news on March 02, 2019, 11:59:58 AM
การจัดการข้อมูลจะเป็นเรื่องง่าย ด้วยเทคโนโลยี AI บนระบบปฎิบัติการ Operations Engine ของอีริคสัน

–   รองรับการใช้งานบนเครือข่ายที่มีความซับซ้อน การบริหารจัดการอุปกรณ์จำนวนมหาศาล บนเทคโนโลยีที่หลากหลาย (4G, 5G, IoT) ซึ่งมักมีความต้องการในการให้บริการที่แตกต่างกัน

–   เปลี่ยนระบบโอเปอร์เรชั่นส์ที่ทำหน้าที่เพียงติดตามแก้ไขปัญหา (reactive)ไปสู่ระบบที่สามารถคาดการณ์และป้องกันเหตุร้ายได้ (proactive)โดยอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีที่สุด

–   สร้างบริการใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสมด้วยความสามารถและส่วนประกอบใหม่เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล เทคโนโลยี AIและระบบอัตโนมัติ




อีริคสัน (NASDAQ:ERIC) เปิดตัวบริการจัดการข้อมูล(Managed Services)ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence)ภายใต้ชื่อ Ericsson Operations Engineโดยโซลูชั่นส์ดังกล่าวสามารถดูแลจัดการข้อมูลได้อย่างครบวงจร โดยอาศัยเทคโนโลยีAI (Artificial Intelligence)ระบบอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เพื่อให้ระบบปฎิบัติการของเครือข่าย ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การออกแบบและปรับเปลี่ยนเครือข่ายรวมไปถึงการสร้างแอพพลิเคชั่นส์ และการบำรุงรักษาเป็นไปได้โดยง่าย

การจัดการข้อมูลบนระบบปฎิบัติการOperations Engine ของอีริคสันจะช่วยจัดการกับความท้าทายอันเนื่องมาจากความซับซ้อนที่ผู้ให้บริการจะต้องเผชิญในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 5G และ IoT ได้อย่างตรงประเด็นและมีประสิทธิภาพ

ระบบปฎิบัติการOperations Engine ของอีริคสันประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้

1.   โมเดลทางธุรกิจที่มุ่งเน้นศูนย์กลางการบริการที่มีคุณภาพและเป้าหมายทางธุรกิจ โดยใช้เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) ระบบอัตโนมัติและการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง มาทำงานร่วมกัน โดยมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายทางธุรกิจในการให้บริการเช่น การสร้างประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ การเติบโตของรายได้และประสิทธิภาพ เป็นต้น

2.   ความสามารถที่ครบวงจร มุ่งสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ต้องการ โดยอาศัยเทคโนโลยี AI(Artificial Intelligence)ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบการวางแผน และการปรับเปลี่ยนประกอบกับระบบปฎิบัติการที่มีข้อมูลที่เหมาะสมการขยายเครือข่ายที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การพัฒนาแอพพลิเคชั่นส์ และการสร้างนวัตกรรมใหม่ร่วมกัน

3.   ส่วนประกอบอื่น ๆ ที่อาศัยทั้งเครื่องมือและกระบวนการชั้นเลิศผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และระบบอัตโนมัติร่วมความเชี่ยวชาญและการลงทุนของผู้ให้บริการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ปีเตอร์ ลอริน รองประธานอาวุโส หัวหน้างานฝ่ายธุรกิจ Managed Services ของอีริคสัน กล่าวว่า “เครือข่ายจำนวนมากกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 5G และ IoT ซึ่งมีความซับซ้อนและยากต่อการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการสร้างเครือข่ายในวงกว้างร่วมกับการใช้ Virtualize Core Networksในขณะที่ผู้ให้บริการยังต้องพัฒนาประสบการณ์ในการใช้งานของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในเวลาเดียวกัน ระบบปฎิบัติการOperations Engine ของอีริคสันจะทำให้เราสามารถสร้างความแตกต่างในบริการManaged Services หรือการจัดการข้อมูลได้เป็นอย่างดีด้วยการเปลี่ยนระบบปฎิบัติการที่อาศัยเครือข่ายเป็นศูนย์กลางไปสู่การใช้ ‘ประสบการณ์’ของผู้ใช้เป็นแนวทางหรือเป้าหมายในการดำเนินงานจากระบบที่ทำหน้าที่เพียงติดตามแก้ไขปัญหา (reactive)ไปสู่ระบบที่สามารถคาดการณ์และป้องกันเหตุร้าย (proactive)ได้โดยการวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยระบบอัตโนมัติ และ AI”

เคอร์ทิส ไพรซ์ รองประธานฝ่ายบริการบนโครงสร้างพื้นฐานจาก IDC กล่าวว่า “บริการ Managed Services หรือการจัดการข้อมูลจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในวิวัฒนาการของเครือข่ายทั่วโลก เกือบร้อยละ 65 ของผู้ให้บริการเชื่อว่าบริการManaged Servicesจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้ความสามารถในการพัฒนาประสบการณ์ในการใช้งานของผู้ใช้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ให้บริการเลือกใช้บริการManaged Services ร่วมกับการเพิ่มรายได้และปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการบริหารต้นทุน นอกจากนี้ เทคโนโลยี AI ระบบอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ข้อมูล เป็นองค์ประกอบหลักที่ช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบปฎิบัติการทั้งหมด ผ่านการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและระบบการจัดการข้อมูล”

เกี่ยวกับอีริคสัน
อีริคสันช่วยให้ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีการสื่อสารสามารถใช้งานการเชื่อมต่อได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่เครือข่าย บริการทางดิจิทัล บริการด้านการจัดการ และธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อให้ลูกค้ามีศักยภาพ ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล และสามารถสร้างรายได้จากการลงทุนแบบใหม่ การลงทุนของอีริคสันในนวตกรรมต่าง ๆ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการใช้โทรศัพท์และโมบายบอร์ดแบนด์แก่ผู้คนทั่วโลก อีริคสันจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ในกรุงสต็อกโฮล์ม และ NASDAQในกรุงนิวยอร์ค ติดตามข้อมูลข่าวสารของอีริคสันได้ที่ www.ericsson.com

news on March 02, 2019, 12:03:20 PM
อีริคสันนำเสนอเครือข่ายบรอดแบนด์เพื่อการสื่อสารในสถานการณ์สำคัญ

–   การปฏิวัติดิจิตัลและการพัฒนาเพื่อความทันสมัยของระบบสื่อสารเคลื่อนที่ผ่านคลื่นวิทยุภาคพื้นดิน (LMR: Land Mobile Radio)ทำให้เกิดความต้องการเครือข่ายบรอดแบนด์เพื่อการสื่อสารในสถานการณ์สำคัญ

–   กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ประกอบด้วย ความสามารถของเครือข่ายเพื่อการใช้งานในสถานการณ์สำคัญ (Critical Network Capabilities) บรอดแบนด์แอพพลิเคชั่นส์เพื่อการใช้งานในสถานการณ์สำคัญ (Critical Broadband Applications) และการขยายเครือข่ายแบบยืดหยุ่นสำหรับเครือข่ายเฉพาะ (Flexible Deploymentsfor Private Networks)

–   ตอบสนองต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ทั้งในการให้บริการด้านความปลอดภัยสาธารณะ พลังงาน สาธารณูปโภค การขนส่ง และสายการผลิต




อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์Critical Communications Broadband หรือ ระบบสื่อสารไร้สายเพื่อการใช้งานในสถานการณ์วิกฤตหรือสถานการณ์มีความสำคัญ ซึ่งเหมาะสำหรับภาคอุตสาหกรรมที่มีความต้องการแบบพิเศษทั้งในเชิงธุรกิจและเป้าหมายการดำเนินงาน เช่น การให้บริการในภาคอุตสาหกรรมบางประเภท และด้านความปลอดภัยสาธารณะเมื่อธุรกิจหรือบริการเหล่านี้มีความจำเป็นในการพัฒนาระบบสื่อสารเคลื่อนที่ผ่านคลื่นวิทยุภาคพื้นดินสู่ยุคดิจิทัลที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น

ในบางสถานการณ์ การสื่อสารที่ขัดข้องเพียงไม่กี่นาที วินาที หรือเสี้ยววินาที อาจหมายถึงความเสียหายอันมหาศาลต่อการดำเนินธุรกิจ หรือผลกระทบร้ายแรงต่อความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยระบบการสื่อสารที่รวดเร็วและมีความมั่นคงอย่างยิ่ง
ระบบสื่อสารที่มีลักษณะดังกล่าวถูกนำไปใช้ในหลายกรณี เช่น ในกลุ่มผู้ให้การช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ หรือผู้รับผิดชอบด้านความปลอดภัยในที่ทำงาน เป็นต้น ความต้องการระบบการสื่อสารบรอดแบนด์ลักษณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทั้งในภาคธุรกิจและในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของภาครัฐโดยระบบดังกล่าวต้องมีความพร้อมใช้งาน มั่นคง และปลอดภัยสูงสุด

เพื่อตอบสนองความต้องการนี้ อีริคสันได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ อันประกอบด้วย 3 ส่วนคือ ความสามารถของเครือข่ายเพื่อการใช้งานในสถานการณ์สำคัญ (Critical Network Capabilities) บรอดแบนด์แอพพลิเคชั่นส์เพื่อการใช้งานในสถานการณ์สำคัญ (Critical Broadband Applications) และการขยายเครือข่ายแบบยืดหยุ่น (Flexible Deployments)

เพอร์ นาร์วินเจอร์ หัวหน้างานฝ่ายผลิตภัณฑ์ด้านเครือข่ายของอีริคสัน กล่าวว่า “เราได้เห็นโอกาสสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายและผู้ให้บริการภาครัฐในการนำเครือข่าย LTE/5G ไปใช้งานในภาคอุตสาหกรรมใหม่ ผลิตภัณฑ์Critical Broadband ของเรา จะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการนำระบบสื่อสารไปใช้ในสถานการณ์สำคัญ ไม่ว่าจะการให้บริการด้านความปลอดภัยสาธารณะ พลังงาน สาธารณูปโภค การขนส่ง และสายการผลิต”

ความสามารถของเครือข่ายเพื่อการใช้งานในสถานการณ์สำคัญ(Critical Network Capabilities)

ความสามารถดังกล่าวประกอบด้วยฟีเจอร์สขั้นสูงหลายชนิด เพื่อสมรรถนะของเครือข่ายที่พร้อมรองรับการใช้งานในสถานการณ์ที่มีความสำคัญไม่ว่าจะเป็นความพร้อมในการใช้งานของเครือข่าย การบริหารจัดการได้ทีละหลาย ๆ เครือข่ายด้วยเทคนิคการแบ่งคลื่นความถี่ การขยายพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณและเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับแอพพลิเคชั่นส์ ผลิตภัณฑ์นี้ยังได้ถูกออกแบบมาให้มีความมั่นคงปลอดภัยสูงสุด เพื่อการดำเนินงานหรือการให้บริการอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าโครงสร้างพื้นฐานจะถูกรบกวน นอกจากนี้ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนการให้บริการลำดับความสำคัญ และการเข้าใช้ช่องสัญญาณเมื่อจำเป็น ทำให้สมรรถนะด้านความรวดเร็วในการตอบสนองและประสิทธิภาพเป็นไปตามที่ต้องการได้เสมอ แม้ในช่วงที่มีการใช้งานหนาแน่นหรือเมื่อช่องสัญญาณเต็ม

นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงความสามารถในการถ่ายทอดข้อมูลที่ต้องการไปทั่วประเทศซึ่งได้รับการพัฒนาให้ถูกใช้งานได้ง่าย การออกแบบสถานีฐานให้สามารถปฏิบัติงานได้ในโหมด fallback เมื่อการเชื่อมต่อของเครือข่ายมีปัญหา รวมถึงระบบการขยายเครือข่ายที่สามารถสร้างพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณชั่วคราวในเขตพื้นที่ประสบภัยหรือพื้นที่ชนบทที่ไม่มีสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บรอดแบนด์แอพพลิเคชั่นส์เพื่อการใช้งานในสถานการณ์สำคัญ (Critical Broadband Applications)

แอพพลิเคชั่นส์นี้ประกอบด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์เรดิโอของอีริคสัน ที่ให้บริการแบบpush-to-talk การรับส่งข้อมูลและวีดีโอ ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินหรือมีความสำคัญ บริการนี้จะเอื้อต่อการทำงานของผู้ให้บริการประชาชนอย่างเช่น ตำรวจและทหาร (หรือผู้ใช้ในลักษณะอื่น) ที่ต้องการระบบสื่อสารบรอดแบนด์ที่มีคุณภาพสูง

การขยายเครือข่ายแบบยืดหยุ่นสำหรับเครือข่ายเฉพาะ (Flexible Deployments for Private Networks)

โมเดลทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อภาคอุตสาหกรรมมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมที่มีความต้องการพิเศษ ในลักษณะที่องค์กรภาคธุรกิจเป็นเจ้าของ ควบคุมการดำเนินงาน หรือการให้บริการของเครือข่ายด้วยตนเอง โมเดลทางธุรกิจลักษณะนี้ย่อมทำให้ผู้ให้บริการสามารถนำสินทรัพย์และความสามารถในการบริหารจัดการที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้บริการเพื่ออุตสาหกรรมเฉพาะเหล่านี้โดยตรง

ความสามารถในการขยายเครือข่ายแบบยืดหยุ่นสำหรับเครือข่ายเฉพาะของอีริคสัน ประกอบด้วยเทคโนโลยี Network Slicing จนถึงการแยกเครือข่ายแบบเป็นเอกเทศ (dedicated networks) ทำให้ผู้ให้บริการสามารถนำเสนอโซลูชั่นส์และบริการเพื่อภาคอุตสาหกรรมเฉพาะได้อย่างครบวงจรและปรับลดขยายได้ตามความต้องการ

นอกจากนี้ อีริคสันยังมาพร้อมการให้บริการจัดการข้อมูล(Managed Services)สำหรับเครือข่ายเฉพาะอีกด้วย ผ่านโซลูชั่นส์บนเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติ เพื่อการคาดการณ์และป้องกันเหตุไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้ารวมทั้งลดต้นทุนในการดำเนินงาน บริการนี้ทำให้ผู้ให้บริการสามารถนำเสนอโซลูชั่นส์และบริการเพื่อภาคอุตสาหกรรมเฉพาะได้อย่างรวดเร็ว

ผลิตภัณฑ์ Critical Broadband จะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ด้วยการเพิ่มความสามารถในการผลิต และความปลอดภัย อุปกรณ์และเซ็นเซอร์ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ข้อมูลตำแหน่งของสินทรัพย์และอุปกรณ์แบบเรียลไทม์ รวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อเพิ่มสมรรถนะของอุปกรณ์ บุคลากร และลดเวลาการหยุดชะงักของปฏิบัติการทั้งระบบ

โทมัส ลินช์ ผู้อำนวยการบริหารของ IHS Markit กล่าวว่า “ระบบการสื่อสารเพื่อการใช้งานในสถานการณ์สำคัญกำลังได้รับการพัฒนา เพื่อให้สามารถรองรับการสื่อสารแบบบรอดแบนด์ไร้สายสำหรับผู้ใช้มืออาชีพ นอกเหนือไปจากการสื่อสารด้วยเสียงที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน กลุ่มผลิตภัณฑ์Critical Broadband ของอีริคสัน ทำให้ผู้ให้บริการสามารถนำเสนอโซลูชั่นส์ที่มีความยืดหยุ่นสำหรับอุตสาหกรรมด้วยการนำเครือข่าย LTE และความสามารถในการดำเนินงานของตนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในราคาที่เหมาะสม”

เกี่ยวกับอีริคสัน
อีริคสันช่วยให้ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีการสื่อสารสามารถใช้งานการเชื่อมต่อได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่เครือข่าย บริการทางดิจิทัล บริการด้านการจัดการ และธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อให้ลูกค้ามีศักยภาพ ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล และสามารถสร้างรายได้จากการลงทุนแบบใหม่ การลงทุนของอีริคสันในนวตกรรมต่าง ๆ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการใช้โทรศัพท์และโมบายบอร์ดแบนด์แก่ผู้คนทั่วโลก อีริคสันจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ในกรุงสต็อกโฮล์ม และ NASDAQในกรุงนิวยอร์ค ติดตามข้อมูลข่าวสารของอีริคสันได้ที่ www.ericsson.com