happy on March 14, 2019, 01:36:39 PM


ซิลิงโก้ (Zilingo) ทุ่มงบ 7,000 ล้านบาท ขยายแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์โตเร็วระดับโลก


ซิลิงโก้ (Zilingo) แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ ประกาศทุ่มงบ 226 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 7,000 ล้านบาท เดินหน้าบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังพบว่าปี 2561 ที่ผ่านมาภาพรวมของตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในโลก ส่งผลให้ปีที่ผ่านมา ซิลิงโก้ (Zilingo) ได้ทำการขยายแพลตฟอร์ม B2B เพิ่มเติมในประเทศเวียดนาม บังคลาเทศ และกัมพูชา รวมไปถึงการก่อตั้งสำนักงานที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

เนื่องจากอุตสาหกรรมแฟชั่นทั่วโลก มีมูลค่ามากถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์  ซิลิงโก้จึงมองเห็นโอกาสที่จะขึ้นมาเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่โตเร็วที่สุดในระดับโลก ด้วยการชูจุดเด่นการเป็นสื่อกลางของตลาดออนไลน์ในทุกๆด้านที่เกี่ยวกับแฟชั่น และไลฟ์สไตล์ อีกทั้ง แอนกิติ โบส ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งของซิลิงโก้ (Zilingo) เปิดเผยว่า เนื่องด้วยการเติบโตที่รวดเร็วของ ซิลิงโก้ (Zilingo) ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้เรายังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในภูมิภาคนี้ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 ที่ผ่านมา เพื่อให้ ซิลิงโก้ (Zilingo) เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่โตเร็วที่สุดในระดับโลก


เนื่องด้วยมูลค่าตลาดของธุรกิจที่มหาศาล ส่งผลให้อุตสาหกรรมนี้ต้องอาศัยผู้ขายและผู้ผลิตจํานวนมาก ซึ่งจากการแข่งขันที่รุนแรงทำให้ธุรกิจขนาดเล็กต้องเผชิญกับพ่อค้าคนกลาง ผนวกกับที่ผ่านมาเทคโนโลยีที่เข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยในการค้าขายที่ค่อนข้างล้าสมัย ด้วยเหตุนี้ซิลิงโก้ (Zilingo) จึงมองเห็นโอกาสในการเข้ามาทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซแฟชั่นและไลฟ์สไตล์  เพื่อปลดล็อคปัญหาต่างๆ เและลดขั้นตอนที่ซับซ้อนยุ่งยาก โดยเฉพาะระบบ Supply Chainด้วยการสร้างแพลตฟอร์มครบวงจรที่สมบูรณ์แบบให้กับร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งจะเป็นประโยชน์และเอื้อโอกาสให้กับผู้ขาย ในขณะเดียวกันผู้ซื้อก็จะได้รับข้อเสนอที่ดี ทั้งด้านราคา และคุณภาพของสินค้า อีกทั้งยังเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าได้มากขึ้น

แอนกิติ กล่าวว่า “เราได้วาดภาพอนาคตไว้ว่า ซิลิงโก้ (Zilingo) จะเป็นจุดสูงสุดของวงการแฟชั่น ในฐานะผู้นําที่รวบรวมความแตกต่างไว้อย่างเท่าเทียม โดยให้ความสำคัญและช่วยเหลือลูกค้า B2C และ B2B ไปพร้อมกัน เพราะวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจของเรา คือ การช่วยเหลือลูกค้าทั้งสองกลุ่มให้เติบโตไปพร้อมกับเรา”


มาริต้า อับราฮัม ผู้บริหารฝ่ายการตลาด

โดยในส่วนของกลุ่มลูกค้า B2C จะเป็นออนไลน์แพลตฟอร์มเพื่อผู้จัดจำหน่ายขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ต้องการขายสินค้าในจำนวนไม่มากและอยากขายสินค้าไปยังต่างประเทศ อาจกล่าวได้ว่าเมื่อผู้ขายจำหน่ายสินค้าที่ตลาด หรือตามห้างสรรพสินค้า (Offline Market) ผู้ขายจะมีต้นทุนคงที่ และยังค่อนข้างจำกัดเรื่องของจำนวนผู้เยี่ยมชม แต่ถ้าขายกับ ซิลิงโก้ (Zilingo) จะมีผู้เยี่ยมชมจากทั่วทุกมุมโลกที่สามารถเห็นสินค้าของเขาได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเขาต้องการถ่ายภาพสินค้าต่างๆ เราสามารถที่จะจัดหาให้เขาได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด หรือ หากเขาต้องการการสนับสนุนทางการเงิน เราก็สามารถที่จะสนับสนุนได้เช่นกัน

ขณะที่กลุ่มลูกค้า B2B รูปแบบองธุรกิจค่อนข้างมีความคล้ายกับ B2C แต่เราไม่ได้สนใจเพียงผู้จัดจำหน่ายรายย่อยเท่านั้น แต่เรายังสนใจผู้จัดจำหน่ายสเกลที่ใหญ่กว่าด้วย อย่างเช่น โรงงานผลิต และโรงงานเสื้อผ้า หรือแม้แต่ศูนย์จัดจำหน่าย ซึ่งจะถูกแสดงออกไปใน ซิลิงโก้ (Zilingo) ทุกๆประเทศ เพื่อที่จะเปิดโอกาสทางธุรกิจ และทำให้บริการของเรามีความครบวงจรมากขึ้น


ศิรประภา ภารสุคนธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย

สำหรับการทำตลาดในประเทศไทย ซิลิงโก้ (Zilingo) มีสินค้ามากกว่า 1 แสน SKUs ที่คัดสรรมาเพื่อคนไทย นอกจากนี้ผู้จัดจำหน่ายส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่น จึงทำให้สินค้าที่จำหน่ายใน ซิลิงโก้ (Zilingo) ตรงกับความต้องการลูกค้าคนไทย เพราะผู้ประกอบการท้องถิ่นรู้ดีว่าคนไทยมีความต้องการอย่างไร อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้จัดจำหน่ายของ ซิลิงโก้ (Zilingo) ในแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกัน  แต่ในด้านวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจยังคงอยู่ภายใต้กรอบเดียวกัน คือ ต้องการที่จะสนับสนุนผู้คนให้เป็นตัวของตนเอง เชื่อในความเท่าเทียม และสิทธิมนุษยชน เราทุกๆคนสมควรที่จะได้รับไม่ว่าคุณจะเป็นใคร

แอนกิติ กล่าวต่อว่า “ทุกๆคนมีความพิเศษเฉพาะตัว และเราเองก็เช่นกัน เอกลักษณ์และความพิเศษของเรา คือ แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ ด้วยฐานลูกค้าของเราใน 4 ประเทศ (ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์) เราจะอัพเดทเทรนแฟชั่นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้กับลูกค้าของเรา และเราต้องการที่จะเสนอสินค้าที่เราคัดสรรมาอย่างดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราด้วย อย่างไรก็ดี เพื่อให้ลูกค้าไว้ใจในบริการของ zilingo มากขึ้น ในอนาคตเรามีแผนที่จะพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เช่น ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง  เป็นต้น หลังจากตอนนี้เรามีนโนบายเกี่ยวกับคืนสินค้า ซึ่งจะสามารถคืนได้ภายใน 15 วัน”


นริสสา ลิมปนาทร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด

ปัจจุบัน ซิลิงโก้ (Zilingo) ให้บริการผู้ซื้อและผู้ขายทั้งทาง B2B และ B2C กว่า 15 ประเทศทั่วโลก ประกอบด้วย ไทย สหรัฐอเมริกา บราซิล อินเดีย  บังคลาเทศ  เกาหลีใต้ ฮ่องกง จีน กัมพูชา เวียดนาม อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ มีคู่ค้าทางธุรกิจรวมกันกว่า  25,000 ราย มีพนักงานกว่า 400 คน มีลูกจ้างทางอ้อม 1 แสนคน และมีโรงงานที่เข้าร่วมธุรกิจกว่า 1,200 แห่งทั่วโลก

###

เกี่ยวกับ ซิลิงโก้ (Zilingo)

ซิลิงโก้ (Zilingo) ก่อตั้งในปี 2015 โดย แอนกิติ โบส และดรูฟ คาพัวร์  Zilingo  เป็นแพลตฟอร์มช๊อปปิ้งออนไลน์ ที่ใช้เทคโนโลยีมาขับเคลื่อนให้กับวงการแฟชั่นและความงามทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Zilingo เชื่อมต่อธุรกิจต่างๆตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และช่วยส่งเสริม อำนวยความสะดวกให้ทุกขั้นตอนในการประกอบธุรกิจ ตั้งแต่การออกแบบ การพัฒนาสินค้า การจัดหาวัตถุดิบ การบรรจุ การทำแคตตาล๊อก การตลาด การจัดการคลังสินค้า การจัดจำหน่าย การวางบิล การบริการลูกค้า เงินทุน และการคาดการณ์เทรนด์




Zilingo spends 7,000 million Baht for expanding the shopping online platform in global level


Zilingo, shopping online platform, spends $226 million or exceeding 7,000 million baht for penetrating South East Asia because we found that the overview of e-commerce market in South East Asia significantly increases and achieves a quantum leap growth. In this sense, Zilingo expands the B2B platform with supplier bases in Vietnam, Bangladesh and Cambodia. Moreover, Zilingo sets up an office in Manila, Philippines.

By focusing on the global fashion & lifestyle industry is over $3 trillion in size and it relies heavily upon merchants and suppliers in Asia. But the small businesses which are the backbone of this industry are extensive with middlemen and marred by out-of-date tech. Zilingo realises this pain point and the opportunity to growth. The result of this has led us to continually expand the business in this region since 2561 and also provide a full-stack platform which can solve massive efficiencies in the supply chain and in turn, change the lives and trajectories of merchants. Besides, when the merchant is fully enabled, they are able to provide to the ultimate consumer the best prices, the best quality and the most diversity in choice.



Angiti Bose envisions a future where Zilingo stands at the apex of the fashion world as the champion for fashion democracy and inclusivity by supporting our both customers; B2C and B2B for their business growth.

In case of B2C, it is an online platform for vendors, SMEs or Small re-sellers, selling in small quantity and wants to represent their products to the world. Once they are selling at some offline market, there will be a lot of fixed cost to pay and the number of visitors is limited. However, selling with Zilingo, we offer to these vendors visibility to the world, to many countries. For example, we offer financial support and provide photoshoot that with under market price.



In terms of B2B, it is similar to B2C business model that we have except for the vendors that we are focusing is much larger scale like manufacturers, garment factories or even distributors to be on our B2B online platform. That we will be represented across Geos to open to new business opportunity and we have ecosystem supports for B2B vendors as same as B2C. It could be seen that our main vision is to help these people grow along with us by providing them as much help as we could.
 
For doing marketing in Thailand, Zilingo has more than 100K SKUs that specifically chosen for Thai people. Most of vendors are local vendors, so they know what Thai people’s demand and what Thai people like on trend. But all Geos of Zilingo, we are united to the same vision and that is to encourage people out there to be themselves, we believe in equality and human right. We all deserve to be whoever we truly are.



Angiti said “We all have our own specialty which is fashion & lifestyle, with our base customer in 4 Geos (Thailand, Singapore, Indonesia, Philippines), we can provide our customers the most fashionable trend in SEA. We want to provide the best products to our customers which we are selecting thoughtfully every day.” In the future, we have planned to develop a beneficial tools for supporting our customers to make an easy decision such as buy now pay later and return policy within 15 days.

Currently, Zilingo provides services to both B2C and B2B in more than 15 countries including Thailand, United State, Brazil, India, Bangladesh, South Korea, Hongkong, China, Cambodia, Vietnam, India, Singapore, Malaysia, Australia and Philippines. This accounted for 25,000 merchants, 400 employees, 100k  indirect employees and 1,200 manufactures.