Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - pooklook

Pages: 1 [2] 3 4 ... 71
16
ชาสมุนไพร 7 ชนิด ซึ่งเป็นที่นิยมตามท้องตลาดนั้น มีประโยชน์ต่อสุขภาพดังต่อไปนี้…

‘ชาอบเชย’ หรือชาชินนามอน ช่วยขับเหงื่อ ขับลม ลดอาการท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ แก้เวียนหัวและคลื่นไส้อาเจียน หากเติมน้ำผึ้งแท้ลงไป ประโยชน์ของน้ำผึ้งยังช่วยบำรุงธาตุด้วย

‘ชาเปปเปอร์มินต์’ ช่วยขจัดกลิ่นปาก โดยกลิ่นหอมของเปปเปอร์มินต์ เมื่อสูดดมแล้วจะช่วยแก้ปวดหัว เมารถ เมาเรือ และทำให้หลับง่าย

‘ชากระเจี๊ยบ’ ดื่มเพื่อแก้กระหายน้ำ ชุ่มคอ ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ ทั้งยังสามารถลดและป้องกันการจับตัวของไขมันในเลือด ลดความดันโลหิตสูง

‘ชาตะไคร้’ มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แก้วิงเวียน บรรเทาอาการแน่นหน้าอก แก้หวัด แก้ไอ

‘ชามัลเบอร์รี่’ หรือชาใบหม่อน บำรุงเส้นผม เล็บ และกระดูก ต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน เพราะใบหม่อนลดการดูดซึมน้ำตาล

‘ชากุหลาบ’ กลิ่นหอมของชาช่วยลดความเครียด ให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับง่าย ดื่มแล้วลดความดันโลหิตสูง ช่วยประจำเดือนมาปกติ และบำรุงผิวพรรณ

‘ชามะตูม’ แก้ร้อนใน แก้อ่อนเพลีย ทำให้รู้สึกสดชื่นและบำรุงกำลัง นอกจากนี้ยังเสริมประสิทธิภาพให้ระบบย่อยอาหาร ลดอาการจุกเสียด ขับเสมหะด้วย

ทั้งนี้ ไม่ควรดื่มชาในตอนท้องว่าง เพราะอาจทำให้บางคนมีอาการท้องผูก ขับถ่ายลำบาก

17
เผยโฉม ผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย เสี่ยงอันตราย อย่าซื้อ... อย่าใช้

อย. จัดเต็มตามคำเรียกร้อง หลังจากช่วงที่ผ่านมา อย. ตลุยจับสินค้าผิดกฎหมายหลายรายการ และได้ทำเสนอ รูปของผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายหลายชนิด มีเสียงเรียกร้องว่า ทำไมเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์เท่านั้น น่าจะลงทุนเผยแพร่ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ด้วย ประชาชนจะได้รับทราบในวงกว้าง

อย. ขอเรียนให้ทราบว่า ท่านสามารถติดตามข้อมูลรายชื่อผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย จำนวนทั้งสิ้น 88 ผลิตภัณฑ์ ทั้งผลิตภัณฑ์อาหาร โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง อ้างลดความอ้วน อ้างเสริมสมรรถภาพทางเพศ อ้างทำให้ผิวขาวเนียนอ้างทำให้หน้าอกโต ผลิตภัณฑ์ยาอวดอ้างรักษาสารพัดโรค และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางปลอม ลงหน้าคู่กลาง ชัดเจนสะใจได้ตามหนังสือพิมพ์ ดังต่อไปนี้

1. หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันพฤหัสที่ 31 ก.ค. 2557
2. หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2557
3. หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2557

ขอเชิญติดตามชม เผื่อจะนำไปใช้ประโยชน์ตามความเหมาะสมต่อไป

ไฟล์ภาพแบบชัดๆ สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการซื้อหนังสือพิมพ์
http://www.oryor.com/images/media/newspaper2.jpg

18
นพ. จิตริน ใจดี จิตแพทย์ประจำศูนย์จิตรักษ์กรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้เล่าถึงพฤติกรรม Selfie ว่า เป็นพฤติกรรมที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ส่วนที่ดีคือเป็นการสร้างเอกลักษณ์ แต่ถ้าทำเกินไปอาจทำให้หลงตัวเองได้

 

ปัญหาเหล่านี้มาพร้อมกับเด็ก Generation Me คือเอาตนเป็นศูนย์กลาง หลงตัวเอง  มักจะมีพฤติกรรมดังนี้

1.ปฏิกิริยาต่อการวิพากษ์วิจารณ์ ด้วยความโกรธแค้น สร้างความน่าละอาย/ขายหน้า และความอัปยศน่าอดสู

2.เอาเปรียบผู้อื่น เพื่อตอบสนองความต้องการชนะ

3.มีความรู้สึกว่าตนเองเป็นคนสำคัญมากเกินพอดี

4.พูดขยายเกินกว่าความเป็นจริง เกี่ยวกับความสำเร็จหรือความสามารถของตนเอง

5.มีใจหมกมุ่นกับจินตนาการความสำเร็จ พลัง อำนาจ ความงาม สติปัญญา

6.ใช้เหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผล กับสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ คาดหวัง

7.ต้องการเป็นที่ชื่นชม ยอมรับและหลงใหลอยู่ตลอดเวลา

8.เพิกเฉย ไม่เอาใจใส่ต่อความรู้สึกของผู้อื่น และมีความพยายามเพียงน้อยนิดที่จะแสดงความเห็นใจผู้อื่น

9.คิดหมกมุ่นอยู่กับผลประโยชน์ และความต้องการของตนเอง

10.ไล่ตามเป้าหมาย ที่เห็นประโยชน์แก่ตนเอง

19
หลายคนมีปัญหากลิ่นปากจนทำให้ขาดความมั่นใจในตัวเอง บางคนกลัวเพื่อนไม่อยากคุยด้วย กลัวเจ้านายเมินหน้าหนี  เป็นต้น ซึ่งเรื่องเล็ก ๆ แต่อาจเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นได้โดยเฉพาะการเข้าสังคม  การพูดคุยกับคนรอบข้าง และพบปะพูดคุยกับผู้คนมากมาย เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีกลิ่นปาก ง่ายๆ ก็คือ การถามคนใกล้ชิด แต่ถ้าไม่กล้า ก็สามารถทดสอบได้ด้วยตัวเอง เอามือป้องปากไว้ทั้ง 2 มือ อ้าปาก แล้วหายใจออกแรง ๆ ใส่มือตัวเอง แล้วสูดหายใจลึกๆ ทันที

สาเหตุของกลิ่นปาก

1. ปัจจัยภายในช่องปาก ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

ฟันผุ เกิดจากการที่เชื้อโรคสเตรปโตคอคไค ( Streptococcus ) ที่อาศัยอยู่บนแผ่นคราบจุลินทรีย์ที่ติดบนตัวฟันย่อยสลายอาหารจำพวกแป้ง และน้ำตาล ส่งผลให้เกิดกรดแลคติก และอื่น ๆ ที่ทำลายเนื้อฟันและผิวฟัน จะทำให้เกิดเป็นหลุม และร่องลึก ถ้าฟันผุมาก ๆ ถึงขั้นทะลุโพรงประสาทฟันได้ และจะทำให้เกิดการตายของเนื้อเยื่อโพรงประสาทด้านใน จะส่งผลให้มีกลิ่นปาก ทั้งจากเนื้อฟันที่ตาย และอาหารที่บูดหมักสะสมอยู่เป็นเวลานานในโพรงที่ฟันผุ
เหงือกอักเสบ สาเหตุใหญ่นั้นมาจากคราบจุลินทรีย์ที่สะสมอยู่ตามร่องเหงือก พอสะสมนาน ๆ น้ำลายซึ่งมีแร่ธาตุต่าง ๆ จะตกตะกอนทับลงไปบนบริเวณที่มีคราบจุลินทรีย์อยู่เดิม และจะเปลี่ยนเป็นหินปุน ยิ่งทิ้งไว้นานเหงือกจะอักเสบมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเหงือกจะมีเม็ดเลือดขาว หรือเซลล์ที่ต่อต้านการอักเสบออกจากบริเวณร่องเหงือก ทำการต่อต้านคราบจุลินทรีย์ ยิ่งทิ้งไว้นาน อาการอักเสบก็จะรุนแรงขึ้นเร่ือย ๆ จนทำลายถึงกระดูกรองรับฟัน ซึ่งจะสังเกตได้จากเหงือกร่น และจะเห็นฟันซี่ยาวขึ้น มีอาการปวดตื้อ ๆ ที่เหงือก เคี้ยวอาหารแล้วจะรู้สึกปวดและฟันโยก
แปรงฟันไม่สะอาด ทำให้เกิดการตกค้างของเศษอาหาร เมื่อมีการบูดเน่าทำให้เกิดกลื่นขึ้นมาได้
การสูบบุหรี่ ทำให้มีคราบนิโคตินจับเกาะอยู่บนคราบหินปูนบนเคลือบฟัน
มีเศษอาหารตกค้างและเกิดการบูดเน่าในบริเวณที่มีฟันผุเป็นรูกว้าง
การใส่ฟันปลอมที่หลวมไม่พอดีกับเหงือก หรือนอนโดยที่ไม่ถอดฟันปลอมออกมาแช่อาจทำให้เกิดกลิ่นจากเศษอาหารเล็ก ๆ และจากการที่เชื้อจุลินทรีย์สะสมอยู่บริเวณผิวฟันปลอม
เกิดจากอาหารทานอาหารที่มีกลิ่น เช่น กระเทียม กะปิ สะตอ ฯลฯ
มีแผลในช่องปาก ทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดฟันได้สะอาด
ฟันซ้อน เก หรือฟันคุด ทำให้ทำความสะอาดฟันได้อย่างไม่ทั่วถึง
การจัดฟัน ซึ่งทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดฟันได้อย่างสะอาดทั่วถึง
การครอบฟันที่ไม่พอดี อาจทำให้เกิดการตกค้างของเศษอาหาร
ผู้ที่เพิ่งถอนฟัน ทำให้ทำความสะอาดฟันได้อย่างไม่ทั่วถึงและแบคทีเรียที่อยู่ในปากมาย่อยสลายลิ่มเลือดทำให้เกิดกลิ่นได้
2. สาเหตุภายนอกช่องปาก เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ  เช่น

 โรคไซนัสอักเสบ
 โรคในระบบทางเดินอาหาร
 หวัด
 ท้องผูก
 โรคกระเพาะอาหาร  เป็นต้น
วิธีแก้ปัญหากลิ่นปากด้วยตัวเอง

1. แปรงฟันให้สะอาดอย่างถูกวิธี ถ้ารู้สึกว่ามีปัญหาควรแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ
การแปรงฟันเป็นการทำความสะอาดฟันที่ดีที่สุด หลายคนเข้าใจผิดว่า ควรแปรงแรง ๆ เพื่อลดกลิ่นปาก ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องเพราะทำให้ฟันสึกได้

2. ใช้ไหมขัดฟัน ควรใช้ไหมขัดฟันเป็นอย่างยิ่ง เพราะการแปรงฟันปกติไม่สามารถทำความสะอาดเศษอาหารที่ติดอยู่ระหว่างซอกฟันได้ หลายคนบ่นว่าใช้ไหมขัดฟันแล้วมีเลือดออก เป็นเพราะใช้ไหมขัดฟันผิดท่า ทำให้บาดเหงือก หรือถ้าใช้อย่างปกติแล้วมีเลือกออกแสดงว่าเป็นโรคเหงือกอักเสบ ควรพบทันตแพทย์

3. การแปรงลิ้น ช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นปากได้ เนื่องจากด้านบนของลิ้นผิวไม่เรียบ ซึ่งบริเวณนี้จะเกิดการสะสมของกลิ่นได้ง่าย การแปรงสามารถใช้แปรงสีฟันกวาดเบา ๆ จากด้านในออกมาด้านนอก 2 – 3 ครั้ง จะช่วยลดจำนวนคราบจุลินทรีย์ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้

4. ถ้ารู้สึกปากแห้ง น้ำลายน้อย เหนียว ข้น ควรดื่มน้ำบ่อย ๆ

หลายคนใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการใช้น้ำยาบ้วนปาก ทานเม็ดอม หรือหมากฝรั่งดับกลิ่นปาก ซึ่งช่วยแก้ปัญหาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นประจำเนื่องจากทำให้สมดุลของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราในช่องปากเสียไป และไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์และควรไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เนื่องจากแพทย์จะทำการตรวจสุขภาพในช่องปาก และแก้ปัญหาให้ก่อนที่จะลุกลามไป เช่น กำจัดคราบหินปูนก่อนที่จะเกิดฟันผุ รักษาฟันที่ผุก่อนจะเกิดการลุกลามมากยิ่งขึ้น   โดยทันตแพทย์จะขัดทำความสะอาดฟัน เพื่อตรวจดูแนวเหงือก และคอฟัน ถ้าพบว่ามีปัญหาเรื่องฟันผุมาก แพทย์อาจทำการเอ็กซเรย์เพื่อตรวจดูในระดับรากฟัน

 

ที่มา: http://www.xn--l3can3bb3b4bod6ab8bxnra.com/วิธีแก้ปัญหากลิ่นปาก-ปากเหม็น-ด้วยตนเอง/

20
สำหรับคุณสาวๆ ที่มีปัญหาในเรื่องของสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวเสี้ยน สิวอักเสบ สิวหัวหนอง สิวหัวช้าง ฯลฯ เชื่อว่าคุณสาวๆทุกคนคงอยากที่จะทำการกำจัดเจ้าสิวที่เป็นปัญหากวนใจให้ออกไปจากใบหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ สำหรับคุณสาวๆ ที่เคยทดลองวิธีการรักษาสิวมาหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาแต้มสิว ทานยา หรือแม้แต่ไปพบแพทย์ตามสถาบันเสริมความงามมาแล้วยังไม่เห็นผลลัพธ์ในการกำจัดสิวที่น่าพอใจนั้น สำหรับในวันนี้ อยากจะให้คุณสาวๆได้ทดลองกับอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยกำจัดสิว ไปพร้อมกับช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวของคุณสาวๆ วิธีที่การดังกล่าวที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้คือ “การพอกหน้า” นั่นเอง

เมื่อกล่าวถึง “การพอกหน้า” คุณสาวๆ คงจะคิดไปถึงวิธีการบำรุงผิวพรรณให้ขาวใส หรือการคืนความเยาว์วัย ความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่ที่จริงแล้วการพอกหน้ามีประโยชน์มากกว่านั้นมากนัก

การพอกหน้าบางสูตรที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมีคุณสมบัติในการช่วยรักษาสารพัดปัญหาสิวบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งในวันนี้จะขอพาไปรู้จักกับสูตรพอกหน้า สำหรับคนที่เป็นสิวโดยเฉพาะ ดังต่อไปนี้

            1. สูตรกล้วยหอม+น้ำมะนาว เป็นสูตรที่ช่วยลดความมันของผิว ไม่เหมาะกับคนที่ผิวแห้ง เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น นำกล้วยหอม 1 ลูก น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ปั่นผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            2. สูตรแตงกว่า+ไข่ขาว ช่วยลดความมันส่วนเกินและกระชับรูขุมขน นำแตงกว่า 1 ผล ไข่ขาว 1 ฟอง และนาว 1 เสี้ยว ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 20นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            3. สูตรดินสอพอง+ขมิ้นชัน ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของสิวและบำรุงผิว นำดินสอพอง 2-3 เม็ด ขมิ้นผง 2 ช้อนชา และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            4. สูตรมะขามเปียก+นมสด ช่วยลดสิวอักเสบ สิวอุดตัน และสิวเสี้ยน นำเนื้อมะขามเปียกที่แยกเมล็ด เปลือก และกากออกแล้วประมาณ ½ ถ้วย ผสมกับนมสด 1/3 ถ้วย ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
            5. สูตรมะเขือเทศ+น้ำมะนาว ช่วยป้องกันสิวและกระชับรูขุมขน นำมะเขือเทศไปปั่นหรือสับให้ละเอียดประมาณ ¾ ถ้วย ผสมกับน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ หรืออาจเติมน้ำเปล่าลงไปอีกเล็กน้อยเพื่อให้น้ำมะนาวเจือจางลง ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            6. สูตรข้าวโอ๊ต ช่วยในการป้องกันสิวและสมานแผล นำข้าวโอ๊ตประมาณ 1 กำมือ ผสมกับน้ำดื่มจนนิ่ม แล้วนำมาขัดวนเบาๆให้ทั่วใบหน้าเป็นประจำทุกเช้าเย็น

            7. สูตรไข่แดง ช่วยในการกำจัดสิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวขึ้นบนใบหน้า นำไข่แดงตีให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            8. สูตรโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ช่วยในการต่อต้านสิวผด นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติมาทาลงบนใบหน้า ทำการนวดเบาๆให้ทั่วใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            9. สูตรหอมแดง ช่วยในการรักษาสิวอักเสบให้ยุบตัวลงอย่างเป็นธรรมชาติ นำหอมแดงประมาณ 1 หัว มาสับให้ละเอียด หรือฝานเป็นแว่นบางๆ แล้วนำไปวางลงบนหัวสิว หรือบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ
            10. สูตรถั่วเขียวต้มสุก เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสิวเสี้ยน กระ ฝ้า จุดด่างดำ และริ้วรอยต่างๆ นำถั่วเขียวไปต้มให้สุกประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ สตอเบอรี่ผลโต 2 ผล หรือถ้าเป็นผลเล็ก ให้ใช้จำนวน 4 ผล นมเปรี้ยว ½ ช้อนโต๊ะ ปั่นหรือบดขยี้ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด 

            11. สูตรไข่ขาว เหมาะสำหรับการรักษา และลอกสิวเสี้ยนออกจากใบหน้า นำไข่ขาวมาทาลงบนใบหน้า เพื่อประสิทธิภาพที่มากขึ้นก่อนทำการทาไข่ขาว ควรนำหน้าไปอังกับไอน้ำหรือล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเพื่อให้รูขุมขนเปิดกว้างขึ้นก่อน หลังจากทาไข่ขาวลงไปแล้วให้นำกระดาษเช็ดหน้าแปะลงไปให้ทั่วใบหน้า ปล่อยทิ้งเอาไว้สักพักให้กระดาษเช็ดหน้าแห้ง แล้วลอกออกอย่างเบามือ

            12. สูตรทานาคาผง ช่วยในการรักษารอยดำจากสิว กำจัดสิวผด ลดสิว นำทานาคาผง (แป้งพม่า) 2 ช้อนชา น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนชา และนมสดรสธรรมชาติ 2 ช้อนชา ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 15-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            13. สูตรแอปเปิ้ล ช่วยในการรักษาสิว นำแอปเปิ้ลเขียวหรือแดงก็ได้ประมาณ ½ ลูก มาบดเอาน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้ไปผสมกับน้ำผึ้ง หรือโยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
 
            14. สูตรสับปะรด เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้ามัน ช่วยลดความมันบนใบหน้า กำจัดสิ่งอุดตัน พร้อมกับช่วยผลัดเซลล์ผิวให้ขาวเนียนมากขึ้น นำสับปะรด ¼ ลูกปั่นผสมเข้ากับแตงกว่า 1 ลูก และวุ้นว่านหางจระเข้ ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            15. สูตรนมเปรี้ยว เหมาะกับผู้ที่มีผิวหน้ามัน ช่วยในการกำจัดและควบคุมความมันบนใบหน้า นำนมเปรี้ยวที่แช่เย็นจัดมาทำการพอกหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที แล้วใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ เช็ดออกจ้าาา

ที่มา: http://www.kondoodee.com/
 

21


1. หูกระป๋องหรือฝาเครื่องดื่มเป็นโลหะประเภทอลูมิเนียม  ดังนั้นอลูมิเนียมทุกชนิด เช่น กระทะ ขัน กะละมัง ที่เป็นอลูมิเนียมสามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด


2. การรณรงค์นำของเหลือใช้มาทำประโยชน์เป็นสิ่งที่ดี  แต่ไม่ควรบริโภคเพื่อหวังจะนำหูกระป๋องมาเพื่อทำขาเทียมช่วยเหลือผู้พิการ เพราะหูกระป๋อง 4,200 อัน มีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม มีมูลค่าเป็นเศษอลูมิเนียมเพียง 50 บาท จะหลอมได้ชิ้นส่วนเพียง 5 ชิ้น ในขณะที่เราต้องเสียเงินซื้อเครื่องดื่มอย่างน้อยถึง 42,000 บาท


3. เหตุใดถึงเลือกเฉพาะหูกระป๋องหรือหูเครื่องดื่มบำรุงกำลัง  ถ้าต้องการอลูมิเนียมเพื่อทำขาเทียมจริง ๆ ก็ควรจะรับบริจาค หม้อ ขัน กระทะ เครื่องต่าง ๆ ที่มีส่วนของอลูมิเนียม จะได้ประมาณมากมาย (ถ้าท่านมีศรัทธาอยากจะช่วยเหลือผู้พิการส่งเงินบริจาคไปยังที่อยู่ของหน่วย งานที่ขอบริจาคจะดีกว่าที่จะรวบรวมหูกระป๋อง เพราะนอกจากไม่คุ้มค่าแล้วยังเสียความรู้สึกที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือให้แก่ นักฉวยโอกาสหาผลประโยชน์ให้แก่ตน)


4. เศษอลูมิเนียมทุกชนิดต้องนำมาหลอมที่อุณหภูมิ 800 C  เพื่อจะแปรรูปเป็นอลูมิเนียมแท่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการหลอมอลูมิเนียมแท่ง และค่าจัดส่งมากกว่าค่าวัตถุดิบ ถ้าหน่วยงานใดที่ต้องการชิ้นส่วนขาเทียม ทางชมรมฯ ยินดีจะผลิตให้พอกับความต้องการและไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น


5. ความสามารถในการประกอบขาเทียมจากเศษอลูมิเนียม 100 กิโลกรัม  เมื่อนำมาทำชิ้นส่วนของขาเทียมจะได้ชิ้นส่วนถึง 500 อัน ผู้ประกอบขาเทียมต้องใช้เวลาประกอบหลายปีดังนั้นการรณรงค์เพื่อเก็บหูกระป๋อ งกันอย่างแพร่หลายทั่วประเทศจึงเป็นเรื่องการสร้างภาพของคนกลุ่มหนึ่งเท่า นั้น และควรจะให้ประชาชนได้รู้ความจริง


6. การดื่มน้ำอัดลมแบบกระป๋อง  ก็ เป็นการสิ้นเปลืองเหมือนกันอยู่นะค่ะ  เพราะแผ่นโลหะที่นำมาทำกระป๋องต้องนำเข้า และต้องจ่ายค่ากระป๋องเพิ่มจากน้ำขวดปรกติถึง 3 บาทแน่ะ


7. การสร้างศรัทธาและจิตสำนึกเพื่อช่วยเหลือคนพิการเป็นสิ่งที่ดี  แต่การโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขายและนำสถาบันเบื้องสูงมาอ้างเช่นนี้ ทำให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาเข้าใจผิดเป็นจำนวนมาก เรื่องอย่างนี้…ผู้คุ้มครองผู้บริโภคน่าจะดูแลให้ทั่วถึงด้วย

22
โครงการนี้เป็นกิจกรรมร่วมระหว่างโครงการพระราชดำริ และกลุ่มปันของใช้ให้น้องค่ะ
โดยกลุ่มปันของใช้ให้น้อง เป็นผู้รวบรวมสิ่งของและเงินบริจาค นำไปส่งมอบให้กับโครงการพระราชดำริฯ ที่จังหวัดปัตตานี
เพื่อให้ดำเนินการมอบให้แก่ชาวบ้าน และทหารใน 3 จังหวัดชา่ยแดนภาคใต้ต่อไป
ดูกิจกรรมของกลุ่ม ปันของใช้ให้น้องได้ที่ https://www.facebook.com/groups/137061349807138/

ถนนหนทางในจังหวัดปัตตานี จะมีพี่น้องทหารคอยรักษาความปลอดภัยตลอดค่ะ สงสารทหารจับใจ ฝนตกแดดออกก็ต้องทน





ตามวัดต่างๆ จะมีทหารคอยรักษาความปลอดภัย



วัดยานิการาม มีหลวงพ่อจำวัดอยู่รูปเดียว ถามหลวงพ่อว่ากลัวมั้ย ทำไมถึงยังอยู่ที่นี่ ท่านบอกก็กลัวแต่ถ้าท่านไป ชาวบ้านจะพึ่งใคร



เท่าที่สังเกต วัดที่ปัตตานีจะใหญ่โตทุกวัดนะคะ แสดงว่าเมื่อก่อนพุทธศาสนาคงรุ่งเรืองเหมือนกัน ที่นี่คือวัดทรายขาวค่ะ




23
ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่มาร่วมสนุกด้วยกันวันนี้นะคะ







ของแจกมีมากมายเช่นเคยค่ะ






24


กระทรวงวัฒนธรรม รวมหัวใจคนไทยทั้งชาติ จัดงานยิ่งใหญ่ ฉลองวันสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ”ใต้ร่มพระบารมี ๒๓๒ ปีกรุงรัตนโกสินทร์ ”ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๑ เม.ย. ณ ท้องสนามหลวง เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน ๒๕๕๗ จัดกิจกรรมยิ่งใหญ่ด้วยริ้วขบวน ๙ ยุค ๙ รัชกาล พร้อมปลุกกระแสว่าวไทยปล่อยว่าว ๒๓๒ ตัวกลางสนามหลวง ส่งเสริมเอกลักษณ์การละเล่นคู่ท้องสนามหลวง
          ดร. ปรีชา กันธิยะ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ( วธ. ) เปิดเผยถึงการจัดงานฉลองวันสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ประจำปี ๒๕๕๗ ปีนี้ กระทรวงวัฒนธรรมจัดขึ้นภายใต้ชื่องาน “ใต้ร่มพระบารมี ๒๓๒ ปี กรุงรัตนโกสินทร์” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี พร้อมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน ๒๕๕๗ เพื่อให้ปวงชนชาวไทยมีความรู้ ความเข้าใจถึงประวัติความเป็นมาของการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี อีกทั้งเน้นและสนับสนุนการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย รวมไปถึงศักยภาพด้านมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ อันทรงคุณค่าภายในพื้นที่เกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ให้เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวมรดกศิลปวัฒนธรรม และนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและชุมชนทั้งประเทศอย่างทั่วถึง และที่สำคัญที่สุดของการจัดงานครั้งนี้ คือเพื่อชวนคนไทยทั้งชาติมาร่วมเฉลิมฉลอง เนื่องในวาระครบรอบวันสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ๒๓๒ ปี
          ดร. ปรีชา กล่าวต่อไปว่า กิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในงานครั้งนี้ เป็นกิจกรรมยิ่งใหญ่ที่ประกอบไปด้วยริ้วขบวน ๙ ยุค ๙ รัชกาล พร้อมขบวนรถตกแต่ง และขบวนคนร่วมเดินที่แต่งกายย้อนยุคตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ ถึงรัชกาลที่ ๙ ประกอบด้วยผู้ร่วมขบวนจากผู้แทนกรมศิลปากร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กรมศาสนา สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย สถาบันบัญฑิตพัฒนศิลป์ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ๗๖ จังหวัด และสภาวัฒนธรรม ๕๐ เขตของกรุงเทพมหานคร มีขบวนธงชาติไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ขบวนพระบรมฉายาลักษ์ ๙ รัชกาลและขบวนรถโบราณ
          ขบวนทั้งหมดนี้จะตั้งต้นขบวนที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขบวนจะเริ่มปล่อยจากจุดที่ตั้ง เวลา ๑๖.๐๐ น. ถึงบริเวณ พุทธมณฑลพิธีท้องสนามหลวงเวลา ๑๗.๓๐ น. ระยะทางในการเดินริ้วขบวน ๓.๕ กิโลเมตรความยาวของริ้วขบวน ๒ กิโลเมตร มีผู้ร่วมเดินในริ้วขบวน ๒,๕๐๐ คน หลังจากนั้นพร้อมตั้งขบวนรอรับประธานเพื่อทำพิธีเปิดในเวลา ๑๘.๓๐ น. โดยการตีกลองมงคล ๙ ใบ และผู้ร่วมงานร่วมปล่อยลูกโป่ง ๒,๒๓๒ ลูก
          ทั้งนี้กระทรวงวัฒนธรรม ได้เตรียมพร้อมรายละเอียดทั้งหมดในการจัดงานเรียบร้อยแล้ว ด้วยความร่วมมือจากเครือข่ายด้านวัฒนธรรม หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งรายละเอียดการจัดงานในปีนี้จะเน้นเป็นกิจกรรมทางด้านประวัติศาสตร์ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑) ผู้ทรงก่อตั้งพระนคร
          การจัดงานครั้งนี้ถือว่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้กับปีก่อนๆ โดยวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๗ หลังจากริ้วขบวนทั้งหมดถึงมณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ว จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นจะมีกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจมากมายตลอดงาน “ผมว่างานนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ให้เยาวชน และประชาชนชาวไทยได้รำลึกและเรียนรู้ถึงความเป็นมาของประวัติศาสต์ชาติไทยที่ทุกคนควรอนุรักษณ์ และหวงแหนไว้ให้คงอยู่คู่ประเทศไทยรายจะได้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของราชอาณาจักรไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน”ดร. ปรีชากล่าว
          ดร. ปรีชากล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ภายในบริเวณงานยังมีนิทรรศกาลต่างๆอีกมากมาย อาทิพระราชกรณียกิจใน ๙ รัชกาล แท่นสักการะถวายพระพรสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ มุมถ่ายภาพกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ชุดแต่งกายประจำชาติเพื่อให้ใช้ในการถ่ายภาพ นิทรรศการหมู่บ้านอาเซี่ยน (ASEAN Village) จัดกิจกรรมสาธิต สาธิตการประดิษฐ์ และแสดงหุ่นกระบอกไทย กิจกรรมสาธิตมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธณรม เช่น มารยาทไทย นวดไทย การไหว้ครูมวยไทย ภายในงานยังมีกิจกรรมธรรมบรรยาย โดย ท่าน ว.วชิรเมธี หรือพระมหาสมปอง จัดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ สวดโอเอ้วิหารราย และอื่นๆอีกมาย
          อย่างไรก็ตามภายในงานยังมีการสาธิต และจำหน่ายสินค้าวัฒนธรรม จากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ๗๖ จังหวัดทั่วประเทศ และสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานครทั้ง ๕๐ เขต มีสุดยอดการแสดงบนเวทีตลอดงาน ทั้งกลางวันและกลางคืน อาทิ การแสดงรำพัดรัตนโกสินทร์ การแสดงชุด”เกริกก้องฟ้า ใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์ การแสดงเพลงพื้นบ้าน (ฉ่อย ลำตัด อีแซว) การแสดงละครนอกแก้วหน้าม้า (ตอนถวายลูก) การประกวดกุลสตรีศรีรัตนโกสินทร์ คอนเสิร์ตและลิเกไชยา มิตรชัย วงดนตรีลูกทุ่งชิงช้าสวรรค์ คอนเสิร์ตเดอะสตาร์ การแสดงโขน ตอนสร้างกรุงอโยธยา – พระรามคืนนคร และการฉายหนังกางแปลง
          การจัดการประกวดกุลสตรีศรีรัตนโกสินทร์ ตลอดการจัดงานระหว่าวันที่ ๑๙ – ๒๑ เมษายน ๒๕๕๗ มีการสาธิตมารยาทไทย ผู้เข้าประกวดร่วมเดินในริ้วขบวนธงชาติ ริ้วขบวน ๙ ยุค ๙ รัชกาล และทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประจำเต้นท์ของหน่วยงานที่สังกัด เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดงานสินค้าทางวัฒนธรรมประจำท้องถิ่นของตนเอง การประกวดในรอบตัดสิน จะจัดในวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๗ ณ เวทีกลางท้องสนามหลวง ประกอบด้วยการเดินโชว์ในชุด ๙ ยุค ๙ รัชกาล และชุดผ้าไทยท้องถิ่น รวมทั้งร่วมชมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมระหว่างการประกวดด้วย
          สำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ภายในบริเวณงานแล้ว ในแต่ละวันตั้งแต่วันที่ ๑๙-๒๑ เมษายน ๒๕๕๗ จะมีการนำเที่ยวเส้นทางการท่องเที่ยวทางน้ำ (เส้นทางสายเหนือ) รอบเช้าเรือลำแรกออกเวลา ๐๘.๓๐ น. รอบบ่ายเรือลำแรกออกเวลา ๑๒.๐๐ น. เรือออกจากท่าช้าง เดินทางสู่สะพานพระราม ๔ แวะสักการะ และชมโบราณสถานวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร โดยตลอดเส้นทางจะมีมัคคุเทศก์บรรยายตลอดเส้นทาง (เส้นทางสายใต้) รอบเช้าเรือลำแรกออกเวลา ๐๘.๓๐ น. รอบบ่ายเรือลำแรก เวลา ๑๒.๐๐ น. เรือออกจากท่าช้าง เดินทางสู่สะพานพระราม ๙ แวะสักการะและชมโบราณสถานวัดอรุณราชวรารามราชวรวิหาร โดยจะมีมัคคุเทศก์บรรยายตลอดเส้นทาง
          นอกจากเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำแล้วยังมีเส้นทางท่องเที่ยวโบราณสถานทางบกรอบเกาะรัตนโกสินทร์ โดยรถบัสวันละ ๔ รอบ รอบละ ๔๐ คน โดยแบ่งเป็นรอบเช้า ๒ รอบ รอบบ่าย ๒ รอบ (สามารถสอบถามรายละเอียดและค่าใช้จ่ายได้ที่ 0-2422-8862-4 หรือ 1765 )

25

เพราะต้องไปอยู่ที่อินเดียกว่า 2 ปี เพื่อก้าวตามฝันให้ศิลปะวัฒนะธรรมไทยได้ไปสู่สายตาชาวโลก
แต่ช่วงนี้ที่อินเดียมีการเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นการเลือกตั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้ต้องเปลี่ยนแผน
เลื่อนปล่อยงานเพลงอัลบั้ม Superstar ออกไประยะหนึ่ง ซุป’ตาร์อินเตอร์ ”แอน มิตรชัย”
จึงขอใช้โอกาสนี้กลับมาอยู่ที่เมืองไทยกับครอบครัวระยะหนึ่ง



โดยเจ้าตัวได้เผยว่า “ช่วงนี้ที่อินเดียมีการเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นเลือกตั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะเฉพาะผู้มีสิทธ์ออกเสียงก็ราว 814 ล้านคน
ต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จ  เริ่มไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา กว่าจะเรียบร้อยก็ 12 พฤษภาคม
ซึ่งการเลือกตั้งถือเป็นเรื่องใหญ่ของที่นั่น ทำให้กลบกระแสทุกเรื่องได้เลยค่ะ งานเพลงอัลบั้ม”Superstar”ที่แอนเคยบอกว่าจะได้ฟังกันต้นเดือนนี้
จึงจำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะที่นั่นเป็นตลาดใหญ่มาก ทางแอนและทีมงานเห็นว่าไม่เหมาะกับการที่จะปล่อยงานออกมาในช่วงนี้
ประมาณปลายพฤษภาคมก็จะได้ฟังกันจริง ๆ ค่ะ ส่วนกระแสเรียกร้องจากแฟน ๆ ของแอนที่เมืองไทยอยากชมงานหนัง Bollywood เรื่อง Ishk Actually
ที่แอนไปเล่น และฉายที่อินเดียไปเมื่อปลายตุลาคม ปีที่แล้ว ตอนนี้เรากำลังมีแผนจะเอาหนังเข้ามาฉายในเมืองไทย เพื่อให้แฟนๆ ชาวไทยได้ชมกันค่ะ
ช่วงนี้ทีมงานของแอนทั้งที่อินเดียและที่เมืองไทยกำลังเตรียมงานกันอยู่ ทำให้แอนได้มีเวลาช่วงว่างสั้น ๆ พักผ่อนบ้าง เลยตั้งใจว่าจะกลับมาอยู่บ้าน
ที่เมืองไทยซักพักหนึ่ง จะได้มีโอกาสอยู่กับครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนคนอื่นบ้าง เพราะที่ผ่านมากว่า 2 ปีก็แทบไม่เคยเจอหน้ากันแบบครบคนเลยค่ะ
และช่วงที่อยู่เมืองไทยคงพาคุณแม่เดินสายทำบุญไหว้พระตามที่คุณแม่อยากไปค่ะ“


26
เมื่อวานไปเดินงานวัดลอยฟ้าที่สยามพารากอนมาค่ะ เลยเก็บบรรยากาศมาฝาก เผื่อใครสนใจค่ะ





บรรยากาศภายในงานค่ะ















27
ไปเที่ยวกันมาหรือยังคะ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เพิ่งจะได้ทราบข่าวจากอินเตอร์เน็ตปีนี้เอง

เลยต้องขอไปชมให้ได้ แต่กว่าจะมีเวลาว่าง ก็ช่วงท้ายๆ ของฤดูออกดอกแล้ว ไปถึงก็เห็นว่ามีดอกร่วงตลอดเวลาเลย

แต่ก็สวยงามได้บรรยากาศไปอีกแบบนะคะ จุดที่นุ้ยไปคือ บริเวณหน้าโรงเรียนสาธิตฯ ค่ะ



ตั้งใจไว้ว่าจะไปให้ถึงแต่เช้า คนจะได้ไม่เยอะ ปรากฏว่าหลงทางค่ะ กูเกิ้ลแอพนำทางพาอ้อมซะนี่

มาถึงสิบโมงเช้า คนเยอะเชียวค่ะ



แอบคิดนะคะ ว่าถ้าไม่มีรถจอดริมถนน คงสวยกว่านี้ ส่วนกลุ่มนุ้ยนี่เอารถไปจอดที่ลานจอดรถกันค่ะ เลยเข้ามาอีกจิ๊ดเดียวเอง



ชมใกล้ๆ บ้างนะคะ





พฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เจอบ่อยมากเลย คือ การโน้มกิ่งลงมาถ่ายรูป ไปชมดอกไม้ที่ไหนก็เจอ

ไม่รู้ว่ามันสวยตรงไหนนะคะกับการถ่ายรูปท่านั้น คนนึงทำ คนอื่นเห็นก็ทำตาม ถ้ามีทุกคนเป็นแบบนั้น

ดอกไม้อยู่ไม่ถึงคนที่มาชมทีหลังแน่ๆ เลยค่ะ





ช่วงนี้อากาศค่อนข้างร้อน ใครจะไปใส่เสื้อผ้าที่สบายๆ นะคะ นุ้ยเองกลับมาถึงจะซมเลย อบอ้าวมากค่ะ



อัพเดทข่าวชมพูพันธุ์ทิพย์ได้จากเพจนี้เลยนะคะ https://www.facebook.com/photo.KPS?fref=ts


28
ปลายปีที่ผ่านมาจนต้นปีนี้ประเทศไทยอากาศหนาวมาก ทำให้ได้ข่าวดอกพญาเสือโคร่งมาเรื่อยๆ

หลังจากนั่งดูภาพคนอื่นจนทนไม่ไหว จึงตัดสินใจเดินทางไปเชียงใหม่เมื่อวันที่ 24-26 มกราคมที่ผ่านมาค่ะ

ออกเดินทางวันศุกร์ช่วงกลางคืน เช้าก็ถึงเชียงใหม่พอดี อากาศหนาวมากค่ะ

ลองเสี่ยงดวงไปดูแม่คนิ้งที่ดินอินทนนท์ แต่ไปถึงสายเกินไป แม่คนิ้งหายไปหมดแล้ว

จุดหมายต่อไปคือขุนแม่ยะ เลยไม่ได้อยู่ที่อินทนนท์นาน มัวแต่หากาแฟกิน แทบไม่มีรูปติดกล้องมาเคยค่ะ

นี่ดอกอะไรก็ไม่ทราบค่ะ เห็นว่าน่ารักดีเลยถ่ายรูปมา



จุดชมวิวกิ่วลม



ภาพที่จะเห็นได้บ่อยๆ เวลาเดินทาง คือ กลุ่มมอเตอร์ไซส์ต่างๆ ที่จัดก๊วนท่องเที่ยวกัน



แวะกินข้าวกลางทาง เลยหิ้วกล้องออกไปเก็บภาพนิดหน่อยค่ะ



ดอกบ๊วย เห็นแล้วก็เปรี้ยวปาก อยากกินบ๊วยเค็มขึ้นมาเลยค่ะ



สุดท้ายไปถึงขุนแม่ยะเย็นเกินไปค่ะ เลยไปพักที่ปาย แล้วกลับมาขุนแม่ยะตอนเช้า



ภาพที่เคยเห็นเป็นสีชมพูทั้งดอยไม่มีแล้วนะคะ ใบเริ่มออกมา ดอกเริ่มโรยแล้ว แต่ก็นะ ได้เห็นแค่นี้ก็ดีใจแล้ว





วันที่ไปนักท่องเที่ยวน้อยมากค่ะ คงเพราะพ้นช่วงพีคมาแล้ว



เดี๋ยวงานซาๆ แล้วจะมาลงรูปเพิ่มนะคะ ขอบคุณที่แวะเข้ามาชมค่ะ

29
เริ่มต้นเปิดงานด้วยผู้อาวุโสของเว็บเราก่อนเลย (พี่เตียงจะดีใจมั้ยเนี่ย ได้เป็นผู้อาวุโส 555)



จับได้ของคนกันเองซะแล้ว



พี่แดงภูมิใจนำเสนอเสื้อจากท้องถิ่นค่ะ



เนื้อคู่ชัดๆ  ;D



มีวอลเปเปอร์ประดับฉากตลอด





ยินดีต้อนรับสมาชิกจากฉะเชิงเทราค่ะ





สมาชิกจากฉะเชิงเทราอีกคน ขอบคุณที่มาร่วมสนุกกันนะคะ



ปีนี้กระแสคุกกี้อาเซน่อลมาแรง น้องธันเลยเปลี่ยนเป็นโอริโอ้แทน





ถุงของขวัญน่ารักเกิ๊นนนน






30
http://pantip.com/topic/30357949

ระบบ android

3G,H,H+,G และ E เป็นสัญลักษณ์ของการรับส่งข้อมูลบนเคลือข่ายโทรศัพท์แต่ละสัญลักษณ์ก็จะมีความเร็วสูงสุดที่ต่างกัน (ขอใช้คำว่าความเร็วสูงสุดนะครับเพราะสัญลักษณ์ต่างกันจริงแต่ความเร็วอาจไม่ต่างกันขึ้นอยู่กับสัญญาณโทรศัพท์ของแต่ละพื้นที่ด้วยและอาจมีปัจจัยของผู้ให้บริการด้วย)
“G” แสดงว่าจับสัญญาณ GSM แบบ GPRS ความเร็ว 48 kbps
“E” แสดงว่าจับสัญญาณ GSM แบบ EDGE ความเร้ว 280 kbps
“3G” แสดงว่าจับสัญญาณ 3G ได้แล้วแต่รองรับความเร็วสูงสุดในดาวน์โหลดอยู่ที่ 384 kbps เท่านั้น
“H” แสดงว่าจับสัญญาณ 3G ในโหมด HSPA “High Speed packet access” ซึ่งจะทำให้คุณใช้อินเตอร์เนตได้ที่ความเร็วตั้งแต่ 7.2 Mbps, 10.2 Mbps, 14.4 Mbps สูงสุด ขึ้นอยู่สเปคของเครื่องว่ารองรับได้สูงสุดเท่าไร
“H+” แสดงว่าจับสัญญาณ 3G ในโหมด HSPA+ “High Speed packet access Plus” ซึ่งจะทำให้คุณใช้อินเตอร์เนตได้ที่ความเร็วตั้งแต่ 21 Mbps และสูงสุดที่ 42 Mbps ขึ้นอยู่สเปคของเครื่องว่ารองรับได้สูงสุดเท่าไร


Pages: 1 [2] 3 4 ... 71