมถนน บุญช่วยตื่นขึ้นมาเพราะเสียงร้องไห้ของทารกตอนเช้าตรู่ แกเห็นทารกน้อยอยู่ข้างกะลาที่แกใช้ขอทาน บุญช่วยจ้างยายนิ่ม ให้ช่วยเลี้ยงทารกน้อย กระเป๋าลายหงส์ที่ผูกข้อมือทารก  ทำให้แกตั้งชื่อทารกว่า “หงส์ฟ้า”  แต่ยายนิ่มเรียกว่า “นังกะลา” บางทีก็ “อีกะลา”  ตามแต่จะเรียก ในที่สุดทุกคนในสลัมก็เรียกเด็กหญิงว่า “กะลา”  และต่างก็เชื่อว่ากะลา เป็นลูกของโสเภณีคนหนึ่งในซ่อง ซึ่งวิ่งหนีตำรวจ แล้วนำเด็กมาทิ้งไว้   กะลาเองก็เชื่อว่าแม่ของตนคือโสเภณีคนหนึ่งในซ่องนั้น  ทุกครั้งที่กะลาเสียใจ เพราะถูกยายนิ่มตี  เธอจะไปที่หน้าซ่องแล้วก็เรียกหาแม่  ทำให้พิกุล แม่เล้าเจ้าของซ่องเกิดความเวทนาและรับกะลาเป็นลูก  อ้อมกอดของพิกุล สร้างความอบอุ่นให้แก่กะลา โดยที่เด็กหญิงมิเคยรังเกียจ

กะลาเติบโตมาพร้อมกับเงาะ  หลานยายนิ่ม  ซึ่งแม่คลอดแล้วก็มาฝากไว้ แล้วไม่กลับมาอีกเลย เงาะชอบลักเล็กขโมยน้อย  กะลาไม่อยากทำ  แต่ก็ถูกยายนิ่มตี ถ้าวันไหน บุญช่วยไม่มีเงินค่าเลี้ยงดูมาให้  แกก็จะบังคับให้กะลาหาเงินมาให้แกแทน บ่อยครั้งที่กะลาได้เงินจากมานพ เด็กวัด ข้างสลัม มานพสงสารกะลา เขารู้สึกผูกพันกับกะลามาก   

      วันหนึ่งบุญช่วยถูกรถชน  คนขับชนแล้วหนีไป  กะลาต้องหาเงินค่ารักษาพยาบาลให้ได้  เธอตัดสินใจวิ่งราวกระเป๋าของนาฏลดา ซึ่งลงจากรถมาซื้อพวงมาลัยข้างทาง  แล้วกะลาก็วิ่งหนีเข้าไปในวัด มานพหาที่ซ่อนให้ แต่ก็ไม่วายถูกวิทย์ตามมาพบ วิทย์จับตัวกะลาได้พร้อมของกลาง  มานพเข้าช่วยแต่ก็สู้วิทย์ไม่ได้  วิทย์ทุบตีกะลาแต่นาฏลดาเกิดความเวทนาจึงขอร้องไว้  และจะอุปการะกะลา  เมื่อถามว่าพ่อแม่เป็นใคร กะลาก็ตอบว่า “พ่อเป็นขอทาน แม่เป็นผู้หญิงหากิน” ทำให้อนุวัฒน์รังเกียจกะลาตั้งแต่แรกเห็น นาฏลดาขอให้กะลาไปอยู่กับตน กะลาจึงเรียกค่าตัวเป็นค่ารักษาพยาบาลบุญช่วย เธอขอไปบอกยายนิ่มก่อน แล้วจะกลับมาพบ เมื่อถึงบ้านยายนิ่ม กะลามอบเงินให้ สั่งให้นำไปเป็นค่ารักษาพ่อ   เธอขอเพียงกะลาที่บุญช่วยใช้ขอทานกับกระเป๋าไหมจีนรูปหงส์ทองติดตัวไปเท่านั้น แต่เมื่อพบมานพ เธอซึ้งใจในน้ำใจของเพื่อน จึงให้กระเป๋าหงส์ทองใบนั้นเป็นสิ่งตอบแทน ขอให้มานพสัญญาว่าจะไม่ทิ้งขว้างมัน เพราะมันคือสิ่งเดียวที่ยืนยันการมีอยู่ของตัวเธอ

      กะลามาถึงรถตู้ของอนุวัฒน์  นาฏลดาดีใจมาก  ขณะที่รถตู้จอดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง  อนุวัฒน์ให้เงินกะลาพันบาทเพื่อซื้อน้ำดื่ม  กะลาหลงเชื่อ  แต่เมื่อลงจากรถไป  อนุวัฒน์ก็สั่งให้วิทย์ขับรถหนีไป กะลาวิ่งตามจนหกล้ม  เธอคิดแค้น ผูกใจเจ็บ และคิดว่านาฏลดาเปลี่ยนใจ  และไม่รักษาสัญญา  ส่วนนาฏลดาเสียใจมาก  ทั้งสองมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง

      ยายนิ่มนำเงินของกะลาไปเล่นหวย และใช้หนี้ค่าแชร์ที่ติดค้างเจ้าหนี้ไว้  บุญช่วยได้รับการช่วยเหลือจากสถานสงเคราะห์  ขาของบุญช่วยเสียข้างหนึ่ง  ต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัว เขาเข้ารับฝึกอาชีพในสถานสงเคราะห์คนพิการ  รอคอยการกลับมาของกะลา  ลูกสาวที่เขาแสนรัก  เช่นเดียวกับมานพที่รอคอยการกลับมาของเพื่อนรัก

      ชีวิตสมรสของนาฏลดาเหมือนตกอยู่ในนรก  อนุวัฒน์ทรมานใจเธอ  เขารู้ว่าตลอดเวลาเธอไม่เคยลืมคนรักเก่า  รัชนีวิภา ผู้ซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา นำความลับเรื่องที่เธอเคยท้องกับผู้ชายคนหนึ่งมาแล้ว ไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างที่คุณหญิงชฎามารดาของนาฏลดาบอกใครๆ  รัชนีวิภาจ้างสด หัวหน้าแม่บ้านให้คอยรายงานความเคลื่อนไหว และหาทางกลั่นแกล้งนาฏลดาทุกวิถีทาง  แม้สำลีจะคอยช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยได้ทุกครั้ง  รัชนีวิภาหาทางทำลายชีวิตสมรสของนาฏลดา เพื่อเธอจะได้อยู่กินกับอนุวัฒน์
 
 
 
 


อย่างเปิดเผย  ไม่ใช่ในฐานะเมียเก็บอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน  แต่นาฏลดาไม่สามารถหย่าได้เพราะธุรกิจของครอบครัวขาดทุนอย่างหนัก  ต้องใช้เงินทุนของอนุวัฒน์พยุงธุรกิจไว้

      กะลาเร่ร่อนไป  ในย่ามเก่าๆมีเพียงกะลาที่ใช้ขอทาน  เธอตัดสินใจใช้กะลาของบุญช่วยขอทานเพื่อยังชีพ  และรับจ้างทำงานสารพัด  หลายครั้งที่ต้องผจญภัยแทบเอาชีวิตไม่รอด  สุดท้ายเธอหนีไปแอบในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ครูอารี มาพบเข้าและอุปการะ จัดการให้เรียนหนังสือ ต่อมาคุณหญิงชฎากับนาฏลดามามอบทุนการศึกษาที่โรงเรียนนี้  นาฏลดาขอให้กะลาไปอยู่กับตนตามที่เคยสัญญากันไว้  กะลาต่อว่านาฏลดาที่ไม่รักษาสัญญา  คุณหญิงชฎาเห็นว่าลูกสาวมีความต้องการอุปการะกะลาจริง จึงยินดีให้กะลาไปอยู่กับตน คอยรับใช้เล็กๆน้อยๆ   กะลาจึงลาครูอารีไปอยู่กับคุณหญิงชฎา  อนุวัฒน์รู้เรื่องก็โกรธนาฏลดามาก สั่งห้ามไม่ให้พาเด็กกะลาเข้ามาในบ้าน

      กะลาโตเป็นสาว  สวย ผิวพรรณดี  คุณหญิงชฎาเมตตากะลามาก และมักจะพาออกงาน  คุณหญิงชฎาเลยคิดจะตั้งชื่อให้เธอใหม่ แต่กะลาพอใจจะใช้ชื่อนี้ หรือไม่ก็ชื่อหงส์ฟ้า  วันที่เธอเล่าให้คุณหญิงฟังเรื่องที่มาของชื่อหงส์ฟ้า  นาฏลดาอยู่ด้วย ทำให้เธอมั่นใจว่ากะลาคือลูกสาวของตน แต่มิอาจเปิดเผยกับกะลาได้ เพราะรู้ว่ากะลายังไม่หายโกรธเธอ..อีกทั้งจะทำให้อดีตของเธอถูกเปิดเผยต่อสังคมวงกว้างมากขึ้น  กะลานำเงินเก็บก้อนหนึ่งกลับไปยังสลัม  และเธอก็พบว่าสลัมกลายเป็นสถานที่ก่อสร้างคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือโครงการของอนุวัฒน์นั่นเอง ยายนิ่มเสียชีวิตแล้ว พิกุลป่วยเป็นโรคร้ายตาย ศพยังเก็บไว้ที่วัด รอคอยญาติมาทำพิธี  มานพเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง กะลามอบเงินจำนวนนั้นให้มานพเป็นค่าทำศพพิกุล แล้วเธอก็ได้พบกับเงาะ หลานสาวของยายนิ่ม ซึ่งออกจากสถานพินิจมาทำงานในสถานที่ก่อสร้างคอนโดมีเนียม เงาะเห็นกะลามีความสุขก็เกิดอิจฉาและหาทางลัดให้กับตัวเอง โดยยอมเป็นเมียเก็บของอนุวัฒน์  ซึ่งมาคุมงานก่อสร้างบ่อยๆ  รัชนีวิภารู้เข้าก็อาละวาดใส่เงาะ และเล่าเรื่องนี้ให้นาฏลดาฟัง  แต่นาฏลดาไม่เจ็บร้อนเพราะเธอไม่เคยรักอนุวัฒน์เลย

      พลโทชัชวาล  เดินทางกลับจากอังกฤษ พาวายุ ผู้บุตรชายมาเยี่ยมชฎา วายุเห็นกะลาก็นึกชอบ เขากลายเป็นแขกประจำของบ้าน  วายุได้รับการว่าจ้างให้ตกแต่งภายในคอนโดมิเนียมของอนุวัฒน์  เขาได้พบกับพริ้งพิไล  หลานสาวของรัชนีวิภา พริ้งพิไลชอบวายุมาก จึงหาเรื่องกับกะลาบ่อยๆ แต่วายุก็แอบมาพบกะลาเสมอ 

      มานพสอบบรรจุเป็นตำรวจได้  เขาถูกส่งไปประจำการที่ชายแดนที่ภาคเหนือ  ขณะนั้นรัฐอิสระเกิดการรัฐประหารขึ้น  มิ่งหล้าหนีตายเข้ามาในชายแดนไทย  มานพถูกสั่งให้ปฏิบัติการพิเศษ โดยการนำตัวเจ้ามิ่งหล้าเข้ามาในแผ่นดินไทยและดูแลอารักขาในฐานะแขกของรัฐบาลไทย มานพถูกย้ายเข้ากรุงเทพฯ   
 
 
 
 


มิ่งหล้าซ่อนตัวอยู่ในแฟลตแคบๆของมานพ  ในฐานะญาติคนหนึ่งที่เพิ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัด  วันหนึ่งมานพหยิบกระเป๋าลายหงส์ออกมาดู  มิ่งหล้าจำได้  และอยากพบเจ้าของกระเป๋านี้มาก  แต่ก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าเพราะเหตุใด

      พริ้งพิไลกับรัชนีวิภารวมหัวกันหาเรื่องกับกะลา  กะลาตบสองน้าหลานจนได้รับบาดเจ็บ อนุวัฒน์สั่งให้นาฏลดาตบหน้ากะลาแทนตนเป็นการลงโทษ นาฏลดาจำใจตบลูกทั้งน้ำตา คืนนั้นเธอสารภาพกับกะลาว่าเธอคือแม่  แต่กะลาไม่ยอมรับ  พร้อมยืนยันว่าพ่อของเธอเป็นขอทาน ส่วนแม่เป็นผู้หญิงหากิน ถ้าคุณเคยเป็นผู้หญิงหากินมาก่อน  กะลาก็จะยอมรับว่าเป็นแม่  คำตอบของกะลาทำให้นาฏลดาเสียใจมาก

      มานพติดตามขบวนของคุณหญิงชฎามาสถานสงเคราะห์คนพิการ กะลาตามคุณหญิงชฎามาด้วย  มานพกับกะลาดีใจที่ได้พบบุญช่วย กะลาบอกกับใครๆว่านี่คือพ่อของเธอ ส่วนแม่เสียชีวิตแล้ว  นาฏลดา ซึ่งไปร่วมการกุศลครั้งนั้นด้วย ได้ยินก็เสียใจมาก  มานพชวนกะลาไปเที่ยวบ้าน มิ่งหล้าได้พบกับกะลา  เขาแอบร้องไห้ดีใจ แต่ไม่กล้าแสดงตัวเพราะเกรงว่ากะลาจะมีอันตราย 

      เงาะแสดงความหมางเมินกับกะลาและทำทุกวิถีทางที่จะมีชีวิตที่ดีเหมือนกะลาให้ได้  แต่อนุวัฒน์กลับไม่ให้เงินทองอย่างที่เงาะต้องการ  เงาะจึงดื้อแพ่งมาอยู่ในบ้านของอนุวัฒน์  หาเรื่องกับนาฏลดา แต่กะลาซึ่งรู้อยู่เต็มอกว่านาฏลดาคือแม่ของตน เธอจึงปกป้องนาฏลดาเท่าที่จะทำได้  ทำให้เงาะตั้งตัวเป็นศัตรูกับกะลาอย่างเปิดเผย  กะลาจึงต้องรับศึกหนัก ทั้งจากพริ้งพิไล  รัชนีวิภาและเงาะ 

      วายุให้บิดามาสู่ขอกะลา  ชัชวาลตามใจลูก ทำให้พริ้งพิไลกับรัชนีวิภาไม่พอใจมาก  กะลาไม่กล้าตัดสินใจเพราะชีวิตตนเป็นหนี้บุญคุณคุณหญิงชฎา ในวันหมั้นกันนั่นเอง  พริ้งพิไลกับรัชนีวิภาจ้างนักข่าวมาทำข่าวขุดคุ้ยกำพืดของกะลา  ชัชวาลอับอายที่จะบอกใครๆว่าสะใภ้ของตนมีกำเนิดที่น่ารังเกียจ  กะลาวิ่งหนีแขกเหรื่อในงาน  เป็นที่สะใจของสองน้าหลานเป็นอย่างมาก  นาฏลดาจึงเปิดเผยกับทุกคนว่ากะลาไม่ได้มีกำเนิดที่น่ารังเกียจ  เพราะเธอคือลูกของตน  รัชนีวิภาจึงถามว่าพ่อของกะลาเป็นใคร  นาฏลดาจึงเปิดเผยว่าพ่อของกะลาเป็นบุคคลสูงส่ง  ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยตัวได้

      อนุวัฒน์ข่มขู่นาฏลดาให้เปิดเผยความจริงว่าพ่อของกะลาเป็นใคร  เขาทนไม่ได้ที่รู้ว่าตลอดเวลานาฏลดายังมีใจให้ผู้ชายคนนั้น  ไม่เช่นนั้นเขาจะถอนหุ้นในบริษัทของคุณหญิงชฎาให้หมด  สังคมจะได้รู้กันเสียทีว่าคุณหญิงชฎามีแต่เปลือก  และจะฆ่ากะลาเสียด้วย ในฐานะที่กะลาเป็นพยานรักอันน่ารังเกียจสำหรับเขา นาฏลดากลัวคำขู่นั้นจึงบอกความจริงว่าพ่อของกะลาคือเจ้ามิ่งหล้า  องค์รัชทายาทผู้สูงส่ง
 
 
 
 
 
 


      อนุวัฒน์เรียกวิทย์ไปพบ  ขอให้วิทย์สืบหาตัวมิ่งหล้า ซึ่งแอบมาซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพฯให้พบ  หากพบก็หาทางเก็บเสีย อย่าให้มีชีวิตกลับไปที่รัฐของตนได้  งานนี้มีค่าจ้างงาม แต่วิทย์ไม่ตกลงเขาเปิดเผยว่าเขาหลงรักนาฏลดามาตั้งแต่เธอยังสาว และเขาก็ทำงานเป็นลูกน้องพ่อของนาฏลดามา เขาไม่สามารถทำร้ายจิตใจของนาฏลดาได้  อนุวัฒน์ตกใจมากที่รู้ความจริง จึงไล่วิทย์ออกไปจากบ้าน

      เงาะแอบได้ยินจึงอาสาว่าจะทำงานนี้ให้ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนคืออนุวัฒน์จะต้องหย่ากับนาฏลดาและจดทะเบียนสมรสกับตนทันทีที่ทำงานนี้สำเร็จ เงาะเข้ามาสนิทกับกะลาอีกครั้ง นาฏลดาย้ายข้าวของมาอยู่กับมารดา  ทำให้เธอเริ่มปรับความเข้าใจกับกะลา  แม้กะลายังมึนตึงกับเธออยู่ก็ตาม  วายุตามมาง้องอนแต่กะลาไม่มีใจให้แล้ว  เธอรู้ดีว่าคนที่รักเธอมาตลอดคือมานพ

      มานพมาชวนให้กะลาไปหาลุงมิ่ง กะลาถูกชะตากับลุงมิ่งอยู่แล้ว  จึงไปเยี่ยม  เงาะสงสัยจึงสะกดรอยตามไป และได้เห็นการเปิดเผยความจริงของพ่อกับลูก เงาะยิงมิ่งหล้า แต่กระสุนพลาดไปถูกกะลา  มานพตามล่าเงาะ  แต่เธอหนีไปที่คอนโดมีเนียม ซึ่งกำลังมีงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เงาะขอให้อนุวัฒน์ช่วยตน แต่อนุวัฒน์บอกให้เงาะหลบไปซ่อนตัวที่ไหนก่อน เงาะเสียใจมาก  จึงยิงอนุวัฒน์ตายในงาน  ต่อมามานพนำกำลังตำรวจมาจับตัวเงาะได้

      นาฏลดา  มิ่งหล้า และกะลา ดีใจที่เปิดเผยความในใจต่อกัน  กะลากราบพ่อแม่ของตน  มิ่งหล้าเห็นว่าสถานการณ์ในรัฐของตนสงบแล้ว จึงชวนให้ทั้งสองไปกับตนด้วย  กะลารับรักมานพ  วายุยอมรับความพ่ายแพ้  เขาเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ  พริ้งพิไลขอติดตามวายุไปด้วย  ส่วนรัชนีวิภาสูญเสีย

อนุวัฒน์ไปแล้ว  ก็กลายเป็นบ้าอยู่ในคอนโดมีเนียมร้าง  เพราะไม่มีคนซื้อ

      กะลา  เด็กหญิงที่ถูกชะตากรรมนำพาให้ประสบกับความลำบากแสนสาหัส  ได้ใช้ความดีพิสูจน์ว่าถึงจะเป็นเพียงกะลาต่ำต้อย  แต่เธอก็คือกะลาทองอันทรงคุณค่า  ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่เชื่อมั่นในพลังของความดีและความกตัญญู
 


........................ อวสาน ..............................


ผู้แสดง


1. กะลา หญิงสาวกำพร้า แม่เป็นนักธุรกิจหญิงที่ร่ำรวย ส่วนพ่อมีเชื้อสายเจ้านครรัฐแห่งหนึ่ง

      ทางภาคเหนือ  แต่ชะตากรรมนำชักให้เธอต้องเป็นกำพร้า เติบโตอยู่ในสลัม เป็นคนสวย

      เก่งกล้า  และต่อสู้ชีวิต

            แสดงโดย อุษามณี   ไวทยานนท์

2. มานพ นายตำรวจหนุ่ม อดีตเป็นเด็กวัด ที่อาศัยอยู่ข้างสลัม เป็นเพื่อนที่ดีกับกะลามาตั้งแต่เด็ก

            ความผูกพันค่อยๆ พัฒนาเป็นความรัก  คอยช่วยเหลือกะลาทุกอย่างเท่าที่จะช่วยได้

            ซื่อสัตย์ และมีความรักที่มั่นคงกับกะลา

            แสดงโดย ธนพล   นิ่มทัยสุข

3.วายุ  มัณฑนากรหนุ่ม นักเรียนนอก รักกะลา และต้องการแต่งงานกับเธอ แต่เขาก็ต้องเสียสละ

            เมื่อรู้ว่ากะลามีมานพอยู่ในใจมาโดยตลอด

            แสดงโดย พาทิศ   พิสิฐกุล

4. พริ้งพิไล หลานสาวของรัชนีวิภา ต้องการกำจัดกะลา เพราะเธอหลงรักวายุ และทำทุกอย่างตาม

            คำยุยงของรัชนีวิภา ภายหลังกลับตัวเป็นคนดี และได้ไปใช้ชีวิตกับวายุที่เมืองนอก

            แสดงโดย ปริยานุช  อาสนจินดา

5. นาฎลดา แม่ของกะลา ได้เสียกับเจ้ามิ่งหล้า เจ้าชายแห่งนครรัฐทางภาคเหนือ แต่ต้องแต่งงาน

            ใหม่เพื่อผดุงฐานะของครอบครัว  และต้องจากลูก ตลอดชีวิตของเธอจึงมีแต่ความขมขื่น

            เพราะลูกสาวไม่ยอมรับ  แต่ภายหลังก็ปรับความเข้าใจกันได้

            แสดงโดย พรทิพย์  วงศ์กิจจานนท์

6. อนุวัฒน์ สามีใหม่ของนาฏลดา เป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เจ้าเล่ห์ ทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน

            แต่ไม่สามารถทำให้นาฏลดาลืมคนรักเก่าได้  จึงเป็นความแค้นที่อยู่ในใจมาตลอด   

            แสดงโดย วรวุฒิ  นิยมทรัพย์
 
 
 


7.เงาะ  เพื่อนรักตั้งแต่วัยเด็กของกะลา ชักชวนกะลาทำสิ่งผิดกฎหมาย ภายหลังทรยศกับกะลา

            เพราะความอิจฉาที่เห็นกะลาได้ดีกว่าตน  ยอมเป็นเมียน้อยของอนุวัฒน์ และทำทุกอย่าง

            เพื่อแย่งอนุวัฒน์มาจากนาฏลดา 

            แสดงโดย รุ้งรดา   เบญจมาธิกุล

8. รัชนีวิภา เมียน้อยของอนุวัฒน์ อิจฉานาฏลดา และต้องการทำลายความสุขทุกอย่างในชีวิตของ

            นาฎลดา ร้ายลึก  ชอบดูถูกคน

            แสดงโดย ภารดี   อยู่ผาสุข

9. เจ้ามิ่งหล้า เจ้าชายรัฐอิสระทางเหนือ ต้องลี้ภัยและหลบซ่อนตัว ทำให้ต้องจากลูกและเมีย แต่ก็

            คอยตามหามาโดยตลอด บุคลิกดี  เล่นตั้งแต่หนุ่มจนวัยกลางคน

            แสดงโดย ทรงสิทธิ์  รุ่งนพคุณศรี

10. คุณหญิงชฎา แม่ของนาฎลดา เป็นต้นเหตุของชะตากรรมเลวร้ายทุกอย่าง เจ้ายศเจ้าอย่าง เป็นคนรวย

            แต่เปลือก  พยายามรักษาฐานะของตนไว้ด้วยการให้นาฎลดาแต่งงานกับอนุวัฒน์

   ภายหลังสำนึกผิดได้

            แสดงโดย ดวงใจ   หทัยกาญจน์

11. บุญช่วย ขอทานในสลัม ชีวิตน่าสงสาร อุปการะกะลาไว้ด้วยความรัก แต่ภายหลังถูกรถชนจน

            พิการ  กะลาจะบอกใครๆ  เสมอว่าบุญช่วยเป็นพ่อของเธอ

            แสดงโดย ยืนยง   โอภากุล (แอ็ด คาราบาว)

13. ยายนิ่ม แม่เล้าในสลัม ปากร้าย ใจร้าย ชอบตีและดุด่ากะลากับเงาะ

      แสดงโดย วิยะดา  อุมารินทร์


14. สำลี แสดงโดย พิมพ์แข  กุญชร  ณ  อยุธยา

15. สด แสดงโดย ราตรี  วิทวัส



33748
                                                                        เรื่องย่อ ละคร รหัสโลกันตร์













บทประพันธ์      เพชรน้ำหนึ่ง
บทโทรทัศน์     ดาวเหนือ
กำกับการแสดงโดย   เอกภพ  ตันหยงมาศกุล.
 

แนว  แอคชั่น ดราม่า  ภาคต่อจาก เย้ยฟ้าท้าดิน


      “ เมื่อหนุ่มอัจฉริยะทางเกมคอมพิวเตอร์ที่สิ้นศรัทธาในความดีเพราะถูกเพื่อนรักหักหลัง จำเป็นต้องมาต่อกรกับศัตรูที่ร้ายกาจกว่าในเกม โดยมีชีวิตของผู้หญิงที่ตนรักและเพื่อนมนุษย์เป็นเดิมพัน   เขาจะชนะสงครามครั้งนี้ได้อย่างไร

      20 ปีหลังจากการล่มสลายของแก๊งอินทรี แก๊งอาชญากรที่มีเครือข่ายทั่วโลก  ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย  สังคมดูเหมือนจะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง แต่ความจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ แก๊งอินทรีได้ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ เพื่อรอการปฏิบัติการการยึดโลกครั้งใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม

       แดน หนุ่มลูกครึ่ง กับแก๊งเพื่อนอีกสามคน ได้แก่ จิว จง และแจ็ค  มีรายได้จากการตระเวนแข่งเกมตามร้านได้คืนละเป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะแดนนั้น ฝีมือเข้าขั้นเซียนที่หาใครทาบได้ยาก   แต่แดนกลับทำตัวเป็นคนไร้หลัก  เร่ร่อน หาเช้ากินค่ำไปวันๆ เพราะมีอดีตอันเจ็บปวดซ่อนอยู่  ที่จริงแดนเป็นนักศึกษาในคณะวิศวะคอมพิวเตอร์ที่มีผลการเรียนระดับเหรียญทอง แต่ต้องออกจากมหาวิทยาลัยกลางคันเพราะถูก กานต์ เพื่อนรักที่มีผลการเรียนสูสีกัน ขโมยผลงานการสร้างโปรแกรมไปส่งอาจารย์ แล้วสร้างหลักฐานว่าแดนเป็นฝ่ายขโมย  แดนถูกไล่ออก  แม่แดนตรอมใจตาย (พ่อชาวอเมริกันจากไปตั้งแต่แดนยังไม่เกิด) นับจากนั้นแดนก็กลายเป็นคนเสเพลไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง   แต่ความหล่อของแดนก็ทำให้  แนท  ลูกสาวเสี่ย กำจร มาเฟียใหญ่ หลงใหล

      ชีวิตของแดนมาสู่จุดพลิกผันเมื่อ เขาได้พบกับกานต์โดยบังเอิญในสภาพถูกซ้อมสะบัก

สบอม  กานต์เอาซีดีแผ่นหนึ่งให้แดนและบอกว่าในนั้นเป็นรหัสลับที่จะไขปริศนาทุกอย่างของแก๊งอินทรี  แดนได้แต่หัวเราะเยาะเพราะแก๊งอินทรีล่มสลายจนเหลือแต่ตำนาน และแดนเชื่อว่ากานต์ก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเก่าในการสร้างเรื่องใส่ร้ายคน   แต่จู่ๆ กลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดดำก็ปรากฎตัวขึ้นและกราดกระสุนใส่คนทั้งสองอย่างเหี้ยมโหดกานต์ยัดซีดีใส่เป้แดน แล้ววิ่งล่อคนร้ายหนีไปอีกทาง  แต่กานต์ก็ถูกยิงตาย  ขณะที่แดนถูกแนทช่วยเอาไว้ได้  โดยพาแดนไปหลบในบ่อนของพ่อ   เดวิล  หัวหน้าใหญ่ ของแก๊งอินทรียุคใหม่ เดวิลสั่งให้ทุกฝ่ายไล่ล่าแดนเพราะสงสัยว่าจะได้ซีดีไป  ซึ่งใน
 


นั้นมีรหัสที่จะสามารถเจาะเข้าฐานข้อมูลของแก๊งอินทรีได้  และเมื่อนั้นโฉมหน้าของเครือข่ายอินทรีใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นในนาม อินทรีปีศาจก็จะปรากฏขึ้นทั้งหมด ซึ่งเดวิลจะยอมไม่ได้

      แท้จริงแล้ว  กานต์ได้ถูกว่าจ้างให้สร้างระบบการติดต่อเครือข่ายของแก๊งอินทรีโดยไม่รู้ตัว  เพราะ ผู้จ้างเขาคือ  เทพี  สาวใหญ่ใจงาม ผู้ก่อตั้งองค์กรดวงตะวัน    กานต์ทั้ง ศรัทธาและหลงใหล บวกกับค่าจ้างที่สูงลิ่วที่เทพียอมจ่าย  กานต์ทุ่มเทสร้างระบบติดต่อของเครือข่ายองค์กรที่กำลังแผ่ขยายไปทั่วโลกรวมทั้งสร้างรหัสป้องกันข้อมูลรั่วไหลไว้อย่างแน่นหนา  คืนที่ทำงานเสร็จสมบูรณ์  กานต์เกิดย้อนกลับไปที่สำนักงานขององค์กรเพื่อเอาของที่ลืมไว้ เขาจึงได้พบว่า ที่แท้ เทพีเป็นหนึ่งในหัวหน้าเครือข่ายของอินทรี  กานต์รีบเซฟเอาข้อมูลไว้ในซีดีและหนีออกมา แต่ก็ถูกลูกน้องเทพีไล่ล่า จนได้มาพบกับแดน
                  แดนเปิดซีดีดูข้อมูลพบว่า  ซีดีมีระบบพิเศษที่ป้องกันไว้  ที่สำคัญเครื่องคอมพิวเตอร์ธรรมดาไม่สามารถ อ่านข้อมูลได้  ต้องใช้เครื่องรุ่นพิเศษล่าสุดที่มีเครื่องเดียวในประเทศ คือที่  หน่วยสืบสวนพิเศษกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น แดนเอาซีดีไปที่หน่วย โชคร้ายเขาได้พบกับพันตำรวจตรี วีระ ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับแดนมาตลอด วีระไม่เชื่อแดน แดนย้อนกลับไปที่พักพบว่า จงถูกฆ่า ส่วนจิวและแจ็คซ่อนตัวหนีการตามล่าอยู่  แดนตามหาจิวกับแจ๊คจนเจอ  ทั้งสามหนีการตามล่าจากเหล่าร้ายอย่างหัวซุกหัวซุน แจ๊คถูกยิงสาหัส  แดนจึงต้องเสี่ยงออกไปหาซื้อยามารักษาแจ๊ค 

      ไอริณ  แพทย์สาวกำลังปิดคลีนิค แดนก็เข้ามาใช้ปืนจี้บังคับให้ไอริณ  เอากระเป๋ายาและอุปกรณ์ผ่าตัดเล็กไปกับเขา  เมื่อแดนและไอริณไปถึงแจ๊คก็เข้าขั้นโคม่า    ไอริณรักษาให้แจ๊คจนอาการดีขึ้น  สมุนของเทพีก็ปรากฏตัวขึ้น บังคับให้แดนมอบซีดีให้  แดนไม่ยอม  และพาทุกคนรวมทั้งไอริณขึ้นรถ  โดยให้ไอริณเป็นคนขับหนีสมุนเทพีออกจากกรุงเทพไปถึงท่าเรือแห่งหนึ่งในจังหวัดแถบชายทะเลตะวันออก  แดนกับพวกปล้นเรือขับหนีจนเห็นเกาะร้างลิบๆ ข้างหน้า แต่เรือน้ำมันหมด  ทั้งหมดต้องโดดลงทะเลว่ายน้ำเข้าฝั่ง โดยแดนแบกแจ๊คที่เจ็บหนักลากเข้าฝั่งไปด้วย   

      บนเกาะร้าง  แดนได้พบ ชายหาปลาคนหนึ่ง  แดนบอกว่าเขากับพวกถูกตามล่า  แต่ชายผู้นั้นกลับไม่สนใจ  หิ้วปลาเดินหนี สมุนเทพีซิ่งเรือตามมาถึงแดน  ไอริณ จิว จนมุม ไอริณถูกจับ  สมุนเทพีบังคับแดนให้เอาซีดีข้อมูลให้ ชายหาปลาที่ทำเป็นไม่สนใจกลับเข้าช่วยแดน ด้วยฝีมือการต่อสู้ที่ยิ่งกว่ามืออาชีพ  เหล่าร้ายถูกฆ่าตายจนหมด  สร้างความแปลกใจให้กับแดนอย่างมาก  และแดนก็ได้รู้ว่า  ชายหาปลาที่ดูสมถะนั้นคือพันตรี อัศนัย อดีตหัวหน้าหน่วยจู่โจมพิเศษของกองทัพเรือ ซึ่งต้องพ้นจากราชการ เพราะขณะกำลังลาดตระเวณในน่านน้ำ อัศนัยพบเรือขนส่งสินค้าลำใหญ่ลำหนึ่งลอยลำอยู่ จึงนำกำลังบุกเข้าค้นและพบว่าในเรือมีการแช่ศพมนุษย์ผู้ชายเอาไว้เป็นจำนวนมาก โดยมีกองกำลังที่สักเครื่องหมายอินทรีคุมอยู่  ทีมของอัศนัยถูกสังหารจนหมดเหลืออัศนัยคนเดียวที่เหลือรอดออกมา  แต่เหตุการณ์ที่ออกจากปากอัศนัยกลับไม่มีใครเชื่อ ซ้ำร้ายอัศนัยยังถูกกล่าวหาว่า


มีสติไม่สมบูรณ์และไม่สามารถปฏิบัติราชการต่อไปได้   เมื่อได้มาพบกับแดน  และได้ฟังเรื่องราวของแดน จึงยืนยันได้ว่า  สิ่งที่อัศนัยเชื่อไม่ใช่เรื่องเหลวไหล แก๊งอินทรีกลับมาจริงและอันตรายกว่าเดิม 

      ปฏิบัติการยึดโลกของแก๊งอินทรีในคราวนี้คือการทดลองสร้างกองทัพปีศาจซึ่งเป็นการปลุกคนที่ตายแล้วให้ฟื้นคืนมาได้  โดยมีการสร้างอาณาจักรลับๆ ขึ้นเพื่อนำเอาศพมาทดลอง   ซึ่งเดวิลจะให้ฝ่ายตำรวจรู้ความลับก่อนที่การทดลองจะสำเร็จไม่ได้ เมื่อรู้ว่าลูกน้องของเทพีทำงานพลาด จึงสั่งตรงนักฆ่ามืออาชีพมาล่าตัวแดนซึ่ง คนแรกก็คือ  แยงซี  ทหารรับจ้าง พร้อมลูกทีมและอาวุธครบมือ

        อัศนัย แดนและพรรคพวก  ใช้วิธีการต่อสู้เข้าห้ำหั่นกับกองทัพของแยงซีอย่างดุเดือด จนสามารถสังหารกองทัพย่อยๆ ของแยงซีได้สำเร็จ แดนจึงตัดสินใจออกจากเกาะร้างเพื่อนำเอาซีดีไปให้แก่ตำรวจ แดนติดต่อกับแนทเพื่อให้หาเซฟเฮ้าส์ให้  แนทจัดการพาพวกแดนไปซ่อนตัวในโกดังที่เสี่ยกำจรใช้ซ่อนของหนีภาษี ทำให้อัศนัยไม่พอใจมากที่แดนมาคบกับพวกมิจฉาชีพ  ส่วนแนทเองก็ตกใจที่รู้ว่าอัศนัยเป็นทหาร   จะไล่อัศนัยไป  แต่แดนขอร้องว่าตอนนี้ ทุกคนควรร่วมมือกันเพื่อเปิดโปงแก๊งอินทรีที่กำลังจะมาทำลายประเทศ  แนทยอมสงบศึกกับอัศนัย แต่ก็หันไปเปิดศึกกับไอริณแทนด้วยความหึงหวง  ไอริณที่เริ่มมีใจให้แดนแล้ว เมื่อแนทแสดงตัวเป็นเจ้าของแดนจึงตัดสินใจหนีไป โดยทิ้งจดหมายลาไว้

      ไอริณกลับไปทำงานที่ศูนย์การแพทย์ของนายแพทย์  พิสุทธิ์  อดีตศัลยแพทย์ฝีมือเยี่ยมซึ่งไอริณให้ความนับถือศรัทธา โดยมีมาร์ค  แพทย์หนุ่มเพื่อนร่วมรุ่นผู้หลงรักไอริณอยู่ทำงานที่นี่ด้วย

      พวกแดนตกลงให้อัศนัย เป็นผู้ติดต่อ สารวัตรวีระเพราะอัศนัยกับวีระรู้จักกันเป็นอย่างดี  สารวัตรวีระดีใจมากที่ได้พบกับอัศนัยอีกครั้ง หลังจากอัศนัยออกจากราชการ แต่เมื่ออัศนัยเริ่มพูดถึงแก๊งอินทรี วีระก็เริ่มเข้าใจว่าอัศนัยคงยังไม่หายจากอาการทางจิต วีระพาอัศนัยไปพบจิตแพทย์  โดยไม่รู้ว่า  สายของอินทรีแพร่ไปทุกที่ไม่เว้นแม้แต่ในโรงพยาบาล  อัศนัยหนีกลับไปที่โกดัง  ทำให้เดวิลรู้ที่ซ่อนของพวกแดน จึงส่ง  ซาโต้ นักฆ่าจากแดนซากุระ  ตามไปในคืนนั้น เพื่อลอบสังหารพวกแดนเอาซีดี แต่โชคช่วยที่แนทแอบมาหาแดน  ทำให้พวกแดนรู้ตัว และเข้าต่อสู้กับซาโต้ แต่ฝีมืออันฉกาจฉกรรจ์ของซาโต้ทำให้พวกแดนบาดเจ็บไปตามๆกัน ในที่สุดอัศนัยก็ตัดสินใจต้านซาโต้ไว้เพื่อให้แดนกับจิว แจ็คหนีไป   อัศนัยบาดเจ็บสาหัสแต่ก็สามารถสังหารซาโต้ได้  แนทจำต้องนำตัวอัศนัยไปรักษาที่บ้านของตัวเอง  ซึ่งต้องหลบซ่อนไม่ให้เสี่ยกำจรรู้ แต่ในที่สุดเสี่ยกำจรก็พบอัศนัยในห้องนอนของแนท   และเกือบจะยิงอัศนัยทิ้ง แนทจึงต้องโกหกว่าอัศนัยได้เสียกับตนแล้ว เสี่ยกำจรตกลงไม่ฆ่าอัศนัย แต่ก็ขอให้แต่งงานกับแนทเป็นเรื่องเป็นราว  ซึ่งอัศนัยกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  ลับหลังกำจร  แนทบอกอัศนัยว่าทำไปก็เพื่อรักษาชีวิตอัศนัยเท่านั้น  ตนยังรักแดนอยู่   
 
 


        แดน จิว และแจ็คไปแอบเช่าห้องในโรงแรมจิ้งหรีดเพื่อซ่อนตัว  จากนั้นวางแผนปลอมตัวเพื่อจะเข้าไปในหน่วยสืบสวนพิเศษ  แดนสามารถเข้าถึงห้องคอมพิวเตอร์ได้  แต่ปรากฏว่า เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นพิเศษกลับไม่มีอยู่ในห้อง  ตำรวจในแผนกบอกว่าเครื่องเกิดถูกไฟลัดวงจรจนไม่สามารถทำงานได้จึงเอาไปเก็บในห้องซ่อมอุปกรณ์  แดนตามไปจนเจอเครื่องและพยายามแกะเอาซีพียูออกมา  จิวและแจ๊คเกิดทำตัวพิรุธจนโดนจับได้ จิวล่อตำรวจไปอีกทาง แดนกับแจ๊คหนีรอด  แต่ จิวถูกฆ่าตาย  ซึ่งทำให้แดนได้รู้ว่าในหน่วยสืบสวนพิเศษมีสายของแก๊งอินทรีอยู่   แดนใช้วิชาวิศวะคอมพิวเตอร์หาอะไหล่ต่างๆมาประกอบเข้ากับซีพียูจนสามารถถอดรหัสเข้าไปอ่านข้อมูลในซีดีได้และเขาก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่า องค์กรทานตะวันเป็นหนึ่งในเครือข่ายของแก๊งอินทรี  ส่วนรหัสที่จะสามารถไขความลับว่าหัวหน้าแก๊งอินทรีเป็นใคร ยังไม่สามารถถอดเข้าไปดูได้

      ขณะเดียวกันที่ศูนย์การแพทย์  พิสุทธิ์จัดแถลงข่าวใหญ่ถึงความสำเร็จในการทดลองปลูกถ่ายอวัยวะโดยไม่ต้องใช้ยาต้านภูมิ  ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับวงการแพทย์มาก  ที่สำคัญพิสุทธิ์ประกาศจะทำการปลูกถ่ายอวัยวะให้กับผู้ป่วยที่ยากจนโดยมีองค์กรทานตะวันเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงิน  ซึ่งหลังจากที่ข่าวออกไป ก็มีคนยากจนเข้ามาเข้าชื่อรอรับการผ่าตัดเป็นจำนวนมาก  ทำให้หมอและพนักงานในโรงพยาบาลต้องทำงานกันอย่างหนัก  โดยเฉพาะไอริณที่ทุ่มเทให้กับโครงการนี้อย่างมาก   มาร์คซึ่งอยากอยู่ใกล้ไอริณก็พลอยต้องทำงานหนักไปด้วยจนเริ่มรู้สึกหงุดหงิด และขอต่อรองเพิ่มเงินเดือนและค่าล่วงเวลาในการทำงานกับพิสุทธิ์  ทำให้ไอริณโกรธมากจนมีปากเสียงกับมาร์คอย่างแรง คืนหนึ่งมาร์คคิดมาง้อไอริณจึงเข้ามาที่ศูนย์การแพทย์ในกลางดึก  โดยซ่อนตัวอยู่ในห้องผ่าตัด  แต่แล้วมาร์คก็ได้พบความลับที่น่าตกใจ  นั่นคือพิสุทธิ์นำตัวคนไข้ที่กำลังโคม่าซึ่งทำการบริจาคอวัยวะและร่างกายให้โรงพยาบาลเข้ามาในห้อง และทำการดูดเอาสมองออกมาผสมกับยาชนิดหนึ่งก่อนจะฉีดเข้าศพชายฉกรรจ์ที่ถูกแช่แข็งไว้ อึดใจเดียวศพนั้นก็สามารถกระดุกกระดิกได้  และเป้าหมายที่ศพนั้นเข้าทำร้ายก็คือมาร์คที่พยายามจะหนีออกไปจากห้อง  แต่พิสุทธิ์ย้อนกลับเข้ามาช่วยมาร์คไว้ได้ ซึ่งมาร์คก็ได้รู้ว่าเบื้องหลัง  หน้ากากนักบุญพิสุทธิ์นั้นคือ ปีศาจที่สุดแสนอำมหิต   โครงการปลูกถ่ายอวัยวะของพิสุทธ์ ถูกจัดทำขึ้นเพื่อบังหน้าธุรกิจการค้าอวัยวะมนุษย์ ที่สำคัญก็คือ พิสุทธิ์ต้องการสมองคนป่วยโคม่าไปใส่ให้กับศพชายฉกรรจ์ที่ส่วนใหญ่เป็นอาชญากรที่รวบรวมมาจากทั่วโลกเพื่อสร้างกองทัพปีศาจให้แก่ แก๊งอินทรี    ที่มีพิสุทธิ์เป็นหัวหน้าใหญ่ของสาขาในเมืองไทย  แน่นอน เดวิล กับ พิสุทธิ์ก็คือคนคนเดียวกัน และใต้ตึกศูนย์การแพทย์ของพิสุทธิ์ก็คือ กองบัญชาการใหญ่ของแก๊งอินทรีนั่นเอง

      มาร์คอ้อนวอนขอชีวิต   พิสุทธิ์ยื่นคำขาดให้มาร์คเข้าร่วมเป็นสมาชิกแก๊งอินทรี  มาร์ครับปาก พิสุทธิ์ให้สมุนฝังระเบิดขนาดเล็กเข้าไปในร่างของมาร์ค โดยมีเงื่อนไขว่าหากมาร์คช่วยสร้างกองทัพปีศาจสำเร็จ  พิสุทธิ์จะผ่าเอาระเบิดออกและจะให้รางวัลมาร์คเป็นเงินก้อนโต แต่ถ้า


มาร์คทรยศ  ระเบิดจะทำงานทันที  นับจากคืนนั้น  ไอริณก็พบว่ามาร์คเปลี่ยนเป็นคนละคน  ทำงานหามรุ่งหามค่ำและยังได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยพิสุทธ์อีกด้วย ขณะเดียวกันไอริณก็เริ่มสังเกตว่า คนป่วยที่เข้ามารับการรักษา มักจะมีอาการแย่ลงและมักเสียชีวิตอย่างกะทันหันเพราะหัวใจล้มเหลว

      แดนได้เห็นภาพข่าวในทีวี จึงรู้ว่าองค์กรทานตะวันเกี่ยวข้องกับศูนย์การแพทย์ของพิสุทธิ์และยังได้รู้ว่าไอริณทำงานที่นั่น   แดนจึงปลอมตัวเป็นคนป่วยเข้ามาหาไอริณโดยไม่รู้ว่า  พิสุทธิ์ได้ติดตั้งกล้องพิเศษที่ใส่ภาพใบหน้าของแดนเอาไว้ หากแดนเข้ามาในโรงพยาบาล จะมีการส่งสัญญาณเข้าไปที่ศูนย์บัญชาการใต้ดินทันที   แดนพยายามบอกไอริณว่าศูนย์การแพทย์ที่นี่อาจเกี่ยวข้องกับแก๊งอินทรีแต่ไอริณไม่เชื่อ  แดนจึงให้ที่ติดต่อไอริณไว้  เมื่อแดนกลับไป  ไอริณก็นั่งทบทวนถึงเรื่องที่ผ่านมาและเริ่มสงสัย บวกกับความพิรุธของมาร์ค  ไอริณสะกดรอยตามมาร์คไป

ที่ห้องใต้ดิน และได้พบกับกองบัญชาการอินทรี  ไอริณถูกจับซึ่งก็เป็นไปตามแผนของเดวิล  ที่ต้องการใช้ไอริณเป็นตัวประกันเพื่อล่อแดนออกมา

      เมื่อหายดี อัศนัยถูกเสี่ยกำจรจับให้เข้าพิธีแต่งงานกับแนท  คืนส่งตัว  แนทวางแผนให้อัศนัยหนีออกไปตามหาแดน ซึ่งในใจอัศนัยเริ่มชอบแนทแล้วแต่ก็ยังปากแข็ง  ประจวบกับแดนได้รับการติดต่อให้ไปพบไอริณที่โกดังร้าง เมื่อไปถึงพบว่าไอริณถูกกองทัพปีศาจที่คุมโดยมาร์คจับไว้ มาร์คขอให้แดนมอบซีดีให้  และเกลี้ยกล่อมจนแดนเคลิ้ม ยอมให้ซีดีกับมาร์คๆ จะยิงแดนทิ้ง

แต่อัศนัยปรากฏตัวขึ้น ช่วยแดนไปได้ ส่วนไอริณโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บ  โดยมีกองทัพปีศาจตามไปติดๆ  ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเสียท่า  ก็พบเสี่ยกำจรที่ยกพวกมาตามล่าอัศนัยๆ บอกว่าจะกลับไปแต่ต้องช่วยสู้กับกองทัพปีศาจของแก๊งอินทรีก่อน เสี่ยกำจรต้องตกกระไดพลอยโจนเปิดศึกกับ

เหล่าสมุนอินทรีซึ่งเสี่ยก็แทบช็อคเมื่อเห็นว่าทั้งหมดไม่ใช่คนเพราะ แม้ถูกยิงแขนขาขาดก็ยังลุกขึ้นมาต่อสู้ได้ จะหมดฤทธิ์จริงๆ ก็ต่อเมื่อถูกยิงที่หัวเท่านั้น เพราะพิสุทธิ์ฝังชิพเอาไว้เพื่อควบคุมนักรบปีศาจ   ในที่สุดแดน อัศนัยและกำจรก็หนีกลับที่พักได้สำเร็จ  แนทดีใจมากที่เจอแดน ทำให้กำจรยิ่งงงหนัก  แนทเปิดเผยว่าไม่ได้รักอัศนัย แต่ทำไปเพราะช่วยแดน  แดนเล่าเรื่องแก๊งอินทรีให้กำจรฟัง กำจรปฎิเสธที่จะยุ่งเพราะตัวเองก็เป็นอาชญากร  แต่พอโดนแจ๊คประณามว่าไม่รักชาติ  กำจรจึงเปลี่ยนใจยอมร่วมมือกับแดนทำลายแก๊งอินทรี 

  ไอริณได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองจนความจำเสื่อม  มาร์คจึงถือโอกาสบอกไอริณว่า ไอริณกับมาร์คเป็นคู่หมั้นกัน  และกำลังจะแต่งงาน  แดนกับอัศนัยหาทางจับตัววีระมาที่ที่ซ่อนตัวเพื่อบังคับให้ดูข้อมูลในซีดี  วีระเริ่มเชื่อ และยกกำลังไปขอค้นที่โรงพยาบาลของพิสุทธิ์แต่กลับไม่พบอะไร และถูกญาติคนไข้ฟ้องกลับเพราะทำให้คนไข้คนหนึ่งตกใจจนหัวใจวาย  วีระถูกสั่งพักราชการ  และถูกแก๊งอินทรีตามเก็บ แต่อัศนัยกับลูกน้องของกำจรก็ไปช่วยไว้ได้ ในที่สุด วีระก็ต้องยอมร่วมมือกับอัศนัย แดน และกำจรตั้งเป็นหน่วยกองโจร เพื่อรับมือกับกองทัพปีศาจ โดยกำจรเป็นฝ่ายจัดหาอาวุธเถื่อนทุกรูปแบบพร้อมกำลังพลนอกกฎหมายมาให้ ซึ่งก็ทำให้วีระเกือบอก


แตกตายที่ต้องมาร่วมมือกับอาชญากร  แต่ในความขัดแย้งนั้น  ทั้งสองฝ่ายก็ได้เรียนรู้ด้านดี ด้านร้ายของกันและกันจนกลายเป็นมิตรภาพ  กองโจรของแดนและอัศนัยเริ่มออกไปต่อกรกับกองทัพปีศาจ ทำให้พิสุทธิ์กับเทพีรู้ว่า ถูกแดนลูบคมเข้าให้

      ไอริณเริ่มฟื้นความจำกลับมา  แต่ยังไม่ยอมบอกมาร์ค  และถือโอกาสเข้าไปในกองบัญชา

การใต้ดินของอินทรีจนพบห้องลับห้องหนึ่งที่เป็นห้องเย็น ในนั้นมีศพหญิงสาวหน้าตาสวยงามนอนอยู่บนแท่นน้ำแข็ง  ไอริณแอบดูเห็นพิสุทธิ์เข้ามาหาศพหญิงสาวและพูดคุยเหมือนกับหญิงสาวคนนั้นยังมีชีวิตอยู่  ไอริณได้รู้ว่าศพนั้นแท้จริงคือภรรยาของพิสุทธิ์ชื่อ ญาดาพิสุทธิ์บอกกับศพญาดาว่าเค้าจะต้องทำให้เธอฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเพื่อใช้ชีวิตอยู่กับเค้าตลอดไป ไอริณหาข้อมูลจนรู้ว่า พิสุทธิ์เสียภรรยาไปเพราะ  ญาดาได้รับสารพิษในห้องทดลองของเขา หลังจากนั้นพิสุทธิ์ก็ลาออกจากโรงพยาบาลที่สังกัดอยู่และหายหน้าไปจากวงการแพทย์ก่อนจะกลับมาก่อตั้งศูนย์การแพทย์และพัฒนาจนใหญ่โตเป็นที่ยอมรับ  พิสุทธิ์รู้สึกผิดกับการตายของญาดามากเขาจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้เธอฟื้นคืนชีพ ด้วยการทุ่มเทค้นคว้าทดลองยาชนิดต่างๆ ซึ่งเมื่อแก๊งอินทรีรู้เรื่องจึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้านเงินทุนและในที่สุด พิสุทธิ์ก็เข้าเป็นแก๊งอินทรีอย่างเต็มตัว

      ไอริณพยายามจะหนีออกไปแต่ไม่สำเร็จ ถูกมาร์คจับขังไว้ แต่ไอริณก็ใช้มือถือส่งรหัสออกไปหาเมล์ของแดนจนแดนตีความได้ว่าไอริณถูกขังอยู่ใต้ดิน  แดนทิ้งซีดีเอาไว้กับอัศนัย ฝากให้เค้าเอาไปให้ตำรวจ โดยแดนตัดสินใจลุยเดี่ยวไปช่วยไอริณ  แดนเก็บพวกนักรบปีศาจและสมุนอินทรีทีละคนจนสามารถไปถึงห้องลับที่เก็บศพญาดา  แต่แดนก็หนีไม่รอด  พิสุทธิ์กับมาร์คมาเจอเข้า บังคับให้แดนเอาซีดีแลกไอริณ  แดนโกหกว่าซีดีถูกทำลายแล้ว ข้อมูลทุกอย่างอยู่ในหัวของแดน  พิสุทธิ์โกรธมาก จับแดนแช่แข็งไว้ในห้อง  และให้ไอริณดูแดนแข็งตายอย่างช้าๆ

      อัศนัยกับวีระเห็นซีดีกับจดหมายลาของแดนแล้วจึงตัดสินใจลุยเข้าหน่วยสืบสวนพิเศษเพื่อขอกองกำลังไปทลายแก๊งอินทรี โดยยกเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่แดนต่อเองไปให้ตำรวจเปิดข้อมูลในซีดีดู  แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ไม่มีใครถอดรหัสได้ ต้องไปเอานักโทษที่ถูกจับข้อหาเป็นแฮ็กเกอร์ขโมยข้อมูลมาถอดรหัสให้ จึงสามารถถอดได้และรู้ว่าแก๊งอินทรีมีพิสุทธิ์เป็นหัวหน้า และมีกองบัญชาการอยู่ที่ศูนย์การแพทย์    ขณะที่ตำรวจกำลังยกพลไปที่แก๊งอินทรี  พิสุทธิ์ก็สามารถคิดค้นยาที่จะคืนชีวิตให้คนตายได้สำเร็จ  ญาดาฟื้นขึ้นมา พิสุทธิ์ดีใจมาก  มาร์คเห็นว่ายาของพิสุทธิ์จะทำเงินได้มหาศาล จึงจับญาดาเป็นตัวประกันและขอให้พิสุทธิ์มอบสูตรยาให้ แต่กองทัพปีศาจของพิสุทธิ์เข้ามาซะก่อน  มาร์คถูกฆ่าตาย  ไอริณหาวิธีใช้ความร้อนทำให้แดนฟื้นจากการถูกแช่แข็ง พิสุทธิ์ปล่อยกองทัพปีศาจออกมาต่อสู้กับพวกอัศนัย วีระและตำรวจ กำจรเข้าช่วยอัศนัยจนถูกฆ่าตาย  พิสุทธิ์พาญาดาหนีขึ้นดาดฟ้า  แดนค้นพบเครื่องควบคุมชิพของนักรบและจัดการทำลายระบบควบคุมทำให้นักรบปีศาจทั้งหลายสิ้นฤทธิ์   เทพีเอาเฮลิคอปเตอร์มารับพิสุทธิ์  แต่เมื่อเห็นว่าญาดาฟื้นขึ้นแล้ว เทพีก็ไม่พอใจเพราะเทพีรักพิสุทธิ์อยู่ เทพีบอกให้พิสุทธ์เลือก   พิสุทธิ์จึงฆ่า


เทพีเสีย  แล้วพาญาดา ขึ้นเฮลิคอปเตอร์โดยมีแดนและอัศนัย  กระโดดโหนตามไป  ญาดาขอให้พิสุทธิ์มอบตัว  แต่พิสุทธิ์ไม่ยอม  โดยไม่คาดฝัน  ญาดาก็ตัดสินใจจบชีวิตด้วยการโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์เพราะไม่สามารถทนเห็นพิสุทธิ์กลายเป็นอาชญากรที่โหดเหี้ยมได้  ความสูญเสียครั้งนี้ทำให้พิสุทธิ์บ้าคลั่งบอกว่าจะนำระเบิดชีวภาพที่ติดตัวมาไประเบิดกลางเมือง  แดนกับอัศนัยปีนขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาต่อสู้กับพิสุทธิ์ และลูกน้องที่เป็นคนขับ  อัศนัยฆ่าลูกน้องพิสุทธ์ตายแล้วขับเครื่องแทน ส่วนแดนสู้กับพิสุทธิ์จนพิสุทธิ์ตกจากเฮลิคอปเตอร์ตาย   อัศนัยให้แดนรีบถอดชนวนระเบิด และแดนก็ทำสำเร็จอย่างหวุดหวิด

      อัศนัยได้กลับไปรับราชการ  ในขณะที่วีระได้เลื่อนเป็นพันตำรวจเอก  ไอริณเข้าฟื้นฟูศูนย์การแพทย์ของพิสุทธิ์  โดยได้รับเงินทุนช่วยเหลือจากรัฐบาล ส่วนแดนได้รับการบรรจุเข้ารับราชการในหน่วยสืบราชการลับของกรมตำรวจ แจ็คเปิดร้านอินเตอร์เนต  โดยวางกฎเข้มห้ามเล่นพนัน และเด็กต้องเล่นเป็นเวลา แนทเปลี่ยนมาตามตื๊ออัศนัยแทน โดยมีไอริณและแดนซึ่งแต่งงานกันแล้วคอยเชื่อมความสัมพันธ์ให้...จนอัศนัยใจอ่อนในที่สุด
 
 


--------  อวสาน  ------

33749
ขนาดA5แผ่นเดี่ยวคับ


33750
Enjoyjam Club / รูปmeeting ครั้งที่4/04/10/2009
« on: October 11, 2009, 03:05:04 PM »
มาดูรูปกันมีใครไปบ้าง















กำลังจัดhandbill











เริ่มแจกของ







ของที่มาประมูลชุดแรก


Pages: 1 ... 2248 2249 [2250] 2251 2252 ... 2261