MSN on October 29, 2020, 01:18:40 PM

ข่าวประชาสัมพันธ์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และการใช้จ่ายแห่งอนาคตด้วยการชำระเงินแบบไร้สัมผัส





กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - สำหรับผู้คนใจปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัล มีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตของผู้คนเป็นอย่างมากส่งผลให้ผู้คนได้รับความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน อย่าที่เราจะได้เห็นกันในช่วงที่ผ่านมา การมาถึงของเทคโนโลยีดิจิทัลส่งผลให้การใช้จ่ายของเราในแต่ละวันเปลี่ยนแปลงไป อย่างแต่ก่อนการใช้จ่ายถูกจำกัดไว้เพียงรูปแบบของเงินสด แต่ในปัจจุบันเรามีมีทางเลือกและอิสระในการเลือกรูปแบบการใช้จ่ายที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตขอเรามากขึ้นอย่าง การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต (Credit Card) การชำระเงินรูปแบบดิจิทัล (Digital Payment) การใช้จ่ายผ่าน QR Code (QR Payment) การใชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Payment) รวมไปถึงการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contact Payment)

จากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย  พบว่า ภาพรวมของการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภค (Consumer E-payment) เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 34.2% ต่อปีในช่วงปี 2014 - 2019 โดยการใช้จ่ายโดยโทรศัพท์มือถือ (Mobile Payment) เป็นส่วนที่เติบโตมากที่สุดที่เฉลี่ยถึงปีละ 79.0% ในช่วงเวลาเดียวกัน และยังคงเติบโตสูงในไตรมาส 1 ปี 2020 ที่ 69.7%YOY ซึ่งน้อยกว่า Consumer E-payment ประเภทการใช้บัตร และ ATM ในปีดังกล่าว เพิ่มขึ้นมามีสัดส่วนอยู่ที่ 71.5% ในไตรมาส 1 ปี 2020 ถือเป็นวิธีการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ขณะที่การชำระเงินผ่าน ATM ซึ่งแม้จะถูกจัดเป็น E-payment ประเภทหนึ่ง แต่ก็เป็นรูปแบบที่ยังมีการสัมผัสอยู่ ได้รับความนิยมลดลงมาต่อเนื่อง โดยสัดส่วนของการชำระเงินผ่าน ATM ลดลงจาก 21.3% ในปี 2014 ลดลงมาเหลือเพียง 1.2% ในไตรมาส 1 ปี 2020

ในช่วงที่ผ่านมาเราจะได้เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless Payment) เนื่องจากผู้คนหันมาให้ความสนใจและเลี่ยงการสัมผัสเงินสด เผื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่ง Contactless Payment เป็นการทำธุรกรรมการเงินผ่านการส่งคลื่นวิทยุ Radio Frequency Identification (RFID) ผ่าน NFC (Near Field Communication) โดยผู้ใช้งานต้องนำอุปกรณ์สื่อสารเข้าใกล้เครื่องรับชำระเงินที่รอบรับโดยไร้ซึ่งการสัมผัสซึ่งประกอบไปด้วยหลายรูปแบบ อาทิ บัตรเครดิต (Contactless Card) โทรศัพท์สมาร์ทโฟน (Mobile Contactless) อุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Contactless) ฯลฯ

เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ยูเนี่ยนเพย์ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ด้านการชำระเงินด้วยโทรศัพท์มือถืออย่างต่อเนื่อง (Mobile Payment Service) ทั้งในประเทศไทย และตลาดทั่วโลกในปีต่อ ๆ ไป เราเป็นพันธมิตรกับ หัวเว่ย (Huawei) และ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) มาอย่างยาวนาน และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อความร่วมมือในการออกผลิตภัณฑ์ หัวเว่ย เพย์ ในประเทศไทย เพื่อมอบประสบการณ์การชำระเงินแบบไร้เงินสดที่ทั้งง่าย และสะดวกสบายอย่างไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้บริโภคในประเทศไทย

นายไค ฮุ่ยหมิง ผู้จัดการทั่วไป ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและการก้าวเข้าสู่งสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัว ยูเนี่ยนเพย์ในฐานะผู้นำด้านบริการการชำระเงินระดับโลก ยังคงมุ่นมั่นที่จะยกระดับประสบการณ์ด้านการชำระเงินให้แก่ผู้บริโภคด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีด้านการชำระเงินแบบดิจิทัลรูปแบบใหม่อย่าง การชำระเงินแบบไร้สัมผัสผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายน 2563 เราได้มีการประกาศความร่วมมือกับ หัวเว่ย เพื่อให้ผู้ถือบัตรยูเนี่ยนเพย์เข้าถึงการใช้จ่ายด้วยหัวเว่ยเพย์ เพื่อมอบประสบการณ์การชำระเงินแบบไร้เงินสดที่ทั้งง่าย และสะดวกสบายอย่างไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้บริโภคในประเทศไทย”

ซึ่งในปัจจุบัน ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้นำด้านการชำระเงินระดับโลก ได้เปิดให้บริการการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือผ่านบริการ UnionPay Mobile QuickPass และ UnionPay QR Code ในกว่า 61 ประเทศทั่วโลก สำหรับบริการ UnionPay QuickPass คลอบคลุมร้านค้ากว่า 20 ล้านร้านค้าทั่วโลกและมีจุดรับการชำระเงินในกว่า 51 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยได้มีการให้บริการ UnionPay Quickpass คลอบคลุมถึง 38 ร้านค้าทั่วประเทศ ประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์, ศูนย์การค้าสยามพารากอน,  ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์, กูร์เมต์ มาร์เก็ตและโฮมเฟรชมาร์ท, คิง พาวเวอร์, เมเจอร์ ซินีเพล็กซ์, เลม่อนฟาร์ม, ร้านอาหารเอส แอนด์ พี, บู๊ทส์, ร้านแว่นตาเบทเทอร์ วิชั่น, บุญถาวร, เจย์มาร์ท, บิ๊กซี, ร้านอาฟเตอร์ ยู, 7-11, ท็อปส์, เทสโก้ โลตัส, บิวตี้ บุฟเฟ่, บิวตี้ คอทเทจ, HARNN ฯลฯ

เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการชำระเงินให้แก่ผู้บริโภคในไทย ที่มาพร้อมการใช้งานที่ง่ายและสะดวกสบาย เพียงแค่มีบัตรเครดิตหรือเดบิตยูเนี่ยนเพย์ ที่รองรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส หรือ โทรศัพท์มือถือที่รอบรับเทคโนโลยี NFC อย่าง HuaweiPay ก็สามารถใช้งาน UnionPay Qucik Pass ในร้านค้าทั่วประเทศไทยได้อย่างไร้ข้อจำกัด 

โดยอีกหนึ่งสิทธิประโยนชน์สำหรับผู้ใช้งานยูเนี่ยนเพย์ คือ รับส่วนลดทันที 80 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไอซีบีซี (ไทย) ยูเนี่ยนเพย์ ผ่าน HuaweiPay ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ต่อ เซลส์สลิป ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์, ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์, กูร์เมต์ มาร์เก็ตและโฮมเฟรชมาร์ท, บลูพอร์ท, คิงพาวเวอร์, บู๊ทส์, ทอยส์ "อาร์" อัส (Toys“R”Us) ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มกราคม 2564

เกี่ยวกับ ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล
ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล (UnionPay International) เป็นบริษัทในเครือของ China UnionPay ที่มุ่งเน้นการเติบโตและการสนับสนุนธุรกิจระดับโลกของยูเนี่ยนเพย์ (UnionPay) ด้วยความร่วมมือกับสถาบันทางการเงินมากกว่า 2,300 แห่งทั่วโลก ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ให้บริการใน 179 ประเทศและเขตการปกครอง มีการออกบัตรใน 58 ประเทศและเขตการปกครอง ครอบคลุมร้านค้ากว่า 52 ล้านแห่ง และบริการตู้เอทีเอ็มประมาณ 2.9 ล้านจุดทั่วโลก ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนลให้บริการด้านการชำระเงินข้ามพรมแดนที่ได้รับมาตรฐานสูง ประหยัด และปลอดภัยแก่ฐานผู้ถือบัตรรายใหญ่ที่สุดของโลก พร้อมสร้างความมั่นใจด้านการบริการในท้องถิ่นที่สะดวกสบายแก่ผู้ถือบัตรและผู้ประกอบการของยูเนี่ยนเพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก

สำหรับในประเทศไทย ยูเนี่ยนเพย์นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายร่วมกับเครือข่ายธนาคารพันธมิตร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารแห่งประเทศจีน, ธนาคารไอซีบีซี ไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารเกียรตินาคิน, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และบริษัทบัตรกรุงไทย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.unionpayintl.com/th/ หรือ https://www.facebook.com/UnionPayThailand 
« Last Edit: October 29, 2020, 01:20:28 PM by MSN »