news on November 11, 2020, 02:11:35 PM

หัวเว่ยเสริมศักยภาพไทยสู่ดิจิทัลฮับ แห่งอาเซียน ด้วยการผสานนวัตกรรมเทคโนโลยี


ในยุคแห่งดิจิทัล เทคโนโลยี CLOUD AI และ 5G มีบทบาทสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และยังมีบทบาทสำคัญแก่การปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจในประเทศไทยให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล เทคโนโลยีเหล่านี้คือหัวใจสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลซึ่งจะช่วยผลักดันตัวเลข GDP ในประเทศไทยโดยตรง นำพาประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลและดึงศักยภาพของนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ โดยภายในงาน "POWERING DIGITAL THAILAND 2021 HUAWEI CLOUD & CONNECT" ซึ่งบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมือกับบริษัท บางกอกโพสต์ จำกัด (มหาชน) และพาร์ทเนอร์อีกกว่า 50 ราย เพื่อจัดแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งสามารถนำมาปลดล็อกโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ตลาดใหม่ และรูปแบบธุรกิจใหม่ พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ด้านดิจิทัลสำหรับประเทศไทยในปี พ.ศ. 2564 นอกจากนี้ เทคโนโลยี CLOUD AI และโครงข่าย 5G ยังจะช่วยยกระดับนวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพในด้านกระบวนการดำเนินงานให้แก่อุตสาหกรรมในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ

งานดังกล่าวจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 11-14 พฤศจิกายน 2563 ณ โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิร์ลด์ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 4,500 คนจากองค์กรชั้นนำต่างๆ ของทุกอุตสาหกรรม รวมถึงผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรธุรกิจชั้นนำ และแขกผู้มีเกียรติจากสถานทูตต่างๆ ภายในงานจะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้แลกเปลี่ยนไอเดียที่น่าสนใจกับผู้เชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรม สำรวจโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ไปพร้อมกับผู้นำในวงการธุรกิจ เรียนรู้มุมมองและเทรนด์ล่าสุดของภาคอุตสาหกรรมรวมถึงเทคโนโลยี ICT รวมทั้งสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ในการใช้งานแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ อีกด้วย

ภายในงานครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากนายวรชัย พิจารณ์จิตร รองประธานกรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท บางกอกโพสต์ จำกัด (มหาชน) และนายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเปิดงาน โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้เกียรติร่วมแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับความสำคัญของเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนประเทศไทย ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงหัวเว่ยในการช่วยผลักดันนโยบายด้านนวัตกรรม ICT ในประเทศไทย เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็น "ไทยแลนด์ 4.0" อย่างเต็มตัว

นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยในระหว่างการกล่าวเปิดงานว่า "หัวเว่ย ในฐานะองค์กรด้านเทคโนโลยีที่อยู่กับประเทศไทยมานานกว่า 21 ปี ได้มองเห็นศักยภาพของประเทศไทยที่ค่อนข้างได้เปรียบกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการนำเทคโนโลยี CLOUD, AI และ 5G มาประยุกต์ใช้เป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจดิจิทัล เราจึงต้องการสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถยกระดับขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัล (Digital Hub) ของอาเซียน"

เขาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย ได้ผลักดันการลงทุนในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญสำหรับธุรกิจคลาวด์นับตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2562 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ส่งมอบ Cloud Hub ในประเทศไทย เพื่อนำเทคโนโลยีคลาวด์ไปใช้ประโยชน์กับศูนย์ข้อมูลอีกสองแห่ง และหัวเว่ยวางแผนที่จะเปิดตัวศูนย์ข้อมูลแห่งที่สามในประเทศในปี พ.ศ. 2564 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลในประเทศ ซึ่งจะมีการเพิ่มการลงทุนอีกมากกว่า 700 ล้านบาท

หัวเว่ยยังแสดงความมั่นใจในศักยภาพของประเทศไทยสำหรับการเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลเป็นประเทศแรกในอาเซียน ทั้งนี้ เพื่อทำให้วิสัยทัศน์ดังกล่าวเป็นจริง ทางหัวเว่ยจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้เกิดความเป็นเลิศใน 4 ด้านหลัก และจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนใน GDP ของประเทศไทยมากถึง 30% ภายใน พ.ศ. 2573 อันได้แก่

Connectivity Excellence Hub การผลักดันเทคโนโลยีโครงข่าย 5G และเครือข่ายอัลตราบรอดแบนด์เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านโครงข่ายการเชื่อมต่อ

Cloud Excellence Hub สรรค์สร้างความเป็นเลิศด้าน CLOUD และแพลตฟอร์มดิจิทัลผ่านการสร้างศูนย์ข้อมูลในประเทศไทยเพื่อให้บริการด้าน CLOUD กับองค์กรในประเทศไทยโดยเฉพาะ

Digital Ecosystem Excellence Hub ผ่านโครงการ 5G และศูนย์นวัตกรรมในนิคมอุตสาหกรรมของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)"

Digital Talent Hub ผ่านโครงการสนับสนุนทรัพยากรบุคคลด้าน ICT ในประเทศไทย เพื่อ อาทิเช่น โครงการ Huawei Academy หรือโครงการการจับมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในไทย เพื่อเพิ่มบุคลากรด้าน ICT รวมทั้งเพิ่มศักยภาพของแรงงานด้าน ICT ในประเทศไทย

นายวรชัย พิจารณ์จิตร รองประธานกรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท บางกอกโพสต์ จำกัด (มหาชน) ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศว่า "ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในช่วงการฟื้นฟูเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ เทคโนโลยีของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกจากประเทศจีนจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของประเทศ ในระยะยาว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี Cloud, AI และ 5G จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการสร้างเสริมศักยภาพของประเทศในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และการศึกษา โดยจะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ในทุกมิติบนเวทีโลก"

นายอาเบลยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเทรนด์สำคัญด้านเทคโนโลยีที่ภาครัฐและภาคเอกชนในไทยควรจับตามองอย่างใกล้ชิดในปี พ.ศ. 2564 ได้แก่ เทคโนโลยีการประมวลผลแบบ CLOUD เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI รวมถึงเทคโนโลยีนวัตกรรมโครงข่าย 5G ซึ่งทั้งหมดนี้ต่างมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดนวัตกรรมรูปแบบใหม่ในภาคอุตสาหกรรมนับพันแห่ง รวมทั้งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนากระบวนการดำเนินในภาครัฐ ภาคองค์กรธุรกิจ และภาคสังคมให้ชาญฉลาด สามารถเข้าใจความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ เทคโนโลยีด้าน CLOUD การประมวลผลคอมพิวเตอร์และการเชื่อมต่อเหล่านี้ต่างเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศ และการลงทุนในด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจะส่งผลกับค่า GDP ของประเทศนั้นโดยตรง โดยหัวเว่ยคาดการณ์ว่าการลงทุนกับเทคโนโลยี ICT ในประเทศที่เพิ่มขึ้น 20% จะมีผลทำให้ค่า GDP ของประเทศนั้นๆ เพิ่มขึ้น 1%

"หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เกิดความหลากหลายด้านสถาปัตยกรรมทางคอมพิวเตอร์ผ่านการนำเสนอนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโซลูชันสำหรับตอบโจทย์ธุรกิจในสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้ หัวเว่ยต้องการจะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการจากเทคโนโลยี CLOUD อัจฉริยะได้ในทุกสถานการณ์ และ HUAWEI CLOUD AI ก็จะเข้ามาช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ให้มีความอัจฉริยะมากขึ้นใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านกระบวนการทำงานที่เกิดการทำซ้ำๆ ด้านความต้องการประสบการณ์ในระดับผู้เชี่ยวชาญ และด้านการทำงานประสานกันในหลายๆ ด้าน" เขากล่าวเสริม

จากวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลสู่ทุกคน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย จึงได้ร่วมมือกับเครือบางกอกโพสต์ และพาร์ทเนอร์เพื่อจัดงานสัมมนา "POWERING DIGITAL THAILAND 2021 HUAWEI CLOUD & CONNECT" ในครั้งนี้นับเป็นการร่วมสำรวจถึงความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ส่งมอบบริการ CLOUD สรรค์สร้างความอัจฉริยะในทุกพื้นที่และทุกสถานการณ์การใช้งาน เพื่อเป็นขุมพลังให้แก่ประเทศไทยในยุคดิจิทัล

ภายในงาน หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย พร้อมด้วยพาร์ทเนอร์ ยังนำเทคโนโลยีอย่าง CLOUD, 5G และ AI มาจัดแสดงให้เห็นว่านวัตกรรมดังกล่าวสามารถนำมาใช้เพิ่มคุณค่าใหม่ให้แก่ภาคอุตสาหกรรมหลากหลายรูปแบบ รวมถึงเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมในหัวข้อต่างๆ ซึ่งประกอบด้วยการเสวนาในหลายหัวข้อครอบคลุมภาคอุตสาหกรรมที่หลากหลาย Hands on Labs และการแข่งขันสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์

Redefine Infrastructure จัดแสดงเทคโนโลยี HUAWEI CLOUD, การประมวลผลคอมพิวเตอร์, ตัวเก็บข้อมูล, การประสานงานอัจฉริยะ, โครงข่าย IP, ขุมพลังดิจิทัล, ศูนย์ข้อมูล และเครือข่าย OptiX

Industry Digital Transformation ได้แก่ อุตสาหกรรมขนส่งโทรคมนาคมอัจฉริยะ, แคมปัสอัจฉริยะ, การเงิน, ค้าปลีก, อินเทอร์เน็ต, สาธารณสุข และการศึกษา

AI Experience การนำแอปพลิเคชัน AI มาช่วยเสริมแกร่งให้กับเศรษฐกิจ เพื่อนำ AI เข้าสู่ทุกคน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ

Partner Exhibition พาร์ทเนอร์มากกว่า 50 รายจากอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งรวมถึง TRUE IDC, เมโทร ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น, Thai Blockchain Management และแฮปปี้ เวนเจอร์ส ที่จะร่วมจัดแสดงนวัตกรรมด้านโซลูชัน (สมาร์ทรีเทล, สมาร์ทไฟแนนซ์, สมาร์ทเฮลท์) พร้อมร่วมแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

HUAWEI CLOUD Developer Contest งานแข่งขันสำหรับเหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์ในประเทศไทยเพื่อช่วยส่งเสริมให้บรรดานักพัฒนาใช้ศักยภาพและบริการของ HUAWEI CLOUD เพื่อสรรค์สร้างแอปพลิเคชันที่มีมูลค่าสูง และโซลูชันสำหรับองค์กรธุรกิจและภาคสังคมในประเทศไทย

Hands-on Lab พื้นที่ฝึกสอนสำหรับกลุ่มลูกค้า พาร์ทเนอร์ และผู้ที่สนใจได้รับประสบการณ์การใช้บริการและประโยชน์ของ HUAWEI CLOUD พร้อมด้วยคำแนะนำด้านสถาปัตยกรรมหัวเว่ยโซลูชันจากผู้เชี่ยวชาญ
« Last Edit: November 12, 2020, 02:40:36 PM by news »