NOSTRA MAP แนะค่ายรถสร้างความต่างเสริมจุดแข็งด้วย Lifestyle Content

ข่าวประชาสัมพันธ์ NOSTRA MAP แนะค่ายรถสร้างความต่างเสริมจุดแข็งด้วย Lifestyle Content ผลักดันกลยุทธ์ Customer Centric สร้างมิติใหม่ของตลาด Connected Car









NOSTRA MAP เผยตลาดรถยนต์เติบโตถึง 17.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากปัจจัยหลักโครงการรถคันแรกที่ถึงกำหนดครบระยะเวลา 5 ปี ส่งผลผู้บริโภคตัดสินใจเปลี่ยนรถยนต์ใหม่ และปัจจัยหนุนด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ เผยเทรนด์เทคโนโลยี Connected Car มาแรงเติบโตต่อเนื่อง คาดจะสูงถึงประมาณ 4,981,044 ล้านบาท ในปี 2566 ระบุเทรนด์ Connected Car จะมาพร้อมการให้บริการในรูปแบบธุรกิจเพื่ออำนวยความสะดวกสะบายและความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งาน ทั้ง Infotainment บริการด้านข่าวสารและความบันเทิง Usage-based Insurance บริการประกันภัยที่คิดเงินตามการขับจริง Emergency Service บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน, Maintenance บริการตรวจเช็ครถยนต์ระยะไกล V2X, Bigdata และ Automated Driving ชี้ค่ายรถยนต์เพิ่มโอกาสการแข่งขันทางธุรกิจด้วยการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง Connected Car เข้ามาเสริมจุดแข็งด้วยความเป็น Lifestyle Content ยกระดับชีวิตการขับขี่บนท้องถนนและตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ด้าน NOSTRA ส่ง Infotainment หรือบริการด้านข่าวสารและความบันเทิงที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากกว่าเดิม ด้วย Online Lifestyle Content ตอบโจทย์ตลาด โดยล่าสุดมีค่ายรถยนต์รายใหญ่ ๆ สนใจใช้บริการแล้ว และมีรถยนต์ที่ติดตั้งระบบแล้วกว่า 30,000 คัน ตั้งเป้าภายในปลายปี 2562 จะมีรถยนต์ที่เชื่อมต่อระบบถึง 65,000 คัน


นายวิชัย แสงหิรัญวัฒนา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โกลบเทค จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี ผู้พัฒนา NOSTRA MAP แอพพลิเคชั่น เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยมีอัตราการเติบโตที่น่าจับตามองในปีนี้ เนื่องจาก ในปี 2561 มีสถิติยอดขายรถยนต์ทั้งปีรวมกว่า 1 ล้านคัน จากปัจจัยหนุนด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ การลดหย่อนเกณฑ์การให้สินเชื่อเช่าซื้อ และปัจจัยหลักอย่างโครงการรถคันแรกที่ถึงกำหนดครบระยะเวลา 5 ปี ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในเดือนแรกของปี 2562 ยังมีตัวเลขที่สูงกว่า 17.3% เมื่อเทียบกับปี 2561 ทำให้ตัวเลขการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์คาดการณ์ในปีนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การเติบโตที่เพิ่มขึ้นนำมาซึ่งการแข่งขันที่เข้มข้น ค่ายรถยนต์เพิ่มโอกาสการแข่งขันทางธุรกิจด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มจุดขาย และเทรนด์เทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง Connected Car ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมและสั่งการเปิดปิดระบบภายในรถยนต์ รวมถึงการใช้ระบบแผนที่นำทางอัจฉริยะที่มาพร้อมกับข้อมูล Lifestyle Location Content เข้ามาต่อยอดสร้างคุณค่าให้กับค่ายรถยนต์ ที่ช่วยยกระดับชีวิตการขับขี่บนท้องถนนให้สะดวกสบายและเชื่อมต่อผู้ขับขี่กับเทคโนโลยีให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นกำลังได้รับความนิยม

“สภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยต่างแข่งขันจูงใจผู้บริโภคด้วยเทคโนโลยี (Technology driven) เห็นได้จากเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าประหยัดพลังงานที่จะเกิดขึ้นภายใน 5 ปีนี้ จากการที่ค่ายรถหลายค่ายยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) และอีกหนึ่งเทคโนโลยีอัจฉริยะในตัวรถยนต์ที่น่าสนใจอย่าง Connected car โดยจากตัวเลขการเติบโตของ Connected Car ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีมูลค่าประมาณ 1,655,957 ล้านบาทในปี 2560 และประมาณการว่าจะสูงถึงประมาณ 4,981,054 ในปี 2566 โดยจะมีอัตราเติบโตสะสม 20.7% ตามช่วงประมาณการความต้องการสำหรับการเพิ่มประสบการณ์ขับขี่ที่ดีขึ้น รวมทั้งความปลอดภัยในการขับขี่ ผนวกกับการเปิดรับ IoT ในอุตสาหกรรมยานยนตร์ จะเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนตลาดต่อไป” นายวิชัยกล่าว

นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า Connected car เข้ามาเสริมจุดแข็งด้วยความเป็น Lifestyle Content ยกระดับชีวิตการขับขี่บนท้องถนนและตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป และยังเป็นเทคโนโลยีที่นำไปสู่การให้บริการในรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานในด้านการอำนวยความสะดวกสะบายและความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Infotainment บริการด้านข่าวสารและความบันเทิง Usage-based Insurance บริการประกันภัยที่คิดเงินตามการขับจริง Emergency Service บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน, Maintenance บริการตรวจเช็ครถยนต์ระยะไกล V2X, Bigdata และ Automated Driving  เป็นต้น ซึ่ง NOSTRA ในฐานะที่เป็น Location Content Provider ในตลาดอุปกรณ์นำทางในรถยนต์ พร้อมส่ง Infotainment หรือบริการด้านข่าวสารและความบันเทิงที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากกว่าเดิม ด้วย Online Lifestyle Content ไม่ว่าจะเป็นบริการระบบแผนที่นำทางให้สามารถค้นหาจุดหมายปลายทางและนำทางได้อย่างแม่นยำ ขับขี่อย่างมั่นใจไม่พาหลง ในขณะนำทางนั้นก็แสดงผลรายงานจราจรและการเกิดอุบัติเหตุได้ หรือแม้กระทั่งแสดงผลสภาพอากาศเพื่อเตรียมตัวรับมือ สามารถติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันหน้าปั้มแบบเรียลไทม์ หากต้องการแวะพักก็สามารถดูข้อมูลแนะนำร้านอาหารพร้อมรีวิว เรทติ้งประกอบการพิจารณาได้ หรือแม้กระทั่งการหาโรงแรมที่พักพร้อมราคา ก็สามารถเลือกจากเรทราคา แสดงผลตามราคา กดจองทันทีได้อีกด้วย

“ปัจจุบัน NOSTRA MAP พร้อมให้บริการ “Online Lifestyle Content” ให้กับค่ายรถยนต์แล้ว โดยมีรถยนต์ที่ติดตั้งระบบแล้วกว่า 30,000 คัน ตั้งเป้าภายในปลายปี 2562 จะมีรถยนต์ที่เชื่อมต่อระบบถึง 65,000 คัน ซึ่งข้อมูลส่วนหนึ่งมาจากความร่วมมือของพาร์ทเนอร์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลอีเว้นต์การเกิดอุบัติเหตุจาก จส 100, ตำแหน่งร้านอาหารพร้อมรีวิวจากวงใน, ข้อมูลโรงแรมที่พักจากอาโกดา และแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฯลฯ  โดยมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากจะเห็นได้ว่าจากงาน Motor Show 2019  ได้เน้นเรื่องสุนทรียภาพทางอารมณ์ของผู้ขับขี่เป็นหลัก “Enjoyment of Automobiles” ให้คนได้เลือกรถที่ใช่ ตอบ lifestyle ที่ชอบ จึงเป็นอีกโจทย์หนึ่งที่ทาง Product Marketing  ของค่ายรถต่าง ๆ จะได้ Focus ที่กลุ่มลูกค้าของตัวเองอย่างจริงจัง เพื่อการตอบสนองผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างตรงจุดต่อไป” นายวิชัย กล่าวทิ้งท้าย

เกี่ยวกับ บริษัท โกลบเทค จำกัด
บริษัท โกลบเทค จำกัด ในกลุ่มบริษัท ซีดีจี เป็นผู้นำการให้บริการโซลูชันด้านข้อมูลแผนที่ดิจิทัล และ Location Contents ที่มีความละเอียด ถูกต้อง และทันสมัยสูงสุด ครอบคลุมถึง 10 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ภายใต้แบรนด์ “นอสตร้า”  (NOSTRA) รองรับการใช้งานทั้งออนไลน์และออฟไลน์ สามารถใช้งานร่วมกับระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) และเป็นแผนที่อันดับ 1 ในตลาดอุปกรณ์ระบบนำทางด้วยจีพีเอสในรถยนต์มากกว่า 10 ปี ปัจจุบันร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ขยายตลาดให้บริการ IoT Platform และโซลูชันด้านความปลอดภัยในการขับขี่ (ADAS) ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.nostramap.com

#NOSTRAmap #แผนที่นอสตร้าละเอียดแม่นยำสูงสุด #NOSTRAforBusiness #LocationContent

เกี่ยวกับ กลุ่มบริษัท ซีดีจี
กลุ่มบริษัทซีดีจี (CDG Group) ผู้ให้บริการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจรแก่องค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 50 ปี ในการให้บริการด้านไอทีโซลูชันที่เป็นเลิศ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบระบบ พัฒนา จัดหาอุปกรณ์ พร้อมติดตั้งระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ ตลอดจนบริการฝึกอบรมให้แก่บุคลากรในองค์กรของลูกค้าให้พร้อมนำไปปฏิบัติงานได้ทันที ภายใต้วิสัยทัศน์ ผู้ให้บริการเทคโนโลยีโซลูชันที่ใช้งานได้จริง ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและแก้ปัญหาให้แก่สังคมอย่างสร้างสรรค์เพื่อชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.cdg.co.th

#CDGGroupThailand