fh400 on October 02, 2020, 10:51:58 AM
SHANE น้องใหม่สกินแคร์ รุกหนักตลาดความงาม
ชู 4 จุดแข็งทิ้งห่างคู่แข่ง ไต่สู่แบรนด์ TOP 10 ของประเทศไทย


SHANE ผลิตภัณฑ์ Organic & Natural Skincare เตรียมสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหม่ตลาดความงาม ฉีกกรอบครีมสารเคมีเกลื่อนตลาด ก้าวนำหน้าสู่ยุคใหม่ชูจุดเด่น Advanced Nano Neck Cream, Shower Gel Body Lotion จากนวัตกรรมนาโนออร์แกนิค พร้อมส่วนผสม Organic&Natural เข้มข้นกว่า 90%, แพ็คเกจจิ้ง, สตอรี่ และจุดแข็งด้าน "กลิ่นบำบัด" เปิดตัวในงาน CCA 2020 หวังโตพ้นวิกฤตโควิด ไต่สู่ TOP 10 แบรนด์ Organic Natural Skincare ของประเทศไทย

นางสาวกุลธิดา อัศวมินาติ เจ้าของ และ ประธานบริหาร บริษัท เชน จำกัด ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบรนด์ SHANE ที่มีสารสกัดอันทรงคุณค่าจากธรรมชาติ หรือ ออร์แกนิค รายแรกของไทยที่นำนวัตกรรมเทคโนโลยี นาโนออร์แกนิค (Nano Organic) มาช่วยในกระบวนการคิดค้น พัฒนา และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ภายใต้ระบบการผลิต ที่ได้รับการรับรองคุณภาพ มาตรฐานสากล และผ่านการทดสอบHypo-allergenic จาก Dermscan Asia แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังจึงมันใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของSHANE นั้นมีความอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว เล่าย้อนถึงที่มาของการก่อตั้ง SHANE ว่า เธอเล็งเห็นถึงความสำคัญของธุรกิจความงามและศักยภาพของ Organic & Natural Ingredient ที่มีอยู่ในประเทศไทย ที่ล้วนแล้วแต่พิเศษ และมีลู่ทางเติบโตได้สูงมาก เธอจึงเลือกจ่ายเงินลงทุนกว่า 10 ล้านบาท กับการสร้างแบรนด์สกินแคร์ที่มีชื่อว่า "SHANE" ขึ้นในประเทศไทย โดยคาดหวังที่จะผลักดันให้บริษัทก้าวนำคู่แข่งในการทิ้งสารเคมีไว้ข้างหลัง ใช้เรื่องราวจากธรรมชาติมาเป็นจุดแข็ง แล้ววางโพสิชันของบริษัท ไปสู่ตำแหน่ง TOP 10 แบรนด์ Organic Natural Skincare ของประเทศไทยในอนาคต



"SHANE มีจุดเด่นที่นำตัว Active Nanoสารสกัดจากธรรมชาติ พร้อมกระบวนการผลิตด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีนาโนอิมัลชันสูตรเฉพาะของทางเชน ที่คงความเป็นธรรมชาติอยู่ ที่เราเรียกกันว่า นาโนออร์แกนิค เพื่อการบำรุงล้ำลึก ซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการกักเก็บคุณสมบัติของสารออกฤทธิ์

หลังจากเริ่มก่อตั้งแบรนด์มาได้ปีเศษ SHANE ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สกินแคร์จากการวิจัยของบริษัท รวมแล้วกว่า 15 SKU แบ่งออกเป็น Facial Care, Body Care, Aromatherapy-Essential oil และยังรวมถึงการคิดค้นผลิตภัณฑ์ไอคอนของแบรนด์ อย่าง "Shane Advanced Nano Neck Cream" ครีมบำรุงผิวคอที่สร้างมาเพื่อปิด Pain point ที่ละเลยการบำรุงผิวคอ และลดเลือนริ้วรอยจากการเสียดสีบริเวณผิวคอของคนทั่วไป



"เรามีคำถามกับตัวเองว่าทำไมทุกคนต้องเน้นบำรุงแต่ผิวหน้า ในเมื่อผิวคอก็สำคัญไม่แพ้กัน" นางสาวกุลธิดา กล่าว "ในตอนที่เราปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง มีผลวิจัยแล้วว่าคอเป็นอะไรที่มีบอบบางยิ่งกว่าใบหน้า เกิดริ้วรอยได้ง่าย และพฤติกรรมส่วนใหญ่อย่างการทำงาน เล่นสมาร์ทโฟน หรือการก้มหน้าเป็นเวลานานยังทำให้เกิดการเสียดสีเพิ่มจำนวนริ้วรอยด้วย ทั้งครีมบำรุงหน้าก็ไม่ได้มีความเข้มข้นมากพอที่จะไปบำรุงผิวที่คอได้ ในทางกลับกันครีมคอที่มีความเข้มข้น ก็อาจจะเหนียวเหนอะหนะไม่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของเมืองไทยอีก เราจึงควรหาผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้น แต่มีความเบาบางและสามารถบำรุงตรงจุดอย่างผลิตภัณฑ์ของเชน แอ๊ดวานซ์ นาโน เน็ค ครีม"

SHANE Advanced Nano Neck Cream เป็นผลิตภัณฑ์ที่มี Base on เป็น Organic&Natural เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของแบรนด์ อาทิ White Orchid, Aloe vera, Cucumber ,Rose Wood ,Dill ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย อุดมไปด้วยสาร Anti-oxidant วิตามินหลากหลายชนิดทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น เนียนนุ่มตลอดทั้งวัน มาพร้อมกับกลิ่นบำบัด organic essential oil สูตรเฉพาะของทางเชน ปราศจากพาราเบน สเตียรอยด์ และแอลกอฮอล์ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของSHANE นั้นอ่อนโยน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้



และจุดเด่นอีกอย่างของครีมบำรุงคอนี้ คือแพคเกจจิ้งรูป All-in-One ตัวบรรจุภัณฑ์ออกแบบให้มีลูกกลิ้งหัวนวดสำหรับเกลี่ยให้เนื้อครีมซึมลงไปในชั้นผิวได้ง่าย พร้อมทั้งเป็นการนวดต้นคอช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิตไปในตัว ที่สำคัญ ครีมบำรุงคอยังมีความโดดเด่นในเรื่องกลิ่น จาก Essential oil ที่ช่วยสร้างความผ่อนคลายให้ผู้ใช้ บนไอเดียด้าน "กลิ่นบำบัด"

"แนวคิดเรื่องกลิ่นบำบัดมีข้อดีข้อใหญ่เรื่องการผ่อนคลายอาการเหนื่อยล้า ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น ผลิตภัณฑ์ของ SHANE จึงมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ และแต่ละกลิ่นล้วนมีสตอรี่เฉพาะที่ฉีกออกจากคู่แข่งชัดเจน ยกตัวอย่างกับผลิตภัณฑ์เจลอาบน้ำที่เป็นNano Body Skincare กลิ่น ANDAMAN (อันดามัน) ซึ่งเราใช้อำพันทะเลสกัดกลิ่นออกมา สร้างสตอรี่ชวนให้นึกถึงความลุ่มลึกของทะเลอันดามัน หรือจะเป็นกลิ่น TAKHAI (ตะไคร้) ความสดชื่นจากตะไคร้สายพันธุ์บริสุทธิ์ และกลิ่น EDEN (เอเดน) ความลับในสวนดอกไม้นานาพันธุ์ ที่ล้วนแต่บำบัดให้กลิ่นของความรู้สึก Balance Refresh & Romance ไปพร้อมๆ กัน" นางสาวกุลธิดา กล่าว



แม้ SHANE จะมีสตอรี่เบื้องหลังที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจ แต่การเติบโตของ SHANE ก็หยุดชะงักจากไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับแบรนด์อื่นๆ เป้าหมายเดิมในการรุกกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ก็เบนเข็มเปลี่ยนทิศทางเริ่มต้นด้วยการ Offer สินค้าด้วยวิธี Joint venture กับลูกค้าที่ประเทศจีน, เปิดตลาดบนช่องทางออนไลน์, Website, Instagram, Lazada ไปจนถึงการออกสู่สายตาผู้ใช้ชาวไทยและต่างประเทศ ในงาน "Cosmoprof CBE ASEAN 2020" หรือ CCA 2020 งานจัดแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงามระดับโลก ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

"ด้วยความที่ CCA 2020 เป็นเวทีระดับ International ในประเทศไทย นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่ SHANE จะมาเปิดตัวสร้างพอร์ตให้กับแบรนด์" นางสาวกุลธิดา กล่าว "แม้ในวันแรกที่เราออนไลน์จะชนกับการล็อกดาวน์ในต่างประเทศพอดี แต่เราก็ได้คู่เจรจาจากต่างประเทศติดต่อเข้ามามากมายเช่นกัน ทั้งจากจีนที่เซ็นสัญญากันไปแล้ว และจากดูไบ รัสเซีย อินเดีย-มุมไบ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ 5 ประเทศ ที่อยู่ในระหว่างเจรจา ซึ่งการเข้าถึงงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติจะมีส่วนช่วยอย่างมาก ที่เราจะได้พบปะกับ distributor โดยตรง และผลักดันให้การเซ็นสัญญาพา SHANE ออกสู่ตลาด global เกิดขึ้นในที่สุด"



"เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโควิด-19 ทิ้งผลกระทบไว้กับเราอย่างมาก แต่ SHANE ก็ไม่ได้ทิ้งความตั้งใจจะเป็นแบรนด์ Organic&Natural Skincare ระดับ TOP 10 ของประเทศ หลังจากสถานการณ์คลี่คลายลง SHANE จะเริ่มเปิดจำหน่ายในสถานที่ท่องเที่ยวอย่างบนDuty Free ตามมาด้วยการเปิด Stand alone ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในไทย อีกทั้งเราเองก็ไม่ได้มองแต่กลุ่มนักท่องเที่ยวเพียงกลุ่มเดียว ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะตีกรอบราคาไม่ให้สูงจนเกินเอื้อม สามารถเข้าถึงผู้บริโภคชาวไทยในฐานะทางเลือกหนึ่งที่จะสร้างความผ่อนคลายให้กับทุกคน และให้สมกับที่ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมความงามและวัตถุดิบที่เป็น Organic ที่เป็นเบอร์ 1 ตั้งอยู่ในดินแดนของตัวเอง" นางสาวกุลธิดา กล่าวทิ้งท้าย

พบกับผลิตภัณฑ์ Organic Natural Skincare จากเรื่องราวที่เปี่ยมด้วยความลับจากธรรมชาติ ของ SHANE ได้ที่งาน "Cosmoprof CBE ASEAN 2020" งานจัดแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงามระดับโลก ระหว่างวันที่ 14 – 16 ธันวาคม 2563 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท ได้ที่ 02—036-0500 หรือ www.cosmoprofcbeasean.com