บริษัท ควอลิตี้พลัส เอสเทติค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดลงนามสัญญา
การใช้สิทธิในผลงานวิจัยเรื่อง สูตรนาโนอีมัลชั่นที่บรรจุแอลฟาแมงโกสตินจากเปลือกมังคุด
กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายอัษฎา เทพยศ ประธานบริษัท ควอลิตี้พลัสเอสเทติคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดและ กรรมการผู้จัดการ นายวุฒิพงษ์ ผาณิตเศรษฐกร บริษัท ควอลิตี้พลัสเอสเทติคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมพิธีลงนามสัญญาการใช้สิทธิในผลงานวิจัยเรื่อง สูตรนาโนอีมัลชั่นที่บรรจุแอลฟาแมงโกสตินจากเปลือกมังคุด ณ วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ซึ่งสัญญาการใช้สิทธิผลงานวิจัยนั้นเกิดจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ บริษัท ควอลิตี้พลัส เอสเทติค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยรองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายอัษฎา เทพยศ ประธานบริษัท ควอลิตี้พลัส เอสเทติค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ลงนามในสัญญาการใช้สิทธิผลงานวิจัยระหว่างสองสถาบัน ภายในงานพิธีลงนามสัญญาการใช้สิทธิในผลงานวิจัยนั้นได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร. อาณัติ ลีมัคเดช ผู้อำนวยการศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญาและบ่มเพาะวิสาหกิจ เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงศ์ในพิธีลงนามสัญญาการใช้สิทธิงานวิจัยครั้งนี้
การร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ บริษัท ควอลิตี้พลัสเอสเทติค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นการนำผลงานวิจัยจากภาคการศึกษาไปสู่การต่อยอดในอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ นับว่าเป็นการพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีทางชีวภาพในเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ ซึ่งผลงานวิจัยเรื่อง สูตรนาโนอีมัลชั่นที่บรรจุแอลฟาแมงโกสตินจากเปลือกมังคุด เป็นการต่อยอดนวัตกรรมสารแซนโทนบริสุทธิ์ (Purified Xanthone)ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ในงาน Silicon Valley International Invention Festival 2018 รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาภายใต้แบรนด์แอคนอค (Acnoc)หลังจากที่สารแซนบริสุทธิ์ (Purified Xanthone) ได้รับรางวัลดังกล่าวในปี พ.ศ. 2561 บริษัท ควอลิตี้พลัสเอสเทติค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในโทนการพัฒนาสารสกัดนี้ด้วยเทคโนโลยีนาโนอีมัลชั่น จนได้พัฒนามาเป็นผลิตภัณฑ์ แอคนอค ออลไฮบริดเอสเซนส์ (Acnoc All Hybrid Essence) ภายใต้แบรนด์แอคนอค (Acnoc)
ผลิตภัณฑ์ แอคนอค ออลไฮบริดเอสเซนส์ (Acnoc All Hybrid Essence) จึงเป็นต้นแบบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำผลงานวิจัยของประเทศไทยมาพัฒนาต่อยอดในอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จผลิตภัณฑ์นี้จึงกล่าวได้ว่าเป็นการต่อยอดผลงานวิจัยจาก 2 สถาบันการศึกษาของประเทศไทย จากการพัฒนาสารสกัดหยาบจากมังคุดด้วยเทคโนโลยีการสกัดสารบริสุทธิ์ที่เป็นผลงานวิจัยของ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนได้เป็นสารสกัดที่เรียกว่าสารแซนโทนบริสุทธิ์ (Purified Xanthone) และนำมาวิจัยพัฒนาต่อด้วยเทคโนโลยีนาโนอีมัลชั่นได้สำเร็จจากผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลายเป็นสารสำคัญแซนโทนบริสุทธิ์ในรูปแบบนาโนอีมัลชั่น (Purified XanthoneNano Emulsion) ที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุในการเกิดสิว ลดเลือนอาการอักเสบและระคายเคืองของผิว ยับยั้งไทโรซิเนส และต่อต้านอนุมูลอิสระ และด้วยรูปแบบนาโนอีมัลชั่นทำให้การออกฤทธิ์ต่อผิวของสารแซนโทนบริสุทธิ์ (Purified Xanthone) มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นสารสำคัญที่ได้รับรองจากการผลงานวิจัย อีกทั้งยังได้รับความพึงพอใจอย่างดีเยี่ยมจากผู้บริโภคจริงจากการใช้ผลิตภัณฑ์ แอคนอค ออลไฮบริดเอสเซนส์ (Acnoc All Hybrid Essence) ที่พัฒนามาจากงานวิจัยชิ้นนี้
โดยการลงนามข้อตกลงครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับและการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องสำอางของประเทศไทยที่สามารถพัฒนาสารสกัดสำคัญจากผลผลิตทางการเกษตรในประเทศให้มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับระดับสากลได้เป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรให้สูงขึ้นด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยีภายในประเทศ และยังทำให้อุตสาหกรรมเครื่องสำอางลดการนำเข้าสารสกัดสำคัญจากต่างประเทศในการบริโภคในอุตสาหกรรมนี้ อีกทั้งยังสามารถส่งออกสารสกัดสำคัญนี้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางในระดับนานาชาติได้เช่นกัน