MSN on November 08, 2020, 12:30:51 PM

Voice of Liver 2020 #ฟังเสียงตับรับมือมะเร็งร่วมสร้างความตระหนัก เพื่อรับมือกับภัยมะเร็งตับในประเทศไทย
 
6 พฤศจิกายน 2563, ประเทศไทย – เดือนตุลาคมของทุกปี เป็นเดือนที่ประเทศไทยและทั่วโลกร่วมกันรณรงค์ต่อต้านและสร้างความตระหนักให้กับมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุดอย่างมะเร็งตับ ซึ่งเป็นโรคที่มีอุบัติการณ์ในประเทศไทยสูงเป็นอันดับ 1 สำหรับเพศชายและอันดับ 2 ในเพศหญิง ในโอกาสนี้ ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ร่วมกับ มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย และสมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย จัดงานขึ้นภายใต้ชื่อ Voice of Liver: #ฟังเสียงตับรับมือมะเร็ง เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งตับ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความเสี่ยง การป้องกันโรค การตรวจคัดกรอง การวินิจฉัยและการรักษา รวมถึงเทคโนโลยีการแพทย์ยุคใหม่ ที่เพิ่มโอกาสในการรักษาให้กับผู้ป่วยได้มากขึ้น พร้อมนำเสนอเกร็ดความรู้เกี่ยวกับมะเร็งตับผ่านมุมมองของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา รวมถึงประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยมะเร็งตับผ่านมุมมองของ คุณเปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง ภรรยาคุณตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง อดีตนักแสดงและผู้กำกับมากฝีมือ

ข้อมูลสถิติจากกองทุนวิจัยมะเร็งโลกในปี 2561 เผยว่ามะเร็งตับเป็นมะเร็งที่มีอุบัติการณ์สูงสุดเป็นอันดับที่ 5 ในผู้ชายและอันดับที่ 9 ในผู้หญิงทั่วโลก โดยพบผู้ป่วยใหม่กว่า 840,000 รายในปี 2561 ทั้งนี้ข้อมูลจากการวิจัยระบุว่า ประเทศไทยติดอันดับ 8 ของโลกที่พบมะเร็งตับสูงที่สุด โดยมีอัตราของการพบผู้ป่วยมะเร็งตับอยู่ที่ 21 รายต่อประชากร 100,000 คน ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งตับประกอบไปด้วย การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงและโรคอ้วน การบริโภคแอลกอฮอล์เกินปริมาณที่เหมาะสมและการสัมผัสกับสารอะฟลาท็อกซิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดจากเชื้อราที่ปนเปื้อนในอาหารต่างๆ

นอกจากมะเร็งตับจะเป็นหนึ่งในภัยสุขภาพอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยแล้ว ยังมีผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจและสังคมอีกด้วย จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่ามะเร็งตับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตและเจ็บป่วยเรื้อรังจนนำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร1 ประกอบกับปัจจุบันประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งสอดคล้องกับอุบัติการณ์การเกิดโรคมะเร็งตับที่มีเเนวโน้มสูงขั้นในผู้สูงอายุเช่นเดียวกัน หากอุบัติการณ์การเกิดโรคเเละการเสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตโรคมะเร็งตับอาจกลายเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญ ที่คอยฉุดรั้งการพัฒนาของประเทศในสังคมผู้สูงอายุเช่นนี้



นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (National Cancer Institute: NCI) กล่าวถึงปัญหาของโรคมะเร็งตับในสังคมปัจจุบัน “จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทย ที่สถาบันมะเร็งเเห่งชาติเป็นผู้เก็บข้อมูล ปัจจุบันพบว่ามะเร็งตับเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตชายไทยเป็นอันดับ 1 และหญิงไทยเป็นอันดับ 2 โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมาพบเเพทย์ในระยะลุกลาม อาจจะเนื่องมาจากโรคนี้ไม่เเสดงอาการในระยะเริ่มต้น ทำให้ผู้ป่วยมักมาพบเเพทย์ในระยะลุกลามหรือเป็นมากเเล้ว ผู้ป่วยกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มักเสียชีวิตในเวลาไม่นาน เพราะการรักษาปัจจุบันยังมีข้อจำกัด ประกอบกับข้อมูลที่ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ คือมีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปสูงถึงร้อยละ 20 ในปีพ.ศ. 2564 ยิ่งอาจจะทำให้สถานการณ์โรคมะเร็งตับในประเทศไทยเลวร้ายลง เพราะผู้ป่วยบางรายเสียชีวิตก่อนวัยอันควรทำให้เกิดความสูญเสียของเเรงงานเเละศักยภาพในการประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเเละพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จากข้อมูล มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากโรคมะเร็งตับที่เกิดจากการบริโภคแอลกอฮอล์เพียงปัจจัยเดียวก็สูงถึง 11,836 ล้านบาทในเพศชาย เเละ 706 ล้านบาทในเพศหญิง จากสถานการณ์เเละผลกระทบดังกล่าวเราอาจจะต้องพัฒนาประสิทธิภาพการรักษาคนไข้กลุ่มนี้ให้ดีขึ้นต่อไป เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต”

ถึงแม้โรคมะเร็งตับจะมีอุบัติการณ์ที่สูง แต่การพบมะเร็งตับในระยะเริ่มต้นกลับสามารถเพิ่มโอกาสในการรักษาได้ จึงเป็นจุดกำเนิดของการจัดงาน Voice of Liver ในปีนี้ซึ่งจัดเป็นปีเเรก ภายใต้คอนเซ็ปต์ ฟังเสียงตับ รับมือมะเร็ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนทั่วไปตระหนักถึงความรุนเเรงของมะเร็งตับต่อระบบสาธารณะสุขในประเทศไทย เเละรณรงค์ให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอร์เกินปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำ เป็นต้น เฝ้าระวังอาการ ตรวจคัดกรอง และพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังนำเสนอข้อมูลใหม่ ๆ ด้านการรักษาที่มีบทบาทในการยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มโอกาสในการมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพให้กับผู้ป่วย



ภายในงาน ได้รับเกียรติจาก คุณเปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง ภรรยาคุณตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง อดีตนักแสดงและผู้กำกับมากฝีมือ ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และให้คำแนะนำในฐานะผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งตับ โดยคุณเปิ้ลเผยว่า “พอทราบว่าพี่ตั้วเป็นมะเร็งตับ ทั้งที่ดูแลสุขภาพมาโดยตลอด ก็รู้สึกตกใจ แต่ในฐานะที่เราเป็นคนใกล้ชิดพี่ตั้วมากที่สุด ทำให้เราต้องมีสติ และปรึกษากับคุณหมอเจ้าของไข้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการเสริมสร้างกำลังใจที่ดีให้กับผู้ป่วย นอกจากนี้ เหตุการณ์ของพี่ตั้วยังทำให้เราเองรู้สึกว่าต้องหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ยิ่งพออายุมากขึ้น การตรวจร่างกายเป็นประจำเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพราะถ้ายิ่งตรวจเจอเร็ว เราก็สามารถรับมือกับโรคมะเร็งตับได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากตรวจพบว่าเป็นแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเข้าถึงข้อมูลแนวทางการรักษา เพื่อประกอบการตัดสินใจให้กับผู้ป่วยซึ่งอาจจะเป็นตัวเราเองหรือคนในครอบครัว ให้ได้รับการรักษาเเละมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด”

ในงานยังได้มีการกล่าวถึงการรักษาใหม่ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย สำหรับรักษาคนไข้มะเร็งตับชนิดที่เป็นมะเร็งที่เซลล์ตับ (Hepatocellular carcinoma) ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ โดยเป็นการใช้ยากลุ่มภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ร่วมกับ ยาต้านการสร้างหลอดเลือดที่คอยให้อาหารแก่ก้อนมะเร็ง (Anti-angiogenesis) โดยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่าการใช้ยาทั้ง 2 ชนิด มีผลในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายในการต่อสู้กับมะเร็ง สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตโดยเฉลี่ยและช่วยควบคุมโรคไม่ให้ลุกลามได้



น.ส. ศิรินทิพย์ ขัติยะกาญจน์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง (Thai Cancer Society: TSCO) เผย “มะเร็งตับเป็นโรคที่ผู้ป่วยมักพบในระยะลุกลามหรือระยะท้ายของโรค เนื่องจากโรคนี้มักไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น ดังนั้นทางเลือกในการดูแลรักษาจึงเป็นปัจจัยสำคัญ ถ้าหากผู้ป่วย ญาติผู้ดูแล และแพทย์สามารถพูดคุยและเลือกรูปแบบการรักษาที่เหมาะสมและวางแผนการดูแลล่วงหน้า (Advanced Care Plan) ร่วมกัน โดยเน้นไปที่การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ร่วมกับการมีกำลังใจ ทัศนคติที่ดีต่อโรค และการรับมือที่เหมาะสม จะทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปได้ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการเพิ่มโอกาสให้สิทธิ์การรักษาของผู้ป่วยเข้าถึงยาหรือการรักษาที่มี ประสิทธิภาพได้”

มะเร็งตับถือเป็นโรคใกล้ตัวที่คนไทยจำนวนไม่น้อยอาจกำลังเผชิญความเสี่ยง แต่ในขณะเดียวกัน มะเร็งตับก็มีโอกาสในการรักษาที่มากขึ้นหากได้รับการวินิจฉัยที่ทันท่วงที ดังนั้น ประชาชนทุกคนจึงควรสร้างความรับรู้และตระหนักถึงโรคมะเร็งตับ แนวทางการรักษา รวมถึงหมั่นตรวจเช็คร่างกายของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถร่วมให้กำลังใจและสานต่อความหวังดีกับผู้ป่วยและคนรอบข้าง ผ่าน #VoiceOfLiver #ฟังเสียงตับรับมือมะเร็ง
« Last Edit: November 08, 2020, 12:44:35 PM by MSN »