sianbun on February 24, 2010, 05:37:00 PM


HACHI ฮาชิ

จัดจำหน่ายโดย  บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด

ชื่อภาษาไทย  ฮาชิ หัวใจพูดได้

เว็ปไซด์   http://www.hachithemovie.com

ภาพยนตร์แนว  ดราม่า

จากประเทศ  สหรัฐอเมริกา

กำหนดฉาย  4 กุมภาพันธ์ 2553

ณ โรงภาพยนตร์  ทุกโรงภาพยนตร์

นักแสดง Richard Gere (Chicago, Pretty Woman), Joan Allen (The Bourne Ultimatum, The Notebook), Koji Yakusho (Babel, Memoirs of a Geisha)

ผู้กำกับ   Lasse Hallstorm (Casanova, Chocolat, My Life As A Dog)

จุดเด่น

จากเรื่องจริงสุดประทับใจของความจงรักภักดีของสุนัขพันธุ์อากิตะ ชื่อ ฮาชิโกะ ที่มารอคอยเจ้าของที่สถานีรถไฟชิบูย่าทุกวัน นานนับเป็นเวลากว่า 10 ปี โดยที่ไม่รู้เลยว่าเจ้าของได้เสียชีวิตไปแล้ว ทำให้ประชาชนทั่วญี่ปุ่นต่างซาบซึ้งกับความรักอันบริสุทธิ์ที่สุนักจะมีให้แก่มนุษย์ที่เป็นเจ้าของได้อย่างสุดหัวใจ จนถูกสร้างขึ้นเป็นอนุสาวรีย์ตั้งโดดเด่นอยู่ที่ประตูทางเข้าสถานีรถไฟชิบูย่าจวบจนทุกวันนี้ และความรักอันแสนบริสุทธิ์นี้ได้ถูกถ่ายทอดออกมาบนแผ่นฟิล์มในเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ดเป็นครั้งแรก ใน Hachi ฮาชิ หัวใจพูดได้
การรวมตัวกันครั้งสำคัญของสุดยอดนักแสดง เริ่มต้นด้วยเจ้าของรางวัลลูกโลกทองคำนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จาก Chicago ริชาร์ด  เกียร์ นอกจากจะรับบทนักแสดงนำแล้วยังควบตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างอีกด้วย, นักแสดงที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์  สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม โจน  อัลเลน จาก The Bourne Ultimatum, นักแสดงญี่ปุ่นชื่อดัง แครี่ - ฮิโรยูกิ ทาคาว่า จาก Babel และ Memoirs of a Ceisha กำกับภาพยนตร์โดย ลาสเซอ ฮาลชโตม ผู้กำกับฯ จากเรื่อง My Life as a dog ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์มาแล้ว  
 

เรื่องย่อ

      ภาพยนตร์อเมริกันที่สร้างความอบอุ่นหัวใจเรื่องนี้  ดัดแปลงมาจากเรื่องเล่า เลื่องชื่อของประเทศญี่ปุ่น  เรื่องราววีรกรรมของสุนัขพันธ์อากิตะ  ชื่อเจ้า  ฮาชิโกะ

      ฮาชิโกะ - เจ้าสุนัขสุดพิเศษ ตัวนี้ มีชื่อเล่นเรียกสั้นๆ ว่า ฮาชิ   บังเอิญได้มาอยู่ร่วมกับเจ้าของของมัน  ปาร์คเกอร์ (ริชาร์ด เกียร์) อาจารย์มหาวิทยาลัย ทุกๆ เช้า ฮาชิ จะเดินตามไปส่งเจ้าของเดินทางขึ้นรถไฟไปทำงานที่สถานีรถไฟ และ ทุกๆ เย็นก็จะมารอรับเขาเมื่อเลิกงาน... แต่ทุกอย่างต้องเปลี่ยนไป  จนทำให้เรื่องราวของ ฮาชิกลายเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่น  ความจงรักภักดีที่ฮาชิมอบให้แก่เจ้าของของมัน  เผยให้เห็นถึงพลังแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมให้อะไรมาหยุดยั้ง   แม้ฮาชิ จะแสดงออกเพียงสิ่งเรียบง่ายของฮาชิ  แต่ก็ยังยืนยันถึงความรักอันยิ่งใหญ่เหนืออื่นใด  


HACHIKO : A DOG’S STORY

ฮาชิ  หัวใจพูดได้


นักแสดง ริชาร์ด  เกียร์, โจน อัลเลน, ซาร่า โรเมอร์, แครี่ - ฮิโรยูกิ ทาคาว่า, อีริค อเวริ, ร็อบบี้ โคลเลียร์ - ซุเบลตต์, เดเวเนีย แม็กเฟดเดน และ เจสัน อเล็กซานเตอร์  


คัดเลือกนักแสดง โดย ริค มอนโกเมอรี่ / ควบคุมดนตรี โดย ลิช กาแลซเซอร์  / ดนตรีประกอบโดย  เจน เอ.พี. คาซมาเร็ค / ออกแบบเครื่องแต่งกาย เดบอร่าห์  นิวฮอลล์ / ลำดับภาพ  คริสติน่า  โบเดน/ ออกแบบศิลป์  ชัด  เดทวิลเลอร์/ กำกับภาพ รอน ฟอนทอนาโต / ร่วมดูแลงานสร้าง  ทอม  ลูส / ร่วมอำนวยงานสร้าง  ดีน  ชไนเดอร์ / ดูแลงานสร้าง  จิม  ซิเบล ,พอล  เมสัน, เจฟฟ์  เอ็บเบอร์ลี่ย์ / จูเลีย  แบล็คแมน / อำนวยงานสร้าง วิคกี้  ซิจิคูนิ หว่อง / บิลล์ จอห์นสัน/ ริชาร์ด เกียร์/ บทภาพยนตร์  สตีเฟน  พี.ลินเซย์/  กำกับภาพยนตร์ ลาสเซอ  ฮาลชโตม  


เรื่องย่อ


      ภาพยนตร์อเมริกันที่สร้างความอบอุ่นหัวใจเรื่องนี้  ดัดแปลงมาจากเรื่องเล่า เลื่องชื่อของประเทศญี่ปุ่น  เรื่องราววีรกรรมของสุนัขพันธ์อากิตะ  ชื่อเจ้า  ฮาชิโกะ

      ฮาชิโกะ - เจ้าสุนัขสุดพิเศษ ตัวนี้ มีชื่อเล่นเรียกสั้นๆ ว่า ฮาชิ   บังเอิญได้มาอยู่ร่วมกับเจ้าของของมัน  ปาร์คเกอร์ (ริชาร์ด เกียร์) อาจารย์มหาวิทยาลัย ทุกๆ เช้า ฮาชิ จะเดินตามไปส่งเจ้าของเดินทางขึ้นรถไฟไปทำงานที่สถานีรถไฟ  และ ทุกๆ เย็นก็จะมารอรับเขาเมื่อเลิกงาน

      แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไป  เมื่อกิจวัตรประจำวันของพวกเขามีอันต้องสะดุดลง  จนทำให้เรื่องราวของ  ฮาชิกลายเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่น  ความจงรักภักดีที่ฮาชิมอบให้แก่เจ้าของของมัน  เผยให้เห็นถึงพลังแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมให้อะไรมาหยุดยั้ง   แม้ฮาชิ จะแสดงออกเพียงสิ่งเรียบง่ายของฮาชิ  แต่ก็ยังยืนยันถึงความรักอันยิ่งใหญ่เหนืออื่นใด  


ความซื่อสัตย์เหนือกาลเวลา


      ตั้งแต่ปี 1930  ที่เรื่องราวของสุนัขพันธ์อากิตะ  ผู้ซื่อสัตย์ ชื่อ  ฮาชิโกะ จาก โตเกียว ถูกเล่าขานกลายเป็นตำนานเลื่องลือไปทั่วประเทศญี่ปุ่น  ดังเช่นที่มี รูปปั้นของสุนัขตัวนี้ตั้งอยู่อย่างน้อย 3 ตัวอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นเป็นหลักฐานยืนยัน  และมีหนึ่งในรูปปั้นนั้น  ยังเป็นจุดนัดพบที่โด่งดังที่สุดของมหานครโตเกียว ที่สุดจะพลุกพล่าน แต่ทุกคนที่โตเกียวก็จะรู้ทันที  เมื่อบอกว่า  พบกันที่  “ประตูฮาชิ” สถานีรถไฟชิบูย่า

      กว่า 70 ปีแล้วที่เรื่องราวของ  ฮาชิโกะ เปรียบประดุจฮีโร่ของญี่ปุ่น  เรื่องราวสุดรักนี้ ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดของญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้ง  นับตั้งแต่   Hachikō Monogatari (1987) ถูกใช้เป็นตัวละครในหนังสือสำหรับเด็กชื่อดังหลายเล่ม  อาทิ  Hachikō: The True Story of a Loyal Dog  เขียนโดย  พาเมล่า เอส.เทอร์เนอร์  และ Hachiko Waits เขียนโดน  เลสเลียร์  นิวแมน ทั้งสองเล่มตีพิมพ์ในปี  2004  

      เรื่องราวของมิตรภาพ  พันธะสัญญาต่อเพื่อนที่ไม่ถูกทำลายด้วยกาลเวลาเรื่องนี้  กำลังถูกหยิบมาถ่ายทอดในรูปแบบของภาพยนตร์อเมริกัน  ฝีมือผู้กำกับฯ ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์  “ลาสเซอ ฮาลชโตม”

      ฮาลชโตม  เล่าถึงการได้รับบทภาพยนตร์เรื่องนี้มาจาก เพื่อนเก่าของเขา  ริชาร์ด  เกียร์  - ผู้ซึ่งรับตำแหน่งผู้อำนวยงานสร้างหนัง Hachiko    “นับเป็นของขวัญสำหรับผมเลย เป็นเรื่องราวที่วิเศษสุด และในฐานะที่ตัวผมเองเป็นคนรักสุนัขเช่นกัน นี่เป็นบทหนังที่น่าอัศจรรย์ใจมาก”  

      ริชาร์ด  เกียร์ และ  ลาสเซอ  ฮาลชโตม  เป็นเพื่อนบ้านกัน ในย่านนิวยอร์ค  และนับตั้งแต่ทำงานร่วมกันในหนัง The Hoax ปี 2006 พวกเขาต่างก็นึกฝันจะทำหนังด้วยกันอีก  แต่ก็ใช้เวลาไม่น้อย สำหรับริชาร์ด เกียร์ที่จะเห็นด้วยกับไอเดียสร้างหนังสำหรับครอบครัวสักเรื่อง   จนกระทั่งเขารับฟังเรื่องราวฮาชิโกะ   ทำให้เขานึกถึงผู้กำกับฯ ฮาลชโตม  สำหรับหนังเกี่ยวกับสุนัขที่มีเนื้อหาสวยงาม  น่าพิศวง เรื่องนี้ทันที  

        ริชาร์ด เกียร์ กล่าวถึง ผู้กำกับฯ ฮาลชโตม ว่า “ลาสเซอเป็นพวกคนแคระตัวแสบในนิทานยุโรป ภรรยาของเขาและผมขำกับนิสัยพวกนี้ของเขาเสมอ เพราะเรารู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร และต้องการควบคุมทุกอย่างขนาดไหน แต่เราก็เดาไม่ถูกเลยว่า เขาทำแบบไหนกับหนังเรื่องนี้” หนังที่เรียบง่ายแต่แฝงเนื้อหาจับใจเช่นนี้ ต้องการผู้กำกับฯที่มีมนต์พิเศษอย่าง ฮาลชโตมเท่านั้นที่จะกำกับฯถ่ายทอดออกมาได้”

      เป็นที่เห็นพ้องกันตรงกัน  ในหมู่นักแสดงและทีมงาน Hachiko ว่า  ผู้กำกับฯ ฮาลชโตม ไม่ได้เป็นผู้กำกับฯนักเผด็จการ  นักแสดง เจสัน อเล็กซานเตอร์ ผู้รับบท  คาร์ล   นายสถานีรถไฟ  ผู้เป็นพยานรู้เห็นชีวิตของฮาชิโกะ  บทบาทนายสถานี เป็นบทเล็กๆ  เฝ้ามองอยู่ห่างๆ  ผ่านกระจก หรือแทบไม่เห็นเลย  แต่ฮาลชโตม มีวิธีที่นุ่มนวล ที่จะเติมเต็มความสำคัญให้กับบทบาทนี้   อเล็กซานเดอร์  กล่าว “ลาสเซอเชื่อมั่นนักแสดงของเขา  คุณเพียงพูด และแสดงไป  ก็จะพบว่า ตัวเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของจินตนาการภาพในหัวที่เขาวาดไว้แล้ว   เขาทำตัวเหมือนไม่รู้ไม่เห็น  เขาจัดการให้นักแสดงไปอยู่ที่ตำแหน่งที่เขาต้องการอย่างนุ่มนวล  ทำทุกอย่างเงียบๆ และนักแสดงไม่รู้สึก ว่า มีใครผลักดัน ใครกำลังกำกับฯให้คุณแสดง  แต่เขาอยู่ที่นั่นล่ะ  และคุณก็จะรู้  เมื่องานเสร็จในแต่ละวัน”  เกียร์ เพิ่มเติม “ ลาสเซอ จะเริ่มแค่ไอเดีย  และวิธีที่เขากล่อมเกลาคุณให้คล้อยตาม  และคุณก็พบว่า ตัวเองเปลี่ยนไปแสดงออกลักษณะนิสัยบางอย่างตามบทบาท  แต่สิ่งเหล่านี้มาจากภายในตัวคุณเอง  ไม่ใช่มาจากการกำกับฯของบุคคลภายนอก”

      ฮาลชโตม รู้สึกว่า สิ่งสำคัญของหนังเรื่องนี้ คือต้องไม่ละเลย สิ่งที่เป็นพลังขับเคลื่อนเรื่องราวของฮาชิโกะ“มันเป็นหนังเล็กๆ ในเวลาเดียวกันก็มีความท้าทายสูง คุณต้องไม่ฟูมฟาย ใส่ความเห็นอกเห็นใจของคุณเข้าไปจนเกินไป มันมีโดยธรรมชาติของเรื่องอยู่แล้ว ริชาร์ดมักจะบอกว่า ให้คิดว่า มันเป็นหนัง เป็นเรื่องแต่ง แต่ผมมองว่า มันเป็นเรื่องชีวิต-เรื่องตลก ที่ผมชอบ อยากทำเป็นหนังมาก สำหรับผม นี่เป็นวิธีที่ตรงที่สุดที่จะพูดถึงโลกของเรานี้ เพราะโลกเรา มันมีทั้งดราม่า โศก แล้วมันก็ตลกด้วย จริงไหม?”

      อย่างที่  ฮาลชโตม เปิดประเด็น   ริชาร์ด เกียร์ อาจจะไม่เห็นด้วยนักกับ  การมองด้านตลกของเรื่อง   เอเจนท์ของเกียร์ ส่งบทมาให้เกียร์อ่าน   หลังจากอ่านเขาก็วางบทไม่ลง “มันไม่ใช่หนังที่เราจะคาดว่า จะดึงดูดผมได้ แต่พอได้อ่าน ผมร้องไห้สะอื้นเหมือนเด็กๆ จนต้องบอกตัวเองว่า นี่เราต้องรับงานนี้ ใช่ไหม?   แล้วผมก็อ่านมันอีกรอบ  ให้แน่ใจแต่มันยังคงจับใจ  ผมคิดว่า  เป็นหนังสื่อถึงสิ่งพิเศษ มีพลัง น่าพิศวง และเรื่องราวของสุนัขที่มุ่งมั่นรอคอยเจ้านายนั่น  จะทำให้หัวใจของพวกเรารู้สึกคล้อยไปกับมัน  รู้สึกได้ถึงความจงรักภักดีและความหมายหัวใจเกินร้อยที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างกันเสมอ  ช่างเป็นเรื่องราวที่มีพลังและลึกซึ้ง”

      วิคกี้  ซิจิคูนิ หว่อง  ผู้อำนวยการสร้าง  ได้รับแรงบันดาลใจในการโปรดิวซ์  Hachiko: A Dog’s Story ระหว่างที่เธอเดินทางไปญี่ปุ่น  กลางปี 1980  ท่ามกลางความคึกคักจอแจ เร่งรีบของ สถานีรถไฟชิบูย่า  โตเกียว  หว่อง ได้รับเแรงบันดาลใจจากรูปปั้นบรอนซ์ ที่สร้างไว้ให้ระลึกถึงความทรงจำที่มีต่อ สัตว์เลี้ยงแสนรักของชาวญี่ปุ่น  รูปปั้นสุนัขพันธ์ อากิตะ ชื่อ  ฮาชิโกะ  หว่องได้ถ่ายภาพความงามของรูปปั้น และจดจำเรื่องราวที่น่าประทับใจนั้น  จนทำให้ต่อมา  เธอตั้งชื่อสุนัขของตนเองว่า  ฮาชิโกะ  หลังจาก  เจ้า”ฮาชิ” ของเธอตายจากไป  ความโศกเศร้าอาลัยทำให้เธอตัดสินใจที่จะผลักดันให้เรื่องราวของสุนัขพิเศษสุดนี้เป็นภาพยนตร์    เธอระดมทุนมาจากกลุ่มเพื่อนๆ  และ ได้โปรดิวเซอร์ผู้มีประสบการณ์  พอล  เมสัน เข้ามาร่วมทีมสร้าง  ต่อมาก็ได้ นักเขียนบท  สตีเฟน  ลินด์เซย์ มาเขียนบท  จากเรื่องราวที่เป็นตำนานนี้ขึ้นมาใหม่   กระทั่งได้ตัวแทนจัดจำหน่าย  และ บิลล์ จอห์นสัน มาร่วมทุนสร้าง จึงทำให้ความฝันของหว่องที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของฮาชิโกะ เป็นภาพยนตร์อเมริกันกลายเป็นความจริง

      หว่องบอกกับทีมงาน ในครั้งแรกที่พบกันว่า   นักแสดงที่จะรับบทเป็น  ปาร์คเกอร์ อาจารย์มหาลัย  เจ้าของฮาชิ  “ชื่อแรกที่ทุกคนนึกถึง คือ ริชาร์ด เกียร์ และไม่ใช่เพียงได้เขามาแสดงนำ แต่เขายังอยากร่วมทุนสร้างโปรดิวซ์สร้างหนังเรื่องนี้กับเราด้วย ไม่มีอะไรให้ยินดีมากไปกว่านี้แล้ว เพราะถ้าจะมีใครในโลกที่เหมาะสม กับบท ชายที่มีหัวใจสัตย์ซื่อ และเพียบพร้อมด้วยความเมตตา คนนั้นคือ ริชาร์ด”

      ปาร์คเกอร์ - คาแร็คเตอร์ตัวละครของ ริชาร์ด เกียร์ เป็นผู้หยิบยื่นความเมตตาให้กับฮาชิโกะตั้งแต่ต้นเรื่อง  และ เมตตาฮาชิมากพอจะขัดใจ เคท - ภรรยาของเขา ที่รับบทโดย โจน อัลเลน เคทไม่ต้องการให้ปาร์คเกอร์เลี้ยงเจ้าสุนัขพันธ์อากิตะที่เขาพบ ในคืนหนึ่งจากสถานีรถไฟ และนำกลับมาบ้าน แต่ปาร์คเกอร์รู้สึกสื่อสาร เข้าถึงฮาชิ และเขารู้สึกถึงความจำเป็นที่ต้องทำเช่นนี้ และนี่คือ ความเมตตาที่ถ่ายทอดออกมาสู่บทบาทการแสดง

      เกียร์  กล่าวถึงตัวละครนี้ว่า  “ปาร์คเกอร์เป็นผู้ให้ ตามความสัมพันธ์ที่เขามีกับสุนัขของเขา เป็นการสื่อสารถึงกันจากใจอย่างเรียบง่าย ไม่มีสิ่งขวางกั้นระหว่างกัน ซึ่งผมว่า น่าสนใจมาก“ปาร์คเกอร์เองก็รู้สึกกับฮาชิเช่นเดียวกับที่ฮาชิรู้สึกกับเขา

      เกียร์  นำเสนอความคิดของเขา ว่า  สิ่งที่หัวใจของหนังเป็นเรื่องของ การให้อภัย , อาทร และยอมรับกันและกัน และเขายังเสนอให้หนังแสดงออกถึงเสน่ห์ของเมืองเล็กๆ และสัมพันธ์ภาพในครอบครัว กล่าวว่า “วิถีชีวิตแบบผู้คนรู้จักกัน ให้เกียรติกัน ไม่ว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ ก็รับรู้ถึงการมีอีกฝ่าย” ดังเช่นที่ปาร์คเกอร์ กับ ฮาชิ ปฏิบัติต่อกัน

      หนึ่งในตัวละครที่ริชาร์ด  เกียร์ อ้างถึงคือ “คาร์ล” นายสถานีรถไฟ รับบทโดย อเล็กซานเดอร์ กล่าว “คาร์ล เป็นหนึ่งในผู้คนที่อยู่แวดล้อมฮาชิโกะ ทุกคนรวมกันเป็นเหมือนเป็นครอบครัวเล็กๆ” สมาชิกคนอื่นๆ ของครอบครัวที่เขากล่าวถึงก็มี ชาบีร์ พ่อค้ารถเข็นฮอทด็อก กาแฟ รับบทโดย อีริค อาวารี และ มารี่ แอนน์ เจ้าของแผงหนังสือ ที่รับบทโดย เดวิเนีย แม็กฟาเดน ตัวละครทั้งสามเป็นร่วมรู้เห็นกิจวัตรประจำวัน อันเป็นสายสัมพันธ์ระหว่าง ปาร์คเกอร์ กับฮาชิ   และภายหลังก็กลายเป็นผู้รับช่วงดูแล ฮาชิ

      คาร์ล เป็นผู้คะยั้นคะยอให้ปาร์คเกอร์ นำฮาชิโกะกลับไปบ้านด้วย ในคืนที่เขาพบเจ้าลูกหมาน้อยหลงทางนี้ได้ ที่ชานชลาสถานีรถไฟ ตอนปาร์คเกอร์เลิกงานกลับมาบ้าน ปาร์คเกอร์ยังคิดจะเอาลูกหมากลับไปวางไว้ที่เดิม แต่คาร์ล บอกว่า หากปาร์คเกอร์ไม่นำมันกลับไป ลูกหมาก็จะถูกทิ้งไว้ที่สถานีตามลำพังทั้งคืน และ คงถูกเยียบแบนไปในเช้าวันรุ่งขึ้น อีกทั้งเจ้าหมาน้อยก็เลือกยอมให้ปาร์คเกอร์อุ้มแล้วด้วย ทำให้เขาไม่สามารถที่จะทอดทิ้งผลักไสเจ้าลูกหมาน้อยไว้ตามลำพัง

      ในความเห็นของ โจน อัลเลน เธอมองว่า บุคลิกตัวจริง  ของ ริชาร์ด เกียร์ ไม่ผิดอะไรกับบทบาทที่เขาแสดง “ฉันเห็นความใส่ใจลึกซึ้งที่เขามีกับผู้คน เป็นคนที่มองทะลุถึงภายใน เข้าใจคนอื่นอย่างลึกซึ้ง รักครอบครัว และ มักมองสิ่งต่างๆ อย่างลึกซึ้งกว่าแค่ภายนอก แต่แสดงออกด้วยท่าทีง่ายๆ เป็นธรรมชาติ และที่พิเศษมาก คือ ดูมีเสน่ห์”

      อัลเลน  นักแสดงที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม มารับบทเด่น  เป็น เคท นักประวัติศาสตร์หัวอนุรักษ์นิยม มีลูกสาว แอนดี้ (ซาร่า โรเมอร์) ที่เพิ่งจะแต่งงานแยกไป แต่ เคท ก็ปลอดโปร่งกับชีวิตไร้ภาระได้ไม่นาน แต่แล้ว ความสุขของเธอก็สะดุด เมื่อสามีพาเอาลูกหมาตัวน้อยกลับมาบ้าน พื้นฐานเธอก็ไม่ใช่คนรักสัตว์ แต่ก็ยอมรับ และ เคารพในการตัดสินใจของสามี และเอาใจสามีที่มีความสัมพันธ์เหมือนเด็กๆ ที่เพิ่งได้สัตว์เลี้ยงกับเจ้าลูกหมาน้อย

      โจน อัลเลน เป็นตัวเลือกแรกเข้ารับบท เคท ริชาร์ด เกียร์ กล่าวว่า “เราต้องการใครที่มาเติมเต็ม เรื่องราวง่ายๆ แต่ลึกซึ้งมาก ต้องการนักแสดงที่ดูแล้วรู้สึกจริง” บุคลิกตัวจริงของ โจน อัลเลน และการแสดงของเธอ เป็นคนอ่อนโยนมาก ดังนั้น เธอไม่สามารถความโหดหรือดุร้ายมากเกินไปได้ “และโจนแสดงได้อย่างนุ่มนวล เป็นนักแสดงที่เหมือนไม่แสดง แต่แฝงตัวเงียบเชียบอยู่กับบทบาท เธอทำให้การแสดงเป็นจริง ดูเรียบง่ายมาก”

      ผู้กำกับฯ ฮาลชโตม เห็นด้วย “ทำงานกับโจน เป็นประสบการณ์ที่ถ่อมตัว เรียบง่ายมากเป็น มันวิเศษมากที่ได้เห็น นักแสดงหญิงแม่นยำในการแสดงระดับนี้”

      โจน อัลเลน เองก็รู้สึกว่า เธอกับเกียร์ ดูเป็นคู่สามีภรรยาอย่างเป็นธรรมชาติและมีปฏิกิริยาเคมีต่อกัน อัลเลน กล่าวว่า “สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่คุณคาดเดาหรือ สร้างขึ้น มันแค่ ใครเข้าคู่กันแล้ว มันมี หรือ ไม่มี”  

      แครี่ – ฮิโรยูกิ ทากาว่า ผู้ที่แสดงในภาพยนตร์ดังอย่าง The Last Emperor และ Memoirs of a Geisha รับบท เคน เพื่อนสนิท และเพื่อนร่วมงาน ของ ปาร์คเกอร์ ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย “เคน”  เป็นผู้เชี่ยวชาญวัฒนธรรมญี่ปุ่น และเป็นผู้เล่าความน่าพิศวงของสุนัขสายพันธ์ อากิตะ ให้กับปาร์คเกอร์

      ทากาว่า เกิดและเติบโตในโตเกียว ทากาว่า  รู้สึกด้วยว่า เกียร์เป็นตัวเลือกที่เหมาะเจาะกับการดัดแปลงเรื่องราวโดดเด่นของญี่ปุ่นให้เป็นหนังอเมริกัน เพราะว่า “ริชาร์ด รักสัตว์และชื่นชมธรรมชาติ โดยเฉพาะการที่เขาเข้าถึงศาสนาพุทธ ไขว่คว้าหาความสงบ สันติสุข สิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญของคนญี่ปุ่น”  

      เกียร์รู้สึกเช่นเดียวกัน  กับ สุนัขพันธ์อากิตะที่แสดงเป็น ฮาชิโกะ “อากิตะไม่ใช่สุนัขพันธ์ ที่คุณจะเอาใจมันให้มันชอบคุณได้ มันจะชอบคุณหรือไม่ชอบ อากิตะเป็นฝ่ายสร้างตัดสินใจสร้างความสัมพันธ์เอง” อากิตะ เป็นสายพันธ์ที่สุขุม และ มีความพิเศษเฉพาะตัว อย่างเช่นที่ เกียร์ ย้ำ“ ผู้ฝึกสุนัข เป็นห่วงผมในการพบเจอกับสุนัขมาก เพราะสุนัขพันธ์นี้ พวกมันตัดสินใจทันที ถ้ามันไม่ชอบคุณ มันก็จะไม่เปลี่ยนใจ ดังนั้น เราต้องให้เวลาในการทำงานร่วมกันให้มาก และ ให้เวลาที่ผมได้พบกับสุนัข ผมเกือบที่จะรับเลี้ยงพวกเขาไว้เลยล่ะ” แต่เวลาที่ทุ่มเทไปทั้งหมดก็ได้ผล ในที่สุด เกียร์ก็ได้รับการยอมรับจาก สุนัขให้เข้าร่วมเป็น “ฝูง” เดียวกัน
« Last Edit: February 24, 2010, 05:50:15 PM by sianbun »