MSN on March 15, 2021, 01:52:58 PM


“ปลุกเซลล์แก่ แก้เซลล์เสื่อม...ชะลอวัย ชะลอโรค ด้วยสารอาหาร และไลฟ์สไตล์” โดยผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและการชะลอวัยระดับตัวพ่ออย่าง ผศ.ดร.เอกราช บำรุงพืชน์






สองสาวสวยแห่งวงการความงามและธุรกิจ เบคกี้ รัสเซลล์ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร และ เจี๊ยบ - มนพันธ์ สุริยะวงศ์ทอง เปิด “บริษัท บีเจ รีไวฟ์ เซลล์ จำกัด” จับธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผ่านช่องทางออนไลน์ รุกตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ด้วยผลิตภัณฑ์ล่าสุด “ BJ Q10 Plus Citrus Bioflavonoids (บีเจ คิวเท็น พลัส ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์)” 

นอกจากนี้ยังชวนเหล่าเซเลบริตี้มาร่วมแสดงความยินดีกับก้าวสำคัญของตัวเอง พร้อมเชิญอดีตนางสาวไทยปี 2541 ดร.นก - ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ มาร่วมแชร์เรื่องราวการดูแลสุภาพหลังคว้าดีกรี ปริญญาเอกมาหมาดๆ ร่วมกับ สรโชติ อำพันวงษ์ CEO ช่อง SHOP CHANNEL และยังได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและการชะลอวัยระดับตัวพ่ออย่าง ผศ.ดร.เอกราช บำรุงพืชน์ มาให้ความรู้ ในหัวข้อ “ปลุกเซลล์แก่ แก้เซลล์เสื่อม...ชะลอวัย ชะลอโรค ด้วยสารอาหาร และไลฟ์สไตล์” บ่ายวันที่ 11 มีนาคม 2564 ณ ชั้น 28 แปซิฟิค ซิตี้ คลับ อาคารทู แปซิฟิค เพลส (สถานีรถไฟฟ้า BTS นานา)


รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร และ มนพัทธ์ สุริยะวงศ์ทอง 2ผู้บริหาร บริษัท บีเจ รีไวฟ์ เซลล์ จำกัด


สายสม วงศาสุลักษณ์ ร่วมยินดีกับ 2 ผู้บริหาร

บรรยากาศในงานเป็นการเปิดตัว ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารล่าสุดของบริษัท “ BJ Q10 Plus Citrus Bioflavonoids (บีเจ คิวเท็น พลัส ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์)” โดยมีเหล่าเซเลบริตี้ระดับเอลิสต์ ต่างหอบช่อดอกไม้ มาร่วมแสดงความยินดีกับสองสาวนักธุรกิจ เบคกี้ และ เจี๊ยบ ที่มากประสบการณ์ กันอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางความอบอุ่นกับมิตรภาพของเหล่าเพื่อนๆ ที่มีกันมาอย่างยาวนาน อาทิ สายสม วงศาสุลักษณ์  ,ลูกจัน-ดร.จันจิรา จันทร์โฉม มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2545 ฯลฯ


ดร.จันจิรา จันทร์โฉม


มนพัทธ์ สุริยะวงศ์ทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ บริษัท บีเจ รีไวฟ์ เซลล์ จำกัด


รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร CEO บริษัท บีเจ รีไวฟ์ เซลล์ จำกัด 

ทั้งสองผู้บริหาร เบคกี้ และ เจี๊ยบ ได้พูดถึงที่มาของการเปิดบริษัท บีเจ รีไวฟ์ เซลล์ จำกัดว่า มาจากแรงบันดาลใจของตัวเอง โดยเฉพาะตัวเบคกี้เอง เธอบอกว่า เกิดจากการทานฮอร์โมนอันเนื่องมาจากการทำเด็กหลอดแก้วอยู่นานหลายปี การทำเด็กหลอดแก้วครั้งนั้น ทำให้มีผลมาสู่สุขภาพที่ไม่ดี เกิดเนื้องอกในรังไข่ แม้จะตัดไปแล้ว แต่พอเวลาผ่านไป 2-3 ปี กลับเกิดเนื้องอกในมดลูกอีกใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เลือดก็จาง เจอเหตุการณ์สารพัด ประจำเดือนมาเดือนละ 2 ครั้ง หมอบอกว่าเหตุการณ์นี้ไม่ปกติ ถือว่าตนโชคดีมาก เมื่อไปตรวจแล้วปรากฏว่ามันไม่มีอันตราย แต่หมอบอกว่ามันเป็นผลข้างเคียง 

เลยตัดสินใจตัดมดลูกทิ้ง ทำให้ตนต้องรับฮอร์โมนมาตั้งแต่วัย 40 กว่าๆ จนวันหนึ่งรู้สึกว่าเราไม่อยากรับฮอร์โมนแล้ว เลยตัดสินใจไม่รับฮอร์โมนอีก แต่สภาพเราโทรมสุดๆ พอดีมาเจอเจี๊ยบ เค้ามาถามว่าทำไมดูโทรม เราก็เล่าปัญหาของเราให้เค้าฟัง เค้าบอกว่าพี่ลองไปทำชะลอวัยไหม เค้าชวนเราไปหาคุณหมอ ซึ่งเป็นอาจารย์ของเค้า คุณหมอก็จัดโน่นนี่นั่นให้ ซึ่งดีต่อเรามาก แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เดือนหนึ่งประมาณ 20,000 บาท ถาม คิดว่าเก็บเงินให้ลูกดีกว่า เลยชวนเจี๊ยบมาทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทานกันเอง จากที่เคยทาน 7-8 เม็ดให้เหลือทานง่ายขึ้นเพียงเม็ดเดียว ซึ่งเจี๊ยบบอกว่าเราจะทำทานคนเดียวไม่ได้นะพี่ เราต้องทำเป็นธุรกิจ เลยเกิดเป็น “BJ” หรือ Beauty Jelly

ถึงคิวของอดีตนางสาวไทย ปี 2541 นก-ดร.ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ ที่มาแชร์เรื่องราวการดูแลสุขภาพของตัวเองว่า ที่ตนเลือกเรียนด้านวิทยาศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ เพราะเรื่องของอาหาร หรือ Nutrition เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ทุกวันนี้เราจะทานอาหารครบทุกอย่าง บางทีมันเป็นไปไม่ได้  เราจำเป็นจะต้อง Optimum ในเรื่องของ Level เรื่องของสารแอนตี้ออกซิแดนท์(Anti Oxidant) ในเรื่องของสารอาหารทุกอย่าง ไลฟ์สไตล์ของตนทุกวันนี้ หันมารับประทาน Plant Based ตัวอื่นๆ ไม่ห่วงเลย อย่าง เอนไซม์ Q10 จะอยู่ในตับ อาหารที่อยู่ในเนื้อสัตว์ บางทีครบหรือไม่ครบไม่รู้ แต่ Co Q10 เป็นเหมือนดั่งซิมโฟนี ออเครสตร้า ที่ต้องมีเครื่องดนตรีหลายๆ ชิ้นๆรวมกัน ไม่งั้นบรรเลงไม่สวยหรือสวยไม่ครบ แต่ด้วยสติปัญญาความสามารถ พยายามทานให้ครบอยู่ Plant Based เรื่องฮอร์โมนตนเข้าใจดี ตนเคยมีประสบการณ์การทำเด็กหลอดแก้วเหมือนกับพี่เบคกี้มาแปดปี ตนเข้าใจดี ตอนนี้ตนอายุ 47 เรื่องฮอร์โมนนั่งอยู่ตอนนี้ยังร้อนวูบ ขนาดแอร์เย็น แต่ในเรื่องชะลอวัย เวลาที่ดูแลตัวเองจะช่วยบรรเทาเบาบาง อดีตเราไม่สามารถกลับไปเปลี่ยนตรงนั้นได้แล้ว เราจึงต้องดูแลตัวเอง ฮอร์โมน Nutrition การออกกำลังกาย Exercise ถ้าเราเรียนชะลอวัย เราจะมานั่งเฉยๆไม่ได้นะ เราต้องออกกำลังกาย อย่างน้อยต้องมีความยืดหยุ่น มีเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ยกเวทlสร้างกล้ามเนื้อ และ Cardio การนอนหลับพักผ่อนเพื่อให้คลายเครียด

ส่วนเรื่องของผู้หญิงเรา เมื่อถึงจุดที่รูปร่าง รูปทรงที่แตกต่างกันไป ถ้าเรา Optimum ในแบบของเรา ทำงานเต็มประสิทธิภาพ เราต้องรู้ว่าเราไม่เพลียไม่เหนื่อย ตก 4 โมงเย็นเราไม่โหยหาน้ำตาล ดำเนินชีวิตต่อไปได้ และแต่ละช่วงวัยมันจะมีเกณฑ์ที่แตกต่างกันไป มันจะเป็นจริง ยิ่งถ้าเรามี Prevention เริ่มเร็วป้องกันเร็วยิ่งดี อย่างชาวโอกิโนวา หรือคนในชนบท เค้ามีอายุ 100 ปี  เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เค้าแข็งแรงมาก ยังปั่นจักรยานอยู่ ในวัย 80-90 ปี เรียกได้ว่าการป้องกันดีกว่ารักษาแน่นอน และประหยัดเงินอย่างมาก ยังมีเงินให้ลูกใช้ ไปเที่ยว คุณภาพชีวิตก็ดี ที่สำคัญไม่มีความเจ็บป่วย

ดร.นก ชลิดา กล่าวด้วยว่า การลงทุนทุกเรื่องเป็นเรื่องสำคัญ แต่เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่ไม่มีวันขาดทุน แล้วคุณใช้ร่างกายนี้มากี่ปีแล้ว ไม่ว่าชีวิตจะดี ชีวิตจะแย่ หรือว่าการผ่านการพยายามมีลูก หรืออะไรก็ตาม จนทำให้ร่างกายเราเป็นแบบนี้  เมื่อไรที่คุณลงทุนดูแลเค้าอย่างดีที่สุด เค้าจะอยู่กับเราจนลมหายใจสุดท้าย เลือกของที่ดีที่สุดให้ร่างกายคุณ รับรองร่างกายจะพูดขอบคุณ คุณในแบบที่คุณนึกไม่ถึงเลยทีเดียว



ด้าน สรโชติ อำพันวงษ์ CEO ช่อง SHOP CHANNEL ได้พูดถึงเทคนิคการดูแลสุขภาพของตนเองว่า  เมื่อก่อนเป็นคนออกกำลังกายเยอะ แต่ข้อเสียคือดื่มเยอะ ออกกำลังกายเสร็จมาดื่มเบียร์ต่อ ซึ่งเป็นข้อเสีย จริงๆ หลักๆ ดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย แต่พักผ่อนน้อย มีอยู่ช่วงหนึ่งหลุดเหมือนกันคือดื่มเยอะ พักผ่อนน้อย ทำงานเยอะ น้ำหนักขึ้นไปประมาณ 80 กิโลกว่า รู้สึกว่าสุขภาพเริ่มไม่ดี  ไปตรวจร่างกายเพราะภรรยา(ธีรดา อำพันวงษ์)ให้ไปตรวจ เนื่องจากเห็นว่าเราทานข้าวแล้วทำไมเหงื่ออกตลอด ตรวจสุขภาพมาครบเลย เพื่อนๆพามาครบสูตรเลย น้ำตาลมาตัวหนึ่ง เค้าชวนมาเป็น Package เลย น้ำตาล ความดัน ไขมัน โน่นนี่มาครบ แล้วคุณหมอก็ให้ยามา พร้อมบอกว่าให้เวลา 2 เดือน ไปปรับสภาพตัวเอง ในระหว่างนั้นคุณหมอให้ทานยาลดไขมันในเลือด ตนก็ไปออกกำลังกายอย่างหนักเลยภายในเวลา 2 เดือน เพื่อให้ตัวเองกลับมา ทุกอย่างกลับมาหมด น้ำหนักลง โน่นนี่นั่นลง พอทานยาก็ยังไปออกกำลังกายอยู่  พอกลับไปตรวจต่อ เพื่อฟอร์โลว์อัพ (Follow Up) คุณหมอบอกว่ามวลกล้ามเนื้อลดลงเยอะจนผิดปกติ ให้ทาน Q10 ซึ่ง Q10 เรารู้จักมานานแล้ว แต่เราเข้าใจว่า Q10 ใช้สำหรับผู้หญิงเอามาทาหน้ากัน ตอนหลังถึงเข้าใจว่าออ!เค้าเอามาใช้ทานกันด้วย

สรโชติ กล่าวต่อว่า มาใช้ Q10 อีกทีตอนพี่เบคกี้ แนะนำให้ทาน จริงๆ ตนเป็น FC พี่เบค ในแง่ที่เค้าเป็น Wonder Woman ,Super woman  งงว่าพี่เบคทำงานอะไรได้ขนาดนี้ อินเนอร์เยอะ ทำอะไรแล้วลงลึก ลงรายละเอียด ลงจริง ไม่ว่าพี่เบคทำอะไรมาตนชอบหมด พูดอะไรมาจะฟินจะเพลิน ประชุมกับพี่เบค 3 ชั่วโมง ฟังแกเฉยๆเลย สนุกได้ความรู้ทุกอย่าง พอพี่เบคทำตัว Q10 มาเสนอที่ช่องเรา พอฟังอินเนอร์แกมาครบอีกแล้ว ตนทาน Q10  ของพี่เบค รู้สึกว่าไม่ใช่ Q10 ธรรมดา มันมีความ Fresh  / Refresh   ปกติตอนเช้าเราจะมีการเลือกทานหลายอย่าง บางทีทานกาแฟ บางทีก็ทานผลิตภัณฑ์โน่นนี่นั่น ตนใช้คำว่า effect  ตัวนี้มันกลมกล่อม คือมันกำลัง Fresh อยู่พอดี บางตัวมันติดแรงไป บางตัวถ้ากาแฟหนักๆ มันก็จะ เบลอๆหน่อย งงๆหน่อย ตนทานมาตลอด ซื้อจากเว็ปไซต์ SHOP CHANNEL นี่แหล่ะ

ผู้บริหาร SHOP CHANNEL กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า การดูแลสุขภาพเป็น Basic อาหาร การพักผ่อน ก็ถือเป็น Basic เหมือนกัน แต่เมื่อถึงวัยหนึ่ง เราต้องมีอะไรเสริมเข้าไป ปกติเราทานวิตามินรวมโน่นนี่นั่น ตนชอบคอนเซปต์ของคุณเจี๊ยบ และพี่เบคมาก All in One เม็ดเดียวอยู่ รู้สึกดีจริงๆ  หรือคอนเซปต์ที่ว่า Beyond Beauty is to be healthy มากกว่าความงามคือการมีสุขภาพที่ดี ดูแลสุขภาพและเลือกสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับตัวคุณ



ส่วน ผศ.ดร.เอกราช บำรุงพืชน์ ผู้เชียวชาญด้านโภชนาการและการชะลอวัยที่มาให้ความรู้เชิงวิชาการในหัวข้อ “ปลุกเซลล์แก่ แก้เซลล์เสื่อม...ชะลอวัย ชะลอโรค ด้วยสารอาหาร และไลฟ์สไตล์” ในวันนี้ จบการศึกษาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (โภชนศาสตร์) สาขาโภชนาการเชิงทดลองและชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล มีดีกรีเป็นถึงประธานชมรมโภชนวิทยามหิดล, ผู้จัดการศูนย์วิจัยโภชนเภสัชภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อสุขภาพและการชะลอวัย,อาจารย์ประจำหลักสูตรวิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ วิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ ,อาจารย์พิเศษ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ,อาจารย์พิเศษ สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง,อาจารย์พิเศษสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา,กรรมการมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์,วิทยากรประจำรายการคนสู้โรค และรายการโรงหมอ สถานีโทรทัศน์ Thai PBS 

ผศ.ดร.เอกราช กล่าวว่า ถ้าเราพูดถึงเรื่องความชรา เราจะปลุกเซลล์แก่แก้เซลล์เสื่อมอย่างไร เพราะเซลล์ย่อมมีเรื่องความเสื่อม ความแก่  ความตาย  ร้ายที่สุดกลายพันธุ์ อย่างที่เราเผชิญปัญหาทุกวันนี้ ล้วนมีปัจจัยกระตุ้นให้เซลล์แก่ เซลล์เสื่อม หมดเลย ตื่นมาก็เจอมลภาวะทั้งหลาย โดยเฉพาะเจ้าฝุ่นพิษ PM 2.5 และไวรัสเชื้อโรคทั้งหลาย ที่ทำให้เซลล์เราแก่ เซลล์เราเสื่อม ปัญหาทั้งหมดนี้ล้วนมีผลกระทบต่อสุขภาพ

เราจะปลุกเซลล์แก่ แก้เซลล์เสื่อมอย่างไร เราต้องรู้ก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้เซลล์แก่ เซลล์เสื่อมมันเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง จริงๆแล้วทฤษฎีความชรา มันมีหลากหลายทฤษฎีมาก ไม่ว่าจะเป็น อนุมูลอิสระ การอักเสบเรื้อรัง ไมโตรคอนเดรียไม่ฟังก์ชั่น สะสมสารพิษกันทุกวัน ภูมิคุ้มกันลดลง พวกนี้ส่งผลหมดเลย อย่างทฤษฎีแรกที่สำคัญ คือ อนุมูลอิสระ เป็นต้นเหตุของความชรา เป็นศัตรูตัวร้ายทำลายความอ่อนเยาว์ อนุมูลอิสระเกิดขึ้นทุกลมหายใจของเรา ตราบที่ดินยังไม่กลบหน้า ล้วนแล้วแต่ผลิตสารอนุมูลอิสระขึ้นมาทั้งหมดเลย จากกระบวนการ เมตาบอลิซึม หรือเผาผลาญสารอาหาร จากมลภาวะทั้งหลาย แม้แต่ PM 2.5 ที่เราได้รับเข้าไปก็กระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ

นอกจากนี้อนุมูลอิสระจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ปกติเราจะรู้จักอักเสบแบบเฉียบพลัน คือ แผล ฝี หนอง ผุพอง บวมแดงขึ้นมา เวลาเราติดเชื้ออันนั้นคือกลไกของร่างกายในการกำจัดเชื้อโรค แต่การอักเสบเรื้อรังเป็นการอักเสบเหมือนไฟไหม้บ้าน ที่อยู่ในร่างกายเราทุกวัน โดยที่ไม่มีตุ่มขึ้น หนองขึ้น บวมแดงขึ้นมา มันซ่อนอยู่ภายใน  เค้าเรียกฆาตกรเงียบ ซึ่งอักเสบเรื้อรังนี้ คุณนก-ชลิดา จะปราบมันได้อย่างดีเลย เพราะทำ Plant Based Diet เป็น อาหารต้านอักเสบ ซึ่งเป็นอีกตัวหนึ่งที่ช่วยได้ อักเสบเรื้อรัง จะส่งผลต่างๆต่อร่างกาย ทำให้เซลล์แก่ เซลล์เสื่อม แล้วเกิดโรคเรื้อรังตามที่มันบอกเลยว่าอักเสบเรื้อรัง เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง 

อักเสบเรื้อรังมากจากไหน ส่วนใหญ่มาจากไขมันในช่องท้องของเรา  โดยเฉพาะคนอ้วนลงพุง และจากอาหารการกิน เช่น การกินน้ำตาลและแป้งที่มากเกิน กินไขมันอิ่มตัวมากเกิน เหนี่ยวนำทำให้เกิดเบาหวาน ทำให้เกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด 

ทฤษฎีถัดมา ไมโตรคอนเดรียไม่ฟังก์ชั่นหรือทำงานได้ไม่ดี ซึ่งไมโตรคอนเดรีย เป็นสถานที่ประสูติของพลังงาน พลังงานจะเกิดขึ้นที่ไมโตรคอนเดรีย  เปรียบเสมือนโรงงานไฟฟ้า หรือห้องครัว หรือบางคนเรียกว่าเตาเผา  เพราะมันผลิตพลังงาน ช่วงเราหนุ่มสาวอายุไม่เยอะ  ไมโตรคอนเดรียก็ทำงานได้ดี หน้าที่ในการผลิตพลังงานได้ดี แต่เมื่อไรเราอายุมากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงในวัยทอง วัย Platinum  หรือ วัย Beyond Platinum ไปแล้ว หรือคุณผู้ชายทั้งหลาย ที่ลงพุง กล้ามหด หมดแรง เตะปี๊ปไม่ดัง พลังงานก็ไม่ดี  มันก็ทำให้เราอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เวลาทำงาน ก็หาวหวอดๆ ไม่มีเรี่ยว ไม่มีแรง เค้าเรียก Mitochondria dysfunction 
« Last Edit: March 15, 2021, 02:09:21 PM by MSN »

MSN on March 15, 2021, 02:00:43 PM
นอกจากนี้สารพิษ สารเคมี ต่างๆ  ที่เราได้รับเข้าไป มันก็ส่งผลให้ร่างกายต้องกำจัดพวกสารพิษ หรือโลหะหนักต่างๆ มากมาย ร่างกายต้องใช้ กลูต้าไธโอน ในกระบวนการกำจัดพวกสารพิษต่างๆ ด้วย 5-6 ทฤษฎีนี้ ทำให้เซลล์เราแก่ เซลล์เราเสื่อมหมด

เราจะแก้ได้อย่างไร การรักษาที่ดี ไม่ใช่การรักษาโรค แต่เป็นการรักษาสุขภาพ อาหารการกินเป็นสิ่งสำคัญ บางคนโทษเวรโทษกรรมมาก็มี ก็มีพันธุกรรมมา เป็นเบาหวาน เป็นโรคความดัน จะทำอย่างไร ขอบอกว่าเรากินแก้กรรมได้  อย่าไปโทษเวรโทษกรรม พันธุกรรมที่มาจากพ่อแม่ ปู่ย่าตายายให้เรามา เปรียบเสมือนหีบสมบัติยกมาให้ เราเป็นคนเปิด เราจะเปิดช้าเปิดเร็ว กุญแจดอกสำคัญที่จะเปิดคือไลฟ์สไตล์เรานี่แหล่ะ การกินอยู่ หลับนอน การออกกำลังกาย สารอาหาร ต่างๆ เป็นกุญแจดอกสำคัญ บางคนบอกว่า ทำไมอายุ 40 กว่าก็เริ่มมีโรคเรื้อรัง บางคนเป็นมะเร็ง เราไปโทษพันธุกรรมกันหมด แต่จริงๆ มันเกิดจากกรรม หรือผลจากการกระทำของเราเองเป็นสิ่งสำคัญ

กุญแจดอกสำคัญ อย่างที่บอกเรื่องของไลฟ์สไตล์ เรื่องอาหารการกิน ว่าเราจะเลือกเปิดหีบช้าเร็วแค่ไหน มันขึ้นอยู่กับเรา บางคนอายุ 70-80 เพิ่งมาเจอ เพราะไลฟ์สไตล์เค้าดี เราสามารถใช้ชีวิต กินแก้กรรมได้ อย่าไปโทษว่าเราได้รับจากปู่ย่าตายายบรรพบุรุษของเราเท่านั้น 30 ลิขิตฟ้า 70 ต้องฝ่าฟัน อันนี้แหล่ะที่เราต้องฝ่าฟัน 70 % เป็นตัวกำหนดเลยคือตัวเราเอง ไลฟ์สไตล์อาหารการกินของเราเป็นสื่งสำคัญ 

เรารู้แล้วว่าตามทฤษฎีปัจจัยที่ทำให้เกิดความแก่ชรา เซลล์เสื่อม เซลล์แก่ เซลล์ตาย เซลล์กลายพันธุ์พวกนี้เกิดขึ้นได้เพราะอนุมูลอิสระ การอักเสบเรื้อรัง ไมโตรคอนเดรีย ไม่ฟังก์ชั่น สะสมสารพิษ สารเคมีทุกวัน และภูมิคุ้มกันก็ไม่ดี นอกจากนี้ความเป็นกรดของร่างกายที่เราชอบกินของหวาน น้ำอัดลม เหล้า สปาย ไวน์ เบียร์ ทั้งหลาย เบเกอรี่ คุ้กกี้ โดนัท เป็นกรดหมดเลย ซึ่งเซลล์มะเร็งมันชอบพวกนี้ และกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง มันเป็นวงจรเหมือนวงจรอุบาทว์เลย วนอยู่แบบนี้ ยิ่งมีอักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ  ยิ่งแก่เร็ว เกิดโรคเรื้อรัง มันก็จะเป็นไตรแองเกิ้ล เราจะทำลายวงจรนี้ได้อย่างไร เราก็ต้องหาสารอาหารมาช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ สารที่ช่วยต้านการอนุมูลอิสระมีเยอะมาก เช่น Co Q10 ซึ่ง Co Q10 เองก็มีมากมายในท้องตลาด มีทั้ง ยูบิควินโนน และยูบิควินนอน เราต้องเลือก Co Q10 ให้เป็นด้วย คือต้องเลือก ยูบิควินนอน โมเลกุลเล็ก ดูดซึมได้ดี ออกฤทธิ์ได้แรงกว่า เพราะนอกจาก Co Q10 ที่เป็น Anti Oxidant แล้ว วิตามินซี ก็เป็นที่ฮิต ในยุค New normal  รวมทั้ง Next normal รวมทั้งซิงค์ ซิลีเนียม สังกะสี  ด้วย อะไรที่ต้านอนุมูลอิสระได้ดีมันก็ลดการอักเสบเรื้อรังได้ดีด้วย สารอาหารเหล่านี้จะทำงานร่วมกัน

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นสารสำคัญเลยที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ไปปลุกเซลล์แก่ แก้เซลล์เสื่อมได้ดี คืออัลฟ่า ลิโปอิก แอซิด  ตัวนี้ เรียกว่า Univeral Anti-oxidant เพราะมันต้านอนุมูลอิสระได้ ทั้งในส่วนของน้ำ และไขมัน พวกนี้ต้านการอักเสบได้หมดเลย นอกจากนี้น้ำมันก็ช่วย ในการต้านการอักเสบ ส่วนใหญ่เราจะนึกถึงแต่น้ำมันปลา โอเมก้า 3 นอกจากน้ำมันปลา อีกหนึ่งชนิดของน้ำมันที่ช่วย ในการต้านการอักเสบได้ดี และนักโภชนาการ นักกำหนดอาหารแนะนำเลย คือ โอเมก้า 9 พบมากในน้ำมันรำข้าว ซึ่งช่วยในการต้านการอักเสบได้ดี 

ส่วนตัวที่เป็นทีเด็ดที่จะไปปลุกเซลล์แก่ให้มันฟื้นขึ้นมาคือ ในกรณีที่ไมโตรคอนเดรีย ฟังก์ชั่นหรือทำงานได้ไม่ดีแล้ว  คือ Co Q10 จริงๆ Co Q10 ร่างกายเราผลิตได้เอง แต่พออายุ 25-30 ปี การผลิตมันจะเริ่มลดน้อยลง Co Q10 พบในกล้ามเนื้อ เนื้อสัตว์ ตอนนี้เทรนด์สุขภาพ กินเนื้อสัตว์มากก็ไม่ดี  โดยเฉพาะเนื้อแดง สัปดาห์หนึ่งไม่ควรกินเกิน 400 กรัม ดังนั้นเราอาจต้องเสริม Co Q10 เข้าไป เพื่อที่จะช่วยให้ ร่างกายผลิตพลังงานได้ โดยเฉพาะคนที่อ้วน ที่พบว่าไมโตคอนเดรียทำงานได้ไม่ดี ส่งผลให้การเผาพลาญลดลง อันนี้มีการศึกษาวิจัยว่า ให้ Co Q10 เข้าไปในคนอ้วน ค้นพบว่าการทำงานของไมโตรคอนเดรีย ทำงานได้ดีขึ้น การเผาผลาญดีขึ้น อันนี้เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญและช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ด้วย อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญเลย อย่างที่คุณสรโชติ บอกว่า คุณหมอให้กิน Co Q10 โดยเฉพาะคนที่กินยาลดไขมันในเลือด ในกลุ่มของสเตติน เองมันไม่ได้ไปยับยั้งการสังเคราะห์ของคอเรสเตอรอล อย่างเดียว มันไปยับยั้งการสร้าง Co Q10 ด้วยกลุ่มคนที่กินยาลดคอเรสเตอรอล ลด LDL-C  พวกนี้แนะนำให้เสริมพวก CO Q10 เข้าไปมีความจำเป็นและสำคัญเลย เพราะคนเหล่านี้มักมีระดับ CO Q10 ต่ำ นอกจากนี้ มีงานวิจัยว่าการเสริม CO Q10 ช่วย โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ถัดไปคือพวกสารพิษ ที่เราต้องเผชิญทุกวันนี้ PM 2.5  ทั้งหลาย ซึ่งจะอยู่กับเราไปตราบนานเท่านาน พวกนี้เป็นสารพิษสำหรับร่างกาย สารที่ช่วยกำจัดสารพิษ คนส่วนใหญ่ที่พูดว่า ดีท็อกซ์กัน เข้าใจกันคลาดเคลื่อน คิดว่า ดีท็อกซ์ คือการขับถ่าย เช่นคิดว่ากินอาหารชนิดนี้เข้าไปแล้วขับถ่ายดี  มันช่วยดีท็อกซ์ อันนั้นไม่ใช่ดีท็อกซ์โดยตรง  ดีท็อกซ์โดยตรงจะเกิดขึ้นในเซลล์ลำไส้ และเซลล์ตับ  เค้าเรียก ดีท็อกซ์ดิเคชั่น  แบ่งเป็น เฟสวันกำจัดสารพิษ เฟสทูทำให้สารพิษนั้นละลายน้ำออกได้ ซึ่ง กลูต้าไธโอน เป็นสารสำคัญที่ช่วยกระบวนการกำจัดสารพิษในส่วนของช่วยให้สารพิษละลายน้ำขับออกทางปัสสาวะ คนส่วนใหญ่มักซื้อกลูต้ากินกัน ซึ่งกลูต้าจริงๆดูดซึมได้น้อยมากไม่ถึง 5 %  ตัวที่จะบูธกลูต้าได้ตามธรรมชาติ คือ แอลซีเตอีน ร่วมกันกับ ซีเลเนียม อัลฟ่าลิโปอิก แอซิด พวกนี้มันคอมบายกันช่วยบูธกลูต้าไธโอน การบูธกลูต้านี่แหล่ะที่ช่วยกำจัดสารพิษ ดีท็อกซ์ที่แท้ทรู ไม่ใช่กินเข้าไปแล้วขับถ่าย ไปกิน Senna ไปกินมะขามแขกกัน ถ่ายๆ ระบายออกไปแล้วเรียกว่า ดีท็อกซ์ อันนี้เข้าใจผิดกันเยอะมาก

และผลพลอยได้คือถ้าตับทำงานได้ดี ผิวพรรณก็ดี เจ้ากลูต้าไธโอน ช่วยปรับเม็ดสีผิว จากยูเมลานินที่เป็นผิวหมองคล้ำ ให้เป็นฟีโอเมลานิน เป็นผิวกระจ่างใส มันช่วยปรับเม็ดสีได้ มันเลยเป็นผลที่คนส่วนใหญ่ชอบมากเลย ผิวกระจ่างใส เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวช่วยทั้งเรื่องดีท็อกซ์ และปรับผิวให้กระจ่างใส อีกเรื่องสำคัญที่สุดคือ ความเป็นกรดด่างในร่างกาย ความเป็นกรดที่เกิดขึ้นในร่างกาย ส่งผลเสียทำให้กระดูกบาง การอักเสบเรื้อรังเพิ่ม เซลล์มะเร็งก็ลั้นลา เราจะลดปัจจัยเสี่ยงตรงนี้ได้อย่างไร แน่นอน พืชตระกูล ซีตรัสฟรุ้ต หรือมะนาว เมื่อร่างกายได้รับ กรดซิตริกเข้าไปจากพืชเหล่านี้ ก็จะสลายกลายให้เกิดเป็นด่างสำหรับร่างกายแล้วจะมีประโยชน์ พวกซิตรัสไบโอเฟอร์นอยส์ ก็เช่นกัน นอกจากเป็น Anti Oxidant  ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบแล้ว ยังช่วยปรับสมดุลความเป็นกรดเป็นด่างในร่างกาย ทั้งนี้ทั้งนั้นอาหารเสริมอย่างเดียวไม่ได้ โภชนาการทางหลักก็เป็นสิ่งสำคัญ สุขภาพของเราเสมือนจิ๊กซอว์  มันมีหลายชิ้นหลายส่วนประกอบกัน อาหารก็สำคัญเป็นทางหลัก       

นอกเหนือจากอาหาร อารมณ์ ก็เป็นสิ่งสำคัญ อารมณ์ดีอยู่ยาว อารมณ์เน่าอยู่สั้น อารมณ์เป็นตัวสำคัญเลย อารมณ์ไม่ดีทำให้อนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้เยอะ การอักเสบเรื้อรังเกิดขึ้นเยอะ เหมือนเราฆ่าตัวเราเอง ออกกำลังกายก็สำคัญ เก็บแต้มให้ได้ สัปดาห์ละ 150 นาที ตามที่ WHO แนะนำ เราจะแกว่งแขน จะเดินหลังมื้ออาหารครั้งละ 10 นาที อะไรก็ได้หมดเลย ยิ่งพวก Weight Training ได้ยิ่งดี เพราะช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ เสมือนติดเตาเผาให้กับร่างกาย สุดท้ายเอนหลังหลับนอน การนอนเป็นการลงทุนที่ไม่ต้องใช้เงินสักบาทเดียว บางคนละเลย อาหารดี ออกกำลังกายดี นอนดึกก็ส่งผลแล้ว ต่อฮอร์โมนเมลานิน และ โกรธฮอร์โมน ซึ่งเป็น Anti Aging Hormone ฮอร์โมนที่จะช่วยในชะลอวัย ชะลอโรค  คุณภาพการนอนเป็นสิ่งสำคัญมาก เราต้องปิดไฟให้มืดสนิท อากาศถ่ายเทดี พวกนี้ทำให้ฮอร์โมนเราดีขึ้น  พยายามอย่ากินอาหารหลัง 6 โมงเย็น ลด ละ เลี่ยง แป้ง น้ำตาล เพราะจะไปยับยั้งการหลังฮอร์โมนของเรา ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เสริมสารอาหารที่ช่วยในการชะลอวัย ชะลอโรค เพื่อสุขภาพที่ดี ชีวีที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ 

สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของบริษัท “ BJ Q10 Plus Citrus Bioflavonoids (บีเจ คิวเท็น พลัส ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์)” เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ช่วยเรื่องระบบเผาผลาญให้ดีขึ้น มีส่วนช่วยลดการสะสมของไขมัน มีคุณสมบัติแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยเรื่องการดูดซึมน้ำตาลในเลือด ช่วยลดเรือนริ้วรอย ผิวแลดูสุขภาพดี และที่สำคัญมีร่างกายที่สดชื่นอยู่ตลอดเวลา โดยส่วนประกอบสำคัญทั้ง 7 ชนิดของ BJ Q10 Plus ประกอบด้วย CITRUS BIOFLAVONOIDS / RICE BRAN OIL / COENZYME Q10 / ALPHA LIPOIC ACID / ZINC / SELENIUM / L-CYSTEINE  โดยเฉพาะ COENZYME Q10  ใน Q10 PLUS เป็นวัตถุดิบภายใต้ลิขสิทธิ์ KANEKA จากประเทศญี่ปุ่น เป็น Q10 ที่ได้จากธรรมชาติ ไม่มีสารสังเคราะห์ ที่สำคัญทานง่าย เพราะเราผลิตเป็นรูปแบบเม็ดเจล โดยจะวางจำหน่ายในราคากล่องละ 1,990 บาท บรรจุ 30 เม็ด ด้วยกัน จำหน่ายผ่านช่อง SHOP CHANNEL กล่อง PSI ช่อง 45 และ 445 กล่อง GMM Z ช่อง 39 , 46 และ109 กล่องทรูวิชั่น ช่อง 52  และ 341 ,เว็ปไซต์  WWW.BJREVIVE.COM , Facebook IG Line: BJREVIVE ,WWW.SHOPCH.IN.TH ,Facebook IG Line : SHOP CH  Thailand
« Last Edit: March 15, 2021, 02:07:41 PM by MSN »