YAHOO on February 16, 2019, 10:01:06 AM
ข่าวประชาสัมพันธ์ 10สิ่งใหม่ในแอลพีจีเอ2019


BMW LADIES



ไดมอนด์รีสอร์ท


ไมค์ วาน


รายการใหม่่ที่มิดแลนด์


วิคโอเพ่น


ซีเอ็มอีโกลบ


   กอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2019 ที่เปิดฤดูกาลไปตั้งแต่กลางเดือนมกราคมแต่รู้หรือไม่ว่าฤดูกาลนี้ มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่น่าสนใจ มาทำความรู้จักกับ 10 สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในทัวร์ปีนี้ที่จะทำให้การแข่งขันเพิ่มความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น

1.เงินรางวัลรวมมากที่สุด
   แอลพีจีเอทัวร์ยืนยันตัวเลขเงินรางวัลรวมของรายการทางการฤดูกาล 2019 นี้รวม 70.55 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,275.6 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบจากปี 2018 รวม 65.35 ล้านดอลลาร์หรือราว 2,091.2 ล้านาบาท เพิ่มขึ้นกว่า 5 ล้านดอลลาร์หรือราว 160 ล้านบาทเลยทีเดียว

2.เริ่มใช้กฏกอล์ฟที่เปลี่ยนใหม่
   ปีนี้ทุกทัวร์รวมทั้งแอลพีจีเอต่างก็ต้องใช้กฏใหม่ที่สมาคมกอล์ฟแห่งสหรัฐอเมริกา (ยูเอเอสจีเอ) และ รอยัล แอนด์ แอนเชียนท์ (R&A) ประกาศปรับปรุง และมีผลบังคับใช้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 เป็นต้นไปมี  8 ลักษณะใหญ่ 36 กฎย่อย
   กฎที่เปลี่ยนนี้แบ่งเป็น 4 รูปแบบคือ 1.การเปลี่ยนแปลงกฎ เช่น ลูกดับเบิ้ลฮิต หรือไม้โดนลูกสองครั้ง ไม่มีโทษปรับ หรือแม้แต่การให้เวลาค้นหาลูกเหลือ 3 นาที จากที่ก่อนหน้านี้ให้เวลา 5 นาที  2.การยกเลิกกฎ ยกตัวอย่าง ยกเลิกอุปสรรคน้ำ เปลี่ยนมาใช้เป็นพื้นที่ปรับโทษแทน 3.กฎใหม่ที่อนุญาตให้ทำได้ อย่างเช่น อนุญาตให้ซ่อมความเสียหายบนกรีนได้ ยกตัวอย่างความเสียหายจากรอยรองเท้า รวมถึงซ่อมรอยเสียหายของเส้นทางเล่นบนกรีนได้   4.กฎที่ไม่อนุญาตให้ทำได้ เช่น ไม่อนุญาตให้แคดดี้ยืนหลังผู้เล่นเพื่อช่วยดูไลน์ได้ ฯลฯ

3.ทัวร์นาเมนท์ใหม่ 4 รายการ
   ในปีนี้มีรายการใหม่เกิดขึ้น 4 รายการเริ่มจากรายการแรกเปิดฤดูกาลของทัวร์คือไดมอนด์ รีสอร์ท ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ ที่ฟลอริด้า ระหว่างวันที่ 17-20 มกราคม แชมป์เป็นของ จี อึน-ฮี โปรสาวจากเกาหลีใต้
   จากนั้นรายการที่สองที่เป็นรายการใหม่ไอเอสพีเอส ฮันดะ วิค โอเพ่น รายการร่วมของแอลพีจีเอทัวร์, เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ และ เอแอลพีจี ของออสเตรเลีย ที่วิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ เป็นรายการที่สองของปีนี้แชมป์เป็นของ เซลีน บูติเยร์ โปรสาวชาวฝรั่งเศสเชื้อสายไทย
   รายการที่สามจะเป็นดาว เกรท เลคส์ เบย์ อินวิเทชั่นแนล มิดแลนด์ ที่รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 17-20 กรกฎาคม และ บีเอ็มดับเบิ้ลยู เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ ที่เมืองพูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคม

4.การแข่งขันรูปแบบใหม่
   เมื่อแอลพีจีเอทัวร์มีรายการใหม่เกิดขึ้นสี่สามรายการจึงมีการแข่งขันรูปแบบใหม่เกิดขึ้นเริ่มจากไดมอนด์ รีสอร์ท ทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ ที่ฟลอริด้า เป็นการนำเอานักกอล์ฟแชมป์สองปีก่อนมาแข่งขันพร้อมกับเหล่าเซเลบริตี้คนดังทุกวงการร่วมแข่งขันด้วย และ มีการเปิดเพลงสร้างความบันเทิงกับนักกอล์ฟ และ แฟนๆที่เข้าชมด้วยเป็นสิ่งใหม่ที่นักกอล์ฟเพิ่งจะเคยเจอในแอลพีจีเอทัวร์ และประสบความสำเร็จอย่างมาก
   อีกรายการดาว เกรท เลคส์ เบย์ อินวิเทชั่นแนล มิดแลนด์ ที่รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 17-20 กรกฎาคม จะแข่งขันแบบใหม่อีกแบบแต่จะเป็นประเภททีมสองคนแค่ยังไม่ได้กำหนดการเลือกนักกอล์ฟเข้าร่วมแข่งขันในรูปแบบไหนเท่านั้นเองมีเงินรางวัลรวมมากถึง 2 ล้านดอลลาร์หรือราว 64 ล้านบาท

5.ออสเตรเลียมีสองรายการ
   ออสเตรเลียเป็นชาติที่สองต่อจากจีนที่ได้จัดแข่งขันแอลพีจีเอทัวร์สองรายการขึ้นไปเมื่อได้จัดรายการไอเอสพีเอส ฮันดะ วิค โอเพ่น ที่รัฐวิคตอเรีย ระหว่างวันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ รายการร่วมของแอลพีจีเอทัวร์,เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ และ เอแอลพีจี  ออสเตรเลีย ตามมาด้วยไอเอสพีเอส ฮันดะ วีเมนส์ ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ที่มีอยู่แล้วปีนี้แข่งขันที่เกรนจ์ รัฐเซาท์ออสเตรเลีย
   เนื่องจากแอลพีเอทัวร์เริ่มต้นจากสหรัฐอเมริกาดังนั้นรายการส่วนใหญ่จึงอยู่ในรัฐต่างๆของสหรัฐฯ และ แคนาดาจนกระทั่งขยายตลอดออกไปยังต่างประเทศแต่ไม่เคยมีประเทศไทยจัดสองรายการในปีเดียวกันเลยก่อนจะเป็นจีน

6.เพิ่มเงินรางวัลเมเจอร์
   สำหรับรายการเมเจอร์มีการยืนยันแล้วเช่นกันว่า 3 ใน 5 จะมีการเพิ่มเงินรางวัลมากขึ้นกว่าเดิมจากเมเจอร์แรกแห่งปีเอเอ็นเอ อินสปิเรชั่น เมเจอร์แรกนั้นเพิ่มเงินรางวัลไป 3 ล้านดอลลาร์ จากเดิมปี 2018 นั้นรวม 2.8 ล้านดอลลาร์ เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 3,850,000 ดอลลาร์ จากเดิมปี 2018 รวม 3.65 ล้านดอลลาร์  รายการเอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ เพิ่มเป็น 4.1 ล้านดอลลาร์ จากเดิมปี 2018 เงินรางวัลรวม 3.85 ดอลลาร์
   ส่วน รายการยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น รายการเดียวที่ยังคง 5 ล้านดอลลาร์เท่าเดิม  และ รายการเอไอจี วีเมนส์ บริติช โอเพ่น เมเจอร์สุดท้ายเงินรางวัลรวม 3,250,000 ดอลลาร์เท่ากับปี 2018 รวม

7.รางวัลใกล้ธง
   ในปีนี้แอลพีจีเอทัวร์ร่วมกับเอออน มีการเพิ่มระบบการเล่นให้กับนักกอล์ฟขึ้นมาใหม่มอบรางวัลใกล้ธงขึ้นมาคือ The Aon Risk Reward Challenge โดยในแต่ละรายการจะกำหนดหลุมขึ้นมาว่าเป็นหลุมไหนที่จะพิจารณาระยะใกล้ธงให้กับนักกอล์ฟและแข่งขันไปเรื่อยๆจนกระทั่งสิ้นสุดรายการก่อนซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ รายการสุดท้ายแห่งปี
   เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันรายการสุดท้ายแล้วนักกอล์ฟที่ทำคะแนนสะสมใกล้ธงมากที่สุดก็จะได้รับเงินรางวัลโนนัสมากถึง 1 ล้านดอลลาร์ หรือราว 32 ล้านบาท ผ่านมาสองรายการแรก อี มีริม โปรสาวเกาหลีใต้นำอันดับหนึ่งที่สกอร์ -1.5 สกอร์พาร์ -3  เอรียา จุฑานุกาล อยู่อันดับสองร่วมสกอร์ -1 สกอร์พาร์ -2

8.เปลี่ยนรูปแบบซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ
   สำหรับการเก็บคะแนนสะสมเรซ ทู เดอะ ซีเอ็มอี โกลบ ในฤดูกาลปกติยังคงใช้เหมือนเดิมแต่จะเปลี่ยนรูปแบบการคัดเลือกนักกอล์ฟเข้าไปเล่นรายการสุดท้ายจากเดิมทีเมื่อสิ้นสุดรายการก่อนซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายจะนำเอา 72 อันดับหรือร่วมเข้าร่วมแข่งขันแต่ปีนี้จะเปลี่ยนเป็น 60 อันดับหรือร่วมไปแข่งขัน

9.ไม่มีโบนัสแต่เพิ่มเงินรางวัลแชมป์รายการสุดท้าย
   เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันในรายการซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพนำเอานักกอล์ฟ 60 อันดับหรือร่วมของคะแนนสะสมเดอะ ซีเอ็มอี โกลบ เข้าร่วมแข่งขันแบบไม่ตัดตัว และมีการยกเลิกระแบบเงินรางวัลโบนัสแชมป์ซีเอ็มอี โกลบ ไปจะเหลือแค่รางวัลแชมป์รายการเพียงอย่างเดียวรวมแล้ว 1.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 48 ล้านบาทเป็นเงินรางวัลแชมป์มากที่สุดในประวัติศาสตร์แอลพีจีเอทัวร์ จากเดิมนักกอล์ฟ 72 อันดับหรือร่วมแข่งขันรายการสุดท้ายรีเซ็ตคะแนนใหม่จบรายการสุดท้ายผู้ที่คะแนนสูงสุดจะได้รับเงินรางวัลโบนัสก้อนโต 1 ล้านดอลลาร์หรือราว 32 ล้านบาท ส่วนแชมป์รายการจะได้รับไป 500,000 ดอลลาร์หรือราว 16 ล้านบาท
   ระแบบใหม่ของการแข่งขันนี้จะนำไปสู่การต่อสู้ที่ตื่นเต้นของนักกอล์ฟทั้ง  60 อันดับหรือร่วมมาต่อสู้ และแข่งขันกันตั้งแต่การเก็บคะแนนสะสมเพื่อให้เป็นติดอยู่ใน 60 อันดับแรกให้ได้ก่อนนั่นเอง

10.แอลพีจีเปิดสำนักงานที่พูซาน เกาหลีใต้
   เนื่องจากปัจจุบันแอลพีเอเติบโตอย่างรวดเร็ว และขยายตลาดไปในทั่วโลกแบบโกลบอลโดยเฉพาะเอเชียดังนั้นทาง ไมค์ วาน ประธานบริหารกับทีมงานจึงเล็งเห็นความสำคัญกับพาร์ทเนอร์ และสปอนเซอร์ต่างจึงได้เปิดสำนักงานแอลพีจีเอที่เมืองพูซาน ประเทศเกาหลีใต้ และจะเปิดทางการในซัมเมอร์นี้
   ทางแอลพีจีเอทัวร์จะใช้สนามเอเชียด คันทรี่ คลับ เป็นสนามแอลพีจีเอ อินเตอร์เนชั่นแนล พูซาน ซึ่งสวยงามตระการตาอย่างยิ่งไม่แพ้ที่สนามอินเตอร์เนชั่นแนล ที่ฟลอริด้า สหรัฐอเมริกาเลย

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.lpga.com
« Last Edit: February 16, 2019, 10:04:34 AM by YAHOO »