happy on December 04, 2018, 03:10:31 PM
วีเอ็มแวร์เปิดตัวนวัตกรรมใหม่บนแพลตฟอร์ม Workspace ONE
ที่ช่วยขับเคลื่อนการทำงานและรวมเทคโนโลยีที่แตกต่างกันในที่ทำงานไว้ด้วยกันอย่างชาญฉลาด

•   ความร่วมมือกับอะเมซอน, เดลล์, กูเกิ้ล, ไมโครซอฟต์, ออกต้า และซัมซุง ทำให้องค์กรสามารถขยายขอบเขตการบริหารจัดการและระบบรักษาความปลอดภัยให้ทันสมัยทั่วทั้งแพลตฟอร์ม
•   นวัตกรรมใหม่แสดงให้เห็นถึงทุกมิติของขีดความสามารถและสมรรถนะของแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้ในขณะนั้น



กรุงเทพฯมหานคร – 3 ธันวาคม 2561 ภายในงาน VMworld Europe 2018 วีเอ็มแวร์ อิงค์ (NYSE: VMW) ผู้นำนวัตกรรมซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร ได้เปิดตัวความสามารถใหม่ของแพลตฟอร์ม VMWare Workspace ONE ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการบริหารจัดการและระบบรักษาความปลอดภัยล้ำสมัยสำหรับสภาพแวดล้อมระบบที่ใช้เทคโนโลยีต่างกันของลูกค้า รวมถึงเพิ่มประสบการณ์การทำงานของพนักงานให้ครอบคลุมขึ้นผ่านการใช้แอพและอุปกรณ์ต่างๆ ได้มากขึ้น  การบูรณาการนวัตกรรมที่ติดตั้งใหม่นี้ให้เข้ากับระบบอีโคซิสเต็มของโซลูชั่นต่างๆ ของพันธมิตรธุรกิจ  ช่วยให้  Workspace ONE สามารถขยายทุกมิติของแพลตฟอร์มและเพิ่มขีดความสามารถในการใช้งานที่มีอยู่ เพื่อให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“ปี 2561 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านสำหรับแพลตฟอร์ม Workspace ONE ของเรา” คุณแชนการ์ ไอเยอร์ (รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของ End-User Computing, วีเอ็มแวร์) กล่าว “ในการเปิดตัว Workspace ONE Intelligence และ Workspace ONE Trust Network ก่อนหน้านี้  เราได้แนะนำแพลตฟอร์มดิจิทัลเวิร์คสเปซที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอิจฉริยะเป็นเจ้าแรก และที่งาน “วีเอ็มเวิร์ล สหรัฐอเมริกา 2018” เราได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยเร่งให้ลูกค้าตอบรับการใช้งานได้รวดเร็วขึ้น เมื่อเขาทำการอัพเกรดระบบปฏิบัติการ Windows10 รวมถึง Mac, IOS, Android และ Chromebooks โดยสมบูรณ์ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดเวลาเพื่อบูรณาการเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เราพบเห็นในที่ทำงานของลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรมทุกวันนี้


การบริหารจัดการสำหรับยุคสมัยนี้จำเป็นต้องมีความรู้ลึกเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน

การใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันภายในที่ทำงานไม่เคยมีมากถึงขนาดนี้มาก่อน เนื่องจากพนักงานจะต้องเรียนรู้การทำงานผ่านอุปกรณ์ ระบบปฏิบัติการ บริการ  และแอพต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถทำงานผ่านอุปกรณ์และช่องทางที่เหมาะสมกับพวกเขามากที่สุด  การรวมเทคโนโลยีที่แตกต่างกันผ่านแพลตฟอร์ม Workspace ONE ช่วยให้องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนด้านไอที รวมถึงปรับขั้นตอนการบริหารจัดการและระบบรักษาความปลอดภัยไปสู่ระบบอัตโนมัติ และยังให้ประสบการณ์การทำงานที่ดีขึ้นแก่พนักงานอีกด้วย

Workspace ONE มีจุดเด่นอยู่ที่มีการต่อยอดประสิทธิภาพใหม่ๆ เพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้วีเอ็มแวร์สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีของบริษัทชั้นนำ เพื่อช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนผ่านไปสู่การทำงานในยุคดิจิทัล ซึ่งนวัตกรรมใหม่ที่ได้เปิดตัวในวันนี้ ประกอบด้วย

•   Workspace ONE Intelligence Automation Connector: Workspace ONE Intelligence เป็นบริการบนพื้นฐานระบบคลาวด์ที่ให้รายละเอียดและการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาแบบอัตโนมัติท่ามกลางสภาพแวดล้อมระบบการทำงานดิจิทัลทั่วทั้งแพลตฟอร์ม ซึ่งปัจจุบันสามารถดึงประสิทธิภาพการทำงานของระบบภายนอกอื่นๆ ผ่าน Workspace ONE Intelligence Automation Connector โดยจะเป็นการสร้างคอนเน็คเตอร์นอกเหนือจากที่มีอยู่เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับ Slack และ ServiceNow โดยคอนเน็คเตอร์จะทำให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อการทำงานและการแจ้งเตือนอัตโนมัติที่ถูกสร้างขึ้นใน Workspace ONE Intelligence เข้ากับระบบเดิมที่ใช้งานอยู่ เช่น Service desk เป็นต้น
•   Workspace ONE Sensor สำหรับระบบปฏิบัติการ MacOS: Workspace ONE Sensor ทำให้ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลคุณสมบัติพื้นฐานในทุกส่วนของระบบ (เฟิร์มแวร์ ไบออส อุปกรณ์ต่อพ่วง แอพ ฯลฯ) เพื่อให้เห็นภาพรวมและการบังคับใช้ข้อกำหนดตามที่ได้ตั้งไว้  ฟีจเจอร์นี้ได้เปิดตัวก่อนหน้านี้แล้วสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows 10 และวันนี้ทางวีเอ็มแวร์จึงได้เปิดตัวเซ็นเซอร์นี้อีกครั้งสำหรับระบบปฏิบัติการ MacOS
•   การจัดเตรียมระบบของเดลล์สำหรับ Workspace ONE เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของบริการ Dell ProDeploy Client Suite: การจัดเตรียมระบบของ Dell สำหรับ VMware Workspace ONE เป็นบริการที่กำหนดการตั้งค่าอุปกรณ์มาจากโรงงานและส่งตรงไปยังผู้ใช้งานปลายทาง โดยมีการติดตั้งแอพพลิเคชั่นบนระบบปฏิบัติการ Windows ทั้งหมดล่วงหน้าเพื่อให้พร้อมใช้งานทันทีเมื่อถึงมือลูกค้า  ในวันนี้ทางเดลล์และวีเอ็มแวร์ได้เปิดตัวบริการนี้ร่วมกันโดยถือเป็นส่วนหนึ่งของแพคเกจ Dell ProDeploy Client Suite ซึ่งให้บริการจัดวางระบบการใช้งานที่ครอบคลุมและช่วยเสริมบริการเดิมที่มีอยู่ บริการนี้สามารถซื้อร่วมกับไลเซนส์ใหม่ของ Workspace ONE ในราคาพิเศษในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของแพคเกจ ProDeploy
•   การบูรณาการเข้ากับ Flexera AdminStudio for Easy Win32 App Publishing: ปัจจุบันลูกค้าสามารถเผยแพร่บริการเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่นเดิมที่มีอยู่โดยตรงจาก Flexera AdminStudio เข้าไปในแคตตาล็อกของ Workspace ONE โดยช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนของการทำแพ็กกิ้งใหม่สำหรับแอพพลิเคชั่นบน Win32
นอกจากนี้ทางวีเอ็มแวร์ยังได้โชว์ความก้าวล้ำของ VMWare Horizon ที่ได้รับการออกแบบเพื่อส่งมอบระบบไฮบริดคลาวด์ที่บูรณาการเข้ากันอย่างไร้ขอบเขตสำหรับวิชวลเดสก์ท็อปและแอพพลิเคชั่น  ซึ่งได้แก่:
•   ความพร้อมทั่วไปของ Instant Clone และ App Volume สำหรับ Horizon 7 บน VMWare Cloud จาก AWS: ปัจจุบันการทำงานของ VMware Cloud บน AWS รองรับการทำงานของ Horizon 7 Instant Clone, App Volume และ User Environment Manager สำหรับการจัดเตรียมบริการแบบทันทีทันใดของวิชวลเดสก์ท็อป โดยที่ลูกค้าสามารถเพิ่มความเร็วในการทำงานของวิชวลเดสก์ท็อป 1-2 วินาทีต่อเครื่อง และการโคลนนิ่งข้อมูลแบบทันทียังช่วยลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลลงได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์
•   การเฝ้าติดตามและการจัดการแบบบูรณาการ: วีเอ็มแวร์ได้เปิดตัวการบูรณาการ Horizon 7 เข้ากับ Horizon Cloud Service  ซึ่งการบูรณาการนี้ยังให้ภาพรวมที่อยู่ในกรอบเดียวกัน เฝ้าตรวจสอบสถานะของระบบ และบริการให้ความช่วยเหลือสำหรับการจัดวางระบบ Horizon 7 ทั้งบน VMware Cloud บน AWS และบนโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร
•   การติดตั้ง Horizon 7 บน VMware Cloud บน AWS อัตโนมัติ: VMware กำลังพิจารณานำเสนอความสามารถในการทำงานอัตโนมัติหลายขั้นตอนของการติดตั้งระบบ Horizon 7 บน VMware Cloud บน AWS ผ่านการบูรณาการ Horizon Cloud Service ซึ่งช่วยลดเวลาการติดตั้ง Horizon 7 บน VMC บน AWS ได้อย่างมาก


ความไว้ใจได้อย่างไร้ข้อกังขานับตั้งแต่อุปกรณ์ไปจนถึงระบบเครือข่าย

ด้วยประสิทธิภาพของระบบรักษาความปลอดภัยในตัวที่สร้างขึ้นภายในแพลตฟอร์ม Workspace ONE ทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้นในการเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ บนอุปกรณ์หลากหลาย โดยใช้นโยบายการป้องกันข้อมูลสูญหาย (DLP), การเข้ารหัสข้อมูล และการจัดการการเข้าใช้งาน เป็นต้น

“ด้วยรูปแบบการทำงานในปัจจุบันที่เปิดกว้างขึ้น มีความยืดหยุ่นสูง และให้การทำงานร่วมกันได้มากขึ้น ทำให้แผนกไอทีมีเวลาให้ความช่วยเหลือแก่เพื่อนพนักงาน ในขณะเดียวกันก็สามารถปกป้องทรัพย์สินและความเป็นส่วนตัวขององค์กร” กล่าวโดยแองเจล่า ซัลเมรอน, ผู้จัดการฝ่ายวิจัย, IDC “แพลตฟอร์มดิจิทัลเวิร์คสเปซที่มาพร้อมกับความชาญฉลาดของระบบรักษาความปลอดภัยในตัว ถือเป็นแกนหลักสำหรับทุกองค์กร เพราะนี่คือกลยุทธ์รูปแบบการทำงานแห่งอนาคตที่จะช่วยให้พนักงานเข้าถึงคอนเท็นต์และแอพพลิเคชั่นภายในองค์กรได้อย่างปลอดภัยและครอบคลุมมากขึ้น พนักงานสามารถทำงานผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ที่เขาสะดวก”

การเสริมประสิทธิภาพของบริการ Workspace ONE Intelligence คือการให้ข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยปรับปรุงภาพรวมการทำงานจากอุปกรณ์จนถึงเครือข่าย และช่วยให้ฝ่ายไอทีสามารถแก้ไขปัญหาได้อัตโนมัติ  วีเอ็มแวร์ได้เปิดตัว Workspace ONE Intelligence Identity Analytics เพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอยของข้อมูลจาก VMware Identity Manager ซึ่ง Workspace ONE Intelligence จะทำการวิเคราะห์เอกลักษณ์ตัวตนที่ช่วยให้ฝ่ายไอทีสามารถลดทอนความเสี่ยงเชิงรุกได้

นอกเหนือจากประสิทธิภาพของระบบรักษาความปลอดภัยในตัวของ Workspace ONE แล้ว  ลูกค้ายังสามารถใช้ประโยชน์จากการลงทุนในโซลูชั่นระบบรักษาความปลอดภัยแบบพิเศษที่มีอยู่ เนื่องจากส่วนงานทางด้าน Workspace ONE Trust Network มีการขยายตัว โดยการเชื่อมต่อเข้ากับโซลูชั่นของ third party ผ่านแพลตฟอร์ม Workspace ONE Intelligence ทำให้องค์กรสามารถมองเห็นภาพโดยรวมของอุปกรณ์และผู้ใช้งานของเขา รวมถึงความเสี่ยงและภัยคุกคามที่อาจพุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้งานนั้นๆ
ด้วยแนวคิดนี้ วีเอ็มแวร์จึงได้เปิดตัวโซลูชั่นที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตรธุรกิจในเครือข่าย Trust Network คือ Carbon Black โดยนำเสนอโซลูชั่นการบูรณาการ Carbon Black ให้ทำงานร่วมกับ Workspace ONE Intelligence และ VMware AppDefense เพื่อต่อยอดความสามารถในการรับมือภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นกับศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ปรับปรุงช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัย และกำจัดภัยคุกคามขั้นสูงโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ลูกค้าของ Workspace ONE ยังได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจาก Okta Identity Cloud เนื่องจากการเป็นพันธมิตรระหว่าง Okta และ VMware จะช่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์ให้เข้ากับเอกลักษณ์ตัวตนของผู้ใช้ผ่านการเข้าถึงแบบกำหนดเงื่อนไขที่รัดกุม และทำให้พนักงานสามารถเข้าถึงแอพพลิเคขั่น บริการ และอุปกรณ์ผ่านทางฮับศูนย์กลางที่มีความปลอดภัยสูงขึ้น


ยกระดับประสบการณ์การทำงานและผลิตภาพของพนักงานผ่านทางแอพพลิเคชั่นและอุปกรณ์ต่างๆ ได้มากขึ้น

เพียงใช้แอพพลิเคชั่นที่ทรงประสิทธิภาพ ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส พนักงานสามารถได้ปริมาณงานเพิ่มมากขึ้น ทำงานเสร็จเร็วขึ้น และทำงานได้จากทุกหนแห่งทั่วโลก ซึ่งแอพพลิเคชั่น Workspace ONE Secure Productivity จะทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในการทำงานและเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน โดยวีเอ็มแวร์ได้เปิดตัวฟีจเจอร์ใหม่ที่ได้รับการเสริมประสิทธิภาพของแอพพลิเคชั่นนี้ ได้แก่:

•   VMware Workspace ONE Boxer: Workspace ONE Boxer รองรับการทำงานของระบบอีเมล์องค์กรในระดับ G-Suite ซึ่งทำให้องค์กรที่กำลังจะเลือกใช้บริการจากกูเกิ้ลในการบริหารจัดการอีเมล์องค์กรได้รับประโยชน์จากส่วนงานนี้
•   Workspace ONE Intelligence for Workspace ONE Secure Productivity Apps: วีเอ็มแวร์ได้สร้างคอนเน็คเตอร์ให้ใช้งานกับ Workspace ONE Intelligence เพื่อให้องค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลการทำงานร่วมกันของแอพพลิเคชั่น อัตราการหยุดทำงาน เวลาการล็อกอิน พฤติกรรมผู้ใช้งาน และอื่นๆ
•   รองรับการทำงานของ Samsung Dex: ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอพต่างๆ ของ Workspace ONE ทั้งจากอุปกรณ์มือถือและจากการเชื่อมต่อ Galaxy S8, Note 8, S9, Note 9 และ Tab S4 เข้ากับจอภาพ คีย์บอร์ด และเมาส์ เพื่อการใช้งานเสมือนทำงานบนพีซีโดยอาศัย Samsung DeX  พนักงานสามารถใช้โทรศัพท์มือถือของพวกเขาเพื่อเปิดแอพพลิเคชั่น Vmware, ใช้ปุ่มลัดบนคีย์บอร์ด และลากและวางไฟล์บนหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นได้

คุณฌอน เค รองประธานบริหารฝ่าย Global B2B Services ของซัมซุง กล่าวถึงการเป็นพันธมิตรกับวีเอ็มแวร์ว่า “การให้เข้าถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ นั้นยังไม่เพียงพอ บริษัทจะต้องเปิดโอกาสให้พนักงานมีประสบการณ์ที่สอดคล้องและเหมาะกับบริบทการทำงานจริงโดยใช้งานแอพพลิเคชั่นบนทุกอุปกรณ์  ซัมซุงและวีเอ็มแวร์ยังคงขยายความเป็นพันธมิตรธุรกิจของเราเพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยสามารถเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นจากอุปกรณ์ซัมซุงทุกชิ้นที่เขาชื่นชอบ”

วีเอ็มแวร์ยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ บนแพลตฟอร์ม Horizon เพื่อยกระดับประสบการณ์ของพนักงานสำหรับวิชวลเดสก์ท็อปและแอพพลิเคชั่นให้ครอบคลุมอุปกรณ์และรูปแบบการทำงานมากขึ้น  นวัตกรรมใหม่สำหรับประสบการณ์การทำงานระยะไกลผ่านระบบ Horizon รวมถึงการรองรับการเข้ารหัส H.265/High Efficiency Video Codec (HEVC) สำหรับวิชวลเดสก์ท็อปและแอพพลิเคชั่น  การเชื่อมต่อระยะไกลไปยังคอมพิวเตอร์และเครื่องเวิร์คสเตชั่นจริงสามารถทำได้ผ่าน Blast เซสชั่นการทำงานร่วมกันสำหรับ Linux และรองรับ Samsung Dex รุ่นล่าสุด เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การทำงานที่ยืดหยุ่นและมีค่าสำหรับพนักงาน

ลูกค้าทั่วภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ได้เลือกใช้ Workspace ONE ในการบริหารจัดการรูปแบบใหม่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้น และช่วยยกระดับประสบการณ์ของพนักงาน  คุณเดิร์ก เอ็กเคิร์ต ผู้จัดการทั่วไปของ Deutsche Telekom Individual Solutions & Products กล่าวถึงประสบการณ์ของทีมงานที่ทำงานบน Workspace ONE ไว้ดังนี้

“เมื่อต้นปีก่อน Deutsche Telekom Individual Solutions & Products ได้เข้าเป็นพันธมิตรธุรกิจกับวีเอ็มแวร์ และได้เปิดตัวบริการ Flexible Enterprise Workplace เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถรวบรวมสถานที่ทำงานแบบดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกัน โดยสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Workspace ONE บริการของเราจะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงทรัพยากรข้อมูลต่างๆ ขององค์กรผ่านอุปกรณ์ใดๆ ได้จากทุกที่อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย ด้วยการดีไซน์รูปแบบบริการที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ รวมทั้งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม ปรับขั้นตอนการทำงานในโหมดอัตโนมัติให้เพิ่มขึ้น และจัดหาพอร์ทัลที่รวมการให้บริการตัวเองที่สะดวกสบาย เราทำให้พนักงานมีความสุขมากขึ้นในการทำงานและเพิ่มผลิตภาพให้แก่ลูกค้าของเรา”

โดยไม่คำนึงว่าอุปกรณ์นั้นเป็นของที่พนักงานนำมาเอง (BYOD) หรือเป็นของบริษัท  Flexible Enterprise Workplace จัดให้มีแพลตฟอร์มเดียวในการบริหารจัดการแอพพลิเคชั่นและบริการของพนักงานทั้งหมดทั่วทั้งแพลตฟอร์ม รวมถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่และ Windows 10

เรายังได้รับฟีดแบคเชิงบวกเกี่ยวกับความง่ายในการเข้าถึงแอพพลิเคชั่น เนื่องจาก Workspace ONE ได้ขจัดความยุ่งยากของการใช้รหัสผ่านหลายหน – โดยพนักงานใช้การลงทะเบียนเข้าระบบเพียงครั้งเดียว (single sign on) โซลูชั่นที่ทรงประสิทธิภาพบนระบบคลาวด์นี้คือตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับวีเอ็มแวร์”


สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ทั้งหมดภายในงาน VMworld 2018 Europe โปรดเข้าเยี่ยมชมได้ที่ Online Press Kit

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

•   อ่านมุมมองเกี่ยวกับข่าวสารของงาน VMworld Europe 2018 จาก Joe Baguley, รองประธานบริษัทและCTO, ภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ที่วีเอ็มแวร์, “VMWare 2018 Europe – Enabling a More Digital, Connected Enterprise”
•   อ่านมุมมองเกี่ยวกับข่าวสารจากทีม End-User Computing ในบล็อกโพสต์ใหม่
•   เข้าร่วมทีมผู้นำ End-User Computing ที่งาน VMworld Europe 2018 ระหว่าง ปาฐกถาเกี่ยวกับดิจิทัลเวิร์กสเปซ: End-User Computing และ Mobility Live!
•   คั่นหน้าเว็บไว้ที่ VMware End-User Computing Blog
•   ติดตามวีเอ็มแวร์ได้บน Facebook, LinkedIn และ Twitter


###

เกี่ยวกับวีเอ็มแวร์ (VMware)

วีเอ็มแวร์ เป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีความซับซ้อน ด้วยความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์กว่า 75,000 ราย ผนวกกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของวีเอ็มแวร์ อาทิ ระบบประมวลผล ระบบคลาวด์ โมบิลิตี้ เน็ตเวิร์คกิ้ง และระบบรักษาความปลอดภัย วีเอ็มแวร์จึงเป็นผู้ให้บริการระบบดิจิทัลพื้นฐานที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัว โดยให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 500,000 รายทั่วโลก สำนักงานใหญ่วีเอ็มแวร์ตั้งอยู่ที่เมืองพาโล อัลโต ในปีนี้ วีเอ็มแวร์ฉลองครบรอบ 20 ปีแห่งความก้าวหน้าในการพัฒนานวัตกรรมที่สร้างผลประโยชน์ต่อทั้งภาคธุรกิจและสังคม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูได้ที่ https://www.vmware.com/company.html

VMware, VMworld, Workspace ONE, Workspace ONE Intelligence, Workspace ONE Trust Network, Horizon, VMware Cloud, App Volumes, VMware User Environment Manager, Horizon Cloud Service, VMware Identity Manager, AppDefense และ Boxer เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ บริษัท วีเอ็มแวร์ อิงค์ หรือบริษัทสาขาในสหรัฐอเมริกาและเขตอำนาจศาลอื่น