happy on November 20, 2019, 08:06:55 PM
“ยู ซิตี้” สยายปีกเข้าซื้อ 19 โรงแรมในเยอรมันผ่าน “เวียนนา เฮ้าส์”
จับตลาดกลุ่มบูทีคไลฟ์สไตล์ ชูเอกลักษณ์โรงแรมกลางเมือง


กรุงเทพ/ 20 พฤศจิกายน 2562 – “ยู ซิตี้” ประกาศความพร้อมดันธุรกิจโรงแรมในยุโรปเติบโตต่อเนื่อง รุกคืบขยายพอร์ต “เวียนนา เฮ้าส์” เพิ่มโรงแรมในเครือ 19 แห่ง จากการเข้าซื้อสองแบรนด์ซิตี้โฮเทลในเยอรมนีและสวิสเซอร์แลนด์เมื่อกลางปี เตรียมเผยโฉมโรงแรมทั้งหมดในปีหน้าภายใต้แบรนด์ “เวียนนา เฮ้าส์” “เวียนนา เฮ้าส์ อีซี่” และ “เวียนนา ทาวน์เฮ้าส์” เจาะตลาดนักเดินทางธุรกิจและนักท่องเที่ยว ชิงเค้กก้อนใหญ่ในภูมิภาค ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย ก่อนนำแบรนด์ปักธงสู่เอเชียในอนาคต


นางสาวปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  “การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ “ยู ซิตี้” ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 890 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อกิจการโรงแรมรวมทั้งสิ้น 19 แห่ง ผ่านทาง บริษัท เวียนนา เฮ้าส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ “ยู ซิตี้” ในประเทศเยอรมนี โดยมี 17 แห่งเป็นโรงแรมที่เปิดดำเนินการอยู่ใจกลางเมือง และอีกสองแห่งเป็นโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง  ซึ่งโรงแรมทั้ง 17 แห่งนั้นประกอบไปด้วยโรงแรมแบบบูทีคโฮเต็ลรวมทั้งสิ้น 12 แห่งที่เดิมเป็นแบรนด์อาร์โคน่า และอีก 5 แห่งเป็นโรงแรมที่ปัจจุบันยังดำเนินการอยู่ภายใต้แบรนด์ “สไตเกนเบอร์เกอร์” (Steigenberger) โดยตั้งอยู่ในใจกลางเมืองที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก้ และโรงแรมทั้งหมดนี้จะถูกดำเนินการในลักษณะเช่าบริหารภายใต้แบรนด์ของเวียนนา เฮ้าส์ ซึ่งทำให้ “ยู ซิตี้” เป็นเจ้าของโรมแรมจำนวน 57 แห่ง มีห้องพักรวม 9,210 ห้อง ทั้งนี้ ยู ซิตี้ ยังมี ธุรกิจบริหารโรงแรม ภายใต้สี่แบรนด์ได้แก่ “เวียนนา เฮ้าส์” “ยู” “อีสติน” และ “เทรฟลอดจ์” โดยมีโรงแรมในเครือรวมทั้งสิ้น 117 โรงแรม หรือ มากกว่า 30,000 ห้อง ซึ่งในจำนวนนี้มีจำนวนโรงแรมที่เปิดดำเนินการทั้งหมด 78 โรงแรม หรือ 11,720 ห้อง”

สำหรับการขยายธุรกิจในประเทศเยอรมนีในครั้งนี้ “เวียนนา เฮ้าส์” เล็งเห็นโอกาสในการแข่งขันเนื่องจากตลาดของนักเดินทางเพื่อธุรกิจ ถือเป็นตลาดกลุ่มใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคยุโรป ขณะเดียวกันยังเน้นจุดเด่นของแบรนด์ด้วยการลงทุนในโรงแรมซึ่งล้วนมีลักษณะเฉพาะตัวที่เป็นสเน่ห์ไม่เหมือนใคร ทั้งโครงสร้างภายนอกและที่ตั้งซึ่งอยู่ใจกลางเมืองของอาคาร ไปจนถึงการออกแบบห้องพักที่มีรูปแบบไม่ซ้ำกัน


นายรูเพิร์ท ซิมอนเนอร์ ประธานคณะผู้บริหารของเวียนนา เฮ้าส์ กล่าวว่า เหตุผลหลักในการตัดสินใจของ เวียนนา เฮ้าส์ ในครั้งนี้ประกอบไปด้วยที่ตั้งของโรงแรม ลักษณะของโรงแรมเอง รวมถึงบุคลากรที่มีอยู่แล้วของโรงแรมเหล่านั้น  “ตลาดท่องเที่ยวเยอรมันทั้งที่เป็นอินบาวด์ และเอาท์บาวด์ นับว่าเป็นตลาดที่สำคัญมากสำหรับเรา โดยตัวของโรงแรมเองรวมไปถึงดีไซน์นั้นก็สามารถเข้ากันกับแบรนด์ของเวียนนาเฮ้าส์ ได้อย่างดี และเราก็มองว่าบุคลากรที่ให้บริการอยู่ ณ โรงแรมเหล่านี้ล้วนมีหัวใจการบริการในแบบอย่างที่เราต้องการด้วยเช่นกัน 

ทั้งนี้ โรงแรมในเครืออาร์โคน่ามีการดูแลให้อยู่ในสภาพที่ดี และผลประกอบการที่มั่นคงทำให้เราเห็นศักยภาพในเชิงบวก ซึ่งสิ่งที่เรามุ่งเน้นคือการเพิ่มยอดขาย โดยเราคาดว่าจะได้เห็นการเติบโตขึ้นที่ 3% ในช่วง 18 เดือนแรกที่เราเข้าไปบริหาร ซึ่งโรงแรมใหม่ทั้งหมดที่เข้ามาอยู่ภายใต้เครือเวียนนา เฮ้าส์ นี้จะตอบโจทย์ความต้องการของทั้งกลุ่มนักเดินทางเพื่อธุรกิจ และกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยวางตำแหน่งทางการตลาดไว้เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ที่เป็นแนวบูทีคไลฟ์สไตล์

ปัจจุบัน เราอาจให้นิยามคำว่าความหรูสบาย หรือลักชัวรี่ แตกต่างไปจากเดิมที่ดูจากการวัดจำนวนดาวของแต่ละโรงแรม เพราะนักเดินทางยุคนี้จะนิยมการบริการที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และสะดวกสบาย ซึ่งหากจะพูดถึงปรัชญาของแบรนด์เราเพียงหนึ่งคำ เราคิดว่ามันคือ ความเป็นตัวของตัวเอง (Individualistic)” นายรูเพิร์ท กล่าว


ในปี 2563 แบรนด์เวียนนา เฮ้าส์จะปรากฎอยู่ในหลายเมืองทั่วออสเตรีย เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็น สตุทการ์ท, เว็ตสลาร์, ออสนาบรุค, มิวนิค, เบรเมน, ชาฟเฮาเซ่น, ไลป์ซิก, บาเดน-บาเดน, พ็อตส์ดัม, เบอร์ลิน, สตราลซุนด์, โรสต็อค, บราวน์ชวิค, วิสมาร์ และไอเซอนัค โดยโรงแรมเหล่านี้จะถูกรีแบรนด์ใหม่ภายใต้ 3 แบรนด์ของเวียนนา เฮ้าส์ ได้แก่ “เวียนนา เฮ้าส์” “เวียนนา เฮ้าส์ อีซี่” และ “เวียนนา ทาวน์เฮ้าส์” ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป

สำหรับแผนขยายธุรกิจของเวียนนา เฮ้าส์ นั้น โดยปกติจะมีอัตราการเติบโต 7-9% ต่อปี หรือจะมีการซื้อโรงแรมใหม่ ๆ เข้าเครืออยู่แล้ว เฉลี่ยปีละ 5 โรงแรม “ทวีปเอเชียนั้นเป็นตลาดที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และด้วยพันธมิตรของเราอย่าง “ยู ซิตี้” ปัจจุบันเรามีออฟฟิศอยู่ทั่วเอเชีย ดังนั้น จะต้องมีชื่อของเวียนนา เฮ้าส์ ในการเริ่มต้นลงหลักปักฐานในเมืองหลวงของเอเชียไม่หนึ่งก็สองแห่งอย่างแน่นอน” นายรูเพิร์ท กล่าวเสริม












“ในส่วนของผู้ถือหุ้น เรามีความยินดีที่ เวียนนา เฮ้าส์ ได้บรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ ซึ่งนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น รูปแบบของโรงแรมที่มีความสนุกสนานและความคิดสร้างสรรค์ จะเป็นส่วนสำคัญที่เติมเข้ามาให้นักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจและนักท่องเที่ยวทั่วไป ด้วยความร่วมมือของเรา “ยู ซิตี้” มุ่งมั่นที่จะส่งเสริม และผลักดันให้แบรนด์ในเครือมีการพัฒนาต่อยอดออกไปอยู่เสมอ” นางสาวปิยพร กล่าว

###

เกี่ยวกับ ยู ซิตี้

บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปี และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 53,000 ล้านบาท (ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/62) โดยกลยุทธ์ทางธุรกิจของ ยู ซิตี้ คือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศทั่วโลก  เช่น  โรงแรมในยุโรป ภายใต้แบรนด์เวียนนา เฮ้าส์ จำนวน 57 แห่ง ด้วยจำนวนห้องมากกว่า 8,000 ห้อง ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปยุโรป และโรงแรมในประเทศไทยอีก 7 แห่ง เช่น โรงแรมอีสตินแกรนด์ สาทร   โรงแรมยูสาทร และโรงแรมยู เชียงใหม่ ซึ่งบริษัทมีธุรกิจบริหารโรงแรม ภายใต้แบรนด์ “เวียนนา เฮ้าส์” “ยู โฮเต็ล”  “อีสติน” และ “เทรเวลลอดจ์” โดยมีจำนวนห้องพักภายใต้การบริหารทั้งหมด จำนวน 117 โรงแรม ด้วยจำนวนห้องมากกว่า 30,000 ห้อง 
 
นอกจากนี้ ยู ซิตี้ ได้เริ่มเข้าไปพัฒนาอาคารศุลกสถาน หรือโครงการโรงภาษีร้อยชักสามที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยโครงการระดับ 4.6 พันล้านบาทนี้จะใช้เวลากว่า 6 ปีในการบูรณะและพัฒนาโครงสร้างที่มีอายุเก่าแก่กว่า 130 ปี ให้กลับมางามสง่าดังเดิม พร้อมทั้งการก่อสร้างอาคารใหม่ข้างเคียงอย่างกลมกลืนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของชุมชนในย่านเจริญกรุง

นอกเหนือจากธุรกิจโรงแรมแล้ว ยู ซิตี้ ยังได้มีการลงทุนในโครงการอื่น ๆ อีกหลายโครงการ เช่น โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ ด้วยคอนเซปการศึกษาสำหรับอนาคตในศตวรรษที่ 21 ที่เน้นการออกแบบการเรียนการสอนตามความสนใจและความต้องการของนักเรียนเป็นรายบุคคล บริเวณถนนบางนา-ตราด มูลค่าลงทุน 4,800  ล้านบาท  โครงการก่อสร้างอาคารประเภทใช้สอยรวม (mixed - use) ซึ่งมีโรงแรมและพื้นที่อาคารสำนักงานอยู่ด้วยกันที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าพญาไท มูลค่า 9,500 ล้านบาท และยังร่วมมือกับพันธมิตรอย่างแสนสิริในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบนแนวรถไฟฟ้า มากกว่า 25 โครงการ เช่น เดอะไลน์จตุจักร โมนูเมนต์ทองหล่อ รวมมูลค่าโครงการกว่าแสนล้านบาท


เกี่ยวกับ เวียนนา เฮ้าส์

นิยามของ เวียนนา เฮ้าส์ นั้นอาจหมายถึงการเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตั้งแต่รูปโฉมความเป็นยุโรปแห่งอดีต จนถึงการบริการในรูปแบบที่ทันสมัยในปัจจุบัน เวียนนา เฮ้าส์ มุ่งเน้นการบริการที่เข้าถึงตัวตนของแต่ละบุคคลเสมอมา นับว่าเป็นการให้บริการที่ครบถ้วนตามคำจำกัดความ นอกจากนี้ยังมีความแนบแน่นกับชุมชน และเดินพร้อมไปกับจังหวะชีพจรของกาลเวลา เครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรียแห่งนี้ เป็นทั้งเจ้าของสินทรัพย์ และผู้เช่าสัญญาการบริหารโรงแรมต่าง ๆ ที่มีกลุ่มธุรกิจหลักคือการเดินทางเชิงธุรกิจ และการเดินทางระหว่างเมืองต่าง ๆ ในยุโรป และในอนาคต ก็มีแผนการเปิดรีสอร์ตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย โดยแบรนด์ต่าง ๆ ในเครือของบริษัทนั้น ได้แก่ “เวียนนา เฮ้าส์,” “เวียนนา เฮ้าส์ อีซี่,” “เวียนนา ทาวน์เฮ้าส์,” และ “เวียนนา เฮ้าส์  รีโว่”

โรงแรมต่าง ๆ ที่เป็นลักษณะซิตี้โฮเต็ลของเวียนนา เฮ้าส์ นั้น จัดอยู่ในกลุ่มลูกค้าตลาดบน มีการผสมผสานรูปแบบการดีไซน์อย่างมีระดับ และอยู่เหนือกาลเวลา ส่วน เวียนนา เฮ้าส์ อีซี่ นั้น ให้ความรู้สึกของความสมาร์ทกึ่งลำลอง ผสานกับสไตล์เท่ แบบสบาย ๆ ส่วน เวียนนา ทาวน์เฮ้าส์ จะเป็น Bed & Breakfast ที่เน้นความชิค และบูทีค กับไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวของตัวเอง และ เวียนนา เฮ้าส์ รีโว่ นั้นจัดว่าเป็นการปฏิวัติไลฟ์สไตล์คนเมือง เป็นโรงแรมที่ยังมีบริการแบบเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นตัวตนอันปัจเจกในรูปแบบของบ้านที่อยู่อาศัย
« Last Edit: November 20, 2019, 08:09:45 PM by happy »