"เอ็กซ์โปลิงค์" ตีปีกปี 62 ขึ้นแท่นผู้นำตลาดจัดงานแสดงสินค้าของไทย
เตรียมขนขบวนงานระดับนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างอุตสาหกรรมไทยไปสู่ระดับสากล
"เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค" สยายปีกขึ้นแท่นผู้นำตลาดจัดงานแสดงสินค้าของไทย และเอเชีย พร้อมบุกตลาดปี 62 จัดงานทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดกว่า 5 งาน พร้อมดันงาน THAIFEX งาน Trade Show ด้านอาหาร และเครื่องดื่ม ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน ASEAN ขยายพื้นที่เพิ่มอีก 24,000 ตร.ม. เป็น 131,000 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 11 อาคาร โดยคาดว่าจะมีนักธุรกิจจากทั่วโลกเข้าชมงาน 67,000 คนภายในงานจะมี Exhibitor จัดแสดงสินค้ากว่า 2,700 ราย และมีกลุ่มผู้ซื้อรายสำคัญที่เป็น Hosted Buyer กว่า 2,100 ราย หวังปีนี้ยอดจัดงานโตกว่า 20%นายภูษิต ศศิธรานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ มาเป็นเวลากว่า 18 ปี และร่วมลงทุนถือหุ้นของบริษัทฯ ในสัดส่วน 51% และ 49% โดยโคโลญแมสเซ่(Koelnmesse GmbH) รัฐวิสาหกิจจากเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งและดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 90 ปี เป็นบริษัทจัดงานแสดงสินค้าใหญ่อันดับ 4 ของโลก อีกทั้งเป็นผู้จัดงานระดับนานาชาติที่รู้จักกันทั่วโลก อาทิ Anuga งานอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก imm งานเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ซึ่งเอ็กซ์โปลิงค์ รับบริหารจัดงานนิทรรศการ การประชุมสัมมนา กิจกรรมเพื่อการตลาด งานประชาสัมพันธ์ ทั้งใน และต่างประเทศ เป็นตัวแทนงานแสดงสินค้าระดับโลกให้กับโคโลญแมสเซ่ ประมาณ 63 งานแต่ผู้เดียวในประเทศไทย และในประเทศไทยยังเป็นผู้จัดงาน อาทิ Thaifex World of Food Asia 2004-2019, Victam Asia 2006-2020, Intelligent Warehouse 2015-2019 และอีกมากมาย
งาน "เอ็กซ์โปลิงค์" ปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คืองานนิทรรศการทางการค้าที่จัดขึ้นในประเทศไทย เช่น งาน Thaifex-World of Food Asia งานแสดงสินค้านานาชาติทางด้านอาหาร งาน Intelligent Warehouse งานนิทรรศการแห่งเทคโนโลยีคลังสินค้าที่จัดร่วมกับชมรมเทคโนโลยีคลังสินค้าและระบบจัดการ ซึ่งปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 กรกฎาคม 2562 ที่อิมแพ็ค และงาน Victam Asia งานนิทรรศการเทคโนโลยีทางด้านการผลิตอาหารสัตว์ ที่จัดโดย Victam International BVส่วนที่ 2 จะเป็นงานที่จัดขึ้นที่เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ซึ่งเราเป็นตัวแทน เช่น งาน Anuga งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นทุกๆ 2 ปี ที่เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ภายในงานจัดแสดงอาหาร เครื่องดื่ม เทคโนโลยีเกี่ยวกับอาหาร บริการด้านจัดเลี้ยง ตลอดจนการค้าปลีกและค้าส่งผลิตภัณฑ์ด้านอาหารอย่างครบวงจร จุดนัดพบที่สำคัญของนักธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารจากทั่วทุกมุมโลก บนพื้นที่กว่า 284,000 ตารางเมตร ในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-9 ตุลาคม 2019 ซึ่งตอนนี้มีบริษัทคนไทยไปร่วมงานกว่า 3200 ตารางเมตร จำนวนประมาณ 180 บริษัท
และมี งาน Gamescom เป็นงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับเกมที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งยุโรป โดยจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2009 ที่เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ภายในงานจะจัดแสดงสินค้าประเภท games, consoles, และ gaming hardware ที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุด เป็นจุดนัดพบสำคัญของสื่อมวลชน ผู้พัฒนาเกม และบรรดาร้านค้าปลีก รวมถึงบุคลากรสำคัญๆ ของอุตสาหกรรมเกมจากทั่วทุกมุมโลก โดยในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 สิงหาคม 2019นายภูษิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมี งาน imm cologne เป็นงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้านและอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนที่สำคัญงานหนึ่งของโลก และใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี เป็นจุดนัดพบที่สำคัญสำหรับนักธุรกิจในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ในครัวเรือน ตลอดจนเป็นศูนย์รวมของเหล่านักออกแบบชื่อดังระดับนานาชาติจากทั่วทุกมุมโลก โดยงานนี้จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงกลางเดือนมกราคม ที่เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ซึ่งครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อปี 1949 และสำหรับปีหน้านี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 มกราคม 2020
สำหรับงานที่จัดในประเทศไทย โดยบริษัทฯมีส่วนเข้าไปช่วยในการบริหารการจัดงานให้กับหอการค้าไทย ในพื้นที่ต่างจังหวัด คืองานหอการค้าแฟร์ เชียงใหม่ ซึ่งปีนี้ได้ขยายการจัดงานไปที่จังหวัดขอนแก่นอีกด้วย งาน หอการค้าแฟร์เป็นงานที่รวบรวมสินค้ามากมาย ทั้งอุปโภค บริโภค รถยนต์ ธนาคาร มาที่เดียวจบครบทุกอย่าง โดย งานหอการค้าแฟร์ ขอนแก่น จะจัดขึ้นในวันที่ 28 มิถุนายน - 7 กรกฎาคม 2562 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น KICE และหอการค้าแฟร์ เชียงใหม่ จะจัดขึ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน - 8 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 700 รอบพระชนมพรรษา เชียงใหม่ CMECCซึ่งในปี 61 ที่ผ่านมา มีรายได้เพิ่มขึ้น โดย 80% มาจากงานแสดงสินค้า และ 20% มาจากงานที่เรารับบริหารให้กับหน่วยงานต่างๆ และคาดว่าในปีนี้ 62 บริษัทฯจะมีอัตราการเติบโตอีกกว่า 20% โดยมาจากการขยายพื้นที่ในการจัดงานเพิ่มขึ้น
นายภูษิต กล่าวต่ออีกว่า งาน THAIFEX - World of food Asia ถือเป็นงานใหญ่ของบริษัทฯ ซึ่งปีนี้จัดเป็นปีที่ 16 แล้ว จัดโดยความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานหลัก คือ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย และ โคโลญเมสเซ่ จากประเทศเยอรมันนี สำหรับปีนี้ THAIFEX 2019 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน 2562 โดยแบ่งเป็น วันเจรจาการค้า ตลอดทั้ง 5 วัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึง 18.00 น. และวันจำหน่ายปลีก 1 มิถุนายน เวลา 10.00 - 20.00 น. สำหรับปีนี้ เราได้ขยายพื้นที่จัดงาน จาก 107,000 ตารางเมตร เป็น 131,000 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 11 อาคาร โดยคาดว่าจะมีนักธุรกิจจากทั่วโลกเข้าชมงาน 67,000 คนภายในงานจะมี Exhibitor จัดแสดงสินค้ากว่า 2,700 ราย และมีกลุ่มผู้ซื้อรายสำคัญที่เป็น Hosted Buyer กว่า 2,100 รายปีที่ผ่านมา มี Exhibitor รวม 2,537 ราย แบ่งเป็นผู้ประกอบการไทย 1,277 ราย และ Exhibitor จากต่างประเทศ 1,266 ราย ซึ่งมีผู้จัดแสดงสินค้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 17% Exhibitor จากต่างประเทศ อันดับ 1 ก็คือ จีน รองลงมาจะเป็น เกาหลี ใต้หวัน ญี่ปุ่น มาเลเซีย ตามลำดับ สินค้าที่จัดแสดงก็เรียงตามลำดับลงมา ตั้งแต่ ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป ขนมและของขบเคี้ยว ผักผลไม้ เทคโนโลยีอาหาร เครื่องดื่ม อาหารทะเล บริการด้านอาหาร กาแฟและชา และอาหารแช่แข็งตามลำดับ ในส่วนของ Visitor ปีที่ผ่านมามีผู้เข้าชมงานกว่า 62,000 คน แบ่งเป็น ผู้ซื้อจากประเทศไทย 48,000 กว่าคน และผู้ซื้อต่างชาติ 13,000 กว่าคน โดยชาติที่เข้าชมงานมากที่สุด ได้แก่ จีน มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น ตามลำดับ
"ภาพรวมการจัดงานแสดงสินค้า และนิทรรศการนานาชาติ ในปี 2561 ที่ผ่านมา มีการจัดงานทั้งสิ้น 123 งาน สูงกว่าปี 2560 ที่มี 114 งาน มีชาวต่างชาติเดินทางมาเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibition) ทั้งสิ้นจำนวน 974,328 คน ขยายตัวร้อยละ 131.67 แต่เมื่อไม่คิดรวม Mega Events พบว่า นักเดินทางที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่ประกอบด้วยผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าหรือ Exhibitors และผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าหรือ Visitors ในปี 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 233,228 คน สูงกว่าจำนวน 215,992 คน ในปี 2560 หรือขยายตัวร้อยละ 7.98 ประกอบด้วยผู้เข้าร่วมแสดงสินค้า 34,520 คน และผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า จำนวน 198,708 คน โดยขยายตัวร้อยละ 39.19 และร้อยละ 3.93 ตามลำดับ" นายภูษิต กล่าวสรุปในตอนท้าย