MSN on November 15, 2018, 03:52:35 PM
กลุ่มซีไอเอ็มบีเข้าร่วม RippleNet ให้บริการชำระเงินด่วน Power Instant Payments ทั่วภูมิภาคอาเซียน เป็นกลุ่มการเงินแรกที่ใช้เทคโนโลยี blockchain เข้ารุกธุรกิจโอนเงินข้ามพรมแดนทั่วภูมิภาค มูลค่าตลาดรวม 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ


ภาพข่าวประชาสัมพันธ์ เต็งกู ดาโต๊ะ ศรี ซาฟรูล อาซิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มซีไอเอ็มบี (ขวา) แบรด การ์ลิงเฮ้าส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ripple (ซ้าย) แถลงความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างกลุ่มซีไอเอ็มบี และ Ripple ในการให้บริการชำระเงินด่วน Power Instant Payments ทั่วภูมิภาคอาเซียน ณ Singapore FinTech festival 2018 เมื่อเร็วๆนี้

กลุ่มซีไอเอ็มบี ผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Ripple พัฒนาบริการระบบชำระเงินข้ามพรมแดนและข้ามธุรกิจในหลากหลายตลาด ภายใต้ความร่วมมือนี้ กลุ่มซีไอเอ็มบีจะเข้าร่วมเครือข่าย ‘RippleNet’ ของ Ripple ซึ่งการเข้าร่วม RippleNet จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ซีไอเอ็มบีเข้าถึงสมาชิกอื่นๆของ RippleNet และสามารถต่อยอดธุรกิจชำระเงินข้ามแดนได้อีกด้วย

กลุ่มซีไอเอ็มมีบริการโอนเงินด่วนข้ามประเทศชื่อ SpeedSend ซึ่งขณะนี้ได้รับการยกระดับ ให้มีประตูใหม่ๆ ในการรับชำระเงิน ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการนี้มากขึ้นแล้ว ด้วยบล็อกเชนโซลูชั่น ยกตัวอย่าง ลูกค้าโอนเงินผ่าน SpeedSend ไปออสเตรเลีย (พันธมิตรคือ Instarem หนึ่งในสมาชิกของ RippleNet) สหรัฐ อังกฤษ และฮ่องกงได้ 

เต็งกู ดาโต๊ะ ศรี ซาฟรูล อาซิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มซีไอเอ็มบี เปิดเผยว่า “เรายินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ RippleNet และตั้งเป้าหมายจะขยายความร่วมมือกับ Ripple โดยอาศัยจุดแข็งและศักยภาพของกันและกัน ด้วยนวัตกรรมบล็อกเชนโซลูชั่นจะช่วยปฏิวัติการโอนเงินข้ามประเทศ และเป็นสิ่งยืนยันว่าซีไอเอ็มบีที่จะก้าวไปอีกขั้นกับดิจิทัลแบงกิ้ง โดยเน้นความรวดเร็ว และการประหยัดต้นทุนให้ลูกค้าทั่วอาเซียน” 

ก้าวย่างนี้เป็นส่วนหนึ่งของโรดแมพความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งหมด ซีไอเอ็มบีจะขยายโซลูชั่นไปยังส่วนอื่นๆของกลุ่มซีไอเอ็มบี เพราะเล็งเห็นความต้องการโซลูชั่นชำระเงินข้ามแดนทั่วภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น อ้างอิงจากเวิลดิ์แบงก์ที่ประมาณการว่าจะมีปริมาณการโอนเงินภายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตเพิ่มเป็น 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ภายในสิ้นปี 2561

แบรด การ์ลิงเฮ้าส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ripple เปิดเผยว่า “เราเห็นแนวโน้มของธนาคารและสถาบันการเงินจากทั่วโลกเริ่มเข้ามาที่บล็อกเชนโซลูชั่น เพราะช่วยเรื่องความโปร่งใส ความรวดเร็ว และต้นทุนการชำระเงินที่ถูกลง ตอนนี้เครือข่ายของซีไอเอ็มบีขยายไปถึง 15 ประเทศ ด้วยเครือข่ายทั้งสิ้นใกล้จะ 800 แห่ง และนำเสนอบริการ SpeedSend ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการโอนเงินที่ดีที่สุดในอาเซียน ขณะนี้ การบูรณาการเทคโนโลยีบล็อกเชนของ Ripple จะช่วยให้บริการส่งเงินจากลูกค้าไปยังครอบครัว เพื่อน และคนที่รัก มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การที่ซีไอเอ็มบีให้ความสำคัญกับนวัตกรรม จะทำให้ซีไอเอ็มบีก้าวเป็นผู้นำตลาดของภูมิภาคในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้”

เกี่ยวกับ Ripple
Ripple คือผู้สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดของการโอนเงินทั่วโลกแบบราบรื่นและไม่สะดุดด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยการเข้าร่วมกับ Ripple ซึ่งขยายเครือข่ายไปทั่วโลกนั้น สถาบันการเงินจะสามารถให้บริการโอนเงินจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยความรวดเร็ว และประหยัดต้นทุน ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินสามารถใช้สินทรัพย์ดิจิทัล และ XRP เพื่อที่จะลดต้นทุนและเข้าถึงตลาดใหม่ๆ สำหรับ Ripple มีสำนักงานใน ซานฟรานซิสโก นิวยอร์ค ลอนดอน ลักเซมเบิร์ก มุมไบ สิงคโปร์ และซิดนี่ย์ Ripple มีลูกค้ามากกว่า 100 องค์กรทั่วโลก

เกี่ยวกับกลุ่มซีไอเอ็มบี
กลุ่มซีไอเอ็มบีเป็นหนึ่งในธนาคารครบวงจรชั้นนำของอาเซียน และเป็นกลุ่มการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของมาเลเซีย โดยให้บริการธุรกิจรายย่อย ธุรกิจรายกลาง วาณิชธนกิจ ธนาคารอิสลาม และบริหารจัดการสินทรัพย์ สำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มีเครือข่าย 9 ใน 10 ประเทศอาเซียน (มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไทย กัมพูชา บรูไน เวียดนาม เมียนมาร์ และลาว) นอกเหนือจากอาเซียน กลุ่มซีไอเอ็มบีมีเครือข่ายในจีน ฮ่องกง อินเดีย ศรีลังกาก เกาหลี สหรัฐ และสหราชอาณาจักร

กลุ่มซีไอเอ็มบีมีเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งสำหรับให้บริการลูกค้ารายย่อย ด้วยสาขา 800 แห่ง ณ 30 ก.ย.2561 ขณะเดียวกัน วาณิชธนกิจของกลุ่มซีไอเอ็มบีนับว่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โดยนำเสนอบทวิจัยที่ครอบคลุมหุ้น 700 บริษัทในภูมิภาค

กลุ่มซีไอเอ็มบีดำเนินธุรกิจบน 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ CIMB Bank, CIMB Investment Bank และ CIMB Islamic กลุ่มซีไอเอ็มบีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 92.5% ใน Bank CIMB Niaga อินโดนีเซีย และ 94.1% ในธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

กลุ่มซีไอเอ็มบี จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เบอร์ซ่า มาเลเซีย โดยมีมูลค่าตลาดรวม ณ 30 ก.ย.61 ประมาณ 5.63 หมื่นล้านริงกิต มีพนักงานประมาณ 3.6 หมื่นคน ใน 15 ประเทศ
« Last Edit: November 15, 2018, 03:54:21 PM by MSN »

MSN on November 15, 2018, 03:57:07 PM
CIMB Group Joins RippleNet to Power Instant Payments Across ASEAN

CIMB is one of the first banks to leverage blockchain technology to tap into region’s USD120 billion remittance business


November 15, 2018 -- CIMB Group (“CIMB” or “the Group”) and Ripple have entered into a strategic collaboration to enable instant cross border payments across its various markets. On the back of this partnership, CIMB will join Ripple’s network (“RippleNet”), which will facilitate access to other RippleNet members and allow CIMB to grow its cross border payments business.

Ripple’s blockchain-based solution has been deployed to enhance Speedsend, CIMB’s proprietary remittance product. This will expand CIMB’s SpeedSend network and open new payment corridors to improve consumer access to cross-border remittances, both inbound into ASEAN and outbound to other countries. The solution is now live on Speedsend, enabling remittances via corridors such as Australia (in partnership with Instarem, also a member of RippleNet), USA, UK and Hong Kong.

“We are delighted to be part of RippleNet and look forward to a fruitful partnership with Ripple by leveraging each other’s strengths and capabilities. This innovative blockchain solution will revolutionise international cross-border remittances, and is a testament to CIMB’s ongoing efforts to enhance its digital banking proposition by providing speedy and cost-efficient solutions to our customers across ASEAN.” said Tengku Dato’ Sri Zafrul Aziz, CEO, CIMB Group.”

As part of the overall partnership roadmap, CIMB intends to extend the solution to other use cases across the Group. There is a growing demand for cross border payment solutions, with the World Bank projecting that remittances to Southeast Asia will grow to USD120 billion by the end of 2018.

“We’re seeing banks and financial institutions from across the world lean into blockchain solutions because it enables a more transparent, quicker and lower cost payments experience,” said Brad Garlinghouse, Ripple CEO. “CIMB’s network already spans 15 countries, nearly 800 branches and offers Speedsend - one of the best solutions in the ASEAN region. Now, by integrating Ripple’s blockchain technology, they will enable their customers to send vital funds to family, friends and loved ones more efficiently. With its focus on innovation, CIMB will continue to be a dominant force in the region for years to come.”



Tengku Dato' Sri Zafrul Aziz, Group CEO of CIMB Group (right), and Brad Garlinghouse, Ripple CEO (left) commemorating the strategic collaboration between CIMB Group and Ripple to power instant payments across ASEAN at the Singapore FinTech festival 2018 recently.


About Ripple
Ripple provides one frictionless experience to send money globally using the power of blockchain. By joining Ripple’s growing, global network, financial institutions can process their customers’ payments anywhere in the world instantly, reliably and cost-effectively. Banks and payment providers can use the digital asset, XRP, to further reduce their costs and access new markets. With offices in San Francisco, New York, London, Luxembourg, Mumbai, Singapore and Sydney, Ripple has more than 100 customers around the world.

About CIMB Group
CIMB Group is one of ASEAN’s leading universal banking groups and is Malaysia’s second largest financial services provider, by assets. It offers consumer banking, commercial banking, investment banking, Islamic banking and asset management products and services. Headquartered in Kuala Lumpur, the Group is now present in 9 out of 10 ASEAN nations (Malaysia, Indonesia, Singapore, Thailand, Cambodia, Brunei, Vietnam, Myanmar and Laos). Beyond ASEAN, the Group has market presence in China, Hong Kong, India, Sri Lanka, Korea, the US and UK.

CIMB Group has the most extensive retail branch network in ASEAN of around 800 branches as at 30 September 2018. CIMB Group’s investment banking arm is also one of the largest Asia Pacific-based investment banks, offering amongst the most comprehensive research coverage around 700 stocks in the region.

CIMB Group operates its business through three main brand entities, CIMB Bank, CIMB Investment Bank and CIMB Islamic. CIMB Group is also the 92.5% shareholder of Bank CIMB Niaga in Indonesia, and 94.1% shareholder of CIMB Thai in Thailand.

CIMB Group is listed on Bursa Malaysia via CIMB Group Holdings Berhad. It had a market capitalisation of approximately RM 56.3 billion as at 30 September 2018. The Group has around 36,000 employees located in 15 countries.