คนไทยมั่นใจจ่ายผ่านบัตรเครดิตเมื่อช้อปออนไลน์ช่วงโควิด 19
เบื้องหลังความปลอดภัย เมื่อช้อปออนไลน์ผ่านบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย
จากซ้ายไปขวา1. นาย ศิริพงษ์ นันทศรี ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
2. นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการ วีซ่า ประจำประเทศไทย
3. นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
4. นางสาวศันสนา สุขะนันท์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
5. นายปวเรศร์ เชษฐพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)หลังจากที่เราก้าวมาเกินครึ่งทางของปี 2563 โลกใบนี้แตกต่างจากโลกของเราเมื่อเดือนมกราคมอย่างสิ้นเชิง ผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลมากกว่าเรื่องสุขภาพ แต่ยังกระทบไปถึงวิถีการดำรงชีวิต สินค้าและบริการที่เราเคยใช้อยู่เป็นประจำก็เปลี่ยนแปลงตามวิถีชีวิตใหม่ หรือ “นิวนอร์มอล” เราเข้าสู่โลกออนไลน์มากกว่าที่เราเคยทำมาก่อน เพื่อซื้อสินค้า และบริการต่างๆ หรือแม้แต่การเลือกสั่งชานมไข่มุกจากร้านโปรดในช่วงพักกลางวัน การเดินทางไปยังร้านค้าเป็นเรื่องที่ทำได้น้อยลง และร้านค้าต่างๆ หันมาเข้าถึงฐานผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ยังส่งผลถึงอีกหนึ่งพฤติกรรมหลักที่ทุกคนต้องทำเป็นขั้นตอนสุดท้าย – การชำระเงิน
ในชีวิตจริงพฤติกรรมการชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือสมาร์ทโฟน ได้มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่โควิด-19 เป็นแรงกระตุ้นให้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ จากผลสำรวจของวีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยจำนวนมากได้เริ่มซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นครั้งแรกหลังโควิค-19 โดยสองในสามจากผู้ทำแบบสำรวจระบุว่าพวกเขาจะซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นในอนาคต[1] ที่สำคัญยิ่งกว่า สองในสามของผู้ทำแบบสำรวจยังระบุชัดเจนว่าพวกเขาตั้งใจที่จะใช้วิธีการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลเป็นทางเลือกหลัก มากกว่าที่จะกลับไปชำระผ่านเงินสดในรูปแบบเดิม ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะกลับไปเป็นปกติ เพราะนิวนอร์มอลได้เกิดขึ้นแล้ว
ปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้า และชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น ธนาคารกสิกรไทยและวีซ่าได้ทำงานร่วมกันเพื่อนำแนวทางและโซลูชั่นใหม่ๆ มาใช้ในการเสริมความปลอดภัยให้กับการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลพร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าในการซื้อสินค้าออนไลน์ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังชำระเงินเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม โดยองค์ประกอบด้านล่างเหล่านี้คือโซลูชั่นต่างๆ ที่กสิกรใช้ในการคัดกรองและประเมินความเสี่ยง เพื่อเสริมความปลอดภัยให้ลูกค้ามั่นใจในการเลือกทำธุรกรรมในรูปแบบดิจิทัล นอกจากนี้ยังจะทำให้คุณเปลี่ยนมุมมองการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลที่มีอยู่ไปเลย โดยมีตัวอย่างของโซลูชั่นที่น่าสนใจ ดังนี้One Time Password หรือ OTP ที่หลายคนคุ้นเคยกับการใช้งานมากที่สุด ซึ่งลูกค้าจะได้รับพาสเวิร์ดแบบใช้ครั้งเดียวผ่านทางข้อความในโทรศัพท์มือถือเพื่อยืนยันคำสั่งซื้อนั้นๆEMV Chip (อีเอ็มวี ชิพ) คือ ชิปขนาดเล็กที่อยู่บนหน้าบัตรเครดิต และทุกครั้งที่ลูกค้าใช้จ่ายผ่านบัตร ตัวชิปนี้จะมีหน้าที่ออกโค้ดสำหรับการทำธุรกรรมในแต่ละครั้ง การใช้บัตรแบบชิปการ์ดหมายความว่าผู้ถือบัตรจะได้รับความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกระดับ หรือที่รู้จักกันว่าการพิสูจน์รายการแบบไดนามิคที่ตัวโค้ดจะถูกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งเป็นตัวเสริมให้กับระบบการตรวจสอบรายการทุจริตแบบเรียลไทม์ ที่ธนาคารผู้ออกบัตรใช้ในการตัดสินใจอนุมัติรายการVisa Advanced Authorisation (วีซ่า แอดวานซ์ ออโทไรซ์เซชั่น) คือโซลูชั่นที่ทำงานโดยการประยุกต์เทคโนโลยี Machine Learning เข้ากับ Artificial Intelligence (AI) ในการตรวจหาข้อมูลความเสี่ยงต่างๆ มากกว่า 500 จุด เพื่อประเมินว่าธุรกรรมนั้นๆ มีค่าคะแนนความเสี่ยงเท่าไร โดยคะแนนความเสี่ยงดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปใช้กับบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย เพื่อที่ธนาคารกสิกรไทยจะได้ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการอนุมัติหรือปฏิเสธแต่ละธุรกรรม โดยเฉลี่ยในแต่ละวัน วีซ่ามีการวิเคราะห์ข้อมูลลักษณะนี้มากกว่าหกพันล้านรายการ และเมื่อใช้ข้อมูลนี้ประกอบกับการวิเคราะห์ข้อมูลการพิสูจน์ตัวตนอื่นๆ เช่น ไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) เพื่อระบุตัวตนเจ้าของบัตรด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มระดับความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
Visa Tokenization (วีซ่า โทเค็นไนเซชั่น) มีหน้าที่ในการช่วยยืนยันว่าข้อมูลของผู้ถือบัตรจะไม่ถูกเปิดเผยระหว่างการทำธุรกรรมออนไลน์ โดยโซลูชั่นนี้จะเปลี่ยนรายละเอียดบัญชี อาทิ เลขหน้าบัตร 16 หลัก เลข CVV หลังบัตร หรือวันหมดอายุของบัตร ไปเป็นรหัสเฉพาะ (Token) เช่น 1001 1100 0111 0001 โซลูชั่นโทเค็นของวีซ่านี้จะช่วยให้ธนาคารผู้ออกบัตรสามารถประมวลผลการชำระเงินได้โดยไม่ต้องเปิดเผยรายละเอียดบัญชีจริงถึงแม้ว่าเกือบทุกธุรกรรมจะได้รับการจัดการอย่างราบรื่น แต่คุณอาจจะได้รับใบเรียกเก็บที่มีรายการที่คุณไม่คุ้นเคยอยู่ หรือ จำนวนเงินไม่ถูกต้อง เพื่อช่วยให้ลูกค้าอุ่นใจในการใช้บริการผ่านบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย ที่มีนโยบาย chargeback เพื่อช่วยเหลือผู้ถือบัตรในการทักท้วงรายการใช้บัตรเครดิตและเดบิต หากเกิดการโจรกรรมหรือถูกเรียกเก็บเงินในจำนวนเงินที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งนโยบายนี้จะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ถือบัตรในการทำธุรกรรมต่างๆ อย่างไร้กังวล
ในอีกกรณีหนึ่ง คุณอาจจะลองจินตนาการว่ากระเป๋าสตางค์ของคุณเกิดสูญหายไป และมีเงินสดจำนวนหนึ่งอยู่ในนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะได้เงินสดจำนวนนั้นคืน เว้นแต่คุณจะโชคดีได้กระเป๋าสตางค์กลับมา แต่ในกรณีที่บัตรเครดิต หรือเดบิต ของคุณสูญหายหรือถูกขโมย สิ่งเดียวที่ผู้ถือบัตรต้องทำคือติดต่อธนาคารผู้ออกบัตรอย่างเร็วที่สุด เพื่อให้ธนาคารระงับการใช้งานของบัตร ตรวจสอบข้อมูล และประสานงานเพื่อช่วยเหลือให้ไม่เกิดความเสียหายทางการเงินแก่เจ้าของบัตรอย่างทันท่วงที
บัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทยมุ่งมั่นในการพัฒนาและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เท่าทันกับโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ธนาคารได้มีการลงทุนในระบบตรวจสอบการทุจริตของธุรกรรม ที่ช่วยให้ธนาคารสามารถตรวจจบการทุจริตในการชำระเงินออนไลน์ได้ทันท่วงที ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ถือบัตรและรักษาอีโคซิสเท็มทางการเงินของธนาคารให้ปลอดภัย โดยในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ธนาคารได้เห็นถึงการเติบโตถึง 100 เปอร์เซ็นต์ของยอดค่าใช้จ่าย ในหมวดของการช้อปปิ้งออนไลน์ ดังนั้นการรักษามาตรฐานความปลอดภัยในโลกการค้าดิจิทัลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในปัจจุบัน และอนาคต
รางวัล สุดยอดองค์กรด้านความปลอดภัยประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากวีซ่า ประจำปี 2563
(Visa Champion Security Award Southeast Asia 2020) ความมุ่งมั่นของธนาคารกสิกรไทยในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยในระบบการชำระเงินในประเทศไทยได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมการชำระเงินในระดับภูมิภาค โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมาธนาคารกสิกรไทยได้รับรางวัล “สุดยอดองค์กรด้านความปลอดภัยประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากวีซ่า ประจำปี 2563 (Visa Champion Security Award Southeast Asia 2020)” ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับธนาคารที่มีนโยบาย กระบวนการ และแนวปฏิบัติยอดเยี่ยมในการพัฒนาความปลอดภัยของเครือข่ายการชำระเงิน และทำให้การค้าของประเทศไทยเติบโตได้ในระยะยาว ซึ่งภารกิจของเรานั้นยังคงต้องเดินหน้าพัฒนาและต่อยอดเสริมความแข็งแกร่งในระบบความปลอดภัยด้านการเงินอย่างต่อเนื่อง
ที่ธนาคารกสิกรไทย เรามองเห็นอนาคตที่ผู้บริโภค และภาคธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ใช้เงินสดน้อยลง ขั้นตอนการทำธุรกรรมทางการเงินในช่องทางดิจิทัลที่สะดวกสบายขึ้น และโลกออนไลน์ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย ในขณะที่ผู้บริโภคกำลังปรับตัวเข้าสู่วิถีชิวิตแบบใหม่ และธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กกำลังหาแนวทางในการขยายและดำเนินธุรกิจในโลกใบใหม่ ธนาคารกสิกรไทยจะมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับพันธมิตรของเรา เพื่อพัฒนา และลงทุนในการเสริมสร้างมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นและปลอดภัยให้แก่ทุกคน