happy on March 19, 2020, 02:16:19 PM

พรูเด็นเชียล ประเทศไทย จับมือ ทีเอ็มบี ร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์
กลยุทธ์ในการเร่งเพิ่มขนาดธุรกิจประกันชีวิต รวมถึงช่วยสนับสนุนสถานะอันแข็งแกร่ง
ของธุรกิจจัดการกองทุนรวมของพรูเด็นเชียล

บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“พรูเด็นเชียล ประเทศไทย”) บริษัทย่อยของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล มีความยินดีที่จะประกาศให้ทราบว่า บริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือเป็นพันธมิตรธุรกิจด้านแบงก์แอสชัวรันส์ กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (“ทีเอ็มบี”) เป็นระยะเวลาขั้นต้น 15 ปี โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการประกันชีวิตชั้นนำของพรูเด็นเชียล ไม่ว่าจะเป็นในด้านสุขภาพ และการสร้างความมั่งคั่ง แก่ลูกค้าของทีเอ็มบี ซึ่งมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ และเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง

ข้อตกลงใหม่นี้ จะช่วยต่อยอดและขยายความร่วมมืออย่างมีนัยสำคัญของการเป็นพันธมิตรกับธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สู่ทีเอ็มบี ซึ่งภายหลังการรวมกิจการธนาคารทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกัน จะมีสถานะเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเป็นอันดับที่ 6 ในด้านเงินฝาก และธนาคารที่ใหญ่ที่สุด อันดับที่ 4 ในด้านสาขาธนาคาร

ประเทศไทยเป็นตลาดประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสอง และตลาดกองทุนรวมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยมีศักยภาพในการเติบโตสูง การร่วมมือเป็นพันธมิตรธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้พรูเด็นเชียลจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกของตลาดกองทุนรวมในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์กับทีเอ็มบี ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผ่านการเป็นพันธมิตรธุรกิจกิจการร่วมค้าด้านการบริหารจัดการกองทุนรวม1 โดยปัจจุบัน กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ครองส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 122 ในตลาดธุรกิจกองทุนรวมในประเทศไทย ทั้งนี้การเป็นพันธมิตรแบงก์แอสชัวรันส์ร่วมกัน ส่งผลให้ทั้ง สององค์กรมีแพลตฟอร์มที่เปี่ยมคุณภาพระดับแนวหน้า พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพ และความมั่งคั่งแก่ลูกค้าทีเอ็มบีจำนวน 9 ล้านราย หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ของประเทศ3

การร่วมมือเป็นพันธมิตรกับทีเอ็มบีนี้จะช่วยสนับสนุนให้พรูเด็นเชียล ประเทศไทย สามารถเพิ่มขนาด และขยายธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยให้เติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป สอดคล้องกับปณิธานในการก้าวสู่สถานะการเป็นผู้นำในตลาด นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของทีเอ็มบีในการร่วมเคียงข้างลูกค้าในทุกจังหวะเวลาของชีวิตผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการด้านการประกันชีวิต รวมถึงการให้บริการด้านดิจิทัลอีกด้วย


มร.นิค นิแคนดรู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่น เอเชีย กล่าวว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านแบงก์แอสชัวรันส์ระยะยาวกับทีเอ็มบี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์และต่อยอดธุรกิจกองทุนรวมของเราในประเทศไทย โดยการจับมือกันในครั้งนี้จะเป็นการนำเอาความเข้าใจและการเข้าถึงลูกค้าในประเทศไทยของทีเอ็มบี ผนวกเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านประกันชีวิต สุขภาพ และการออมของพรูเด็นเชียล เพื่อให้ลูกค้าชาวไทยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ดีที่สุด และตอบโจทย์ครอบคลุมทั้งเรื่องของการให้ความคุ้มครองครอบครัว และการสะสมความมั่งคั่งได้ด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เติบโตและแพร่หลายอย่างรวดเร็ว และยังรู้สึกยินดีที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย ด้วยการลงทุนในตลาดทุนไทยและสร้างโอกาสในการจ้างงาน”

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทีเอ็มบีมุ่งหวังที่จะยกระดับธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ร่วมกันกับพรูเด็นเชียล ประเทศไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตในรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ โดยหัวใจสำคัญของการจับมือร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ คือ การมีเป้าหมายเดียวกันในการที่จะสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตลูกค้า ด้วยการเข้าใจความต้องการที่แท้จริงและยกระดับชีวิตทางการเงินของลูกค้าให้ดีขึ้นเพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศ”

ข้อตกลงการต่อขยายความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Exclusive Partnership) จะเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคม 2564 โดยในระหว่างนี้ ความร่วมมือการขายประกันชีวิตผ่านช่องทางแบงก์ชัวรันส์ กับธนาคารธนชาตยังคงดำเนินต่อไป ข้อตกลงนี้ต้องผ่านการปรับปรุงแก้ไขสัญญาใหม่ ตามข้อตกลงความร่วมมือการขายประกันชีวิตผ่านช่องทางธนาคารที่ทีเอ็มบีมีอยู่เดิมกับกลุ่มบริษัทประกันชีวิตอีกกลุ่มหนึ่ง การจัดการดำเนินการในครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 24.5 พันล้านบาท (หรือประมาณ 754  ล้านเหรียญสหรัฐ คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 18 มีนาคม 2563) โดยจะแบ่งชำระเป็นสองงวด ชำระงวดแรกเป็นจำนวนเงิน 12 พันล้านบาท ในเดือนเมษายน 2563 และส่วนที่เหลือ ชำระในวันที่ 1 มกราคม 2564 เงินทุนที่ใช้ในการทำธุรกรรมนี้มาจากแหล่งเงินทุนที่มีอยู่เดิมของพรูเด็นเชียล เอเชีย รวมกับแหล่งเงินทุนของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะรวมไปถึงสินเชื่อจากแหล่งเงินทุนใหม่ด้วย และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มบริษัทฯ จำนวนเงินที่กล่าวถึงข้างต้นจะได้รับการบันทึกเป็น สินทรัพย์ประเภทจับต้องไม่ได้ ในส่วนของสิทธิการจัดจำหน่าย


###

เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล

กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลเป็นกลุ่มบริษัทที่มุ่งดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียโดยมุ่งเน้นไปยังตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ปณิธานหลักคือ การช่วยผู้คนลดความเสี่ยงในชีวิต และสามารถจัดการกับข้อกังวลทางด้านการเงินต่างๆ ผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตเพื่อการเกษียณอายุ รวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านการบริหารสินทรัพย์ กลุ่มพรูเด็นเชียลมีความภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ลูกค้ากว่า 20 ล้านรายทั่วโลก และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล มิได้มีความสัมพันธ์ใดๆ กับพรูเด็นเชียล ไฟแนนเชียล อิงค์ (Prudential Financial Inc) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีถิ่นที่ตั้ง ทางธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึง บริษัท พรูเด็นเชียล แอสชัวรันส์ (Prudential Assurance Company) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีถิ่นที่ตั้งทางธุรกิจในประเทศสหราชอาณาจักร

เกี่ยวกับพรูเด็นเชียล ประเทศไทย

พรูเด็นเชียลได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเป็นระยะเวลากว่า 24 ปี ภายใต้ชื่อ บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้บริการแก่ลูกค้ามากกว่า 1.6 ล้านราย ในประเทศไทย และบริหารสินทรัพย์ให้แก่ลูกค้ามูลค่ากว่า 112 พันล้านบาท4 ในปีพ.ศ. 2562 พรูเด็นเชียล ประเทศไทย มีผลกำไรจากการดำเนินงานตามมาตรฐานบัญชี IFRS เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 สู่ระดับ 170 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีเบี้ยประกันภัยรับแบบถ่วงน้ำหนัก เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 สู่ระดับ 619 ล้านเหรียญสหรัฐ5

เกี่ยวกับทีเอ็มบี / ธนาคารธนชาต

ทีเอ็มบีเป็นธนาคารผู้นำตลาดด้านเงินฝาก และบริการธนาคารดิจิทัล ในขณะที่ธนาคารธนชาตเป็นธนาคารผู้นำตลาดด้านสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งมีส่วนแบ่งอันดับหนึ่งในตลาด ภายหลังการควบรวมกิจการกับธนาคารธนชาต ทีเอ็มบีจะมีขนาดธุรกิจเพิ่มขึ้นเท่าตัวโดยมีสินทรัพย์รวม 1.9 ล้านล้านบาท และปัจจุบันมีสถานะเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของประเทศ ทั้งทีเอ็มบีและธนาคารธนชาต มีเครือข่ายสาขารวมกันกว่า 900 สาขา ทั่วประเทศ และมีฐานลูกค้ามากกว่า 9 ล้านราย

เชิงอรรถ

ที่มาของข้อมูล: สมาคมบริษัทจัดการลงทุน, กองทุนการเงินระหว่างประเทศ, สวิส รี (Swiss Re), สหประชาชาติ

1.   ในเดือนธันวาคม 2562 อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ เข้าถือหุ้นจำนวนร้อยละ 50.1 ในบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนธนชาต จำกัด (โดยธนาคารธนชาต ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของทีเอ็มบี ถือหุ้นในส่วนที่เหลือร้อยละ 49.9) ในเดือนกันยายน 2561 อีสท์สปริง เข้าถือหุ้นจำนวนร้อยละ 65 ในบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด (ปัจจุบัน ใช้ชื่อ TMBAM Eastspring)
2.   ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ จำนวน 667 พันล้านบาท (21 ล้านเหรียญสหรัฐ)
3.   จำนวนประชากรไทยที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยประมาณ ณ ปีพ.ศ. 2563
4.   ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562
5.   เบี้ยประกันภัยรับแบบถ่วงน้ำหนัก ได้แก่ เบี้ยประกันภัยรับธุรกิจใหม่ และปีต่ออายุ รวม 10% ของเบี้ยประกันภัยรับครั้งเดียว