สสว.ปลื้ม SME ONE FEST 2019 ครั้งที่ 1 ณ เซ็นทรัลพลาซ่า เวสเกต ปิดจบสวยงาม 5 วัน

สสว.ปลื้ม SME ONE FEST 2019 ครั้งที่ 1 ณ เซ็นทรัลพลาซ่า เวสเกต ปิดจบสวยงาม 5 วัน เงินสะพัดกว่า 1.2 ล้านบาท



นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. เผยว่า ตามที่ สสว. ได้จัดงาน SME ONE FEST 2019 ในระหว่างวันที่ 19 – 23 มิถุนายน 2562 ณ ลานโปรโมชั่น บี ชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซ่า เวสเกตโดยมีผู้ประกอบการ SMEs ที่คัดสรรสินค้ามาจัดแสดง และจำหน่ายในงาน อาทิ เครื่องแต่งกาย  อาหาร  เครื่องประดับ สมุนไพร  เครื่องสำอาง ผลไม้และผักออร์กานิก กว่า 50 คูหา โดยขณะนี้ การจัดงานครั้งที่ 1 ได้จบไปแล้ว และได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างมากมาย โดยในช่วง 5 วันที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมงานกว่า 6 พันคน ยอดเงินสะพัดในงานกว่า 1.2 ล้านบาท ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 เครื่องแต่งกายจากผ้าไหม จาก บริษัท ฟ้าฝนไหมไทย  อันดับ 2 ผลไม้เมล่อน และไอศครีมเมล่อน จาก บริษัท วิสาหกิจชุมชนฟาร์มนกใหญ่เมล่อน อันดับ 3 ขนมข้าวตัง จาก บริษัท วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรลาดบัวขาว (ขนมป้าติ๋ม)  อันดับ 4 ซาลาเปา จาก บริษัท บจก. พี แอล เค ฟู้ด และ อันดับที่ 5 เครื่องแต่งกายจากผ้าขาวม้า จาก บริษัท วิสาหกิจชุมชน 3 ฤดู





นายสุวรรณชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นในครั้งแรกเท่านั้นยังได้รับการตอบรับมากขนาดนี้ สำหรับการจัดงาน SME ONE FEST 2019 ในปีนี้ เราจะจัดงานทั้งสิ้น 9 ครั้ง กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค โดยครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ  ครั้งที่ 3 ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์  ครั้งที่ 4 ที่เดอะมอลล์ โคราช  ครั้งที่ 5 ที่เซ็นทรัลพลาซ่า เชียงราย  ครั้งที่ 6 ที่ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต  ครั้งที่ 7 ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่  ครั้งที่ 8 ที่ เอสซีบี พาร์ค พลาซ่า ครั้งที่ 9 ที่ เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ สำหรับจุดเด่นของแต่ละที่ จะปรับเปลี่ยนไปตามภูมิภาค ซึ่งทาง สสว.จะเสนอข่าวการจัดงานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการ SMEs ทุกคนรู้สึกดีใจที่ได้รับคัดเลือกจาก สสว.ให้มาออกงานในครั้งนี้ เพราะนอกเหนือจากรายได้ที่ได้รับแล้ว ยังรู้สึกว่าได้ฝึกทักษะและเป็นการเปิดประสบการณ์ในการพัฒนาทักษะ ด้านการตลาดตามที่ได้อบรมมา แล้วสามารถเพิ่มช่องทางในการต่อยอดและประยุกต์ใช้กับธุรกิจ SMEs ของตัวเองได้ในอนาคต”