news on October 08, 2018, 10:41:01 PM

systemplatform-whatsnew


Digital-Transformation


ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อ และระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล โดยทอมมี่เหลียงประธานบริษัทชไนเดอร์อิเล็คทริคประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกและญี่ปุ่น


Tommy-L-Schneider-Electric


เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากโมเดลธุรกิจใหม่ ไปสู่ระบบพลังงานใหม่ การปฏิรูปสู่ดิจิทัลได้แผ่ขยายอย่างเต็มกำลังรอบตัวเรา ด้วยสภาพการแข่งขันอย่างสูงในธุรกิจ ความสำเร็จขององค์กรในวันนี้ จึงขึ้นอยู่กับว่าองค์กรธุรกิจนำความสามารถด้านการเชื่อมต่อ ความสามารถในการคาดการณ์รวมถึงความเรียบง่ายในการบริหารจัดการข้อมูลมาช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงาน เพื่อเพิ่มผลลัพธ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างคุณค่าและการเติบโตให้กับองค์กรได้อย่างไร
การปฏิรูปทางดิจิทัลถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เช่นคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence หรือ AI) และ IoTสำหรับอุตสาหกรรม (IIoT)ซึ่งหลายอุตสาหกรรมต่างค่อยๆ ทยอยกันปฏิรูปสู่ดิจิทัลนอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจในปัจจุบันสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจคือต้องแน่ใจด้วยว่าบุคลากรจะต้องได้รับการ "ปฏิรูปทางดิจิทัล" ด้วยเช่นกันดังนั้นผู้ที่สามารถปรับใช้เทคโนโลยีได้ดีหรือผู้ที่ก้าวทันโลก จะมีความสามารถนำโอกาสที่เกิดในยุค IoT มาใช้กับการทำงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น



Meeting


Working


เพิ่มขีดความสามารถของพนักงาน จากความร่วมมือและการฝึกอบรม
แม้ว่าบริษัทมากมายต่างตระหนักดีถึงความสำคัญของการปรับโฉมให้กับคนทำงานแต่ก็ยังคงมีช่องว่างในเรื่องของทักษะอยู่มาก จากรายงานของ Accenture ระบุว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของนายจ้างพูดถึงการขาดแคลนผู้ที่มีความสามารถโดดเด่น และตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบในภาพรวมของเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทต่างๆจำเป็นต้องดูแลและสร้างคนทำงานที่พร้อมสำหรับอนาคต ด้วยการลงทุนเรื่องของการฝึกอบรม เพิ่มทักษะให้กับพนักงานและส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว

ตัวอย่างเช่น ชไนเดอร์ อิเล็คทริคให้โอกาสกับพนักงานในการฝึกอบรมต่างออฟฟิศ เพื่อให้ได้ทักษะที่แตกต่างรวมถึงมีมุมมองใหม่ๆซึ่งมีส่วนช่วยเร่งให้เกิดความก้าวหน้าในสายอาชีพ พร้อมส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจผู้นำธุรกิจในปัจจุบันต้องทำมากกว่าการพัฒนาทักษะด้านเทคนิค โดยการเพิ่มทักษะด้านอารมณ์ เช่นการแก้ปัญหาและการคิดเชิงวิพากษ์ เพื่อเติมเต็มความมุ่งมั่นจากภาครัฐบาลเช่นโครงการ "SMEs Go Digital", SkillsFutureและคุณสมบัติทักษะฝีมือแรงงาน

บริษัทฯยังมีอีกบทบาทสำคัญในการดูแลผู้ที่มีความสามารถพิเศษก่อนเข้าสู่การทำงาน ด้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมกับสถาบันการศึกษาต่างๆ ซึ่งอาจรวมถึงความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยเพื่อให้นักเรียนมีทักษะด้านเทคนิคจากโปรแกรมฝึกงานและการฝึกอบรมในที่ทำงาน รวมถึงการจัดแข่งขันนำเสนอแผนธุรกิจในการทำงานจริง

ประโยชน์ของบุคลากรที่มีความสามารถทางเทคโนโลยี (Smart Workforce)
คนทำงานที่มีความพร้อมในการใช้ประโยชน์จาก IoT จะมีอนาคตไกลเพื่อพิสูจน์ว่าบริษัทไปได้ดีในยุคดิจิทัล การเปลี่ยนธุรกิจสู่ดิจิทัลจะปูทางไปสู่การหลอมรวมข้อมูลจากการวางแผนและการดำเนินการจริงเข้าด้วยกัน เพื่อการบริหารจัดการสินทรัพย์และความสูญเสีย โดยใช้เทคโนโลยีการบริหารข้อมูลและระบบวิเคราะห์ข้อมูลมาช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นภาพของความสามารถในการทำกำไรในโครงการนั้นๆ ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการ หรือทนุบำรุงดูแลสินทรัพย์ก่อนที่จะเกิดความเสียหาย

การผสานรวมเทคโนโลยีต่างๆ เช่นอุปกรณ์AR (augmented-reality) ที่ใช้IoT ช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้ใช้งาน ด้วยทักษะและความรู้ใหม่ๆที่ช่วยให้สามารถบริหารจัดการกับสินค้าคงคลังได้ดียิ่งขึ้นด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อที่มากขึ้นจากการใช้IoTช่วยให้ผู้ผลิตสามารถบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ โดยนำข้อมูลมาใช้คาดการณ์ถึงความล้มเหลวได้ล่วงหน้า บุคลากรสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเท่าทันเหตุการณ์มากขึ้น ด้วยการดำเนินการซ่อมแซมและเปลี่ยนอุปกรณ์ก่อนที่เครื่องจะทำงานผิดปกติซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ความก้าวหน้าด้านความฉลาดของเครื่องจักรยังช่วยให้มนุษย์สามารถทำงานโต้ตอบกับระบบเซ็นเซอร์ได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงานและให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ กระทั่งโซลูชัน AIและเทคโนโลยีML (machine learning) ล้วนใช้การจดจำรูปแบบขั้นสูง เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับโปรไฟล์การปฏิบัติงานที่เป็นอัตลักษณ์ของสินทรัพย์และกระบวนการต่างๆ ข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์เซ็นเซอร์ของเครื่องจักรถูกนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลการดำเนินงานได้ในแบบเรียลไทม์โดยให้การแจ้งตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับปัญหาของอุปกรณ์ต่างๆช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า

เทคโนโลยีในวันนี้จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าในวันพรุ่งนี้คนทำงานยุคใหม่จำต้องมีความสามารถในการควบคุมการใช้เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดได้ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทองค์กรจำต้องลงทุนในเรื่องของการอบรมและพัฒนาผู้ที่มีความสามารถโดดเด่น  พร้อมกันนี้ สิ่งสำคัญคือการฝึกอบรมให้กับผู้มีความสามารถที่เพิ่งเข้ามาเริ่มงานใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีบุคคลที่พร้อมด้วยความสามารถและทักษะความชำนาญเข้ามาร่วมทีมและสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงคือสิ่งเดียวที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในชีวิตและเราจำเป็นต้องดำเนินบทบาทในการสร้างความมั่นคงให้กับอนาคต

เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น ตั้งแต่ บ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรมต่างๆ  ด้วยการยืนหยัดอยู่ในเวทีระดับโลกในกว่า 100 ประเทศ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นผู้นำที่โดดเด่นในด้านการจัดการพลังงาน ทั้งแรงดันไฟฟ้าขนาดกลาง-ต่ำ และระบบสำรองไฟฟ้า รวมถึงระบบออโตเมชั่นต่างๆ เรานำเสนอโซลูชั่นแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการผสานการทำงานร่วมกันทั้งในส่วนของพลังงาน ระบบออโตเมชั่น และซอฟต์แวร์ เรามีระบบนิเวศทั่วโลก ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือกับคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด รวมถึงชุมชนนักพัฒนาและผู้วางระบบบนแพลตฟอร์มเปิด เพื่อมอบประสิทธิภาพด้านการดำเนินงาน และการควบคุมในแบบเรียลไทม์ เราเชื่อว่าด้วยผู้คนที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ และพันธมิตรของเรา จะช่วยให้ชไนเดอร์ อิเล็คทริคเป็นบริษัทที่เยี่ยมยอด พร้อมกับคำมั่นสัญญาของเราที่มุ่งมั่นในเรื่องการสร้างนวัตกรรม ความหลากหลาย และความยั่งยืนช่วยให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า “Life is On” ในทุกที่สำหรับทุกคน และทุกช่วงเวลา www.schneider-electric.co.th
« Last Edit: October 08, 2018, 10:44:47 PM by news »