รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม 2563
🇹🇭🇹🇭ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 5,910 ราย(เพิ่มขึ้น 81 ราย)
-เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศโดยเพิ่มขึ้น 37 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 9 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าวโดยการคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 35 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมที่เป็นแรงงานต่างด้าวอยู่ที่ 1,308 ราย)
เสียชีวิตรวม 60 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 4,130 ราย (70%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 21 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,713 ราย
จาก กรุงเทพมหานคร(6 ราย)
กระบี่ (5 ราย) นนทบุรี(3 ราย)
สมุทรปราการ(3 ราย)
ชัยภูมิ(2 ราย) ปทุมธานี(2 ราย)
ชลบุรี (2 ราย) ฉะเชิงเทรา(1 ราย)
เลย (1 ราย) สงขลา (1 ราย)
อุบลราชธานี (1 ราย) นครปฐม(1 ราย) ราชบุรี (1 ราย)
อยู่ระหว่างการสอบสวน 8 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 9 ราย และเข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร (4 ราย)
เชียงราย (1) สมุทรปราการ (1)
และชลบุรี (3 ราย)
มีรายละเอียดดังนี้
- จากสหรัฐอเมริกา 3 ราย
- จากรัสเซีย 2 ราย
- จากสวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย
- จากเยอรมนี 1 ราย
- จากประเทศเมียนมา 1 ราย
- จากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 79.7 ล้านราย "โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมมากกว่า 1.7 ล้านราย
(คิดเป็นร้อยละ 2.2 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 56 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ70.4)
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 10 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,924 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 9.7 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 95.7
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 144 ของโลกและยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 152 ของโลก
- อินโดนีเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมยังคงรั้งอันดับ 1 ของอาเซียนโดยมีตัวเลขอยู่ที่ 692,838 ราย ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ของอินโดนีเซียก็อยู่ในอันดับ 1 ของอาเซียนเช่นเดียวกันที่ 7,199 ราย
- ฟิลิปปินส์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 465,724 ราย มียอดผู้เสียชีวิต 9,055 ราย โดยยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 2 ของอาเซียน
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 119,788 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 958 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 2,532 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
