TRT สยายปีก ผนึก 2 บริษัทยักษ์ใหญ่จาก เกาหลีและจีน ลุยธุรกิจใหม่พร้อมผันตัวเข้าสู่หุ้นพลังงานที่มีนวัตกรรม
ถิรไทย หรือ TRT ผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าของประเทศ ลุยธุรกิจใหม่ จับมือ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติจากเกาหลี บริษัท Hyosung เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Energy Storage และ GIS (Gas-Insulated Substation) เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ และบริษัท Haidi บริษัทผู้ผลิต เซลล์ลิเธียมไอออนฟอสเฟต ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ในการทำธุรกิจใหม่ในด้านต่างๆ เช่น Energy Storage System, GIS, Battery System, Online Monitoring และรถไฟฟ้า โดยเฉพาะการปรับรถธรรมดาให้เป็นรถไฟฟ้า หรือ Converted Electric Car ทางด้านธุรกิจหม้อแปลงยังเดินหน้ากวาดงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้งาน "การไฟฟ้านครหลวง" ในการผลิตหม้อแปลงจำหน่าย มูลค่างานกว่า 450 ล้านบาท และโครงการสถานีไฟฟ้าย่อย Hambantota ในศรีลังกาอีกกว่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งมอบงานไม่เกินไตรมาส 2/2563 ถึง ไตรมาส 3/2563 พร้อมย้ำความแข็งแกร่งบริษัทฯ จะเป็น "หุ้นพลังงานที่มีนวัตกรรม" เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตนายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต จำหน่าย และซ่อมบำรุง หม้อแปลงไฟฟ้าทุกขนาดของคนไทยเพียงแห่งเดียว เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ได้มีการนำเทคโนโลยีที่หลากหลายมาใช้ในการพัฒนาสาธารณูปโภคด้านพลังงานของประเทศ บริษัทฯ มีเจตจำนงแน่วแน่ ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสาธารณูปโภคด้านพลังงานของประเทศ ให้มีความก้าวหน้า ทันสมัย และ มีความมั่นคง เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนไทยโดยรวม บริษัทฯ จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ในการพัฒนาธุรกิจใหม่ด้านต่างๆ ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นและในปีนี้ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ ของบริษัทฯ ในการทำธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับหม้อแปลงไฟฟ้า ล่าสุดบริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ กับบริษัท Hyosung ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Energy Storage และ GIS (Gas-Insulated Substation) และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ มาเป็นพันธมิตรที่ได้ลงนามความร่วมมือกันในธุรกิจทั้งสองด้าน
นอกจากนี้ยังมีการจับมือกับ บริษัท Haidi บริษัทผู้ผลิต เซลล์ลิเธียมไอออนฟอสเฟต ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ในการลงทุนพัฒนาธุรกิจใหม่ด้านแบตเตอรี่สำหรับ Energy Storage System และ รถไฟฟ้า (โดยเฉพาะการปรับรถธรรมดาให้เป็นรถไฟฟ้า - Converted Electric Car) ซึ่งทางบริษัทฯ จะมีการปรับโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู รองรับธุรกิจในด้านนี้นายสัมพันธ์ กล่าวต่อไปว่า ในธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า ทางบริษัทฯ ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้รับงานจากการไฟฟ้านครหลวง ในการสั่งซื้อหม้อแปลงจำหน่าย ชนิด ซีเอสพี (Completely Self Protected Type) 3 เฟส 4 สาย 50 เฮิรตช์ 225 กิโลโวลต์แอมแอร์ มีมูลค่างานกว่า 450 ล้านบาท โดยจะเริ่มทะยอยส่งมอบงานช่วงไตรมาส 4/2562 และ ไตรมาส 1/2563
นอกจากนี้ ในด้านส่งออกทางบริษัทฯ ยังได้รับงานของการไฟฟ้าประเทศศรีลังกา โปรเจ็ค สถานีไฟฟ้าย่อย Hambantota Substation มูลค่างาน 4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะมีการส่งมอบงานในช่วง ไตรมาส 2/2563 ถึง ไตรมาส 3/2563 อีกด้วยนายสัมพันธ์ กล่าวอีกว่า ภาพรวมบริษัท 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายกว่า 1,044 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นในกลุ่มหม้อแปลงไฟฟ้า มียอดขายกว่า 739 ล้านบาท โดยแบ่งกลุ่มภาครัฐบาล และในประเทศ 645 ล้านบาท ส่งออก 81 ล้านบาท กลุ่มบริการ 13 ล้านบาท นอกจากนี้ ในกลุ่ม Non Transformers ยังมีรายได้จากกลุ่ม Steel Structure & Fabricate 59 ล้านบาท กลุ่ม Distributing Digger/Arial อีกว่า 38 ล้านบาท และรายได้จากค่าดำเนินงาน และบำรุงรักษาอีกว่า 185 ล้านบาท โดยมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 20-25%"ทั้งนี้ โดยในภาพรวมแล้ว บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ในมูลค่างานกว่า 8,742 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกลุ่มภาครัฐ การไฟฟ้านครหลวงกว่า 1,652 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มูลค่า 1,900 ล้านบาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตอีกว่า 1,150 ล้านบาท และยังมีกลุ่มเอกชนภายในประเทศอีกกว่า 2,050 ล้านบาท และส่งออกอีก 1,251 ล้านบาท และอื่นอีกว่า 739 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถได้รับงานกว่า 20-25%" นายสัมพันธ์ กล่าวสรุปในตอนท้าย