wmt on September 18, 2019, 02:39:35 PM
ใครมีแพลนเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ต้องไม่พลาด ไฮไลท์จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดฟินที่โทโฮคุฤดูใบไม้ร่วงนี้คุณมีแผนท่องเที่ยวกันหรือยัง ถ้ายังไม่มี เราขอเชิญชวนให้มาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ภูมิภาคโทโฮคุกัน ขอบอกเลยว่าโทโฮคุมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมากมาย แต่อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยแถบนี้ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่เดือนตุลาคมซึ่งวิวทิวทัศน์จะถูกแต่งแต้มด้วยใบไม้สีแดง สีส้ม และสีเหลือง ที่สำคัญนักท่องเที่ยวก็ไม่พลุกพล่านเหมือนในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ ในวันนี้เรามาทำความรู้จักจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่น่าสนใจใน 6 จังหวัดของภูมิภาคโทโฮคุกัน
ลำธารโออิราเสะ จังหวัดอาโอโมริ
โออิราเสะเป็นลำธารที่มีความยาวถึง 14 กิโลเมตร มีต้นกำเนิดจากต้นน้ำเนะโนคุจิบนทะเลสาบโทวะดะ ทั้งสายน้ำและวิวทิวทัศน์สองข้างทางมีความสวยงามแตกต่างกันไปตลอดเส้นทาง ทำให้เหมาะแก่การเดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสี โออิราเสะยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น และถูกจัดให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์เนื่องจากมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ไกลกันยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น หมู่บ้านออนเซ็น ทะเลสาบโทวาดะ และเทือกเขาฮักโกดะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยมีพรรณไม้ได้แก่ ใบคัทซึระ ใบบุนะ ใบเกาลัดม้าญี่ปุ่น และใบเมเปิ้ล โดยจุดหลักๆ ที่สามารถเดินชมใบไม้เปลี่ยนสี ได้แก่ ลำธารอิชิเกะโดะ น้ำตกโจชิโอะทากิ ลำธารอาชูระ และน้ำตกคุโมอิ
หุบเขาเกบิเค จังหวัดอิวาเตะ
เกบิเคเป็นหุบเขาหินปูนที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลาง มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร สองข้างทางรายล้อมไปด้วยหน้าผาสูงกว่า 100 เมตร วิวทิวทัศน์ของเกบิเคสวยงามมากจนถูกจัดให้เป็นหนึ่งในร้อยสถานที่ที่มีทัศนียภาพสวยงามที่สุดของญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะนิยมล่องเรือชมใบไม้เปลี่ยนสีและหน้าผาที่มีรูปร่างแปลกตา เช่น โชฟุกันหรือหินสามีหินภรรยาที่มีแม่น้ำคั่นกลาง ทำให้เห็นเหมือนคนสองคนหันหน้าด้านข้างให้กัน หรือโอเกบิอิวะซึ่งเป็นหน้าผาขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายจมูกสิงโต การล่องเรือก็เป็นจุดเด่น โดยมีนายเรือใช้ไม้ไผ่เพียงลำเดียวถ่อเรือไปตามลำน้ำและร้องเพลงพื้นบ้านโบราณที่เรียกว่าเพลงเกบิโอยวาเกะ เสียงเพลงเรือจะก้องกังวานไปทั่วหุบเขาอันเงียบสงบ ทำให้ได้บรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยมีชนิดของพรรณไม้ คือ ใบเคยากิ ใบคาชิ ใบเมเปิ้ล
ที่ราบสูงฮะจิมันไต จังหวัดอิวาเตะ
ที่ราบสูงฮะจิมันไตมีพื้นที่กว้างใหญ่คาบเกี่ยวระหว่างจังหวัดอาคิตะและจังหวัดอิวาเตะ โดยเริ่มมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป นอกจากจะสามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีจากสองข้างทางระหว่างขับรถบนถนนสาย Aspite Line และ Jukai Line แล้ว อีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือเส้นทางศึกษาธรรมชาติโกะโชกาเคะที่สามารถชมวิวภูเขาไฟและเพลิดเพลินกับบรรยากาศเย็นสบายของบึงน้ำโอนุมะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ชนิดของพรรณไม้ ได้แก่ ใบดะเคะคัมบะ ใบนานะคามาโดะ ใบบุนะ ใบเมเปิ้ล ใบชิราคะบะ จุดที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสี ได้แก่ จุดชมวิวยอดเขาฮะจิมันไต จุดชมวิวโอฟุกะซาวะ จุดชมวิวฟุเกะโนะยุ เส้นทางศึกษาธรรมชาติโอนุมะ และเส้นทางชมหุบเขายูเซะ
หุบเขานารุโกะ จังหวัดมิยางิ
เป็นหุบเขาสูงที่มีแม่น้ำโอยะที่ใสสะอาดไหลผ่าน สองข้างทางมีหน้าผาสูงชันรูปร่างสวยแปลกตาและน้ำตกสูงให้ได้ชม โดยพรรณไม้เปลี่ยนสีจะปกคลุมทั้งหุบเขา ตัดกับภาพแม่น้ำโอยะที่คดเคี้ยวอย่างสวยงาม ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีความลึกกว่า 100 เมตร จุดชมวิวที่ดีที่สุดคือบริเวณศาลา Narukokyo Resthouse และไม่ไกลกันนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติโอฟุคาซาว่า ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินเล่นได้แบบไม่เหนื่อยนัก
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ชนิดของพรรณไม้ ได้แก่ ใบเมเปิ้ล ใบเมเปิ้ลอุริฮาดะ ใบเมเปิ้ลอิตายะ ใบบุนะ
แม่น้ำโมกามิ จังหวัดยามากาตะ
ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามสายน้ำกับการล่องเรือบนเส้นทางบะโชไปตามแม่น้ำโมกามิเพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงามสองข้างทาง พร้อมกับเพลิดเพลินไปกับบทเพลงพื้นบ้านที่ขับร้องระหว่างล่องเรือ เมื่อมองจากบนเรือคุณจะเห็นทิวเขาถูกแต่งแต้มด้วยพรรณไม้สีต่างๆ ซึ่งสะท้อนลงบนผืนน้ำราวกับภาพบนกระจก เป็นความประทับใจที่หาได้ยากจากที่อื่นๆ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ชนิดของพรรณไม้ ได้แก่ ใบเมเปิ้ล ใบบุนะ ใบนาระ
ผาหินหมื่นปี โทโนะเฮะทสึริ จังหวัดฟุกุชิมะ
หน้าผาโทโนะเฮะทสึริถูกสายน้ำของแม่น้ำโอกาวะกัดเซาะมานานหลายหมื่นปี จนเกิดเป็นรูปทรงคล้ายเจดีย์ และด้วยความเก่าแก่จึงได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในพื้นที่อนุรักษ์ของญี่ปุ่น ภาพของหน้าผาเมื่อมองจากระยะไกลจะเหมือนเจดีย์ 10 องค์ที่ถูกรายล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอย่างสวยงาม บริเวณหน้าผายังถูกน้ำกัดเซาะลึกเข้าไป จึงสามารถเดินชมได้โดยรอบ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ชนิดของพรรณไม้ ได้แก่ ใบเมเปิ้ล ใบบุนะ และอื่นๆ จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีหลักคือจากตัวสะพานแขวน
เปิดจำหน่ายแล้ว บัตร Welcome Suica ใหม่ล่าสุด สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น
บริษัท East Japan Railway หรือ JR East เริ่มจำหน่ายบัตร IC Card แบบใหม่ที่เรียกว่า Welcome Suica ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่น โดยบัตร Welcome Suica นี้จะไม่เก็บเงินค่ามัดจำ 500 เยน เหมือนบัตรอื่นๆ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาทำเรื่องขอคืนค่ามัดจำคืนเมื่อจะกลับประเทศ สามารถใช้ได้กับทั้งรถบัสและรถไฟทั่วประเทศเหมือนบัตร Suica PASMO แต่ที่พิเศษยิ่งกว่าคือสามารถใช้เป็น e-money ชำระค่าสินค้าตามสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า และแท็กซี่ได้ด้วย ดีไซน์ของบัตรยังสะท้อนถึงความเป็นญี่ปุ่นด้วยฉากหลังสีแดงที่แทนดวงอาทิตย์บนธงชาติญี่ปุ่น และดอกซากุระสีขาวสุดน่ารัก เหมาะแก่การเก็บสะสมเป็นที่ระลึก
บัตร Welcome Suica เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 1 กันยายน 2562 เป็นต้นไป สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 1,000 เยน 2,000 เยน 3,000 เยน 4,000 เยน 5,000 เยน และ 10,000 เยน โดยไม่มีค่ามัดจำบัตร และมีอายุ 28 วันนับตั้งแต่วันซื้อบัตร (ยอดเงินคงเหลือในบัตรจะไม่สามารถขอคืนได้) สถานที่จัดจำหน่าย ได้แก่ ศูนย์บริการการท่องเที่ยว JR EAST (สถานีสนามบินนาริตะ สถานีอาคาร 2 สนามบินนาริตะ สถานีโตเกียวโมโนเรลในสนามบินนานาชาติฮาเนดะ สถานีโตเกียว สถานีชินจูกุ สถานีชิบูย่า สถานีอิเคะบุคุโระ สถานีอุเอโนะ สถานีฮามะมัตสึโจ และที่เครื่องจำหน่ายบัตร Welcome Suica ที่สนามบินนาริตะและสนามบินฮาเนดะ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของบัตร Welcome Suica ได้ที่ http://www.jreast.co.jp/e/welcomesuica/welcomesuica.html
เปิดตัวรถไฟขบวนใหม่ ‘Kairi’ ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์และอาหารท้องถิ่นของนีงาตะและโชไน
JR East จะเปิดให้บริการเส้นทางใหม่ นีงาตะ- โชไน พร้อมกับเปิดตัวรถไฟขบวนพิเศษ Kairi ที่จะเริ่มให้บริการตั้งแต่ 5 ตุลาคม 2562 โดยมีจุดเด่นคือการนำเสนออาหารท้องถิ่นของนีงาตะและโชไน และผสานกับความสวยงามของท้องทะเลญี่ปุ่น โดย Kairi เป็นรถไฟดีเซลไฮบริดใหม่เอี่ยมที่มีตู้โดยสาร 4 ตู้ ให้บริการระหว่างจังหวัดนีงาตะและเมืองซากาตะ ส่วนการตกแต่งภายนอกเป็นการไล่เฉดสีส้มแดงของอาทิตย์อัสดงและสีขาวของหิมะตกใหม่อย่างสวยงาม รถไฟขบวนนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดนีงาตะ
ทั้งนี้ จังหวัดนีงาตะและเมืองโชไนของจังหวัดยามากาตะ ถือเป็นพื้นที่ที่มีทะเล (Kai) และท้องถิ่น (Ri) ที่อุดมสมบูรณ์ จึงนำสองคำนี้มารวมกันกลายเป็นชื่อรถไฟ ‘Kairi’ ที่ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟบนขบวน พร้อมกับดื่มด่ำความสวยงามของวิวทิศทัศน์สองข้างทาง
ทั้งนี้ ขบวนรถไฟเที่ยวขาล่องจากจังหวัดนีงาตะไปเมืองซากาตะ จะให้บริการอาหารท้องถิ่นของจังหวัดนีงาตะตามฤดูกาลจาก 3 ร้านอาหารชื่อดังที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี ได้แก่ ร้านอิคินาริยะ ร้านนาเบะจะยะ และร้านอิจิชิเมะ ส่วนขบวนรถไฟขาขึ้นจากเมืองซากาตะไปจังหวัดนีงาตะจะให้บริการอาหารอิตาเลียนสไตล์โอคุดะที่ปรุงโดยเชฟจากร้าน Al Ché-cciano และควบคุมคุณภาพโดยเจ้าของร้านคือมาซายูคิ โอคุดะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดเชฟของญี่ปุ่นอีกด้วย
นอกจากนี้ที่ร้าน Al Ché-cciano ยังได้นำผลผลิตประจำท้องถิ่นของเมืองโชไนที่ปลูกสืบต่อกันมาหลายช่วงอายุคนมารังสรรค์เป็นอาหารอิตาเลียนสุดพรีเมียม หากทานอาหารที่เสิร์ฟบนรถไฟแล้วรู้สึกติดใจก็สามารถแวะไปทานอีกได้ที่ร้าน Al Ché-cciano
สนุกสนานไปกับรถไฟ Joyful Trian ที่เปรียบเหมือนสวนสนุกเคลื่อนที่
รถไฟจะไม่ใช่แค่เพียงยานพาหนะที่นำคุณไปยังที่หมายอีกต่อไป แต่ Joyful Train จะทำให้ตลอดการเดินทางมีความประทับใจมากยิ่งขึ้น รถไฟแสนสนุกนี้มีให้เลือกใช้บริการในหลายประเภททั้งชินคันเซ็น รถจักรไอน้ำ และรถไฟสายไซไรเซ็น ที่ออกแบบมาในธีมต่างๆ ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ทั้งเมนูอาหารสุดพิเศษซึ่งหาทานจากที่อื่นไม่ได้ บ่อน้ำร้อนสำหรับแช่เท้า ท้องฟ้าจำลอง และอื่นๆ อีกมากมาย
ท่องเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุอย่างสนุกยิ่งขึ้นด้วย JR EAST PASS
โทโฮคุเป็นภูมิภาคขนาดใหญ่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวกระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆ การเดินทางจะสะดวกสบายและคุ้มค่ายิ่งขึ้นหากคุณใช้ JR EAST PASS (Tohoku Area) เพราะสามารถขึ้นรถไฟสาย JR Tohoku ได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวเป็นเวลา 5 วัน จึงท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกและเจาะลึกมากขึ้น โดยตั๋วผู้ใหญ่จำหน่ายในราคา 19,000 เยน และตั๋วเด็กราคา 9,500 เยน (ราคาสำหรับซื้อจากนอกประเทศญี่ปุ่นที่เว็บไซต์ทางการของ JR-EAST) รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าชมได้ที่ https://www.jreast.co.jp/e/eastpass_t/index.html
คุณยังสามารถเดินทางได้สะดวกกว่าเดิมด้วยบริการจองที่นั่งบนรถไฟ JR-EAST ล่วงหน้าผ่านอินเตอร์เน็ตก่อนเดินทางมาประเทศญี่ปุ่น ได้ที่เว็บไซต์
https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/common/Menu/Menu.aspx
ที่เว็บไซต์ของ JR-EAST ยังนำเสนอข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในคันโตและโทโฮคุทั้ง 4 ฤดู เพื่อการวางแผนก่อนมาเที่ยวญี่ปุ่นและเลือกท่องเที่ยวได้ตามความสนใจ โดยเข้าชมได้ที่ https://eastjapanrailway.com/th/2019-autumn
« Last Edit: September 18, 2019, 02:44:33 PM by wmt »
Logged