sianbun on February 11, 2010, 10:57:44 AM
พี่ใหญ่ขาฟัด “เฉินหลง” นำทีมนักแสดง  “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” “LITTLE BIG SOLDIER”  ส่งคลิปพิเศษอวยพรความสุขต้อนรับตรุษจีน ส่งตรงมาให้กับแฟนๆ ภาพยนตร์ชาวไทยโดยเฉพาะ

“เอ็ม พิคเจอร์ส” เปิดตำนานฟัด ฮา พลิกแผ่นดิน รับตรุษจีน 18 กุมภาพันธ์ นี้  ในโรงภาพยนตร์!




      พี่ใหญ่ขาฟัด  “เฉินหลง” นำทีมนักแสดงทั้ง 7 คน ในอภิมาหภาพยนตร์แอ็คชั่นคอเมดี้ฟอร์มยักษ์ ผลงานการสร้างสุดอลังการของเฉินหลง “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” (Little Big Soldier) ส่งคลิปพิเศษอวยพรความสุขต้อนรับเทศกาลตรุษจีนในปีเสือนี้ ส่งตรงมาให้กับแฟนๆ ภาพยนตร์ชาวไทยโดยเฉพาะ ก่อนที่กำหนดภาพยนตร์เรื่อง “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” (Little Big Soldier) จะเข้าฉายในวันที่ 18 กุมภาพยนตร์นี้ ทุกโรงภาพยนตร์


      “ผมเฉินหลงครับ, ผมหลิวฉ่งเจี้ยน พวกเราคือ ทีมนักแสดงทั้ง 7

      ตรุษจีนที่จะมาถึงนี้  ทีมเราที่ร่วมแสดง  ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด

      ขออวยพรทุกท่านในปีนี้ ให้มีความสุข ปลอดทุกข์เรื่องร้าย

      ครอบครัวสุขสบาย ค้าขายร่ำรวย”


      “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” (Little Big Soldier) อภิมหกรรมฟัดครั้งมโหฬาร ที่ฟัดครั้งไหน ก็ไม่มันส์เท่าครั้งนี้ ความมันส์เเบบ Non – stop กับภารกิจตะลุมบอนฟัดที่ใช้เวลาเตรียมงานนานถึง 20 ปีเต็ม ทุ่มทุนสร้างมหาศาลยิ่งใหญ่ของซูเปอร์สตาร์นักบู๊แห่งเอเชีย เฉินหลง ฟัดครั้งนี้ยิ่งใหญ่ทุกครั้งเพราะควบตำแหน่งทั้ง ผู้อำนวยการสร้าง ผู้คุมงานสร้าง ผู้กำกับคิวบู๊ และนักแสดง ฮากระจายพร้อมคู่ฟัดคู่ใหม่ วังลีฮอม ป๊อปสตาร์ดาวรุ่งหนุ่มรูปหล่อของเกาะไต้หวันที่ประเดิมแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นคอเมดี้เรื่องแรก

      “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” (Little Big Soldier) เรื่องราวตะลุมบอนฟัดสุดฮาเริ่มต้นขึ้นเมื่อพลทหารเดินเท้าของทัพเหลียง (เฉินหลง) รอดตายมาได้เพราะแกล้งตายจนชำนาญจากศึกครั้งยิ่งใหญ่ของจีน ได้คุมตัวแม่ทัพเว่ยฝ่ายศัตรู (วังลีฮอม) ที่บาดเจ็บไว้และหวังใช้ศัตรูผู้นี้เป็นตั๋วแลกกับอิสรภาพ ชายหนุ่มคู่แปลกคู่นี้ก็จำต้องร่วมมือกันฝ่าฟันวิกฤตอันสุดอลม่านทั้งฟัดทั้งฮาครั้งแล้วครั้งเล่า ความเกลียดชังระหว่างพลทหารและแม่ทัพหนุ่มค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยมิตรภาพอันงดงามทีละน้อย จนแล้วจนรอด ความขัดแย้งทางศีลธรรมก็ปะทุขึ้นในใจของพลทหาร สิ่งไหนล่ะที่สำคัญมากกว่ากัน? มิตรภาพที่แม่ทัพหนุ่มมอบให้หรืออิสรภาพที่รอคอย?   “เอ็ม พิคเจอร์ส” เปิดตำนานฟัด ฮา พลิกแผ่นดิน รับตรุษจีน 18 กุมภาพันธ์ นี้ ในโรงภาพยนตร์!
« Last Edit: February 12, 2010, 10:41:31 AM by sianbun »

sianbun on February 15, 2010, 09:47:59 AM
“เอ็ม พิคเจอร์ส” ภูมิใจนำเสนอ ภาพยนตร์แอ็คชั่นฮากระจายฟอร์มยักษ์  “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด”  “LITTLE BIG SOLDIER” 

การกลับมาทวงบันลังค์เจ้าพ่อแอ็คชั่นคอเมดี้ภาระกิจฟัดไม่เลือกหน้า เขย่าต่อมฮาไม่มียั้ง “เฉินหลง” ซูเปอร์สตาร์นักบู๊แห่งเอเชีย

ปะทะ ป๊อปสตาร์สุดหล่อเสียงดี “วังลีฮอม”  ฮารับตรุษจีน 18 กุมภาพันธ์ นี้ ทุกโรงภาพยตร์!

      “เอ็ม พิคเจอร์ส” ภูมิใจนำเสนอ ภาพยนตร์แอ็คชั่นฮากระจายฟอร์มยักษ์สุดอลังการ “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” (Little Big Soldier) การกลับมาทวงบันลังค์เจ้าพ่อแอ็คชั่นคอเมดี้ของซูเปอร์สตาร์นักบู๊แห่งเอเชีย เฉินหลง (หรือ แจ็คกี้ ชาน) พร้อมฉากแอ็คชั่นฟัดมันส์ๆ เขย่าต่อมฮาแบบไม่ยั้งที่เป็นสไตล์ของเฉินหลงโดยเฉพาะ โดยเขาได้กลับมาแสดงเอง ควบตำแหน่งผู้อำนวยการสร้าง และกำกับคิวบู๊เอง หลังจากที่ใช้เวลาเตรียมงานนานถึง 20 ปีเต็ม ที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาลยิ่งใหญ่ตามแบบฉบับเฉินหลง และเป็นการปะทะฝีมือกันครั้งแรกของซูเปอร์สตาร์นักบู๊แห่งเอเชีย เฉินหลง และป๊อปสตาร์ดาวรุ่งหนุ่ม วังลีฮอม ผลงานการกำกับของ ติงเซิง ผู้กำกับดาวรุ่งจาก The Underdog Knight เตรียมต่อมฮารับตรุษจีน 18 กุมภาพันธ์ นี้ ในโรงภาพยนตร์!

      “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” (Little Big Soldier) คือผลงานเรื่องที่ 99 ที่มีชื่อ เฉินหลง อยู่ในนั้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการหวนคืนสู่โปรแกรมหนังช่วงตรุษจีนอีกครั้งนับตั้งแต่ The Accidental Spy ในปี 2001 ที่สำคัญ นี่คือโปรเจกต์แรกที่เขาควบหลายตำแหน่งทั้ง ผู้อำนวยการสร้าง ผู้คุมงานสร้าง ผู้กำกับคิวบู๊ และนักแสดง 

      เฉินหลงได้แนวคิดสำหรับเรื่อง “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” (Little Big Soldier) มากว่าสองทศวรรษแล้ว แรกเริ่มเดิมที เขาหมายตาบทแม่ทัพหนุ่มไว้ให้ตัวเอง ต่อมาโปรเจกต์จึงค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ ทว่าหลังจากรับบทแม่ทัพตัวเอกในดราม่าย้อนยุคเรื่อง The Myth แล้ว เฉินหลงกลับตัดสินใจใหม่เพราะไม่อยากแสดงบทแม่ทัพซ้ำอีกครั้ง ในส่วนของ ติงเซิง ซึ่งนั่งแท่นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาเคยผ่านงานกำกับโฆษณาทางจอแก้วมาแล้วอย่างโชกโชน และนั่นคือส่วนที่ช่วยให้เขารู้จักมักคุ้นกับเฉินหลง ด้วยความที่ชื่นชอบความสามารถของติงเซิงในการตีแผ่ลักษณะของเพศชายลงบนจอได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากติงเซิงเสร็จสิ้นภารกิจกำกับเรื่อง The Underdog Knight (นำแสดงโดย หลิวเหย่ และ แอนโธนี หว่อง) เฉินหลงก็ตัดสินใจหยิบยื่น “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” (Little Big Soldier) ให้เป็นผลงานกำกับเรื่องต่อไปทันที

      สำหรับบทแม่ทัพที่ยังว่างอยู่  เฉินหลงอยากให้บทนี้กับ เจย์ โชว หรือไม่ก็ลูกชายของเขา คือ เจย์ซี ชาน ทว่าผู้เป็นภรรยากลับเสนอ วังลีฮอม ขึ้นมา โดยเชื่อว่าการประกบคู่กันของเขากับเฉินหลงจะก่อให้เกิดปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่บนจอเงินได้แน่ๆ หลังจากนั้น เฉินหลงรีบติดต่อวังลีฮอมทันที ในขณะที่วังลีฮอมเองก็ตกปากรับคำทันทีเช่นกันทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อ่านบทเสียด้วยซ้ำ

       เฉินหลง ได้พูดถึงการได้ทำงานร่วมกับ วังลีฮอม ว่า “ใครๆก็รู้จัก วังลีฮอม รูปลักษณ์ภายนอกเขาเป็นคนที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบเหมือนเจ้าชาย สวรรค์ประทานทุกสิ่งทุกอย่างมาให้เขา เขาเป็นคนที่เพอเฟ็คจริงๆ เขาสามารถทำได้ทุกอย่าง ทั้งเขียนเนื้อร้อง แต่งทำนอง แต่งเพลง เล่นเปียโน ร้องเพลง... ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ กวางตุ้ง จีน แค่นี้ก็ดีแล้ว แถมยังมีความสามารถทางการแสดงอีก นี่ขนาดเป็นหนังแอ็คชั่นเรื่องแรกของเขา วังลีฮอม ยังทำได้ดีถึงขนาดนี้ ถ้าเขาจะประสบความสำเร็จ นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาสมควรจะได้รับแล้วละครับ”

      ในขณะที่ วังลีฮอม เอง ถึงจะไม่ใหม่ถอดด้ามสำหรับหนังแอ็กชั่น คือเคยแสดงในงานกำกับโดย สแตนลีย์ ตง เรื่อง China Delta Force และงานกำกับโดย แอนดรูว์ เลา เรื่อง The Avenging Fist มาแล้ว แต่ในการเตรียมตัวเพื่อรับบทแม่ทัพหนุ่ม วังลีฮอมต้องฝึกฝนการใช้อาวุธจีนจำพวกดาบ และทวนอย่างหนักหน่วง รวมถึงเรียนขี่ม้าด้วย แต่ถ้าเปรียบเทียบกับบทบาทการแสดงที่ได้รับในภาพยนตร์เรื่องนี้ นั้นจะแตกต่างกับชีวิตจริงอย่างสินเชิง ในเรื่องนี้ วังลีฮอม ต้องรับบทเป็นพลทหารหนุ่มที่โดนลักพาตัว เพราะฉะนั้นบทบาทที่แสดงจะต้องคลุกดิน คลุกฝุ่น ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม ที่ต้องดูสมจริง รวมถึงทั้งการแสดง ที่ต้องใช้เครื่องต่อสู้ยังเป็นสิ่งใหม่ต่อ วังลีฮอม มาก แต่ วังลีฮอม ก็พยายามฝึกฝนรวมถึงได้รับการชี้แนะจากนักแสดงรุ่นใหญ่ เฉินหลง ทำให้การแสดงออกมาได้ยอดเยี่ยมอย่างไม่มีที่ติ

      วังลีฮอม เล่าให้ฟังถึงการแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นครั้งแรกร่วมกับปรมาจารย์ด้านฟัดอย่าง เฉินหลง ว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมถ่ายภาพยนต์แอ็คชั่น เฉินหลงเขาสอนทุกสิ่งทุกอย่างให้ผม โดยเฉพาะการแสดงฉากแอ็คชั่น อย่างเช่น พอก่อนเริ่มจะถ่ายทำ เฉินหลงจะบอกว่า ‘1 2 3 แอ็กชั่น....ตอนที่จะคว้าดาบ ไม่ต้องเอื้อมไปที่ดาบ แต่ให้เอื้อมไปที่เก้าอี้แทน’ ซึ่งมันไม่ง่ายเลยนะ พอถ่ายไปถ่ายมาสักพักผมก็เริ่มดีขึ้น... ดูไม่ออกเลยใช่ไหม ว่าผมเหนื่อยจริงๆ ผมทุ่มเทแสดงสุดตัวเลยครับ”

      เมื่อครั้งที่ขุนพลผู้เหี้ยมหาญทั้งหลายต่างรบพุ่งรุกรานกันไม่จบสิ้น ยุคที่จีนตกอยู่ในที่สุดแห่งความมืดมน ผู้คนล้มตายนับล้านๆ ในขณะที่ผู้รอดชีวิตเหลืออยู่เพียงสองทางเลือก คือฆ่าหรือไม่ก็ถูกฆ่า กระทั่งเหลือผู้ที่ยังหยัดยืนอยู่ได้แค่สองคนเท่านั้น หนึ่งคือพลทหารเดินเท้าของทัพเหลียง (เฉินหลง) และสองคือแม่ทัพหนุ่มของทัพเว่ยฝ่ายศัตรู (วังลีฮอม) พลทหารรอดมาได้เพราะแกล้งตายจนชำนาญ ถึงขนาดมีปลายศรเทียมผูกติดอยู่กับตัวเป็นอุปกรณ์เพิ่มความสมจริง เขาคุมตัวแม่ทัพหนุ่มที่บาดเจ็บไว้และหวังใช้ศัตรูผู้นี้เป็นตั๋วแลกกับอิสรภาพ ชายหนุ่มคู่แปลกคู่นี้ก็จำต้องร่วมมือกันฝ่าฟันวิกฤตอันสุดอลม่านทั้งฟัดทั้งฮาครั้งแล้วครั้งเล่า ความเกลียดชังระหว่างพลทหารและแม่ทัพหนุ่มค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยมิตรภาพอันงดงามทีละน้อย จนแล้วจนรอด ความขัดแย้งทางศีลธรรมก็ปะทุขึ้นในใจของพลทหาร สิ่งไหนล่ะที่สำคัญมากกว่ากัน? มิตรภาพที่แม่ทัพหนุ่มมอบให้หรืออิสรภาพที่รอคอย?

sianbun on February 15, 2010, 09:49:10 AM
LITTLE BIG SOLDIER ลิตเติ้ล  บิ๊ก โซลเยอร์

จัดจำหน่ายโดย  บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด

ชื่อภาษาไทย  ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด

เว็ปไซด์   

ภาพยนตร์แนว  แอ็คชั่น คอเมดี้

จากประเทศ  จีน

กำหนดฉาย  18 กุมภาพันธ์ 2553

ณ โรงภาพยนตร์  ทุกโรงภาพยนตร์

นักแสดง Jackie Chan (Rush Hour, The Myth), Wang Lee Hom (Lust, Caution, Starlit High Noon)

ผู้กำกับ   Ding Sheng (The Underdog Knight)

จุดเด่น

Little Big Soldier ภาพยนตร์แอ็คชั่นคอเมดี้ฟอร์มยักษ์ย้อนยุคสุดอลังกาล การกลับมาทวงบันลังค์เจ้าพ่อแอ็คชั่นคอเมดี้ของซูเปอร์สตาร์นักบู๊แห่งเอเชีย เฉินหลง (หรือ แจ็คกี้ ชาน) พร้อมแอ็คชั่นมันส์ๆ และเสียงหัวเราะที่เป็นสไตล์ของเฉินหลงโดยเฉพาะ โดยเขาได้กลับมาแสดงเอง ควบตำแหน่งผู้อำนวยการสร้าง และเขียนบทภาพยนตร์เอง หลังจากที่ใช้เวลาเตรียมงานนานถึง 20 ปีเต็ม ที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาลตามแบบฉบับเฉินหลง

การปะทะฝีมือกันครั้งแรกของซูเปอร์สตาร์นักบู๊แห่งเอเชีย เฉินหลง และป๊อปสตาร์ดาวรุ่งหนุ่ม วังลีฮอม ผลงานการกำกับของ ติงเซิง ผู้กำกับดาวรุ่งจาก The Underdog Knight
 

เรื่องย่อ

      Liang (เฉินหลง – Big Soldier) นายทหารแก่ที่ฝีมือกระจอกคอยรั้งท้ายขบวนทหารเรื่อยมา เขาวางแผนก้าวหน้าด้วยการลักพาตัวแม่ทัพหนุ่มฝ่ายตรงข้าม Wei (วังลีฮอม – Little Soldier) เพื่อที่จะมารับเงินรางวัลและตำแหน่งหน้าที่ให้ใหญ่โตยิ่งขึ้น แต่การพาตัวแม่ทัพหนุ่ม Wei กลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่หวัง สงครามร้อนระอุ ที่เดิมพันด้วยชีวิตและอนาคตของ Liang ต้องขึ้นอยู่กับการมีชีวิตรอดของ Wei เขาจึงจำเป็นต้องปกป้องรักษาชีวิตของ Wei แบบสู้ ฟัด กัดไม่ปล่อย!

หนึ่งในงานสร้างโดย  แจ็คกี้ ชาน  หรือ เฉินหลง


LITTLE BIG SOLDIER


                  นักแสดงนำ  เฉินหลง (แจ็คกี้ ชาน)

                                    วังลีฮอม (หวังลี่หง)

                  นักแสดงสมทบ  สตีฟ ยู

                                    เผิงหลิน

                                    ตู้อี้หมิง

                                    โหลวฮุยกัง          อลัน งอ

                                    หรงกวงหยู

                  ผู้กำกับภาพยนตร์ ติงเซิง (จาก The Underdog Knight)

                  อำนวยการสร้างโดย แจ็คกี้ ชาน


เรื่องย่อ


      เมื่อครั้งที่ขุนพลผู้เหี้ยมหาญทั้งหลายต่างรบพุ่งรุกรานกันไม่จบสิ้น  นั่นคือยุคที่จีนตกอยู่ในที่สุดแห่งความมืดมน ผู้คนล้มตายนับล้านๆ ในขณะที่ผู้รอดชีวิตเหลืออยู่เพียงสองทางเลือก คือฆ่าหรือไม่ก็ถูกฆ่า

      ตั้งแต่แสงแรกของวันจนตะวันลับฟ้า  ทหารกล้าในสงครามระหว่างทัพเหลียงและทัพเว่ยโรมรันฟาดฟันกันล้มตายเป็นใบไม้ร่วง กระทั่งเหลือผู้ที่ยังหยัดยืนอยู่ได้แค่สองคนเท่านั้น หนึ่งคือพลทหารเดินเท้าของทัพเหลียง (แจ็คกี้ ชาน) และสองคือแม่ทัพหนุ่มของทัพเว่ยฝ่ายศัตรู (วังลีฮอม)

      พลทหารรอดมาได้เพราะแกล้งตายจนชำนาญ  ถึงขนาดมีปลายศรเทียมผูกติดอยู่กับตัวเป็นอุปกรณ์เพิ่มความสมจริง เขาคุมตัวแม่ทัพหนุ่มที่บาดเจ็บไว้และหวังใช้ศัตรูผู้นี้เป็นตั๋วแลกกับอิสรภาพ โดยนำไปส่งให้ขุนพลฝ่ายเหลียงเพื่อปลดเปลื้องตัวเองจากกองทัพอย่างทรงเกียรติและกลับบ้านไปใช้ชีวิตอย่างสงบ ในขณะที่แม่ทัพหนุ่ม ถึงแม้จะถูกคุมตัวไว้ แต่ก็อ่อนน้อมถ่อมตนกับพลทหารตลอดเวลาที่พากันลัดเลาะรอนแรมบนหนทางอันคดเคี้ยวและยาวไกล

      ระหว่างทาง  พวกเขาถูกนักร้องสาวพราวเสน่ห์ทว่าเต็มไปด้วยเล่ห์ลวงลอบวางยาและขโมยตราหยกอันเป็นสัญลักษณ์บ่งชี้ความเป็นแม่ทัพเพียงชิ้นเดียวที่เหลืออยู่ไป ทั้งสองจึงรีบออกติดตามทันที  แต่กลับหลงเข้าไปในขบวนผู้ลี้ภัยจนถูกปล้นอาหารและน้ำไปจนหมด มิหนำซ้ำยังถูกหมีตัวร้ายสะกดรอยตามหมายจะขย้ำสร้างความโกลาหลให้กับชีวิตยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มคู่แปลกคู่นี้ก็จำต้องร่วมมือกันฝ่าฟันวิกฤตครั้งแล้วครั้งเล่า

      อย่างไรก็ตาม  ทั้งสองไม่รู้เลยว่าองค์ชายเหวินผู้เป็นพี่ชายของแม่ทัพหนุ่มพร้อมด้วยกองกำลังยอดฝีมือกำลังไล่หลังมาติดๆ หากแต่ไม่ใช่ในภารกิจช่วยชีวิต ทว่าต้องการปลิดลมหายใจของแม่ทัพหนุ่มเพื่อขจัดเสี้ยนหนามที่จะสั่นคลอนการครองบัลลังก์ให้หมดไป

      ท้ายที่สุดของการเดินทางอันเหลือเชื่อนี้ ความเกลียดชังระหว่างพลทหารและแม่ทัพหนุ่มค่อยๆ  ถูกแทนที่ด้วยมิตรภาพอันงดงามทีละน้อย จนแล้วจนรอด ความขัดแย้งทางศีลธรรมก็ปะทุขึ้นในใจของพลทหาร สิ่งไหนล่ะที่สำคัญมากกว่ากัน? มิตรภาพที่แม่ทัพหนุ่มมอบให้หรือตั๋วเพื่อกลับบ้าน?

sianbun on February 15, 2010, 09:49:33 AM
คุณค่าและความหมายของภาพยนตร์

      ในเรื่องนี้ เฉินหลง รับบทเป็นนายทหารแก่ เค้าได้ลักพาตัว วังลีฮอม ซึ่งรับบทเป็นนายพลหนุ่ม ด้วยความหวังที่จะนำมาแลกกับเงินรางวัลและเพื่อความก้าวหน้าในชีวิต แต่ระหว่างการเดินทางได้เกิดเรื่องสนุกสนานน่าสนใจขึ้นมากมาย ภายในเรื่องยังมีแอบแฝงมุขเล็กๆ และยังเต็มไปด้วยเนื้อหาและคำสอนอีกด้วย

      ภาพยนตร์เรื่อง Little Big Soldier 《小兵大将》เป็นภาพยนตร์ที่ส่งเสริมให้มีความสันติภาพ ต่อต้านความรุนแรง การต่อสู้ ศึกสงครามที่ก่อให้เกิดหายนะและการได้มาซึ่งความสูญเสียของทั้ง 2 ฝ่าย

      ภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นในยุคมืดสมัยสงครามที่มีการแบ่งแยกการปกครองออกเป็นฝ่ายน้อยใหญ่ต่างๆ แต่ผลที่ตามมาหลังจากสงครามสงบลงนั้น คือ ความแล้งแค้นของผู้คน ต่างคนก็ต่างดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ไม่มีใครสามารถล่วงรู้อนาคตได้เลยว่า วันนี้หรือวันพรุ่งนี้จะยังมีชีวิตอยู่รอดหรือไม่

sianbun on February 15, 2010, 09:50:01 AM
เบื้องหลัง LITTLE BIG SOLDIER


      Little Big Soldier คือผลงานเรื่องที่ 99 ที่มีชื่อ แจ็คกี้ ชาน อยู่ในนั้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการหวนคืนสู่โปรแกรมหนังช่วงตรุษจีนอีกครั้งนับตั้งแต่ The Accidental Spy ในปี 2001 ที่สำคัญ นี่คือโปรเจกต์แรกที่เขาควบหลายตำแหน่งทั้ง ผู้อำนวยการสร้าง ผู้คุมงานสร้าง ผู้กำกับคิวบู๊ และนักแสดง

      แจ็คกี้ได้แนวคิดสำหรับเรื่อง Little Big Soldier มากว่าสองทศวรรษแล้ว แรกเริ่มเดิมที เขาหมายตาบทแม่ทัพหนุ่มไว้ให้ตัวเอง ต่อมาโปรเจกต์จึงค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ ทว่าหลังจากรับบทแม่ทัพตัวเอกในดราม่าย้อนยุคเรื่อง The Myth แล้ว แจ็คกี้กลับตัดสินใจใหม่เพราะไม่อยากแสดงบทแม่ทัพซ้ำอีกครั้ง เขาเสนอบทนี้ให้ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนและผู้กำกับชื่อดัง นั่นคือ เจียงเหวิน แต่เจียงเหวินไม่สามารถร่วมแสดงในงานชิ้นใหม่นี้ได้ ส่วนตัวแจ็คกี้เองก็ผละจากบทแม่ทัพและเลือกแสดงในบทพลทหารแทน

      สำหรับบทแม่ทัพที่ยังว่างอยู่  แจ็คกี้อยากให้บทนี้กับ เจย์ โชว หรือไม่ก็ลูกชายของเขา คือ เจย์ซี ชาน ทว่าผู้เป็นภรรยากลับเห็นว่าเจย์ไม่เหมาะกับบทนี้เท่าที่ควร เพราะทั้งเจย์และแจ็คกี้ต่างเคยรับบททำนองนี้มาแล้ว ส่วนเจย์ซี ถ้าแสดงบทนี้คู่กับพ่อในบทพลทหาร คนดูต้องรู้สึกขัดหูขัดตามากทีเดียว เธอจึงเสนอ วังลีฮอม ขึ้นมา โดยเชื่อว่าการประกบคู่กันของเขากับแจ็คกี้จะก่อให้เกิดปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่บนจอเงินได้แน่ๆ หลังจากนั้น แจ็คกี้รีบติดต่อลีฮอมทันที ในขณะที่ลีฮอมเองก็ตกปากรับคำทันทีเช่นกันทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อ่านบทเสียด้วยซ้ำ

      ในส่วนของ ติงเซิง ซึ่งนั่งแท่นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้  เขาเคยผ่านงานกำกับโฆษณาทางจอแก้วมาแล้วอย่างโชกโชน และนั่นคือส่วนที่ช่วยให้เขารู้จักมักคุ้นกับ แจ็คกี้ ชาน ด้วยความที่ชื่นชอบความสามารถของติงเซิงในการตีแผ่ลักษณะของเพศชายลงบนจอได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากติงเซิงเสร็จสิ้นภารกิจกำกับเรื่อง The Underdog Knight (นำแสดงโดย หลิวเหย่ และ แอนโธนี หว่อง) แจ็คกี้ก็ตัดสินใจหยิบยื่น Little Big Soldier ให้เป็นผลงานกำกับเรื่องต่อไปทันที

      ก่อนการถ่ายทำจะเริ่มขึ้น  ติงเซิงย้อนกลับไปศึกษาผลงานที่ผ่านๆ  มาของแจ็คกี้ตั้งแต่เรื่องแรกเพื่อเก็บเกี่ยวรายละเอียดของลีลาแอ็คชั่นและมุมกล้องในอดีตทั้งหมด เรียกว่าเขาทุ่มเทสุดตัวทีเดียวกับการนำเสนอปรากฏการณ์ภาพยนตร์แอ็กชั่นที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ ต่อผู้ชม ที่สำคัญ ทุกคืนในช่วงที่ถ่ายทำ เขาจะวาดสตอรี่บอร์ดเพื่อใช้ประกอบการถ่ายทำในวันถัดไปด้วยตัวเอง

      นอกจากนี้ ติงเซิงยังสังเกตเห็นว่ารูปลักษณ์ภายนอกของลีฮอมนั้นดูสุภาพอ่อนโยนเกินไปสำหรับบทแม่ทัพ ว่าแล้วจึงมุ่งมั่นค้นคว้าวิธีที่ฮอลลีวู้ดปรับเปลี่ยนหนุ่มรูปงามขวัญใจมหาชนให้กลายเป็นตัวละครที่ผู้ชมเชื่อได้สนิทใจแบบเจาะลึก

      ในขณะที่ลีฮอมเอง  ถึงจะไม่ใหม่ถอดด้ามสำหรับหนังแอ็กชั่น คือเคยแสดงในงานกำกับโดย สแตนลีย์ ตง เรื่อง China Delta Force และงานกำกับโดย แอนดรูว์ เลา เรื่อง The Avenging Fist มาแล้ว แต่ในการเตรียมตัวเพื่อรับบทแม่ทัพหนุ่ม ลีฮอมต้องฝึกฝนการใช้อาวุธจีนจำพวกดาบและทวนอย่างหนักหน่วง รวมถึงเรียนขี่ม้าด้วย


บทบาทการแสดงของนักแสดงในภาพยนตร์เรื่อง LITTLE BIG SOLDIER


เฉินหลง

      จากภาพยนตร์เรื่องนี้ เฉินหลง ได้ทุ่มเทเสียสละ ทั้งแรงกายแรงใจในการทำงาน เฉินหลง ได้ทำหลายหน้าที่ในกองถ่าย ไม่ว่าจะเป็น นักแสดง ผู้กำกับ ช่างกล้อง ช่างไฟ ตลอดจนไปถึง คนแบกของ รวมถึงยังปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องบางฉากบางตอนให้มีความตื่นเต้นและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังคอยแนะแนวทางการแสดงจากประสบการณ์ ที่มีมากกว่า 20 ปีของ เฉินหลง ให้แกนักแสดงรุ่นน้อง ทั้งในเรื่อง ของมุมกล้อง สีหน้า แววตา อารมณ์ของนักแสดง และยังคอยให้กำลังใจแก่นักแสดงรุ่นน้องคนอื่นๆ ทุกคนต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า เฉินหลง เป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

      ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เฉินหลง รับบทเป็นนายทหารแก่ธรรมดาคนหนึ่งที่ดำเนินชีวิตแบบพอมีพอกินใช้ชีวิตอยู่รอดไปวันๆ ชอบทำไรทำนา เกลียดการทำศึกสงครามการสู้รบ เพราะเค้าคิดว่าการสู้รบนั้นมีแต่สงผลเสียความหายนะในภายภาคหน้า


วังลีฮอม

      ทุกคนจะรู้จัก วังลีฮอม ในรูปลักษณ์ ที่ เรียกว่า สง่างาม ราวกับเจ้าชาย เป็นคนที่เรียกว่า เพรียบพร้อมสมบูรณ์แบบคนนึงเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถด้านการร้องเพลง แต่งเพลง เล่นดนตรี รวมถึงยังมีความสามารถในการร้องเพลงภาษาจีน อังกฤษ และกวางตุ้ง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับบทบาทการแสดงที่ได้รับในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นจะแตกต่างกับชีวิตจริงอย่างสินเชิง ในเรื่องนี้ วังลีฮอม ต้องรับบทเป็นพลทหารหนุ่มที่โดนลักพาตัว เพราะฉะนั้นบทบาทที่แสดงจะต้องคลุกดิน คลุกฝุ่น ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม ที่ต้องดูสมจริง รวมถึงทั้งการแสดงที่ต้องใช้เครื่องต่อสู้ยังเป็นสิ่งใหม่ต่อ วังลีฮอม มาก แต่ วังลีฮอม ก็พยายามฝึกฝนรวมถึงได้รับการชี้แนะจากนักแสดงรุ่นใหญ่ เฉินหลง ทำให้การแสดงออกมาได้ยอดเยี่ยมอย่างไม่มีที่ติ 


ความหมายของเพลงในเรื่อง LITTLE BIG SOLDIER


      เนื้อเพลงสื่อความหมายถึง  เฉินหลง ตัวละครที่มีความเรียบง่ายในชีวิต ตัวละครที่รักการทำไร่ทำนา ความใฝ่ฝัน ความคาดหวังอันสูงสุดของตัวละครนี้ คือ การมีภรรยา มีลูก มีครอบครัวที่อบอุ่น มีบ้าน เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว มีไรเอาไว้ปลูกผัก ปลูกมัน มีชีวิตที่ธรรมดาปราศจากการสู้รบ ศึกสงคราม


ผู้กำกับ  ติงเซิง ในภาพยนตร์ LITTLE BIG SOLDIER


      เมื่อ 20 ปีก่อน เฉินหลง ได้เล่าเนื้อเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่ง ที่เกี่ยวกับ นายทหารกับนายพลให้ ติงเซิง ฟัง เฉินหลง คิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะสามารถผลิตออกมาเป็นภาพยนตร์ที่ดีได้ อีกทั้ง ติงเซิง ได้เล็งเห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีจุดสนใจที่สามารถนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ได้ จึงได้เริ่มที่จะลงมือสร้างพล็อตเรื่องนี้ให้กลายเป็นภาพยนตร์จนสำเร็จ ส่วนด้านการกำกับ นักแสดงคนอื่นๆ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยกย่องและชื่นชม ผู้กำกับ ติงเซิง ที่มีความอดทนเสียสละ ละเอียดรอบคอบ และมีความทุ่มเทให้กับหน้าที่การงาน ถึงแม้จะอยู่ภายใต้ความกดดันที่สูง ผกก จะมีการวางแผนการทำงานอย่างดีทุกๆ คืน รวมถึงยังเป็นคนที่มีอารมณ์ขันกับนักแสดงคนอื่นๆ อีกด้วย


ทีมเบื้องหลัง


แจ็คกี้ ชาน


      แจ็คกี้ ชาน หรือ เฉินหลง เกิดที่ฮ่องกง ฝึกฝนศิลปะการแสดงงิ้วในคณะงิ้วปักปิ่งตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และเริ่มอาชีพบนแผ่นฟิล์มด้วยการเป็นนักแสดงแทนคิวบู๊ จนกระทั่งพรสวรรค์และศรัทธาในการสร้างภาพยนตร์เหนี่ยวนำเขาจากผู้ประสานงานนักแสดงแทนคิวบู๊ธรรมดาๆ คนหนึ่งไปสู่การเป็นนักแสดงนำ, ผู้กำกับฯ และผู้คุมงานสร้างภาพยนตร์ที่โด่งดังในระดับสากล

      การหลอมรวมอารมณ์ขันเข้ากับศิลปะการต่อสู้อย่างโดดเด่นทำให้ แจ็คกี้ ชาน เป็นที่สะดุดตา ความสำเร็จของเขาเริ่มต้นที่  Snake in Eagle’s Shadow (ปี 1978) ต่อด้วย Drunken Master (ปี 1979) หลังจากนั้นจึงเปิดตัวผลงานด้านกำกับชิ้นแรกที่ Fearless Hyena (ปี 1979) ภาพยนตร์ของเขาต่างฮิตติดชาร์ตและถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศในเอเชียตลอดมา

      ภาพลักษณ์นักแสดงตลกสุดบู๊ชาวจีนส่งผลให้เขาประสบความสำเร็จไปทั่วโลก  นิตยสาร Foreign Roadshow ของญี่ปุ่นโหวตตำแหน่ง Best Actor ให้เขาถึงเจ็ดปีติดกัน นอกจากนี้ เขายังคว้ารางวัล Golden Horse ของไต้หวันในสาขา Best Actor มาได้ถึงสองปีซ้อน คือ 1992 และ 1993 จากฝีมือการแสดงที่ฝากไว้ใน Police story III: Supercop และ Crime Story

      หลังจากประสบความสำเร็จมหาศาลในเอเชีย  แจ็คกี้ก้าวเข้าไปชนะใจผู้ชมชาวอเมริกันด้วยภาพยนตร์เรื่อง Rumble in the Bronx (ปี 1994) ตามติดมาด้วยภาพยนตร์แฟรนไชส์กระหึ่มโลกอย่าง Rush Hour (ปี 1999) และ Shanghai Noon (ปี 2000) ซึ่งผลักดันเขาสู่การเป็นนักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวู้ดไปโดยปริยาย

      ถึงแม้จะข้ามน้ำข้ามทะเลไปโด่งดังทุกสารทิศ แต่ แจ็คกี้ ชาน ยังคงสร้างภาพยนตร์ในบ้านเกิดเมืองนอนเรื่อยมา อย่างเช่น New Police Story (ปี 2004), The Myth (ปี 2005) และล่าสุดคือ Shinjuku Incident (ปี 2009)


วังลีฮอม (หรือ หวังลี่หง)


      วังลีฮอมเป็นทั้งศิลปินนักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์  ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน และนักแสดงภาพยนตร์ ในวัฒนธรรมป๊อปของจีนยุคปัจจุบัน ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักมากที่สุดชื่อหนึ่งในแวดวงดนตรีและภาพยนตร์ เขาผ่านการฝึกฝนอย่างมีแบบแผนจาก Eastman School of Music, Williams College และ Berklee College of Music จนเกิดเป็นสไตล์ดนตรีเฉพาะตัวซึ่งโดดเด่นด้วยการหลอมรวมองค์ประกอบตามขนบจีนโบราณ (อย่างเช่น งิ้วปักกิ่ง และดนตรีพื้นเมืองของเผ่าต่างๆ ในจีน) เข้ากับการเรียบเรียงเสียงประสานแบบสากล

      วังลีฮอมเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นตั้งแต่ปี 1995 และมีผลงานเพลงออกมาแล้ว 25 อัลบั้ม ซึ่งขายได้กว่า 15 ล้านยูนิตทั่วโลก ที่สำคัญ เขาคว้างรางวัล Golden Melody Award ของไต้หวัน (เทียบได้กับรางวัลแกรมมี่ในแวดวงดนตรีของจีน) มาแล้วถึง 4 ครั้ง   

      ในปี 2000 วังลีฮอมเปิดตัวผลงานทางภาพยนตร์ที่ China Strike Force ซึ่งฝีมือในการแสดงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเครือข่ายนักวิจารณ์ในฮ่องกง หลังจากนั้นไม่นาน เขาได้รับบทนำเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์ฮ่องกงอีกเรื่องหนึ่ง นั่นคืองานกำกับโดย แอนดรูว์ เลา (จาก Infernal Affairs) เรื่อง The Avenging Fist (ปี 2001) นอกจากนี้ วังลีฮอมยังฝากฝีมือการแสดงไว้ในภาพยนตร์ญี่ปุ่นอีกสองเรื่อง ได้แก่ Moon Child (ปี 2003) และ Starlit Highnoon (ปี 2005) ในขณะที่ผลงานทางภาพยนตร์ชิ้นสำคัญ คืองานกำกับและคุมงานสร้างโดยเจ้าของรางวัลออสการ์ อังลี่ เรื่อง Lust, Caution (ปี 2007)


ติงเซิง – ผู้กำกับภาพยนตร์


      ติงเซิงเกิดในปี 1970 และร่ำเรียนศิลปะอยู่ที่เมืองชิงเต่าก่อนจะสอบเข้าคณะวิจิตรศิลป์ในวิทยาลัยภาพยนตร์ประจำกรุงปักกิ่ง โดยเลือกเรียนในสาขาศิลปะและการออกแบบ

      ในปี 2001 หลังจากเปิดตัวผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรก คือ A Storm in a Teacup ไปแล้ว ติงเซิงก็กลับไปเรียนที่วิทยาลัยภาพยนตร์ประจำกรุงปักกิ่งอีกครั้งในสาขาการกำกับภาพยนตร์ จนกระทั่งปี 2008 ติงเซิงมีผลงานกำกับภาพยนตร์อีกครั้ง คือแอ็กชั่นคอเมดี้เรื่อง The Underdog Knight ซึ่งเข้าตา แจ็คกี้ ชาน เป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดดึงตัวมานั่งแท่นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Little Big Soldier