happy on July 13, 2019, 04:37:50 PM
“อัลทิมา ไลฟ์”รุกตลาดสุขภาพและความงาม
เปิดผลิตภัณฑ์ 11 ตัว เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า


บริษัท อัลทิมา ไลฟ์ จำกัด จัดเสวนาเปิดตัว “อัลทิมา ไลฟ์” แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่เน้นสารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมด ภายใต้บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค (DOD BIOTECH) จำกัด(มหาชน) ภายใต้บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค (DOD BIOTECH) จำกัด(มหาชน) เจ้าแห่งตลาดรับผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอันดับ 1 ของเอเชีย และร่วมเปิดโผถึงทิศทางการธุรกิจ ตลอดจนกลยุทธ์ของแบรนด์อัลทิมาไลฟ์ ตัวช่วยในการดูแลสุขภาพและความงามที่ผสมผสานนวัตกรรมใหม่ที่ดีที่สุดในยุคนี้ พร้อมชูเทคโนโลยีเออาร์ สแกน (AR Scan) มาเสริมฟังก์ชั่นการเข้าถึงผลิตภัณฑ์


โดยมี คุณพรรษมนต์ ธราวิทย์ณัฐกุล กรรมการผู้จัดการ คุณธานัท จารุฤทธิไกร ผู้บริหารฝ่ายการตลาดและ ภญ.ภัสราธาดา วัชรธาดาอาภาภัค ผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ เป็นผู้ร่วมเสวนาในครั้งนี้


เริ่มต้นจาก คุณพรรษมนต์ ธราวิทย์ณัฐกุลกรรมการผู้จัดการบริษัท อัลทิมา ไลฟ์ จำกัด เปิดเผยถึงความสำคัญในการก่อตั้งบริษัทฯ และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเทรนด์ใหม่ว่า เราไม่ได้มุ่งเน้นแค่มิติเดียวเหมือนที่ผ่านมาแต่จะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและการป้องกันให้ตรงจุดอย่างปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ซึ่งเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของยุคปัจจุบัน

“อัลทิมา ไลฟ์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2562 และได้ออกผลิตภัณฑ์มาจำหน่ายจำนวน 11 รายการ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเปิดตัวมาแค่ 24 วัน มีสมาชิกกว่า 3,000 รหัส แล้วมีสมาชิกที่ทดลองผลิตภัณฑ์และร่วมทำธุรกิจกับเรามีรายได้สูงสุดอยู่ที่ 250,000 บาท โดยผลิตภัณฑ์มีราคาเริ่มต้นที่ 590-1,990 บาท ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการในทุกปัญหาของคนทุกเพศทุกวัย เช่น กลุ่มที่ดูแลรูปร่าง สัดส่วน สุขภาพ กลุ่มที่ต้องการความอ่อนเยาว์”






สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอัลทิมา ไลฟ์จะเน้นในเรื่องของการป้องกันเพราะเราอยากจะส่งเสริมให้ทุกคนได้รับประทานอาหารเสริมเพิ่มเติมจากอาหารหลักที่รับประทานเช้าไปในแต่ละวัน เพื่อช่วยป้องกันและทำให้สุขภาพแข็งแรง

ผลิตภัณฑ์ของเราเน้นเรื่องของความปลอดภัยระดับสากล ซึ่งเริ่มมีฝ่ายวิจัย พร้อมกับมีผลการทดลองรับประทานจริงในห้องแล็ป อีกทั้งสารสกัดทุกตัวของเรามีใบการันตีถูกต้อง สามารถบอกแหล่งที่มาที่ไปได้ว่าสารสกัดมาจากที่ไหนบ้าง มีความปลอดภัยระดับไหน มีสารปนเปื้อนระดับไหน และมีความเสี่ยงหรือไม่ ซึ่งถ้ามีเราจะไม่ใช้อย่างแน่นอน เพราะโรงงานผลิตที่เราใช้คือ บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเรา แล้วได้มีการคิดค้นสูตรและทำอาหารเสริมให้หลายแบรนด์ดังมากมาย ดังนั้น ทุกกระบวนการสามารถตรวจสอบได้ ทุกส่วนของโรงงานมีมาตรฐานระดับโลก




นอกจากนี้ โรงงานของดีโอดียังเป็นโรงงานเอกชนแห่งเดียวในไทยที่สามารถสกัดสมุนไพรไทย หรือ พืชต่างๆ ได้ เช่น ขมิ้นชัน เมื่อก่อนเราอาจจะต้องซื้อจากโครงการต่างๆ ของรัฐบาล แต่ตอนนี้เรามีโรงงานสกัดที่สามารถสกัดขมิ้นชัน แล้วดึงเฉพาะสารสกัดสำคัญเท่านั้น ออกมาใช้ เช่น เมื่อก่อนเวลาทานขมิ้นชันอาจจะต้องทาน 6 เม็ดต่อวัน แต่เมื่อเราดึงสารสำคัญๆ ที่มีในขมิ้นชันออกมาด้วยการสกัด ก็จะทำให้การทานลดลงเหลือแค่ 3 เม็ดแต่คุณสมบัติและคุณภาพเท่าเดิม”

กรรมการผู้จัดการฯ กล่าวตอกย้ำปณิธานของอัลทิมา ไลฟ์ ว่า ด้วยการแนะนำวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของเรา ถ้าอยากดูแลสุขภาพร่างกายและรูปร่างอย่างปลอดภัย สิ่งที่สำคัญมากคือ การใส่ใจเรื่องของการป้องกัน ดังนั้น เราอยากสนับสนุนให้ทุกคนรักและดูแลตัวเอง ตลอดจนคนในครอบครัว อยากให้เปิดใจทดลองทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอัลทิมา ไลฟ์ แล้วลองเฝ้าสังเกตดูว่า สุขภาพคุณดีขึ้นได้อย่างไร และนอกจากนี้ยังมีรายได้ได้อย่างไร ทั้งนี้ อยากให้โอกาส อัลทิมา ไลฟ์ ได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณและครอบครัว เพราะเราอยากให้ทุกวันของทุกคนตื่นขึ้นมามีสุขภาพดีไปพร้อมกับอัลทิมา ไลฟ์ ให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของเรา อยู่คู่บ้านของคุณในทุกช่วงอายุ และทุกเพศทุกวัย


ส่วนทางด้าน คุณธานัท จารุฤทธิไกร ผู้บริหารฝ่ายการตลาด ได้กล่าวเสริมถึงทิศทาง กลยุทธ์ และเป้าหมายของอัลทิมา ไลฟ์ ว่า เราตั้งเป้าไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์เพิ่มกว่า 30 รายการ แล้วตั้งเป้ายอดขายภายในสิ้นปีนี้อยู่ที่ 300 ล้านบาท แล้วในปี 2563 ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท และภายใน 3-5 ปี ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3,000 บ้านบาท โดยเราเปิดรับสมัครสมาชิกเริ่มที่ 200 บาทเท่านั้น

“สำหรับกลยุทธ์ที่อัลทิมา ไลฟ์จะใช้รุกตลาดอาหารเสริมคือเน้นความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ เราอยากให้ผู้บริโภคเห็นว่า “ของที่ดี...มีคุณภาพมีอยู่จริง” ซึ่งนักวิจัยที่มาคิดค้นสารสกัดใหม่ๆ ให้เราเป็นนักวิจัยที่มีความรู้ มีงานวิจัยที่รองรับ เรียกว่า เราเป็นศูนย์รวมนักวิจัยพัฒนา ซึ่งมีทั้งของเราเอง และของสถาบันต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศทั่วโลกมาเป็นพาร์ทเนอร์กับเราค่อนข้างมาก ดังนั้นเราจึงสามารถนำสารอาหารที่มีประโยชน์จริงๆ และสารสกัดที่ส่งผลดีต่อผู้บริโภคจริงๆ มาสู่ผลิตภัณฑ์ของเรา”




เราตั้งงบในการทำมาร์เก็ตติ้งไว้ 50 ล้านบาท เพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างและช่วยสมาชิกให้สามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเราได้มีการเลือกเฟ้นหาพรีเซ็นเตอร์ชื่อดังที่ตรงกับผลิตภัณฑ์ อาทิ จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช, แอนดี้ เขมพิมุข, แหม่ม-วิชุดานอกจากนี้ยังมีดาราดังอีก 2 ท่าน ที่จะมาสร้างเซอร์ไพรส์และเป็นต้นแบบของคนสุขภาพดียุค 2020 ที่จะมาถึงนี้  โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี อัลทิมายังมีแพลนผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กออกมาเพื่อลูกๆ ที่คุณรักอีกด้วย

นอกจากนี้ ผู้บริหารฝ่ายการตลาดฯ ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า เรายังมีแนวทางที่จะผลักดันให้ตัวแทนและสมาชิกที่มาร่วมธุรกิจให้นำความรู้ไปต่อยอดสู่รายได้ผ่านระบบการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ อัลทิมา ไลฟ์ คัดสรรมาโดยเฉพาะตัวแทนและสมาชิกเท่านั้น





“เรามีโรงเรียนในการสอนให้เขาทำธุรกิจให้เป็นสอนให้ขายของเป็น สอนให้สร้างรายได้ได้อย่างถูกวิธีและใช้ได้ในระยะยาว  เพราะว่าเรามีความเชื่อว่า เขาจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เขาจะต้องมีความรู้ เพราะถ้าไม่มีความรู้ก็ไม่สามารถสร้างอาชีพได้ ถ้าคุณมีความรู้ คุณจะมีอาชีพ มีรายได้ เราจะให้ความรู้จนคุณมีทักษะและความรู้ในทุกด้านโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในแขนงนั้นๆ กว่า 100 คอร์สเรียน เพื่อให้คุณนำความรู้ที่ได้รับจากเราไปสร้างรายได้อย่างมั่นคงยั่งยืน โดยที่เราจะไม่ทอดทิ้งคุณ”

พร้อมปิดท้ายงานสัมมนาด้วยการโชว์เทคโนโลยีเออาร์ สแกน (AR Scan) ตัวช่วยในการเข้าถึงและรู้จักผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดด้วยตัวคุณเอง เพียงแค่ใช้โทรศัพท์สแกนเออาร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นำเอาภาพเสมือน 3 มิติจำลองเข้าสู่โลกจริงผ่านกล้องและมีการประมวลผล โดยการทำให้วัตถุ 3 (ภาพเสมือน) ทับซ้อนกันกับภาพจริงเป็นภาพๆ เดียว โดยเราสามารถมองผ่านกล้องได้โดยตรง คล้ายเกม Pokemon Go นั่นเอง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสัมผัสมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพ ควบคู่กับการสร้างรายได้ที่มั่นคง ได้ที่ Facebook : Ultimalife by DOD , Line : @ultimalifethailand , www.Ultimalife.co.th หรือโทร 02-147-1683
« Last Edit: July 13, 2019, 06:31:09 PM by happy »