happy on October 20, 2020, 10:30:25 PM
K.S. Group นำเสนอโอกาสทางธุรกิจยุคโควิดให้แก่ตัวแทนจำหน่าย
ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้านกล่อง คัดสรรถุงมือคุณภาพดีจากแห่งผู้ผลิตจำหน่ายทั่วโลก


               บริษัท K.S. International Management จำกัด ภายใต้ K.S. Group ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการร่วมเป็น Partner ทางการตลาดกับพันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่ายถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ที่มีคุณภาพหลายแบรนด์ดังจากประเทศเวียดนาม ประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย จัดอบรมให้ความรู้แก่ตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับเรื่องการจำหน่ายสินค้า รวมถึงให้ความรู้ทางด้านขั้นตอนเอกสารต่าง ๆ ตั้งเป้ายอดจำหน่าย 1,000 ล้านกล่อง โดยสนับสนุนโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับตัวแทน K.S. Group


               คุณบุญญรัตน์ กุลศิริ กรรมการบริหาร K.S. Group​ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานในครั้งนี้ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันสถานการณ์ของโควิด – 19 ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบโดยตรง เราถือโอกาสในวิกฤตนี้​นำเสนอผลิตภัณฑ์ของทาง K.S. Group ว่ามีอะไรบ้างในช่วงนี้  โดยเฉพาะเรื่องของสุขอนามัย อาทิ ถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์  ซึ่งผู้ที่เข้ามาฟังส่วนมากจะเป็นตัวแทนของ K.S. Group ทั้งเก่าและใหม่ เพื่อจะได้ทำความเข้าใจขั้นตอนการจำหน่ายถุงมือ รวมถึงขั้นตอนการปิดการขายว่าทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ และจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นผู้ซื้อ ผู้ขายตัวจริง

             “ธุรกิจของ K.S. Group ภายใต้นิยามการดำเนินธุรกิจของผู้นำ คือ Intermedia Quality of Life & Environment สื่อกลางแห่งคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม มากว่า 20 ปี  นั้น เพื่อต้องการเป็นสื่อกลางในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพ ความงาม และ สุขอนามัยแบบองค์รวม ที่มีผลทางด้านการป้องกัน และส่งเสริมภูมิคุ้มกันสุขภาพร่างกายในสถานการณ์โควิด -19  ที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทในเครือ K.S. Group โดย บริษัท K.S. International Management จำกัด ขอเป็นสื่อกลางในการจัดจำหน่ายถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ โดยมีการสั่งตรงจากโรงงานผู้ผลิต ถึงผู้ซื้อปลายทางยังต่างประเทศ ผ่านตัวแทนจำหน่าย K.S. Group ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจใหม่สวนกระแสเศรษฐกิจโควิด-19 ในขณะนี้ ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ มองว่าเทรนด์ของสินค้าประเภทนี้ยังไปได้อีกยาวไกลมาก ด้วยความที่ว่าประเทศไทยเป็นแหล่งการผลิตถุงมือยางอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศมาเลเซีย ทำให้มีผู้ซื้อมากมายจากทั่วโลกติดต่อเข้ามาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะโซนยุโรป และ อเมริกา เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นโอกาสของ K.S. Group ที่จะมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจนี้ไปได้อีกยาวไกล


             สำหรับผลิตภัณฑ์ถุงมือยาง และ ถุงมือทางการแพทย์ - ไนไตร นั้น บริษัท K.S.International Management จำกัด มีที่ปรึกษากิติมศักดิ์ คือ​ Mr.Nived Shashikant Kuvalekar, The first Asian to Qualify as an Engineer from the world’s first Rubber Technology Institute based on London UK ซึ่งท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านถุงมือยางทุกชนิด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อจากทั่วทุกมุมโลก ว่าทางบริษัทฯ มีที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญ​ ในการคัดเลือกถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ที่มีคุณภาพที่ดีเยี่ยมจากหลายแบรนด์ดังจากประเทศเวียดนาม ประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย อีกทั้ง ในอนาคตทาง K.S. Group กำลังจะร่วมมือกับกลุ่มบริษัทของเกาหลีผลิตสินค้าทางด้านสุขอนามัยออกจำหน่ายในประเทศ และส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ของ K.S. Group ซึ่งจะผลิตออกมากจำหน่าย ในเร็วๆ นี้

               คุณบุญญรัตน์ กุลศิริ กรรมการบริหารของ K.S. Group​ ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า ความต้องการของสินค้าทางด้านสุขอนามัย อาทิ หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ ทั่วโลกยังเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ตามสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังเพิ่มความทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ จึงถือพลิกวิกฤตนี้เป็นโอกาสอันดีของ K.S. Group ที่จะดำเนินธุรกิจด้านนี้ต่อไป โดยตั้งเป้าทางการตลาดของถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ - ไนไตร ในปีนี้ไว้ 1,000 ล้านกล่อง  โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่ 90% เป็นผู้ซื้อจากโซนอเมริกา ส่วนที่เหลือ 10% เป็นโซนยุโรปและอื่นๆ ทั่วโลก


               “ทั้งนี้บริษัทในเครือ​ K.S. Group​ ​ยังดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออแกนิคทางด้านความงาม ด้านสุขอนามัยแบบองค์รวมจากภายในสู่ภายนอก และผลิตภัณฑ์ทางด้านสิ่งแวดล้อมมากว่า 20 ปี ภายใต้นิยมการดำเนินธุรกิจ​ “สื่อกลางแห่งคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม” ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท รวมถึงมีบริษัทพันธมิตรเข้ามาร่วมสร้างเครือข่ายผู้บริโภคผ่านตัวแทนจำหน่าย K.S. Group หากท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทในเครือ K.S. Group

               รวมถึงสนใจเข้ามาร่วมเป็นตัวแทนจำหน่าย กับทางเรา สามารถ ติดต่อได้ที่ K.S. Call Center 02 949 9885 ในวัน และ เวลาทำการ จันทร์ – ศุกร์ หรือส่งผ่านอีเมลล์​ ksm2010bkk@gmail.com ขอเชิญเข้ามาร่วมเป็นสื่อกลางแห่งคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม กับเราซิคะ” คุณบุญญรัตน์กล่าวทิ้งท้าย