happy on September 28, 2019, 06:38:19 PM

SWIFT ยกระดับการดำเนินการชำระเงินรวดเร็วเพียงไม่กี่วินาที

·                 บริการใหม่เชื่อมโยงระบบ gpi, ธนาคาร และระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ในประเทศเข้าด้วยกัน

·                 ความสำเร็จในการทดสอบร่วมกับระบบ TIPS หรือระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ในทวีปยุโรป


SWIFT ประกาศเปิดตัวบริการใหม่ยกระดับการชำระแบบเรียลไทม์ทั่วโลกโดยเชื่อมโยงระบบ gpi, บริการชำระเงินระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์ เข้ากับระบบการชำระเงินภายในประเทศแบบทันทีในแต่ละประเทศทั่วโลก

การเชื่อมโยงระบบ gpi การโอนเงินระหว่างประเทศ และเครือข่ายการชำระเงินแบบเรียลไทม์ในประเทศ ช่วยให้ SWIFT และธนาคารที่เป็นสมาชิก gpi มีความสะดวกในการชำระเงินค่าธรรมเนียมล่วงหน้า พร้อมทั้งแสดงการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่โปร่งใสให้แก่ผู้ชำระเงิน อีกทั้งตอกย้ำความเชื่อมั่นในระบบการชำระเงินระหว่างประเทศที่พร้อมใช้งานอย่างแพร่หลายอย่างทั่วโลก

เทคโนโลยีอันก้าวหน้านี้จะช่วยเพิ่มความเร็วและความโปร่งใสให้ระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ gpi ที่เชื่อมโยงกับระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ในประเทศ ส่งผลให้ธนาคารสามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างเดิมที่มีอยู่เพื่อมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า การผสมผสาน gpi เข้ากับระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ในประเทศผ่านทางธนาคาร ถือเป็นการนำโครงสร้างพื้นฐานของการชำระเงินระหว่างประเทศ และการชำระเงินภายในประเทศที่มีอยู่มาปรับใช้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ รวมถึงความซับซ้อนต่าง ๆ โดยไม่ต้องสร้างระบบโครงสร้างใหม่

บริการใหม่นี้จะเปิดให้บริการสำหรับลูกค้าธนาคารทุกประเภทตั้งแต่องค์กรต่างชาติขนาดใหญ่ไปจนถึง SMEs, ร้านค้าปลีก และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยช่วยให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์จากบริการที่รวดเร็ว, รายละเอียดการจ่ายค่าธรรมเนียมล่วงหน้าที่ชัดเจน และการคาดการณ์ว่ายอดเงินจะเข้าบัญชีผู้รับผลประโยชน์ที่อยู่ปลายทางเมื่อใด

การทดลองระหว่างประเทศหลายครั้งในทั่วโลกแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ SWIFT ในการดำเนินการชำระเงินระหว่างประเทศตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางได้จนเสร็จสิ้นภายในไม่กี่วินาทีผ่านระบบ gpi ที่สามารถเชื่อมโยงกับระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ในประเทศ

การทดสอบกับระบบการชำระเงิน New Payments Platform (NPP) ในประเทศออสเตรเลีย โดยชำระเงินระหว่างประเทศออสเตรเลียและจีน ประสบผลสำเร็จภายในเวลาเพียง 18 วินาที
 
การทดสอบกับระบบการชำระเงิน Fast And Secure Transfers (FAST) ในประเทศสิงคโปร์ ที่มี 17 ธนาคารจาก 7 ประเทศเข้าร่วม ประสบผลสำเร็จภายในเวลาเพียง 13 วินาที ส่วนการชำระเงินระหว่างทุกทวีปนั้นเสร็จสิ้นภายในเวลาเพียง 25 วินาที

การทดสอบล่าสุดสำหรับระบบ TARGET Instant Payments Settlement (TIPS) ในทวีปยุโรประหว่างธนาคารกลางยุโรป (ECB), SWIFT และกลุ่มธนาคาร 19 แห่ง โดยดำเนินการทดสอบกับธนาคาร 12 แห่ง ที่ดำเนินการชำระเงินข้ามประเทศ จาก 9 ประเทศ (ออสเตรเลีย, จีน, เยอรมนี, ฮ่องกง, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, รัสเซีย, ไทย และสหรัฐอเมริกา) ไปยัง 5 ธนาคารในทวีปยุโรป ซึ่งการชำระเงินจากสิงคโปร์ผ่านไปทางเยอรมนี รวมถึงการนำเงินเข้าบัญชีผู้รับผลประโยชน์ ใช้เวลาเพียง 41 วินาที โดยคาดว่าจะมีการพฒนาเพิ่มเติมพร้อมกับการเปิดให้บริการการชำระเงินแบบเรียลไทม์ทั่วโลก

คุณแฮรี่ นิวแมน, หัวหน้าฝ่ายการธนาคารของ SWIFT กล่าวว่า “เรากำลังสร้างอนาคตและพัฒนาให้การชำระเงินระหว่างประเทศสะดวกรวดเร็วเหมือนกับการชำระเงินภายในประเทศ ที่ SWIFT เราคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่สถาบันทางการเงินทั้งหมดจะมาร่วมมือกัน เพื่อสร้างบริการชำระเงินแบบเรียลไทม์ระดับโลกที่สมบูรณ์แบบ เรากำลังหารือกับ MIs เกี่ยวกับการเริ่มใช้งานระบบปฏิบัติการและเชิญระบบการชำระเงินเรียลไทม์ในประเทศทั้งหมดเข้าร่วมกับโครงการที่น่าสนใจนี้ เทคโนโลยีเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่าระบบการชำระเงินระหว่างประเทศสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเท่ากับระบบการชำระเงินภายในประเทศ”

คุณศีลวัต สันติวิสัฎฐ์, รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส, ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “วิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นเพื่อยกระดับการชำระเงินแบบเรียลไทม์ทั่วโลกนั้นมีความชัดเจนยิ่งขึ้น เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่เห็น SWIFT ขยายแพลตฟอร์มสู่ระดับโลก SWIFT ใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เชื่อมโยงเข้ากับเส้นทางการชำระเงินภายในประเทศทั้ง 3 เส้นทางได้อย่างประสบความสำเร็จ ซึ่งระบบการชำระเงิน TARGET instant payment settlement (TIPS) ในยุโรป ถือเป็นความสำเร็จของการผสานโครงสร้างล่าสุด ธนาคารกสิกรไทยรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนร่วมตั้งแต่จุดเริ่มต้นเพื่อส่งมอบระบบการชำระเงินระหว่างประเทศที่ตอบสนองความรวดเร็วที่ลูกค้าต้องการในปัจจุบัน”

คุณชี ปิง (She Bing), ผู้จัดการบริหารแผนกเคลียร์ริ่ง, ธนาคารแห่งประเทศจีนสำนักงานใหญ่ กล่าวว่า “พื้นที่ให้บริการระบบ SWIFT gpi และรายละเอียดธุรกรรมการชำระเงินระหว่างประเทศได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โปรแกรมการชำระเงินแบบ gpi ได้รับการทดสอบในหลายประเทศ/ภูมิภาค เพื่อแสดงให้เห็นถึงการทำงานร่วมกับระหว่างระบบ gpi และระบบการชำระเงินแบบทันทีภายในประเทศต่าง ๆ เพื่อนำร่องสู่โอกาสในพัฒนาระบบการชำระเงินประหว่างประเทศในอนาคต บริการดังกล่าวนี้เป็นส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินระหว่างประเทศเพื่อส่งมอบประสบการณ์บริการที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้า ธนาคารแห่งประเทศจีนเป็นหนึ่งในธนาคารผู้ริเริ่มที่เข้าร่วมทดสอบนวัตกรรม gpi และได้เข้าร่วมนำร่องทดสอบระบบการชำระเงินแบบ gpi instant ในประเทศออสเตรเลีย รวมทั้ง สิงคโปร์และยูโรโซน เราหวังว่าโครงการทดสอบนี้จะพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และคาดว่านี่จะเป็นโอกาสในการนำเสนอบริการชำระเงินระหว่างประเทศที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้าของเรา"

คุณเป็ง ฮั่ว (Peng Hua), รองผู้จัดการทั่วไป, ฝ่ายบริหารการปฏิบัติการ, ธนาคารเพื่อการอุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน (ICBC) กล่าวว่า “ในเดือนสิงหาคม ธนาคาร ICBC HO ทำหน้าที่เป็นธนาคารต้นทางที่ขยายเครือข่ายการชำระเงินระหว่างประเทศสู่ตลาดยุโรปด้วยการเชื่อมโยงโครงสร้างระบบ gpi เข้ากับระบบ TIPS การทดลองนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของบริการชำระเงินระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และขยายวงกว้างไปทั่วโลก ธนาคาร ICBC เชื่อว่าระบบการชำระเงิน gpi Instant จะช่วยผลักดันเข้าสู่โครงสร้างพื้นฐานใหม่สำหรับการชำระหว่างประเทศเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าและเสริมสร้างการร่วมมือระหว่างธนาคารที่แน่นแฟ้นผ่านตัวกลางอย่าง SWIFT”

คุณอิกนาซิโอ เตอรอล, รองหัวหน้าฝ่ายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน, ธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า “การทดสอบแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้บริการธนาคารกลางในตลอด 24 ชั้วโมง ผ่านระบบ TIPS นั้นไม่เพียงแค่ทำธุรกรรมชำระเงินแบบทันทีในประเทศสหภาพยุโรปแต่ยังรวมไปถึงธุรกรรมการชำระเงินระหว่างประเทศที่มีต้นทางการชำระเงินจากประเทศอื่นนอกเหนือจากสหภาพยุโรปอีกด้วย ระหว่างทดสอบดังกล่าวยังพบว่าการประมวลผลระบบ TIPS ใช้เวลาเพียง 60  มิลลิวินาที เท่านั้น สำหรับธนาคาร ECB เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมงานกับ SWIFT และผู้เข้าร่วมระบบ TIPS


###

ข้อมูลเกี่ยวกับ SWIFT

SWIFT เป็นผู้ให้บริการรับและส่งข้อความทางการเงินที่ปลอดภัยระดับแนวหน้าของโลก ภายใต้รูปแบบองค์กรที่มีสมาชิกทั่วโลกเป็นเจ้าของร่วมกัน เรามอบแพลตฟอร์มการรับและส่งข้อความทางการเงิน และการกำหนดมาตรฐานการสื่อสาร ตลอดจนผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ให้แก่สมาชิก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงและบูรณาการ การระบุตัวตน การวิเคราะห์ และการยึดปฏิบัติตามระเบียบข้อกำหนดทางการเงิน

แพลตฟอร์มการรับและส่งข้อความทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ และบริการของเรา ได้เชื่อมต่อกับธนาคาร สถาบันด้านหลักทรัพย์ หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานภาคการเงิน และลูกค้าองค์กรกว่า 11,000 แห่ง ในมากกว่า 200 ประเทศและเขตปกครอง และแม้ SWIFT จะไม่ได้เป็นผู้จัดเก็บเงินหรือจัดการบัญชีในนามของลูกค้า แต่เราช่วยให้ชุมชนผู้ใช้บริการทั่วโลกสามารถสื่อสารข้อมูลระหว่างกันได้อย่างปลอดภัย เกิดการแลกเปลี่ยนข้อความทางการเงินที่ได้มาตรฐานและไว้วางใจได้ อันเป็นการส่งเสริมธุรกรรมทางการเงินทั้งในระดับโลกและในระดับประเทศ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้าขายและการพาณิชย์ทั่วโลกด้วย

เราแสวงหาความเป็นเลิศในการดำเนินงานอย่างไม่หยุดนิ่งในฐานะผู้ให้บริการที่ได้รับความไว้วางใจจากสถาบันและองค์กรต่าง ๆ นอกจากนี้เรายังให้ความช่วยเหลือสมาชิกในการแจ้งเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ และมองหาแนวทางในการลดต้นทุน ลดภาวะความเสี่ยง และขจัดกระบวนการอันไร้ประสิทธิภาพออกไป ผลิตภัณฑ์และบริการของเราช่วยส่งเสริมสมาชิกในกลุ่มในด้านต่าง ๆ ทั้งการเข้าถึงและผสานข้อมูล บรรลุเป้าหมายด้านระบบธุรกิจอัจฉริยะ มอบข้อมูลอ้างอิง และมอบเกณฑ์ปฏิบัติด้านอาชญากรรมทางการเงิน ขณะเดียวกัน SWIFT ยังช่วยให้เกิดการรวมกลุ่มในภาคอุตสาหกรรมทางการเงิน ทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ เพื่อกำหนดวิธีปฏิบัติในตลาด สร้างมาตรฐาน และหารือประเด็นปัญหาหรือผลประโยชน์ร่วมของทุกฝ่าย SWIFT ยังมีแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี อย่าง SWIFT2020 ที่มุ่งท้าทายการลงทุนด้านระบบรักษาความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และการเติบโตของแพลตฟอร์มหลักในการรับและส่งข้อความทางการเงิน ขณะเดียวกันก็ยังลงทุนเพิ่มเติมในบริการที่มีอยู่ปัจจุบันและการส่งมอบบริการใหม่ที่สร้างสรรค์ให้ดียิ่งขึ้นด้วย

สำนักงานใหญ่ของ SWIFT ตั้งอยู่ที่ประเทศเบลเยียม โดยธรรมาภิบาลและการสอดส่องดูแลในระดับสากลของ SWIFT ได้ช่วยตอกย้ำถึงความเป็นกลางและเป็นสากลภายใต้โครงสร้างความร่วมมือระหว่างกัน และเครือข่ายสำนักงานทั่วโลกของ SWIFT ได้ครอบคลุมศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญทุกแห่ง


เกี่ยวกับ SWIFT gpi

SWIFT นวัตกรรมการชำระเงินระหว่างประเทศ หรือ SWIFT gpi เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของระบบการชำระเงินระหว่างประเทศในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา และถือเป็นมาตรฐานการชำระเงินระหว่างประเทศรูปแบบใหม่อีกด้วย SWIFT gpi ได้ส่งเสริมประสบการณ์การชำระเงินระหว่างประเทศของลูกค้ามาอย่างต่อเนื่องโดยการเพิ่มความรวดเร็ว ความปลอดภัย และความสามารถในการตรวจสอบตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง การชำระเงินระหว่างประเทศกว่าแสนรายการเป็นจำนวนเงินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ถูกโอนผ่านระบบ gpi ทุกวัน ซึ่งเป็นการชำระเงินที่รวดเร็ว และใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

SWIFT gpi ช่วยให้องค์กรเอกชนต่าง ๆ สามารถใช้บริการการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้:

.  ความรวดเร็ว การใช้ไปของเงินทุนที่เร็วขึ้นภายในเขตเวลาเดียวกับสมาชิก gpi ที่เป็นผู้รับ
.  การเก็บค่าธรรมเนียมที่โปร่งใส
.  การตรวจสอบติดตามการชำระเงินตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
.  ข้อมูลการโอนเงินไม่ถูกเปลี่ยนแปลง
 
กลุ่มตัวแทนทางธนาคาร กลุ่มfintechs องค์กรเอกชนต่าง ๆ และกลุ่มภาคอื่น ๆ ได้ร่วมมือกันกำจัดรอยต่อและลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินระหว่างประเทศแบบทันทีด้วยระบบ SWIFT gpi โดยตั้งแต่มกราคม 2017 ที่มีการนำSWIFT gpi มาใช้ ระบบgpi ก็ได้ส่งเสริมประสบการณ์การชำระเงินระหว่างประเทศแบบทันทีให้แก่องค์กรเอกชนมากกว่า 1,100 ประเทศ จุดเด่นสำคัญของSWIFT gpi คือ การส่งเสริมแนวทางการทำธุรกิจและมีฐานข้อมูลการตรวจสอบที่ถูกเก็บอย่างปลอดภัยในระบบCloudที่ผู้ใช้บริการสามารถเรียกดูได้ผ่านAPIs สำหรับบริการgpiรูปแบบใหม่นี้ได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มสมาชิกgpi ไปจนถึงกลุ่มเครือข่ายธนาคารที่กำลังเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน

ต้องขอขอบคุณSWIFT gpi ที่ช่วยให้องค์กรเอกชนสามารถพัฒนาการทำธุรกิจระหว่างประเทศ พัฒนาความสัมพันธ์กับผู้จำหน่าย และยังช่วยพัฒนาระบบการคลังขององคืกรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย โดยเฉลี่ยแล้ว 40% ของการชำระเงินผ่าน SWIFT gpi ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเครดิตภายใน 5 นาที 50% จะได้รับเครดิตภายใน 30 นาที 75% จะได้รับเครดิตภายใน 6 ชั่วโมง และเกือบ 100% จะได้รับเครดิตภายใน 24 ชั่วโมง

ธนาคารกว่า 3,500 แห่ง ซึ่งคิดเป็น 85% ของปริมาณการชำระเงินทั้งหมดมีความตั้งใจที่จะใช้บริการgpi และโครงสร้างพื้นฐานของระบบการชำระเงินกว่า 55 แห่ง ก็ได้ตอบรับบริการการชำระเงินผ่านgpi  เพื่อพัฒนาการแลกเปลี่ยนและการตรวจสอบภายในประเทศ โครสร้างพื้นฐานของระบบการชำระเงินมีบทบาทที่สำคัญในการพัฒนาขั้นตอนการตรวจสอบการชำระเงินระหว่างประเทศตั้งแต่ภายในประเทศของต้นทางจนถึงปลายทาง เพราะเมื่อรายการชำระเงินระหว่างประเทศถูกโอนไปถึงประเทศปลายทางก็จะต้องผ่านระบบโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินของประเทศปลายทางนั้น ๆ