wmt on August 19, 2019, 08:40:57 AM




ออมสิน ประกาศผลแชมป์สตรีทฟู้ดประเทศไทยแล้ว “ทีมซดเตี๋ยวเป็ดตุ๋น” คว้าแชมป์ชนะเลิศ ด้วยนวัตกรรมใหม่ "เส้นก๋วยเตี๋ยวจิ้งหรีดสายรุ้งไฮโปรตีน"







   ธนาคารออมสิน ประกาศผลผู้ชนะเลิศการแข่งขัน “GSB STREET FOOD เปลี่ยนชีวิต” (กล้าคิด ชีวิตเปลี่ยน) โดย “ทีมซดเตี๋ยวเป็ดตุ๋น” สุดยอดไอเดียเจ๋ง คว้ารางวัลชนะเลิศ ด้วยนวัตกรรมใหม่ นำผงโปรตีนจากจิ้งหรีดมาทำเส้นก๋วยเตี๋ยว ให้คุณค่าทางอาหารสูง เผยปล่อยสินเชื่อสตรีทฟู้ดแล้วกว่า 38,000 ราย จากเป้า 50,000 ราย ในปี 2562


   ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารออมสินได้จัดโครงการ “GSB STREET FOOD เปลี่ยนชีวิต” (กล้าคิด ชีวิตเปลี่ยน) ซึ่งเป็นการแข่งขันที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสตรีทฟู้ด มีเวทีในการเรียนรู้ พัฒนาแนวคิด สร้างสรรค์ไอเดีย จนเกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ ด้วยการจัดการแข่งขันในรูปแบบรายการเรียลลิตี้สตรีทฟู้ดรายการแรกของประเทศไทย ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง True4U 24 ซี่งเน้นในเรื่องการพัฒนาเพื่อยกระดับ เสริมสร้างความเข้มแข็ง และพัฒนาผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดใน 4 มิติ หรือ UPGRADE STREET FOOD 4D ประกอบด้วย D-FOOD การพัฒนาอาหารให้ดี ทั้งรสชาติ วัตถุดิบ มาตรฐานความสะอาด, D-INNOVATION การใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในด้านต่างๆ สร้างนวัตกรรมใหม่ อัปเกรดให้สตรีทฟู้ดไปไกลกว่าที่คิด, D-DESIGN การรู้จักนำการออกแบบมาช่วยสร้างมูลค่า และ D-MARKETING การรู้จักตลาด วางแผน จัดการ และอัปเกรด จนเติบโตกลายเป็น SMEs หรือ Start Up ได้ในที่สุด ซึ่งได้เริ่มโครงการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 เพื่อชิงเงินรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาทนั้น

   โครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการร้านอาหารริมทาง หรือ สตรีทฟู้ด ทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมการแข่งขันถึง 425 ทีม และผ่านการคัดเลือกจากรอบต่างๆของคณะกรรมการ 5 องค์กรชั้นนำระดับประเทศ ทั้งจากธนาคารออมสิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันอาหาร (NFI) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) จนถึงรอบออดิชั่น ได้คัดเลือกตัวแทนระดับภูมิภาคเหลือ 40 ทีม จาก 80 ทีมทั่วประเทศ เพื่อเข้าสู่รอบอัปเกรดแคมป์ ซึ่งในรอบนี้จะได้รับการอบรมการพัฒนาสตรีทฟู้ด 4 มิติ จากกูรูและผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ จากนั้นคัดเหลือ 8 ทีมสุดท้ายเข้าสู่รอบดีมิชชั่น ซึ่งมี 4 ภารกิจที่ผู้เข้ารอบจะต้องแข่งขันกัน โดยมีโค้ชระดับประเทศมาช่วยฝึกฝนและพัฒนาจากไอเดียกล้าเริ่มของสตรีทฟู้ดจนผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายบนเวทีเปลี่ยนชีวิต และคัดเหลือเพียง 5 ทีมสุดท้าย ผลปรากฎว่า “ทีมซดเตี๋ยวเป็ดตุ๋น” ได้รับรางวัลชนะเลิศ GSB STREET FOOD เปลี่ยนชีวิต ประจำปี 2562 ได้รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท ด้วยผลการตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ของคณะกรรมการจาก 5 องค์กรชั้นนำ   




   “ทีมซดเตี๋ยวเป็ดตุ๋น” ประกอบด้วย 3 แม่ลูก ครอบครัวสมเสงี่ยม จากก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นริมทาง มีไอเดียกล้าเริ่มที่ต้องการพัฒนาซดเตี๋ยวเป็ดตุ๋นรุ่นพ่อที่สืบทอดมานานกว่า 40 ปี โดยนำผงจิ้งหรีดที่มีโปรตีนสูงมาเป็นส่วนผสมของเส้นก๋วยเตี๋ยว จนเกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ "เส้นก๋วยเตี๋ยวจิ้งหรีดสายรุ้งไฮโปรตีน" ที่มีโปรตีนสูง มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยพัฒนาควบคู่กับการวางระบบแฟรนไชส์ซดเตี๋ยวเป็ดตุ๋น พร้อมต่อยอดผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่อัปเกรดจากจิ้งหรีด เช่น ขนม Jumper ขนมข้าวเกรียบจิ้งหรีดออร์แกนิก ที่มียอดการสั่งซื้อทั้งไทยและต่างประเทศแล้ว   



   ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท ได้แก่ ทีม “บ้านสวนมันตึงดี” สตรีทฟู้ดประเภทเครื่องดื่มที่พัฒนาผงมันม่วงเป็นนวัตกรรมใหม่สูตรเฉพาะที่เป็นวัตถุดิบหลักและเบเกอรี่ยุคใหม่ ขณะที่รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท ได้แก่ ทีม “กะเพราซาวห้า” เมนูผัดกะเพราธรรมดาที่ไม่ธรรมดา แต่รสชาติอร่อย ขายในราคาไม่แพง เพียง 25 บาทเท่านั้น แต่สามารถกลายเป็นแฟรนไชส์กะเพราซาวห้า กับนวัตกรรมน้ำมันกะเพราสูตรพิเศษ ควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานแฟรนไชส์ให้วงการสตรีทฟู้ด ด้วยการอัปเกรดรถเข็นโซล่าเซลล์รักษ์โลกต้นแบบคันแรกของไทย รวมถึงผลการเติบโตในด้านธุรกิจที่เกิดขึ้นจริง ส่วนอีก 2 ทีม รางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัล ทีมละ 50,000 บาท ได้แก่ ทีม “ผัดไทภูเขาไฟ(บ้านครูกานต์)” และ “สตรีทลาบ”

   ดร.ชาติชาย กล่าวอีกว่า ธนาคารออมสินมีนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเอง และเติบโตอย่างยั่งยืน ตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้ก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการพัฒนายกระดับอาชีพต่างๆ รวมไปถึงร้านอาหารริมทาง หรือ สตรีทฟู้ด ที่ได้นำเอานวัตกรรม เทคโนโลยี และสาธารณสุข เข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานความอร่อย ความสะอาด ถูกสุขอนามัย ซึ่งธนาคารให้การสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดมาอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2562 มีผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดได้รับสินเชื่อจากธนาคารออมสินแล้ว 38,320 ราย เป็นเงิน 4,755.40 ล้านบาท จากเป้าหมายในปี 2562 จำนวน 50,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 5,000 ล้านบาท

   สำหรับโครงการ “GSB STREET FOOD เปลี่ยนชีวิต” (กล้าคิด ชีวิตเปลี่ยน) ถือเป็นการสร้างโอกาสและยกระดับสตรีทฟู้ดเพื่อเป็นประโยชน์ในวงกว้าง อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการมีส่วนร่วมในการพัฒนา เรียนรู้ และสามารถนำแนวคิดต่อยอดการค้าขายให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงส่งเสริมคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีศักยภาพช่วยพัฒนาสตรีทฟู้ด ทั้งนี้เมื่อผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดได้รับความรู้จากการพัฒนารอบด้านทั้ง 4 มิติ ประกอบกับมีพันธมิตรองค์กรชั้นนำระดับประเทศเฉพาะด้านในการช่วยอัปเกรด มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ และช่วยเหลือกันเป็นเครือข่าย โอกาสในการก้าวข้ามจากสตรีทฟู้ดเติบโตสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ไม่ใช่เรื่องยาก รวมถึงยังได้โอกาสเปิดประตูการค้าไปสู่ต่างประเทศ จากความร่วมมือของกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ที่สนับสนุนให้ทีมผู้ผ่านเข้ารอบได้มีโอกาสเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารระดับโลก ทั้งงานปักกิ่ง EXPO 2019 หรือ The International Horticultural Exhibition ที่เมืองหยางชิ่ง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน และงาน Thai Market Square ที่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน เมื่อเร็วๆนี้
« Last Edit: August 19, 2019, 08:49:17 AM by wmt »

wmt on August 19, 2019, 08:41:06 AM
5 ทีมสตรีทฟู้ดที่ได้รับรางวัล “GSB Street Food เปลี่ยนชีวิต” (กล้าคิด ชีวิตเปลี่ยน)

รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม “ซดเตี๋ยวเป็ดตุ๋น” ได้รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท
ทีม 3 แม่ลูก ครอบครัวสมเสงี่ยม นายสุรเดช สมเสงี่ยม / สิริทัศน์ สมเสงี่ยม และอุไร สมเสงี่ยม เดิมขายฟู้ดทรัค บริเวณหน้าศาลเจ้าวัดแจ้ง สี่แยกเต็กฮะ จังหวัดนครราชสีมา จากก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นริมทาง มีไอเดียกล้าเริ่มที่ต้องการพัฒนาซดเตี๋ยวเป็ดตุ๋นรุ่นพ่อที่สืบทอดมานานกว่า 40 ปี ให้มีสารอาหารโปรตีนเพิ่มเติม จึงนำคำแนะนำของคณะกรรมการในรอบออดิชั่น มาพัฒนาไอเดียในรอบอัปเกรดแคมป์ ด้วยการเทรนของโค้ช มกร เชาว์วาณิช นักออกแบบรางวัลระดับโลก ที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ "เส้นก๋วยเตี๋ยวจิ้งหรีดสายรุ้งไฮโปรตีน" ที่ไม่ใช่เส้นก๋วยเตี๋ยวธรรมดา แต่เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวที่มีส่วนผสมจากผงโปรตีนที่ทำมาจากจิ้งหรีด ซึ่งมีโปรตีนสูง มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยพัฒนาควบคู่กับการวางระบบแฟรนไชส์ซดเตี๋ยวเป็ดตุ๋น พร้อมต่อยอดผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่อัปเกรดจากจิ้งหรีด เช่น ขนม Jumper ขนมข้าวเกรียบจิ้งหรีดออร์แกนิก ที่มียอดสั่งซื้อทั้งไทยและต่างประเทศ “ซดเตี๋ยวเป็ดตุ๋น" จากไอเดียกล้าเริ่มต้นทุนเพียง 50,000 บาท ปัจจุบันได้พัฒนาและต่อยอดธุรกิจเป็นบริษัท MIP : Ministry of Insects Protein ก้าวสู่รายได้หลักล้านต่อไป ทั้งนี้หลังจากได้รับรางวัลรวม 1 ล้านบาทแล้ว ได้นำทุนกล้าแบ่งปันจำนวน 300,000 บาท ไปพัฒนาพื้นที่สตรีทฟู้ดศาลเจ้าวัดแจ้ง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ขายของทีมซดเตี๋ยวเป็ดตุ๋น

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม “บ้านสวนมันตึงดี” ได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท

สตรีทฟู้ดประเภทเครื่องดื่มรายเดียวที่สามารถผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้าย โดย จุฬารัตน์ ต๊ะบุญเรือง เจ้าของไร่มันตึงดี ของครอบครัวเกษตรกรเล็กๆ จังหวัดลำปาง ใช้เวลาเกือบ 5 ปี พัฒนามันม่วงราคาถูกกลายเป็นน้ำมันม่วง แต่ความตั้งใจที่จะต่อยอดความพิเศษของมันม่วงและพัฒนาน้ำมันม่วงให้เป็นเมนูหลักของเครื่องดื่มในร้านทั่วประเทศ จึงสมัครเข้าร่วมรายการ ซึ่งจากการเรียนรู้และพัฒนาจนผ่านเข้ารอบสุดท้าย โดยมีโค้ชพี่กบ อบอร่อย ดวง นิพิฐวรินทร ช่วยอัปเกรดผลิตภัณฑ์น้ำมันม่วงบ้านสวนมันตึงดีให้มีความหลากหลาย สู่ผลิตภัณฑ์มันห้างฉัตร ผงมันม่วงนวัตกรรมใหม่สูตรเฉพาะ ที่เป็นวัตถุดิบหลักและเบเกอรี่ยุคใหม่ ได้แก่ ไอศกรีมมันม่วง น้ำมันม่วง บราวนี่มันม่วง แป้งเครปมันม่วง กลีบลำดวนมันม่วง เป็นต้น

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม “กะเพราซาวห้า” ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท

จากวิศวกรหนุ่มและกลุ่มเพื่อน พงษ์พนัส มังคละคีรี, ธิติพงษ์ กนกพินิต และ ทศพล สร้อยมุข ที่ต้องการสร้างธุรกิจเล็กๆขึ้นมา โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากคำพูดเชิงนโยบายเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีที่ว่า “ของไม่ได้แพง พวกคุณขายของกันแพงเอง” จึงเกิดเป็น “กะเพราซาวห้า” เมนูผัดกะเพราธรรมดาที่ไม่ธรรมดา แต่รสชาติอร่อย จัดจ้าน คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี ขายในราคาไม่แพง เพียง 25 บาทเท่านั้น แต่สามารถกลายเป็นแฟรนไชส์กะเพราซาวห้า กับนวัตกรรมน้ำมันกะเพราสูตรพิเศษ ควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานแฟรนไชส์ให้วงการสตรีทฟู้ด ด้วยการอัปเกรดรถเข็นโซล่าเซลล์รักษ์โลกต้นแบบคันแรกของไทย รวมถึงผลการเติบโตในด้านธุรกิจที่เกิดขึ้นจริง
โดยมีโค้ชชุมพล แจ้งไพร  เชฟชื่อดังมาช่วยพัฒนาและต่อยอดให้อย่างเต็มที่
 
รางวัลชมเชย 2 ทีม ได้รับเงินรางวัล ทีมละ 50,000 บาท ได้แก่
ทีม “ผัดไทภูเขาไฟ (บ้านครูกานต์)”


2 ทายาทผัดไทครูกานต์ ผัดไทยในตำนานเมืองบุรีรัมย์ ณัฐพัชร์ ล้อธีรพันธ์ และพีรณัฐ พรหมรินทร์ ได้นำความรู้การพัฒนาสตรีทฟู้ด 4 มิติ มาช่วยต่อยอดจากผัดไทยสูตรดั้งเดิม เป็นผัดไทภูเขาไฟไข่ม้วน (Let’s go) รูปแบบใหม่ รับประทานง่าย และสามารถพกพาได้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ พร้อมยังต่อยอดการสั่งซื้อในระบบดิลิเวอรี่ สร้างการกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยมี อ.ชุตยาเวศ สินธุพันธ์ สถาปนิก และอดีตเชฟจากนิวยอร์ค อัปเกรดโค้ชมาช่วยเติม และต่อยอดอย่างใกล้ชิดทั้งทีม “ ผัดไทภูเขาไฟ ( บ้านครูกานต์ ) ”
และทีม “ สตรีทลาบ ”

ทีม “สตรีทลาบ”
กฤชกร แก้วเมือง เจ้าของฟู้ดทรัคร้านสตรีทลาบ ย่านถนนนิมมานเหมินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ กับความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอาหารเหนือสู่สากลต่อยอดเชิงพาณิชย์ ด้วยการนำอาหารเหนือมาประยุกต์ กลายเป็นโรลไส้อั่ว รสชาติจัดจ้าน แต่ทานง่ายพอดีคำ พร้อมอัปเกรดโรลเมืองเหนือและดิปปิ้งล้านนา พัฒนาน้ำพริกหนุ่มและน้ำพริกตาแดงสู่ดิปปิ้งอินเตอร์ จากฟู้ดทรัคสู่แบรนด์สตรีทลาบที่พร้อมจะเติบโตต่อไป
« Last Edit: August 19, 2019, 08:48:12 AM by wmt »