q*075
"ไวด์ เฟธ ฟู้ด" ส่ง "ไรซ์ บัดดี้" ข้าวแผ่นอบกรอบเพื่อสุขภาพ
บุกตลาดสแน็คแดนมังกร ตั้งเป้าปีแรกโกย 150 ล้านบาท
"ไวด์ เฟธ ฟู้ด" ผู้ผลิตข้าวแผ่นอบกรอบเพื่อสุขภาพ ที่ผลิตจากข้าวไทย 100% ตรา "ไรซ์ บัดดี้"พร้อมลุยส่งออก เตรียมเซ็นสัญญาแต่งตั้ง "เซี่ยงไฮ้ เชายู เทรดดิ้ง" (SHANGHAI SHOUYU TRADING) ขายข้าวแผ่นอบกรอบ ไรซ์ บัดดี้ ทั้งออฟไลน์ออนไลน์ ตั้งเป้ายอดขายในจีนปีแรก 150 ล้านบาท พร้อมลั่นขึ้นแท่นผู้นำตลาดสแน็คเพื่อสุขภาพในจีนภายใน 5 ปีหน้านายโอลิเวอร์ เย้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวด์ เฟธ ฟู้ด จำกัดผู้ผลิตข้าวแผ่นอบกรอบเพื่อสุขภาพยี่ห้อ ไรซ์ บัดดี้ ในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญากับ "เซี่ยงไฮ้ เชายู เทรดดิ้ง" SHANGHAI SHOUYU TRADING CO., LTD. จากประเทศจีน เพื่อให้เป็นบริษัทเป็นผู้แทนจำหน่ายข้าวแผ่นอบกรอบยี่ห้อ "ไรซ์ บัดดี้" ในประเทศจีนอย่างเป็นทางการในปีนี้ โดยสินค้าของ ไรซ์ บัดดี้ ที่จะจำหน่ายในจีนจะประกอบไปด้วยสแน็คหลายประเภทซึ่งทำจากข้าวขาวและข้าวกล้อง เป็นต้น โดยสินค้าดังกล่าวจะจำหน่ายผ่านร้านค้ากว่า 5,000 แห่ง ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เช่น โอเล, ซิตี้ ซูเปอร์, กรีนแลนด์, แฟมิลี่มาร์ท, ลอว์สัน, อาทีมาร์ท, คาร์ฟู, เมโทร, แซมคลับ, วอลล์มาร์ท และเจดี ดอท คอม เป็นต้น บริษัทฯ คาดว่าจะมียอดขายจากตลาดประเทศจีนประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐในปีแรกหรือประมาณ 150 ล้านบาทผลิตภัณฑ์ข้าวแผ่นอบกรอบของ ไวด์ เฟธ ฟู้ด มีหลากหลายแบรนด์ โดยแต่ละแบรนด์จะอยู่ภายใต้ แบรนด์แม่ Master Rice ไม่ว่าจะเป็น Rise Buddy, Allright, Rice Wonder Rice Bites และ Mello โดยผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์จะมีลักษณะเป็น ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพที่มีรสชาติไม่เหมือนใคร มีความบางและมีรสชาติที่ดีกว่าแบรนด์อื่นๆ อีกทั้งยังใช้กรรมวิธีการอบ ใช้น้ำมันรำข้าว ปราศจากกลูเตน ไร้ไขมันทรานส์ และมีไขมันน้อยกว่า 10% สอดคล้องกับกระแสด้านสุขภาพทั่วโลก
ปัจจุบันบริษัทฯ ส่งออกสินค้าไปจำหน่ายมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก และเพื่อการเติบโตของธุรกิจส่งออกให้มากยิ่งขึ้น บริษัทฯ จึงตัดสินใจขยายตลาดไปยังประเทศจีน เนื่องจากจีนเป็นตลาดใหญ่และจีดีพีสูงถึง 81.71 ล้านล้านหยวนในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ในปี 2017 ยอดขายค้าปลีกของธุรกิจอาหารที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ในประเทศจีนมีมูลค่าสูงถึง 919.1 พันล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ถึง 11.8%. ตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศจีนยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากการบริโภคต่อหัวยังต่ำอยู่ หรือมีมูลค่าประมาณ 86.2 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี ซึ่งน้อยกว่าการบริโภคสแน็คต่อหัวในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษที่สูงถึง 394.2 และ 327.5 เหรียญสหรัฐต่อหัว ตามลำดับทั้งนี้บริษัทฯ ยังได้ผู้แทนจำหน่ายในประเทศจีน "เซี่ยงไฮ้ เชายู เทรดดิ้ง" SHANGHAI SHOUYU TRADING ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเบเกอรี่ และสแน็ค ซึ่งมีเครือข่ายการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง เข้ามาเป็นพันธมิตรในการบุกตลาด ดังนั้น บริษัทฯ คาดว่าจะทำให้สินค้าของ ไรซ์ บัดดี้ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในประเทศจีนได้อย่างทั่วถึงในทุกช่องทางในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมยังช่วยเพิ่มการจดจำแบรนด์สินค้าได้เร็วขึ้น ด้วยจุดแข็งต่างๆ เหล่านี้ คาดว่าสินค้าของ ไวด์ เฟธ ฟู้ด น่าจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำหนึ่งในสามของแบรนด์ สแน็คเพื่อสุขภาพได้ภายใน 5 ปี นายโอลิเวอร์ เย้ กล่าวปิดท้าย