sianbun on January 29, 2010, 12:28:02 PM


FROM PARIS WITH LOVE ฟอร์ม ปารีส วิท  เลิฟ

จัดจำหน่ายโดย  บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด

ชื่อภาษาไทย  คู่ระห่ำ ฝรั่งแสบ

เว็ปไซด์   http://www.frompariswithlovefilm.com/

ภาพยนตร์แนว  แอ็คชั่น

จากประเทศ  สหรัฐอเมริกา

กำหนดฉาย  4 กุมภาพันธ์ 2553

ณ โรงภาพยนตร์  ทุกโรงภาพยนตร์

นักแสดง John Travolta (The Taking of Pelham 123, Face/Off, Pulp Fiction), Jonathan Rhys Meyers (Mission:Impossible III, Match Point)

ผู้กำกับ   Pierre Morel (Taken)

ผู้อำนวยการสร้าง  Luc Besson (Transporter, Hitmal)

จุดเด่น

การพบกันครั้งแรกในภาพยนตร์แอ็คชั่นบู๊สุดดุเดือดผ่าใจกลางเมืองน้ำหอมของซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวู้ด จอห์น ทราโวลต้า จาก The Taking of Pelham 123, Face/Off และ Pulp Fiction กับนักแสดงหนุ่มหล่อดาวรุ่ง โจนาธาน รีส เมเยอร์ส จาก Mission : Impossible III และ Match Point การันตีความมันส์ทะลุจอโดยผู้กำกับจาก Taken แทคทีมระห่ำเดือดโดย ลุค เบซอง ผู้สร้าง Transporter เมื่อเจ้าหน้าที่หนุ่ม เจมส์ รีซ (โจนาธาน รีส เมเยอร์ส) ได้จับมือกับคู่หูคู่เดือดคนใหม่ นั่นคือ ชาร์ลี แว็กซ์ (จอห์น ทราโวลต้า) ร่วมปฎิบัติภารกิจต่อต้านขบวนการผู้ก่อการร้าย ระหว่างที่ทั้งสองบุกทะลวงปารีส เพื่อความสงบสุขของชาวประชา ความมันส์ระห่ำได้จุดระเบิดเริ่มต้นขึ้น ณ กลางใจเมืองน้ำหอมที่สุดแสนจะโรแมนติกแห่งยุโรป From Paris with Love…

เรื่องย่อ

      ความปรารถนาของหนุ่มเจ้าหน้าที่รัฐคนหนึ่ง เจมส์ รีซ (โจนาธาน รีส เมเยอร์ส) คืออยากโดดเด่นเจิดจ้ามากกว่าอยู่ในเงาของการงานเดิมๆ บรรลุเมื่อเขาได้เคียงบ่าเคียงไหล่ปราบปรามอาชญากรรมกับคู่หูคนใหม่ นั่นคือ ชาร์ลี แว็กซ์ (จอห์น ทราโวลต้า) ทว่าระหว่างที่ทั้งสองบุกทะลวงปารีสในภารกิจต่อต้านขบวนการก่อการร้าย เพื่อความสงบสุขของชาวประชา สายลับหนุ่มกลับพบว่าอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดก็คือคนที่เรารักที่สุดนั่นเอง

จอห์น ทราโวลต้า

โจนาธาน รีส เมเยอร์ส


FROM PARIS WITH LOVE


จากผู้กำกับ TAKEN ปิแอร์ โมเรล
« Last Edit: January 29, 2010, 04:06:34 PM by sianbun »

sianbun on January 29, 2010, 12:28:56 PM
จอห์น ทราโวลต้า ในบท ชาร์ลี แว็กซ์


1.อะไรดึงดูดความสนใจให้อยากร่วมงานกับหนังเรื่องนี้?

      ในฐานะนักแสดง สิ่งแรกที่ผมสนใจคือผมทำอะไรที่แปลกแตกต่างให้ตัวละครได้มากกว่าที่นักแสดงคนอื่นๆ ทำหรือเปล่า ตัวละครตัวนี้ดุดันสุดๆ เลย มันเปิดโอกาสให้ใช้ความสามารถในฐานะนักแสดงเต็มที่ คือได้เป็นใครสักคนที่ต่างจากตัวตนจริงๆ ของผม นอกจากนี้ ลุค เบซง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจ ด้วยความที่เขาเป็นคนทำหนังชั้นยอดและเขียนบทเรื่องนี้ ในขณะที่ผลงานของ ปิแอร์ โมเรล ก็น่าสนใจมากทีเดียว หนังสองสามเรื่องที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขากำกับหนังแนวนี้ได้ เอาเป็นว่าองค์ประกอบทั้งหมดที่พูดไปแล้วนี่แหละทำให้ผมสนใจงานนี้


2.ชอบผมทรงใหม่ไหม?

      ชอบมาก  เพราะเวลาโกนหัวโล้น ผมมีอิสระที่จะทำอะไรแรงๆ ตรงไปตรงมาได้เต็มที่ ดูๆ ไปแล้ว ผมว่าเป็นทรงที่ให้อารมณ์คล้ายๆ กับในเรื่อง Pulp Fiction ยังไงยังงั้น ทรงผมไม่ธรรมดาแบบชาวดัชต์นี่แหละช่วยสร้างความรู้สึกแบบกุ๊ยยุโรปให้กับตัวละครซึ่งเป็นมือปืนได้ดี ทรงผมถือว่าสำคัญมากสำหรับหนังซึ่งเป็นสื่อที่สัมผัสได้ด้วยการมอง ทุกอย่างที่จ้องมองล้วนแต่ปรากฏอยู่บนจอทั้งหมด ดังนั้น นักแสดงต้องมีความสุขกับภาพลักษณ์ที่ได้รับ ตัวละครถึงจะเป็นที่น่าพอใจ


3.การร่วมงานกับ  โจนาธาน รีส  เมเยอร์ส เป็นอย่างไรบ้าง?

      เขาน่ารักดีนะ เป็นนักแสดงที่เก่งและน่าชื่นชมมากจริงๆ ผมถกกับเขาเรื่องงานและการเข้าถึงบทบาทได้ เขาเป็นคนสนุกสนาน มีอารมณ์ขัน และมีความเป็นมืออาชีพ จะเรียกว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงมืออาชีพที่ผมเคยร่วมงานด้วยก็ได้ เขาเข้าใจบทของตัวเอง เป็นคนตรงต่อเวลา และถ่ายทอดการแสดงได้ยอดเยี่ยมทุกฉากทุกตอน ผมไว้ใจฝีมือเขาและปรับการแสดงให้เข้ากับเขาได้ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้จักปรับการแสดงให้เข้ากับผมด้วยเหมือนกันเมื่อจำเป็นต้องปรับ


4.และผู้กำกับฯ  ปิแอร์ โมเรล  ล่ะ?

      ผมเคยดู Taken มาแล้ว ส่วนลุคก็ยกย่องเชิดชูเขามากๆ พอถึงวันนัดประชุมกับปิแอร์ ผมถึงได้เห็นว่าเขาฉลาดเป็นกรด ชำนาญเรื่องความเป็นเหตุเป็นผล และตั้งใจจะทำหนังดีๆ สักเรื่องอย่างจริงจัง เขาเป็นผู้ชายภูมิฐานเสียงต่ำทุ้มนุ่มหูมากๆ เขารู้จักวิธีสื่อสารความคิด รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร เวลาเข้าฉาก เขาจะชอบพูดว่า “ลองแสดงแบบนี้ดีมั้ย” และโดยมากผมมักจะเห็นด้วย ในหัวของเขาเต็มไปด้วยไอเดียเจ๋งๆ เขาเข้ากับคนง่าย ทีมเบื้องหลังล้วนแต่เคารพและทุ่มเทเพื่อเขากันเต็มที่ ที่สำคัญ เขารักงานนี้มากจริงๆ


5.ฉากไหนยากที่สุด?

      ไม่รู้สิ  เพราะงานนี้ผมต้องออกท่าออกทางตลอดเวลา  ต้องทุ่มเทให้หนังแบบสุดตัวทีเดียว  แต่ก็แอบขำนิดๆ นะเวลาต้องแสดงพฤติกรรมที่ดูอ่อนกว่าอายุจริง นี่เป็นหนังที่ผมต้องใช้ความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกายมาก แต่ก็แอบขำอีกแล้วพอคิดได้ว่าจริงๆ แล้วผมฝืนเคลื่อนไหวร่างกายแค่ครึ่งหนึ่งของที่ทำอยู่เป็นประจำเท่านั้น ทุกครั้งที่แสดงบทเสี่ยงๆ อย่างกลิ้งบนโต๊ะ กระโดดขึ้นโต๊ะ หรือกระโดดลอยตัวกลางอากาศพร้อมกับปืนในมือทั้งสองข้าง ผมจะแอบหัวเราะคิกๆ อยู่คนเดียว เพราะตามทฤษฎีแล้ว ผมควรจะเหนื่อยน้อยลงตามอายุ แต่นี่กลับเหนื่อยขึ้น! นี่เป็นหนังที่มีฉากแอ็กชั่นเยอะที่สุดเท่าที่ผมเคยแสดงมาแล้ว ถึงแม้จะเคยผ่านงานแสดงในหนังแอ็กชั่นคลาสสิกมาบ้าง แต่เรื่องนี้ผมต้องออกท่าทางมากกว่าที่ผ่านๆ มา เยี่ยมไปเลย 

sianbun on January 29, 2010, 12:29:16 PM
โจนาธาน รีส เมเยอร์ส ในบท เจมส์ รีซ


1.สนใจ  From Paris With Love เพราะอะไร?

      พอผมได้อ่านบทก็รู้ว่าอยากแสดงหนังแนวนี้ อยากทำงานกับ ปิแอร์ โมเรล  เพราะเคยดู Taken มาแล้ว อยากร่วมงานกับ จอห์น ทราโวลต้า กับ ลุค เบซง และเวอร์จินี เรื่องนี้ผมต้องแสดงเป็นผู้ชายที่มีความเป็นเด็กอยู่ในตัว แม้ว่าจะโตมากแล้ว แถมยังมีความรับผิดชอบสูง แต่ภาพของสายลับทั้งหมดที่เขามีอยู่ในหัวส่วนมากจะได้มาจากหนังสือการ์ตูน ส่วนนี้แหละที่ทำให้เขามีความเป็นเด็ก แต่ต่อมาก็ค่อยๆ ตระหนักได้ว่าไม่มีรถหรูอย่าง เจมส์ บอนด์ ไม่มีสูทเท่ๆ หรือแฝงตัวเข้าไปล้วงความลับใดๆ ทั้งนั้น ส่วนของจริงน่ะเนื้อตัวจะต้องเลอะเทอะเปรอะเลือด ผมเผ้าสกปรกรกรุงรังไปหมด ขยะแขยงตัวเองสุดๆ เขาค่อยๆ ถอยห่างจากภาพสายลับในฝัน  และในที่สุดภาพฝันก็กลายเป็นฝันร้ายไปต่อหน้าต่อตา


2.รีซทึ่งในตัวแว็กซ์มาก แล้วตอนร่วมงานกับ จอห์น ทราโวลต้า ล่ะ รู้สึกแบบเดียวกันหรือเปล่า?

      ผมคงไม่พูดว่าทึ่ง แต่ขอพูดว่าปลื้มดีกว่า เรามีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน เขาเป็นคนใจดีและอบอุ่นมาก  เขาอยู่ในแวดวงหนังมานาน  ก็เลยมีเรื่องดีๆ มาเล่าและประสบการณ์อีกเพียบ  ที่สำคัญ เขาจริงใจมาก เปิดกว้างและอบอุ่นแบบไม่เหมือนใคร ทั้งยังเป็นนักแสดงตัวอย่างของยุคอีกด้วย ตอนที่รีซเจอแว็กซ์น่ะ เขาอึ้งๆ ทึ่งๆ เพราะแว็กซ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ เดิมทีเขาคาดว่าแว็กซ์จะต้องเนี้ยบ มารยาทดี ใส่สูทเท่ สวมบู๊ตหนัง แต่แว็กซ์ในความเป็นจริงเหมือนหลุดมาจากกลุ่มนักบิดในฟลอริด้า เขาสวมเครื่องประดับดุๆ ของ Chrome Hearts บุคลิกเคร่งขรึมจริงจัง และเป็นหนุ่มอเมริกันจัดจ้านตัวเบ้อเริ่มเทิ่ม เรียกว่ารีซช็อคไปเลยตอนที่ได้เจอกับสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่คิดว่าควรจะเป็น เพราะเขาดันวาดภาพไว้ในหัวก่อนแล้ว ส่วนผมไม่ได้วาดภาพใดๆ เกี่ยวกับจอห์นไว้เลย แต่ในที่สุด เรามีช่วงเวลาดีๆ เจ๋งๆ ร่วมกัน เราโชคดีที่ไม่รู้ว่าส่วนผสมของแต่ละคนจะเข้ากันได้หรือไม่จนกระทั่งมาเจอกัน และโชคดีที่เราประทับใจกันและกัน แถมส่วนผสมของเราก็ยังเข้ากันได้


3.ช่วยกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาวที่ต้องประกบคู่กัน กาเชีย สมุทนิแอค ซึ่งรับบท แคโรลีน หน่อยได้ไหม?

      กาเชียเป็นผู้หญิงที่วิเศษและยอดเยี่ยมที่สุด เธอเป็นชาวโปแลนด์ซึ่งหนุ่มๆ  ชาวไอริชอย่างผมชอบมาก  แปลกอยู่เหมือนกัน เธอเป็นนักแสดงที่ฝีมือโดดเด่นทีเดียวทั้งที่เป็นอดีตนางแบบแท้ๆ  หายากนะที่อดีตนางแบบสักคนจะรู้ว่าการแสดงจริงๆ เป็นยังไง ผมไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไร อาจเพราะนางแบบคนอื่นๆ เน้นแต่ดูแลรูปลักษณ์ภายนอกปีแล้วปีเล่า แต่เธอคนนี้เลือกที่จะเบี่ยงทิศทางออกมาและพัฒนาตัวเองขึ้นในฐานะนักแสดง นี่ล่ะมั้งคือโลกของเธอ ผมสนุกมากที่ได้ร่วมงานกับเธอ และคิดว่าคนที่ดูหนังเรื่องนี้ต้องชอบเธอมากแน่ๆ


4.ตื่นเต้นไหมกับหนังแอ็กชั่นเรื่องแรก?

      ตื่นเต้นสิ  เพราะมันยากนี่ ถ้าพูดถึงหนังแอ็กชั่นสักเรื่อง ช่วงเวลาที่สนุกที่สุดก็คงเป็นตอนถ่ายทำฉากบู๊กระหน่ำ  แต่อย่าลืมว่าฉากแอ็กชั่นยิ่งเจ๋งเท่าไหร่ก็ยิ่งซับซ้อนเท่านั้น  คืออาจต้องใช้สารพัดเทคนิคมาช่วยขณะถ่ายทำ ดังนั้น เบื้องหลังไม่ไหลลื่นเหมือนอย่างที่เห็นๆ กันหรอก เราจะค่อยๆ ถ่ายทำทีละฉากทีละตอน หลังจากนั้นก็จับมารวมกันในห้องตัดต่อจนได้ฉากแอ็กชั่นที่เจ๋งที่สุด แต่ระหว่างถ่ายทำน่ะไม่เจ๋งเลย แถมยังเสียเวลามากอีกด้วย


5.ปิแอร์  โมเรล เป็นอย่างไร?

      ผมรักปิแอร์ เขาบ้ามาก แต่บ้าในทางที่ถูกที่ควรนะ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคชนิดหาตัวจับยากทีเดียว และยังจัดการทุกอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่ชอบทำงานหนักๆ ยากๆ ชอบใส่พลังเข้าไปในงานเยอะๆ ตามประสาพวกบ้าพลัง ที่สำคัญ เขาเท่จริงๆ ผมชอบเขามากๆ รู้สึกว่าทำงานเข้าขากับเขาได้ง่ายๆ เอาเป็นว่าเขาเป็นผู้ชายที่เจ๋งสุดๆ และเป็นผู้กำกับฯที่ยอดเยี่ยมจริงๆ 

sianbun on January 29, 2010, 12:29:42 PM
จอห์น ทราโวลต้า พร้อมด้วย  โจนาธาน รีส  เมเยอร์ส


การร่วมงานกันเป็นอย่างไรบ้าง? (จท : จอห์น ทราโวลต้า / จรม : โจนาธาน รีส เมเยอร์ส)


      จรม: ไม่มีทางรู้ชัดเลยว่าเราเข้าขากันได้ดีหรือไม่จนกระทั่งได้เจอกันและเริ่มถ่ายทำ หลังจากนั้น การถ่ายทอดพลังทางการแสดงก็เกิดขึ้นทันที จอห์นเป็นคนใจดีมาก เปิดกว้าง และอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นทำให้ผมรู้ว่าคนนี้แหละมีศักยภาพพอที่จะกระตุ้นพลังทางการแสดงของผม เป็นคนที่ผมร่วมงานด้วยแล้วมีความสุข แต่ก็ยังไม่แน่หรอกจนกว่าจะเดินกล้อง


      จท: โจนาธานกับผมมีวิธีปลดปล่อยพลังทางการแสดงคล้ายๆ กัน เพราะฉะนั้น เราทั้งคู่จะประชันบทบาทกันอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ พลังที่คล้ายๆ กันพอหลอมรวมกัน ทำให้แต่ละฉากนี่ร้อนฉ่าจนแทบจะไฟลุกเลยทีเดียว แม้ว่าเราจะไม่ได้อยากให้มันร้อนแรง แต่มันก็ร้อนของมันเอง นั่นเป็นเพราะเราเชื่อมั่นในกันและกัน และมีความสุขที่ได้ร่วมแสดงไปด้วยกัน แต่ละฉากจึงมีชีวิตโลดแล่น บอกไปก็คงไม่เห็นภาพ ต้องไปดูบนจอเองดีกว่า เราสองคนมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดบนโลกร่วมกัน ส่วนคุณในฐานะคนดูจะได้เห็นมันแน่ๆ บนจอ รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องหลุดปากออกมา “โอ้โห พวกเขาเข้าขากันจริงๆ” ตอนแสดง เราสองคนรู้สึกว่าเข้าขากันจังเลย แต่ก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่าเรารู้สึกกันไปเองหรือเปล่า จริงๆ แล้วเป็นอย่างนั้นจริงๆ เหรอ จนกระทั่งได้ดูฟุตเทจเสี้ยวหนึ่งด้วยกัน ผมก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า “ใช่เลย เข้าขากันจริงๆ นั่นแหละ”


คุ้นเคยกับผลงานของอีกฝ่ายจากหนังเรื่องไหน?


      จท: ผมคุ้นเคยกับผลงานของโจนาธานหลายเรื่องทีเดียว ด้วยความที่อยู่ในตำแหน่งพิเศษ ตอนที่ทีมผู้สร้างเรียกมาคุย พวกเขายื่นผลงานของนักแสดงที่ผมควรประกบมาให้ดูเป็นแนวทาง โจนาธานคือหนึ่งในนั้นและเป็นตัวเลือกแรกของผม โจนาธานเป็นนักแสดงที่โดดเด่นมากคนหนึ่ง ถ้าพูดถึงนักแสดงรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา ผมว่าเขาน่าจะมีพรสวรรค์มากที่สุดแล้วล่ะ เพราะเขาแสดงได้ทุกบท การแสดงที่ผ่านมาทั้งหมดของเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้ว ทั้งหลากหลาย ทั้งสมจริงจนเราเชื่อได้ แถมยังเป็นงานคลาสสิกทั้งนั้น ผมคิดว่าอนาคตของเขาต้องรุ่งโรจน์มากแน่ๆ ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้กำลังตีข่าวโปรโมตเขานะ แต่ตัดสินจากประสบการณ์


      จรม: หนังที่ทำให้ผมชอบจอห์นมีเป็นตั้งๆ เลย อย่างในเรื่อง Pulp Fiction นี่เห็นชัดๆ เลยว่าเยี่ยมมาก และไม่ใช่เห็นจากมุมมองของนักแสดงเท่านั้น แต่มันเยี่ยมเพราะเปลี่ยนมุมมองของคนดูที่มีต่อหนังด้วย เรียกว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในแวดวงภาพยนตร์เลยทีเดียว ถ้าตอนเด็กๆ ก็ต้องเป็นหนังยิ่งใหญ่อลังการอย่าง Grease นั่นแหละ ผมโตมาในช่วงที่ไอร์แลนด์ยังไม่มีม้วนวิดีโอหรือแผ่นดีวีดี พอรู้ว่าหนังเรื่องเด็ดๆ จะมาฉายทางทีวี ทั้งครอบครัวจะตั้งตาคอย และดูมันพร้อมๆ กัน ซึ่ง Grease เป็นหนึ่งในหนังพวกนั้นด้วย ยอมรับเลยว่าดูแล้วอิจฉานิดๆ ที่เขาได้แสดงประกบแซนดี ส่วน Saturday Night Fever ก็เป็นหนังที่ไม่ธรรมดาเลย ผมชอบทั้งเพลง ชอบเครื่องแต่งกาย ชอบท่าเต้น เอาเป็นว่าชอบทุกอย่างในนั้นละกัน ในขณะที่ Face Off ก็โดดเด่นมากทีเดียว ผมคิดว่าเขาแสดงเป็น นิค เคจ ได้เด่นมากจริงๆ ยากนะเวลาที่รูปลักษณ์ภายนอกไม่อำนวยต่อบทบาทที่เราต้องแสดง แต่เขาแสดงได้ชนิดที่ไม่มีใครแทนได้


      จท: ถูกต้องเลย อย่างเราสองคนนี่ก็รูปร่างต่างกันมาก นั่นหมายความว่าเราจะมีกลเม็ดดึงความสนใจจากกล้องต่างกันไปตามความเหมาะสม อย่างตอนที่ดู Match Point ผมยังคิดเลยว่าไม่มีทางแสดงได้ดีกว่าโจนาธานแน่ๆ เพราะการแสดงของเขาถูกต้องเหมาะสมที่สุดอย่างที่หนังต้องการ ผมประทับใจมากๆ เหมือนคนดูอีกไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่นั่นแหละ ผมภูมิใจในตัวโจนาธานจริงๆ ส่วนซีรี่ส์ที่เขาแสดงก็ยอดเยี่ยมมาก ใครได้ดูก็ต้องชอบใจทั้งนั้น

sianbun on January 29, 2010, 12:30:04 PM
ปิแอร์  โมเรล – ผู้กำกับภาพยนตร์


1.หลังจากเรื่อง  Taken คุณอยากทำสักเรื่องที่ต่างไปจากเดิมใช่ไหม?

      Taken เป็นหนังที่ดำเนินเรื่องด้วยตัวละครตัวเดียว คือหนึ่งคนกับหนึ่งเป้าหมายในชีวิต ดังนั้น โครงเรื่องจะเป็นเส้นตรงตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เรื่องนี้จะซับซ้อนมากขึ้น ตอนอ่านบท เรื่องราวเริ่มขึ้นเหมือนจะเป็นหนังเกี่ยวกับคู่หูคู่ฮาคู่หนึ่ง อ่านแล้วรู้สึกดีจนอยากทำมันให้เป็นหนัง แต่ต่อมาเรื่องราวจะค่อยๆ ลึกล้ำดำมืดขึ้นเรื่อยๆ ประมาณว่าจากสุดยอดแห่งความตลก หนังจะค่อยๆ พลิกไปสู่ด้านมืดทีละน้อยๆ จนกระทั่งจบแบบเลวร้ายมากๆ ทีเดียว


2.ได้ไอเดียที่จะจับ จอห์น ทราโวลต้า มาเข้าคู่กับ โจนาธาน รีส เมเยอร์ส มาจากไหน?

      แรกเริ่ม  จอห์น ทราโวลต้า มาจากไอเดียของ ลุค เบซง หลังจากนั้นเราก็เสนอบทให้จอห์น ด้วยเหตุผลที่ว่าในหนังทุกเรื่องตลอดอาชีพทางการแสดงที่ผ่านมา เราเห็นเขาเปลี่ยนไปตลอดเวลา เขาเป็นนักแสดงประเภทที่ชอบเล่นกับภาพลักษณ์ของตัวเอง ชอบแต่งตัวและตัดแต่งผมให้แตกต่างกันไปจากหนังเรื่องหนึ่งไปถึงอีกเรื่องหนึ่ง เขาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และรับบทที่ต่างกันไปอยู่เสมอ ในขณะที่เราไม่เคยเห็นเขาแสดงบทแบบนี้มาก่อน ก็เลยเห็นตรงกันว่านี่เป็นไอเดียที่ดีนะ ส่วนตัวเขาเองก็เห็นดีเห็นงามกับบทนี้ด้วย แว็กซ์เป็นที่สุดของที่สุดแห่งสายลับซึ่งมีบุคลิกเตะตาและคันไม้คันมืออยากเหนี่ยวไกตลอดเวลา เรากับจอห์นสนุกมากๆ ทีเดียวตอนที่ช่วยกันเพิ่มสีสันให้ตัวละครตัวนี้ ส่วนโจนาธานจะเป็นนักแสดงประเภทที่ยึดอยู่กับกฎเกณฑ์เดิมๆ ซะมากกว่า เรียกว่าสัมผัสความต่างระหว่างทั้งสองได้อย่างชัดเจนขณะถ่ายทำ จอห์นจะมีความเป็นอเมริกันเข้มข้นมาก คล้ายๆ กับพวกนักแสดงใหญ่ๆ ที่จบมาจาก Actors Studio คือชอบเล่นกับตัวละครระหว่างเข้าฉาก แต่ก่อนจะทำอย่างนั้นได้ก็ใช้เวลาซ้อมบทอยู่นานทีเดียว ในทางกลับกัน โจนาธานจะมีวิธีเข้าถึงบทบาทแบบอังกฤษสุดๆ เขาทำการบ้านมาล่วงหน้าแบบหนักหน่วงมาก ท่องบทจนขึ้นใจ พอถึงเวลาเข้าฉากก็จะเป๊ะไปซะทุกอย่าง แต่อันที่จริงแล้ว พวกเขาคล้ายคลึงกับตัวละครที่รับบทมากทีเดียว อย่างตัวละครของจอห์นซึ่งคือแว็กซ์ จะเป็นผู้ชายบ้าระห่ำที่ชอบนอกบทตลอดเวลา ในขณะที่ตัวละครของโจนาธาน คือรีซ จะเป็นผู้ชายที่ทำทุกอย่างตามตำราและพิถีพิถันทุกกระเบียด ดังนั้น สรุปได้เลยว่าชีวิตจริงของทั้งสองนักแสดงคล้ายกับสองตัวละครในหนังมากจริงๆ


3.การประชันบทบาทกันครั้งแรกของสองนักแสดงเป็นอย่างไร?

      อันที่จริง  ครั้งแรกที่ทั้งสองเจอกันในหนังก็คือครั้งแรกที่ทั้งสองเข้าฉากร่วมกัน  เราวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะอยากให้ฉากที่แสดงร่วมกันครั้งแรกสอดคล้องกับเรื่องราวของตัวละคร ผมอยากลองเพราะทั้งคู่ไม่เคยแสดงด้วยกันมาก่อนและไม่รู้ว่าควรคาดหวังอะไรจากอีกฝ่าย ดังนั้น ตอนที่ตัวละครพบกันครั้งแรกในกรมศุลกากรฝรั่งเศส ตัวละครจะค่อยๆ ทำความรู้จักกันเช่นเดียวกับนักแสดง นี่แหละที่ช่วยสร้างอารมณ์สมจริงให้กับฉากนี้ได้ดีมากๆ


4.จุดเด่นหนึ่งของหนังคือได้  จอห์น ทราโวลต้า  มาแสดงนำ คุณปรับเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ของเขาไปเป็นแบบไหน?

      เราคุยกันยาวเลยเรื่องสิ่งที่ผมอยากลองทำกับจอห์น เขาจะแสดงแต่ละฉากทั้งแบบสมเหตุสมผลตรงไปตรงมา แบบล้นๆ เกินจริงติดตลก และแบบเคร่งขรึมยิ่งขึ้น เพื่อที่ผมจะได้มีตัวเลือกในการพัฒนาตัวละครในแต่ละฉากเพิ่มขึ้น งานนี้สนุกจริงๆ เดี๋ยวเห็นเขาจริงจังสุดๆ เดี๋ยวเห็นเขาบ้า เดี๋ยวเห็นเขาเครียด จากนั้นผมจะหยิบส่วนเล็กส่วนน้อยในแต่ละเทคมาปะติดปะต่อกัน ในที่สุดก็จะได้ตัวละครที่คนดูไม่มีทางรู้ว่าจริงๆ แล้วเขาคิดอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าไว้ใจเขาได้หรือไม่ ง่ายๆ คือผมหยิบอารมณ์ที่แตกต่างกันในแต่ละเทคมาสร้างและเพิ่มสีสันให้กับตัวละครนั่นเอง ในทางกลับกัน รีซที่เป็นตัวละครของโจนาธานจะแสดงออกแบบคงเส้นคงวาตลอดเวลา หรือจะพูดว่าคาดเดาไม่อยากเท่ากับแว็กซ์ก็ได้ จากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองจะเพิ่มระดับความน่าสนใจมากขึ้นเมื่อผ่านกระบวนการตัดต่อลำดับภาพ เพราะเราใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้มากกว่าตอนถ่ายทำ


5.ฉากไหนถ่ายทำยากที่สุด?

      ฉากยุ่งยากซับซ้อนมีอยู่หลายฉาก  แต่ที่หนักหนาสาหัสสากรรจ์มากๆ  เห็นจะเป็นฉากแอ็กชั่นใหญ่ๆ สองฉาก ฉากแรกคือการไล่ล่าครั้งสุดท้ายบนถนนโล่งๆ ฉากนี้หนักหนาเพราะเป็นฉากแปลกๆ ที่ผู้ชายคนหนึ่งห้อยต่องแต่งออกมาจากรถที่วิ่งด้วยความเร็ว 100 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่มีความหมายต่อเรื่องราวนะแล้วก็ยังสนุกมากด้วย อีกฉากหนึ่งที่ยากคือตอนถ่ายทำในโรงงานเก่าๆ ซึ่งมีชาวจีนทำงานอยู่เต็มไปหมด เรามีเวลาจำกัด แต่กลับต้องมีทั้งกองเพลิง ห่ากระสุน และระเบิดเปรี้ยงปร้างทั่วทุกจุด นั่นแหละยากสุดๆ เลย

sianbun on January 29, 2010, 12:30:41 PM


โล้นซ่าบ้าดีเดือด “จอห์น ทราโวลต้า” กลับมาบู๊ระห่ำอีกครั้ง

พร้อมคู่หูฝรั่งแสบสุดหล่อ “โจนาธาน รีส เมเยอร์ส”

ในภาพยนตร์แอ็คชั่นมันส์หยดจากทีมผู้สร้าง Transporter

แทคทีมกระหน่ำความแรงจากผู้กำกับ Taken


“คู่ระห่ำ ฝรั่งแสบ”

“FROM PARIS WITH LOVE”


“เอ็ม พิคเจอร์ส” ระเบิดความแรงพร้อมอเมริกา

4 กุมภาพันธ์  นี้ ทุกโรงภาพยตร์!


      “คู่ระห่ำ ฝรั่งแสบ” หรือ “FROM PARIS WITH LOVE” การพบกันครั้งแรกในภาพยนตร์แอ็คชั่นบู๊สุดดุเดือดผ่าใจกลางเมืองน้ำหอมของซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวู้ด “จอห์น ทราโวลต้า” (The Taking of Pelham 123, Face/Off) รับบทโล้นซ่าบ้าดีเดือด พร้อมคู่หูฝรั่งแสบสุดหล่อ “โจนาธาน รีส เมเยอร์ส” (Mission:Impossible III, Match Point) การันตีความมันส์ทะลุจอโดยผู้กำกับ Taken แทคทีมระห่ำเดือดโดย ลุค เบซอง ผู้สร้าง Transporter “เอ็ม พิคเจอร์ส” ระเบิดความแรงพร้อมอเมริกา 4 กุมภาพันธ์ นี้ ทุกโรงภาพยนตร์


      จอห์น ทราโวลต้า  พูดถึงการกลับมารับแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นมันส์ระห่ำด้วยการรับบท ชาร์ลี แว็กซ์ โล้นซ่าบ้าดีเดือดว่า “ในฐานะนักแสดง สิ่งแรกที่ผมสนใจคือผมทำอะไรที่แปลกแตกต่างให้ตัวละครได้มากกว่าที่นักแสดงคนอื่นๆ ทำหรือเปล่า ตัวละครตัวนี้ดุดันสุดๆ เลย มันเปิดโอกาสให้ใช้ความสามารถในฐานะนักแสดงเต็มที่ คือได้เป็นใครสักคนที่ต่างจากตัวตนจริงๆ ของผม โดยเฉพาะการโกนหัวให้โล้นเตียนนี่ผม ชอบมาก เพราะเวลาโกนหัวโล้น ผมมีอิสระที่จะทำอะไรแรงๆ ตรงไปตรงมาได้เต็มที่ ดูๆ ไปแล้ว ผมว่าเป็นทรงที่ให้อารมณ์คล้ายๆ กับในเรื่อง Pulp Fiction ยังไงยังงั้น ทรงผมไม่ธรรมดาแบบชาวดัชต์นี่แหละช่วยสร้างความรู้สึกแบบกุ๊ยยุโรปให้กับตัวละครซึ่งเป็นมือปืนได้ดี และผมก็ทุ่มเทแสดงให้อย่างสุดตัวจริงๆ”


      ปิแอร์  โมเรล ผู้กำกับภาพยนตร์พูดถึงไอเดียที่จะจับ จอห์น ทราโวลต้า มาเข้าคู่กับ โจนาธาน รีส เมเยอร์ส ว่า “แรกเริ่ม จอห์น ทราโวลต้า มาจากไอเดียของ ลุค เบซง หลังจากนั้นเราก็เสนอบทให้จอห์น ด้วยเหตุผลที่ว่าในหนังทุกเรื่องตลอดอาชีพทางการแสดงที่ผ่านมา เราเห็นเขาเปลี่ยนบุคลิกไปตลอดเวลา ในขณะที่เราไม่เคยเห็นเขาแสดงบทแบบนี้มาก่อน ตัวละครแว็กซ์เป็นที่สุดของที่สุดแห่งสายลับซึ่งมีบุคลิกเตะตาและคันไม้คันมืออยากเหนี่ยวไกตลอดเวลา ส่วนโจนาธานจะเป็นนักแสดงประเภทที่ยึดอยู่กับกฎเกณฑ์เดิมๆ ซะมากกว่า เรียกว่าสัมผัสความต่างระหว่างทั้งสองได้อย่างชัดเจนขณะถ่ายทำ แต่พอถึงเวลาเข้าฉากก็จะเป๊ะไปซะทุกอย่าง ซึ่งอันที่จริงแล้ว พวกเขาคล้ายคลึงกับตัวละครที่รับบทมากทีเดียว อย่างตัวละครของจอห์นซึ่งคือแว็กซ์ จะเป็นผู้ชายบ้าระห่ำที่ชอบนอกบทตลอดเวลา ในขณะที่ตัวละครของโจนาธาน คือ รีซ จะเป็นผู้ชายที่ทำทุกอย่างตามตำราและพิถีพิถันทุกกระเบียด ดังนั้น สรุปได้เลยว่าชีวิตจริงของทั้งสองนักแสดงคล้ายกับสองตัวละครในหนังมากจริงๆ” 


      “คู่ระห่ำ ฝรั่งแสบ” “FROM PARIS WITH LOVE” เมื่อเจ้าหน้าที่หนุ่ม เจมส์ รีซ (โจนาธาน รีส เมเยอร์ส) ที่ทำทุกอย่างตามตำราและพิถีพิถันทุกกระเบียดได้จับมือกับคู่หูคู่เดือดคนใหม่ สุดยอดแห่งสายลับนั่นคือ ชาร์ลี แว็กซ์ (จอห์น ทราโวลต้า) ซึ่งมีบุคลิกเตะตาและคันไม้คันมืออยากเหนี่ยวไกตลอดเวลา ทั้ง 2 คน ได้ร่วมปฎิบัติภารกิจต่อต้านขบวนการผู้ก่อการร้าย ระหว่างที่ทั้งคู่ได้บุกทะลวงปารีส เพื่อความสงบสุขของชาวประชา ความมันส์ระห่ำสะใจได้จุดระเบิดเริ่มต้นขึ้น ณ ใจกลางกรุงปารีส เมืองน้ำหอมที่สุดแสนจะโรแมนติกแห่งยุโรป Well come to Paris Baby!
« Last Edit: January 31, 2010, 04:56:06 PM by sianbun »