กองทรัสต์ ‘BKER’ กระแสตอบรับดี ยอดจองซื้อเกินกว่ามูลค่าเสนอขาย

กองทรัสต์ ‘BKER’ กระแสตอบรับดี ยอดจองซื้อเกินกว่ามูลค่าเสนอขาย ผู้จัดการกองทรัสต์ร่วมพร้อมเสริมแกร่งธุรกิจศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อโอกาสเพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ลงทุน  



ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง เค.อี.รีเทล (BKER: บี เค อี อาร์) ได้รับกระแสตอบรับดี ทั้งจากผู้ถือหน่วยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์คริสตัล รีเทล โกรท (CRYSTAL) เดิม ที่ใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหน่วยทรัสต์ และลงทุนเพิ่มเติม รวมถึงผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนทั่วไป ส่งผลให้ยอดจองซื้อหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ BKER เกินกว่ามูลค่าที่เสนอขาย  โดยดำเนินการจองซื้อหน่วยทรัสต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อ 26 พ.ย. 2562 และเตรียมแปลงสภาพ CRYSTAL เป็นกองทรัสต์ BKER คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมาณกลางเดือน ธ.ค. นี้ พร้อมเดินหน้าลงทุนศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ 10 โครงการ ผนึกกำลังผู้จัดการกองทรัสต์ร่วม เพิ่มความแข็งแกร่งธุรกิจศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อโอกาสเติบโตและหาผลตอบแทนสม่ำเสมอให้ผู้ลงทุน


นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า จากการเสนอขายหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ บัวหลวง เค.อี. รีเทล (BKER: บี เค อี อาร์) เมื่อวันที่ 18 - 22 พ.ย. และ 25 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ในราคา 9.50 - 10.00 บาทต่อหน่วย ปรากฏว่า ผู้ลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อหน่วยทรัสต์มากเกินกว่ามูลค่าที่เสนอขาย ทั้งกลุ่มผู้ถือหน่วยลงทุน CRYSTALเดิม ที่ได้สิทธิสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน CRYSTAL เป็นหน่วยทรัสต์ BKER และสิทธิในการจองซื้อหน่วยทรัสต์ใหม่ รวมถึงผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนทั่วไปที่ร่วมจองซื้อหน่วยทรัสต์ใหม่ โดยได้ดำเนินการจองซื้อหน่วยทรัสต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2562

ผู้จัดการกองทรัสต์ BKER กำหนดราคาสุดท้าย อยู่ที่ 9.60 บาทต่อหน่วย ซึ่งจากการประมาณการเงินจ่ายประโยชน์ตอบแทนของกองทรัสต์ปีแรกจะอยู่ที่ 0.7291 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราการผลตอบแทน 7.59% โดยอ้างอิงประมาณการกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว จากงบกำไรขาดทุนที่คาดคะเนตามสมมติฐานสำหรับงวด 12 เดือนแรก  ทั้งนี้ คาดว่า กองทรัสต์ BKER จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประมาณช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2562

“ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ร่วมของกองทรัสต์ BKER ขอขอบพระคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่มอบความไว้วางใจ จองซื้อหน่วยทรัสต์ BKER เข้ามาจนเกินกว่ามูลค่าที่จัดสรร หลังจากนี้ กองทุนบัวหลวง ก็จะใช้ความเชี่ยวชาญในการบริหารกองทรัสต์ ผนึกกำลังกับ เค.อี. รีท แมเนจเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยภายใต้กลุ่มบริษัท เค.อี. ที่คร่ำหวอดด้านการพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ ทั้งประเภทที่อยู่อาศัยและโครงการศูนย์การค้ามานานกว่า 12 ปี ร่วมกันบริหารศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ ทั้ง 10 โครงการที่กองทรัสต์ BKER จะเข้าไปลงทุนครั้งแรก ให้มีประสิทธิภาพที่สุด พร้อมกับมองหาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ที่มีศักยภาพมีโอกาสเติบโตและผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุน” นายพรชลิต กล่าว


นายกวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เค.อี. กล่าวว่า ต้องขอขอบพระคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่สนใจและไว้วางใจกองทรัสต์ BKER จนทำให้มียอดจองซื้อหน่วยทรัสต์ BKER เกินเป้าหมายที่วางไว้ ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของ เค.อี.รีท แมนเนจเมนท์ บริษัทย่อยภายใต้กลุ่มบริษัท เค.อี. ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับ Luxury ที่ร่วมกับกองทุนบัวหลวง จัดตั้ง BKER ขึ้นมา ให้เป็นกองรีทที่น่าลงทุนที่สุดในขณะนี้ และต่อจากนี้ไป ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ร่วม จะตั้งใจพัฒนา และมุ่งมั่นบริหารกองทรัสต์ BKER เพื่อให้ได้ผลประกอบการที่ดีอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับผู้ลงทุนทุกท่านได้รับความสำเร็จไปพร้อมกัน

ศูนย์การค้าแบบไลฟ์สไตล์ 10 โครงการ ที่ BKER จะเข้าลงทุนครั้งแรกในสิทธิการเช่าระยะยาว มีอายุของสิทธิการเช่าเฉลี่ยรวมทุกโครงการ ประมาณ 28.3 ปี ประกอบด้วย

1) คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) มีทั้งส่วนที่รับโอนจาก CRYSTAL และลงทุนเพิ่มเติม
2) เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา (TC) มีทั้งส่วนที่รับโอนจาก CRYSTAL และลงทุนเพิ่มเติม
3) เดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ (TCR)
4) อมอรินี่ รามอินทรา (Amorini)
5) แอมพาร์ค จุฬา (I’m Park)
6) เพลินนารี่ มอลล์ วัชรพล (Plearnary)
7) สัมมากร เพลส รามคำแหง (ฝั่งตะวันตก) (SPRM)
สัมมากร เพลส รังสิต (SPRS)
9) สัมมากร เพลส ราชพฤกษ์ (SPRP)
10) เดอะ ซีน ทาวน์ อิน ทาวน์ (The Scene)

สำหรับผู้ลงทุนที่จองซื้อหน่วยทรัสต์ในราคาที่สูงกว่าราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) หรือไม่ได้รับจัดสรร หรือได้รับจัดสรรไม่ครบตามจำนวนที่จองซื้อ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย และบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้แทนการจัดจำหน่าย จะดำเนินการคืนเงินค่าจองซื้อตามวิธีที่ระบุไว้ในใบจองซื้อโดย 1. การโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ภายใน 7 วันทำการนับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการเสนอขาย หรือ 2. การโอนเงินผ่านระบบการโอนอัตโนมัติ (ATS) (เฉพาะการจองซื้อผ่านผู้แทนการจัดจำหน่าย) ภายใน 5 วันทำการนับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการเสนอขาย

กรณีที่ไม่สามารถคืนเงินค่าจองซื้อหน่วยทรัสต์ ตามวิธีที่ระบุในใบจองซื้อได้ (ข้อ 1 และ 2) ผู้จัดการการจัดจำหน่าย และผู้แทนการจัดจำหน่ายจะชำระเป็นเช็คขีดคร่อมสั่งจ่ายในชื่อของผู้จองซื้อ ภายใน 10 วันทำการนับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการเสนอขายแทน

ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bkerreit.com หรือสอบถามได้ที่ บริการบัวหลวงโฟน 1333

ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า
เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนจากหนังสือชี้ชวนฉบับเต็ม