สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น Collab แบรนด์รับ STYLE Bangkok ปีหน้า
เมื่อเร็วๆ นี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดโครงการพัฒนาสินค้าไลฟ์สไตล์ใหม่ หรือ STYLE BANGKOK COLLABORATION 2020 สำหรับงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok เดือนมีนาคม 2564 เพื่อส่งเสริม ให้ผู้ประกอบการสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นร่วมกันพัฒนาสินค้า ภายใต้แนวคิด “Together We Can” โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายด้านมาให้ความรู้และแนวทางการพัฒนาสินค้าใหม่ จากผู้สมัครกว่า 89 ราย คัดสรรเหลือ 32 ราย มาจับคู่กันสร้างสรรสินค้าชิ้นใหม่ที่ยังคงแสดงจุดแข็งและจุดเด่นที่แตกต่างกันของแต่ละแบรนด์ โดยผู้ทรงคุณวุฒิทั้งที่เป็นนักออกแบบ นักการตลาด และผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าได้ให้คำแนะนำอย่างแก่ผู้เข้าร่วมโครงการทุกรายอย่างอย่างเข้มข้น โดยให้ความสำคัญกับ Entrepreneur’s Unique Potential and Product Concept, Function and Form, Production Process and Feasability, Implementation และDesign เพื่อเพิ่มสินค้าใหม่ที่โดดเด่นในงานSTYLE Bangkok ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 มีนาคม 2564 ศรัณย์ เย็นปัญญา นักเล่าเรื่องและผู้ก่อตั้ง 56th Studio ที่ปรึกษาพิเศษที่ได้มาร่วมให้ข้อแนะนำกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า สินค้าไลฟ์สไตล์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามพฤติกรรมของผู้คน ผู้ประกอบการที่ปรับตัวเร็วเคลื่อนไหวเร็ว จะได้เปรียบในทุกสถานการณ์ เพราะโลกเราจะเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นอย่างแน่นอน การอยู่บนวิถีเดิมที่ไม่มีการ เปลี่ยนมุมคิดจะเริ่มเห็นผลได้ชัดเจนเมื่อมีเหตุการณ์ใหญ่เข้ามากระทบ ดังเช่นเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ COVID-19 (โควิด-19) การ Collaboration แบรนด์นั้น สิ่งสำคัญคือผู้ประกอบการต้องร่วมกันหาช่องทางการตลาดใหม่ สินค้าใหม่ ความแปลกใหม่ที่รวมกันแต่ยังไม่ทิ้งตัวตนของแบรนด์ ซึ่งในโครงการนี้จะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการมีการแชร์ความรู้ความถนัดที่ตนเองมีระหว่างกัน ผู้ประกอบการ A มีสิ่งหนึ่งที่ ผู้ประกอบการ B ยังไม่มี จึงทำให้การมารวมกันเกิดความใหม่ และการเล่าเรื่องของสินค้าที่เกิดใหม่จาก 2 แบรนด์ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินไป เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่าอะไรคือจุดขาย รู้ว่าต้องไปตลาดไหน และรู้ว่าต้องขายใคร รติยา จันทรเทียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เท็กซ์ไทล์ แกลลอรี่ จำกัด เจ้าของอุตสาหกรรมสิ่งทอคุณภาพภายใต้แบรนด์ “พาซาญ่า” หนึ่งในแบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ยังไม่เคย Collab แบรนด์สินค้ากับใคร แต่กำลังจะมีโครงการที่จะทำ เมื่อกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเปิดตัวโครงการนี้จึงเข้าร่วมทันที เพราะคิดว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพของแบรนด์ พาซาญ่า (PASAYA) ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งยังเป็นการเพิ่มองค์ความรู้และได้มุมมองที่ต่างออกไป เช่น สินค้าระหว่างแบรนด์นั้นจริงๆ แล้วสามารถใช้ร่วมกันได้ ช่วยสร้างมูลค่า (Value) ให้กับสินค้าเพิ่มขึ้น และลูกค้าได้ประโยชน์มากขึ้น จากการได้ร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ในครั้งนี้ทำให้เกิดแบรนด์คอมมูนิตี้ (Brand Community) ที่มั่นคงและยั่งยืน ช่วยตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น และยังลดต้นทุนของการทำงานด้วย สำหรับสินค้าที่ทำนั้นเป็นการร่วมมือกับแบรนด์ Deesawat และ Black Sugar ออกแบบให้เป็นชุดเก้าอี้สุดเปรี้ยว Dark Fashion Chair แต่ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ตัวเองในการร่วมกับอีก 4 แบรนด์เพื่อพัฒนาสินค้า Eye Mask และ Daybath ด้วย ด้าน คณิศร อ่างทอง เจ้าของแบรนด์ แบล็ค ชูการ์ (Black Sugar) เล่าว่า การเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ทำให้ได้เปิดมุมคิดและไอเดียใหม่ในการพัฒนาสินค้า เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคย Collab กับแบรนด์อื่นมาก่อนเลย การได้พบกันแลกเปลี่ยนความรู้หรือความเชี่ยวชาญที่แต่ละแบรนด์มี ทำให้ได้รู้ช่องทางการทำตลาดใหม่ และที่สำคัญการได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์มากมาย ทำให้สามารถพิจารณาตลาดได้กว้างขึ้น และเปิดวิธีคิดใหม่ๆ ซึ่งการ Collab แบบนี้ ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงานร่วมกันเพื่อคิดสินค้าใหม่ แต่กลับมีประโยชน์อย่างมากต่อผู้ประกอบการ เหมือนการทดสอบวิธีคิดในเวลาที่จำกัดเพื่อให้เกิดไอเดียที่จะผลิตสินค้าใหม่ออกมา ทั้งนี้ ผู้ประกอบการทั้ง 32 ราย ได้มีการจับคู่ร่วมมือกันพัฒนาสินค้าจำนวน 20 คู่/กลุ่ม โดยหลังจากการอบรมอย่างเข้มข้นทั้ง 4 รอบจะทำการนำเสนอผลงานและแผนการตลาดของผู้ประกอบการต่อผู้เชี่ยวชาญในครั้งสุดท้ายในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ต่อไป