บทบาทของกัญชาในผู้ป่วยโรคไต
โดย พญ.ขนิษฐา เธียรกานนท์และรศ.นพ. ณัฐวุฒิ โตวนำชัย
หน่วยโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
               กัญชาในปัจจุบันได้รับความสนใจจากประชาชนและนักวิจัยเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่ประกาศพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับใหม่ พ.ศ. 2562 ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ซึ่งอนุญาตให้กัญชาสามารถนำมาใช้ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ทางราชการ การแพทย์ การรักษาผู้ป่วย หรือการศึกษาวิจัยและพัฒนาวิจัยทางการแพทย์ได้ เช่นเดียวกับสมุนไพรต่าง ๆ กัญชามีทั้งส่วนที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และโทษหากใช้อย่างไม่เหมาะสม บทความนี้เขียนขึ้นจากการรวบรวมหลักฐานทางการวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งพบจากการสกัดกัญชา ผลต่อการเปลี่ยนแปลงของไต และ โรคไตที่พบเกี่ยวข้องกับการใช้กัญชา ซึ่งสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยได้ตระหนักและตั้งใจเผยแพร่ เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและผู้ป่วยโรคไตได้พึงระวังและทราบข้อมูลความรู้ได้อย่างถูกต้องและใช้อย่างถูกวิธี               กัญชาในปัจจุบันได้รับความสนใจจากประชาชนและนักวิจัยเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่ประกาศพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับใหม่ พ.ศ. 2562 ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ซึ่งอนุญาตให้กัญชาสามารถนำมาใช้ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ทางราชการ การแพทย์ การรักษาผู้ป่วย หรือการศึกษาวิจัยและพัฒนาวิจัยทางการแพทย์ได้ เช่นเดียวกับสมุนไพรต่าง ๆ กัญชามีทั้งส่วนที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และโทษหากใช้อย่างไม่เหมาะสม บทความนี้เขียนขึ้นจากการรวบรวมหลักฐานทางการวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งพบจากการสกัดกัญชา ผลต่อการเปลี่ยนแปลงของไต และ โรคไตที่พบเกี่ยวข้องกับการใช้กัญชา ซึ่งสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยได้ตระหนักและตั้งใจเผยแพร่ เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและผู้ป่วยโรคไตได้พึงระวังและทราบข้อมูลความรู้ได้อย่างถูกต้องและใช้อย่างถูกวิธี               ในร่างกายของมนุษย์ มีตัวรับสารเคมีซึ่งลักษณะโครงสร้างคล้ายสารออกฤธิ์จากกัญชา เรียกว่า ตัวรับสารคานาบินอยด์ ตัวรับสารเหล่านี้พบมากในสมอง เส้นประสาท ทำให้กัญชาเมื่อได้รับเข้าไป มีฤทธิ์เด่นในการกดประสาท แต่ในขณะเดียวกันก็พบในอวัยวะอื่น ๆ รวมถึง ไต ดังนั้นการได้รับสารเคมีจากกัญชา ย่อมอาจส่งผลถึงไตได้
####
** ขอขอบคุณภาพจากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ **