happy on May 10, 2019, 04:00:26 PM
“Milk Plus & More ” สานนโยบายรัฐ 4.0
ดันน้ำหัวปลีผสมอินทผลัมไทย สร้างชื่อในตลาดโลก
ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มแม่และเด็กครบวงจรภายใต้ชื่อ Milk Plus & More บุกหนักสานต่อนโยบายรัฐ 4.0 สยายปีกสู่ตลาดโลก เปิดช่องทางออนไลน์ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเต็มรูปแบบ ภายหลังผนึกกระทรวงพาณิชย์ ออกบูธในต่างประเทศ น้ำหัวปลีผสมอินทผลัม ผลิตภัณฑ์แปรรูปภาคการเกษตรไทย ยังแรงและกระแสตอบรับดีจากทั่วโลก ต่อเนื่อง นางสาวศราณี วิสุทธิผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลค์พลัส แอนด์ มอร์ จำกัด เปิดถึงกลยุทธ์การทำตลาดแบรนด์”Milk Plus & More” ว่า ต้องยอมรับจุดเด่นสำคัญของผลิตภัณฑ์เกษตรไทยแปรรูป มีคุณภาพสูง เป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะหัวปลี กับอินทผลัม ที่เรียกได้ว่า ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลา 3 ปี กับการสร้างชื่อ Milk Plus & More ในตลาดสากล ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ “น้ำหัวปลี” แบรนด์ Milk Plus & More มี 4 รสชาติ ได้แก่ รสดั้งเดิม ขิง พุทราจีน และมะขาม โดยทั้งหมดใช้อินทผลัมแทนน้ำตาล เจาะกลุ่มคุณแม่ก่อนและหลังคลอดเพื่อบำรุงสุขภาพและช่วยเรียกน้ำนมให้ทารกได้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ภายใต้การผลิตที่ได้มาตรฐานสากล มีอย. ฮาลาล และ GMP ด้วยกระบวนการผลิตในระบบสเตอร์ริไรส์สามารถเก็บได้นาน 1 ปีโดยไม่ต้องแช่เย็น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มไลน์สินค้า “อาหารเด็กชนิดผง” แบรนด์ Twinkle Star ชูกรรมวิธีการผลิตด้วยระบบฟรีซดรายเจ้าแรกในไทย ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่สำคัญและเป็นพื้นฐานของอาหารเด็กอ่อนสำหรับมื้อแรกในชีวิต มี 6 รสชาติ ได้แก่ ตับ เนื้อไก่ ฟักทอง กล้วยน้ำว้า ป๋วยเล้งและข้าวโพด โดยปราศจากสารปรุงแต่งใดๆ ทั้งสิ้น เป็นรสชาติดั้งเดิมจากธรรมชาติแท้ 100% ซึ่งฟรีซดรายจะไม่ใช้ความร้อนจึงทำให้คุณค่าทางวิตามินกลิ่นและรสชาติไม่สูญ โดยวัตถุดิบส่วนหนึ่งทางโรงงานผู้ผลิตจะปลูกขึ้นเองและรับซื้อจากชาวบ้านเน้นการปลูกแบบปลอดสารพิษ ส่วนเส้นทางในอนาคตของผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่และลูกน้อย จะพัฒนาต่อยอดไม่สิ้นสุด ซึ่งขอวางตำแหน่งเป็นผู้ประกอบการด้านนี้อยู่เคียงข้างการเจริญเติบโตทุกช่วงวัยของเด็กตั้งแต่แรกเกิดโดยวางแผนผลิตขนมขบเคี้ยวที่ชิ้นใหญ่ขึ้น หรือที่เรียกว่า “Finger Food” ตอบรับเด็กที่โตขึ้น เน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติเช่นเดิม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เด็กในวัยเจริญเติบโตได้รับประทานอาหารหรือขนมที่มี คุณค่าทางโภชนาการ อย่างไรก็ตามสามารถโทรสอบถาม06-4141-5551 หรือเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ที่ Website : milkplusandmore.com .
ทางด้านนายกิตติภูมิ สุขสุกานินท์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายตลาดต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า เราเน้นนโยบายรัฐ 4.0 เรื่องดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ทำตลาดออนไลน์มากขึ้น เพราะเป็นช่องทางที่มีศักยภาพและจะทำให้ทั่วโลกได้รู้จักอย่างรวดเร็ว เราเดินสายออกบูธทั้งหาตลาดเอง และร่วมออกบูธกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เช่น กระทรวงพาณิชย์ ไปกัมพูชา สิงคโปร์ พม่า ลาว เป็นต้น และในอนาคตอันใกล้นี้จะมีแผนรุกตลาดจีน และสหรัฐอเมริกาต่อไป ซึ่งทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นและตั้งเป้าการเติบโต 50 % ต่อเนื่อง
« Last Edit: May 10, 2019, 04:36:02 PM by happy »
Logged
