enjoyjam.net » แฟชั่น & เครื่องสำอางค์ » แฟชั่น & เครื่องสำอางค์ » เอ.เอส. วัตสัน ใช้กลยุทธ์Predictive Modelling เสริมสร้างความสำเร็จให้กับการเปิด « previous next » Print Pages: [1] Go Down MSN on January 20, 2019, 01:56:52 PM เอ.เอส. วัตสัน ใช้กลยุทธ์Predictive Modelling เสริมสร้างความสำเร็จให้กับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ป จับมือกับแบรนด์ชั้นนำเพื่อร่วมมือในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเจาะกลุ่มตลาดใหม่ รวมถึง แบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังอย่าง เจฟฟรี สตาร์ (Jeffree Star) ที่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการเปิดตัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่ร้าน ICI PARIS XL ในยุโรป ในขณะเดียวกัน เอ.เอส. วัตสัน เอเชียก็ได้มีการสานต่อความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง เมเบลลีน (Maybelline) และ วัตสัน ประเทศไทย ที่นำไปสู่ความสำเร็จตรงตามเป้าหมายเช่นเดียวกันมารินา ไหง ประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) กลุ่มบริษัท เอ.เอส. วัตสัน กล่าว “ด้วยความรู้อันกว้างขวางที่มีต่อวงการอุตสาหกรรมความงามระดับโลกและข้อมูลด้านการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ของเอ.เอส. วัตสัน เราสามารถช่วยส่งเสริมแบรนด์ต่างๆ ในการเปิดตัวและส่งผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เฉพาะกลุ่ม (Niche Brand) อย่างเจฟฟรี สตาร์ และ แบรนด์ใหญ่ๆ อย่างเมเบลลีน โดยการผสมผสานการใช้งานระหว่างโมเดลออนไลน์และออฟไลน์ จึงทำให้เราสามารถสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อที่จะกำหนด และเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ“ความร่วมมือระยะยาวกับเมเบลลีน เพื่อข้อเสนอพิเศษ (Personalise offers)2 พันธมิตร ‘ลอรีอัล’ และ ‘เอ.เอส. วัตสัน’ ได้ร่วมกันพัฒนาธุรกิจเพื่อผลักดันยอดขาย และมุ่งสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคว่าหากจะซื้อเครื่องสำอางต้องคิดถึงวัตสัน พร้อมวางแผนปล่อยโปรโมชั่นที่ดีที่สุดเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และในปี 2018 วัตสัน ประเทศไทย ได้จับมือกับ เมเบลลีน เพื่อร่วมบริหารระบบลูกค้าสัมพันธ์ แคมเปญที่ร่วมกันนี้ได้รับการสนับสนุนจาก เอ.เอส. วัตสัน ดาต้าแลป (A.S. Watson DataLab) หรือกลุ่มวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ออกแบบมาเพื่อการสื่อสารกับลูกค้าผ่านทางอีเมล์ (eDM) ซึ่งวัตสันแบ่งกลุ่มสมาชิกออกเป็น 3 ช่วง โดยมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าใหม่ให้เลือกซื้อสินค้าภายในร้าน โดยการเพิ่มสินค้าและการบริการวัตสันเลือกแบ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายออกเป็น 3 ช่วง เพื่อที่จะแน่ใจว่าลูกค้าแต่ละคนนั้นจะได้รับข้อเสนอและโปรโมชั่นต่างๆ ที่ตรงกับความต้องการของตนเองอย่างแท้จริง โดยแคมเปญนี้ได้ส่งอีเมล์ไปยังลูกค้าแล้วกว่า 3.5 ล้านฉบับ ผลคือสามารถดึงดูดลูกค้ากว่า 170,000 คน ให้หันมาซื้อสินค้ากับทางแบรนด์ จึงสามารถเพิ่มยอดขายเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ถึงตัวเลขสองหลัก นอกจากนี้ยอดขายและจำนวนลูกค้าสมาชิกของเมเบลลีนเองก็เติบโตขึ้นคิดเปอร์เซ็นต์เป็นตัวเลขสองหลักเมื่อเทียบกับปีที่แล้วเช่นกันเจฟฟ์ เบลลิงแฮม ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ลอรีอัล ประเทศไทย กล่าว “สองความท้าทายที่แบรนด์ต้องเจอ คือ การหาลูกค้าใหม่และทำยังไงให้พวกเขากลับมาซื้อแบรนด์เราอีก ซึ่งการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าของวัตสันช่วยให้เมเบลลีนสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งสองนั้นได้ พราะสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบในการซื้อเครื่องสำอางจะมองหาข้อเสนอที่ตรงความต้องการของตัวเองมากขึ้น และในการร่วมมือกันครั้งนี้ถูกสร้างขึ้นอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าได้ส่งมอบข้อเสนอที่ใช่ ให้กับคนที่ใช่”เครื่องสำอาง Jeffree Star ที่ขับเคลื่อนด้วยPredictive Modellingสื่อสังคมออนไลน์ (Social media) ทำให้แบรนด์ด้านความงามก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรม โดย ICI PARIS XL ได้เปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์จากผู้มีอิทธิพลด้านความงามชื่อดังระดับโลกอย่าง เจฟฟรี สตาร์ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 สำหรับลูกค้าในประเทศเนเธอร์แลนด์และเบลเยียมICI PARIS XL ได้สร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ต่อกลุ่มเป้าหมายผ่านแคมเปญดิจิทัลจากข้อมูลเชิงลึกพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มจะชื่นชอบในตัวแบรนด์ใหม่ล่าสุดที่นี้ พร้อมทั้งมองหาลูกค้าใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มสนใจจะเป็นส่วนหนึ่งในปรากฎการณ์ เจฟฟรี สตาร์ เป็นแคมเปญที่จัดขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุต่ำว่า 35 ปีซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์กลยุทธ์ Predictive Modelling นั้นจะช่วยระบุตัวและสื่อสารกับสมาชิกที่มีแนวโน้มจะเลือกซื้อเครื่องสำอางตามเทรนด์ และแบรนด์ โดยสมาชิกที่ได้รับอีเมล์เหล่านี้ นอกจากจะได้รับข้อมูลเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว ยังสามารถดึงความสนใจให้เกิดกระแสบนโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าเด่นประจำสายผลิตภัณฑ์ และด้วยการสร้างการรับรู้ต่อกลุ่มเป้าหมาย อีเมลล์นี้ได้ถูกส่งให้กับกลุ่มเป้าหมายมากกว่า 300,000 คน มียอดเปิดอ่านมากถึง 25% โดย 40% ของยอดเปิดอ่านนั้นได้เข้าไปเยี่ยมชมหน้าเพจของแบรนด์บนเว็บไซต์ของ ICI PARIS XL และมากกว่า 70% ของสมาชิกที่อายุต่ำกว่า 35 ปีนั้นเป็นการซื้อในช่วงเปิดตัวเจฟฟรี สตาร์ ได้ให้ความเห็นว่า “ต่อจากความสำเร็จของแบรนด์ในสหรัฐอเมริกา ฉันอยากจะขยายการเข้าถึงแบรนด์ของฉันไปที่ยุโรป เอ.เอส. วัตสันซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีตลอดมา ได้จัดช่องทางการจำหน่าย รวมถึงช่วยในการเข้าถึงแฟนๆ ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ความงามรักในการครีเอทลุคที่สดใส และสนุกสนาน”เกี่ยวกับ เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ปเอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ป ผู้ค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามระดับสากลที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยหน้าร้านมากกว่า 14,900 ร้านใน 25 ประเทศ ได้ก่อตั้งขึ้นที่ฮ่องกง ในปี 1841 โดยในแต่ละปี ลูกค้าและสมาชิกมากกว่า 4 พันล้านคนซื้อสินค้าจากร้านค้าปลีก 12 แบรนด์ทั้งจากทางหน้าร้านและออนไลน์ในปีงบประมาณ 2017 เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ปมีรายรับ 156.2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง และมีพนักงานมากกว่า 140,000 คนทั่วโลกเอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ปยังเป็นสมาชิกของกลุ่ม บริษัท ข้ามชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก บริษัท CK Hutchison Holdings Limited ซึ่งมีธุรกิจหลัก 5 ธุรกิจ ได้แก่ ท่าเรือและบริการที่เกี่ยวข้อง, ร้านค้าปลีก, ระบบพื้นฐานการขนส่ง, พลังงาน และ การสื่อสารโทรคมนาคมในมากกว่า 50 ประเทศสำหรับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ปและแบรนด์ในเครือ สามารถเข้าดูได้ที่ http://www.aswatson.com หรือค้นหาช่องทางติดต่อผ่านดิจิทัล eCommerce, social media, mobile app และอื่นๆ) ได้ที่ http://www.aswatson.com/our-customers/digitalasw/. Logged Print Pages: [1] Go Up « previous next » enjoyjam.net » แฟชั่น & เครื่องสำอางค์ » แฟชั่น & เครื่องสำอางค์ » เอ.เอส. วัตสัน ใช้กลยุทธ์Predictive Modelling เสริมสร้างความสำเร็จให้กับการเปิด