MSN on October 01, 2018, 07:55:53 AM
KTAM เดินหน้าเปิดนวัตกรรมการลงทุนใหม่ขาย KT-BRIAN IPO 2-11 ตุลาคมใช้ AI เลือกหุ้นมุ่งสร้างผลตอบแทนเหนือ SET


บุคคลในภาพ
1. นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM  (กลาง)
2. นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM (ซ้าย)
3. นายวุฒิชัย คงพัฒนสิริ ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM (ขวา)


          นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า บริษัทเสนอขายครั้งแรก ( IPO) กองทุนเปิดกรุงไทย เอไอ เบรน ( KT-Brain ) ในวันที่ 2-11 ตุลาคม 2561 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท นโยบายเน้นลงทุนหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( SET) และหรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ( MAI) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

          ทั้งนี้กองทุนจะคัดเลือกหลักทรัพย์ที่จะลงทุนผ่านโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทจัดการในการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ Artificial intelligence (AI) ในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจากข้อมูลทางการเงินเป็นรายบริษัท หลังจากนั้นระบบจะทำการคัดเลือกหลักทรัพย์ และจัดพอร์ตการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนโดยรวมให้เหนือกว่าดัชนีอ้างอิง ( SET Total Return )

          กองทุน KT-Brain จะใช้ AI ในการคัดเลือกหุ้น โดยระบบจะทำการคัดเลือกหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และ/หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ที่มีจำนวนรวมประมาณ 731 หลักทรัพย์โดยการคัดเลือกหุ้นจากข้อมูลอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ ที่จะส่งผลต่อราคาหุ้น เช่น อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร อัตราส่วนสภาพคล่อง และอัตราส่วนประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เป็นต้น

          โดยระบบจะทำการหาหลักทรัพย์ที่มีโอกาสสร้างการเติบโตที่ดีให้กับเงินลงทุนเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีความรวดเร็วในการวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทต่างๆ ได้รวดเร็วกว่ามนุษย์ และยังสามารถขจัดเรื่องอารมณ์ในการตัดสินใจได้อีกด้วย โดยบริษัทได้มีการทำโมเดลจำลองการลงทุน และทำการแบบจำลองการลงทุน ( Back Test ) ย้อนหลัง 5 ปี ( กรกฎาคม 2556 – มิถุนายน 2561) กองทุนสามารถให้ผลตอบแทนรวมที่ 63.99 % SET TRI อยู่ที่ 29.13% และ SET อยู่ที่ 9.90%

          อย่างไรก็ตามผู้จัดการกองทุนมีหน้าที่ตรวจสอบรายชื่อหลักทรัพย์ น้ำหนักการลงทุน รวมไปถึงรายการซื้อขายที่ได้มาจากระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนและเป็นไปตามกฎเกณฑ์การลงทุน

          แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปกติเกิดขึ้น ผู้จัดการกองทุนสามารถเข้าไปแทรกแซงระบบได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารความเสี่ยงของกองทุนเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น การปรับระดับการสำรองเงินสดให้เหมาะสมเพื่อรองรับการขายคืนในกรณีที่มีเหตุการณ์ที่ทำให้นักลงทุนต้องการถือครองเงินสด

          ด้านนายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานจัดการลงทุน บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ ( GDP )ไตรมาส 4 ปี 2561 จะขยายตัวที่ประมาณ 4% เมื่อเทียบกับปีก่อนโดยเป็นการชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปีซึ่งอยู่ที่ 4.6% และไตรมาส 3 อยู่ที่ 4.3% เนื่องจากคาดว่าอุปสงค์จากต่างประเทศชะลอตัวลง แต่ในช่วงที่เหลือของปีเศรษฐกิจไทยจะถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐ

          ทั้งนี้ด้วย GDP ที่กระจายตัวประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่ค่อยๆ เร่งตัวขึ้นจึงทำให้บลจ.กรุงไทยคาดว่า คณะกรรมการนโนบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ และคาดว่าตลอดทั้งปี 2562 จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจำนวน 2 ครั้ง

          บริษัทมองเป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปี 2561ไว้ที่ระดับ 1,780 จุด โดยประเมินการขยายตัวของกำไรของตลาดโดยรวมไว้ที่ 10% และปรับ P/E ให้ลงสู่ระดับ 16.4 เท่า ต่ำกว่า P/E ปี 2560 เล็กน้อยทำให้เป้าหมายของดัชนีฯ ในปี 2561 ลดลงเหลือ 1,780 จุด จากสถิติย้อนหลังมีโอกาสสูงที่ในไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่ดีสำหรับการลงทุนของปี โดยจะเห็นตลาดหลักทรัพย์มีแนวโน้มเป็นบวกมากกว่าลบซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ที่ดีของนักลงทุนที่มีต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี2562 แม้ว่าบลจ.กรุงไทยจะประเมิน GDP ปี 2562 ขยายตัวที่ระดับ 4.2% ลดลงจากปี 2561 ที่คาดไว้ที่ระดับ 4.5% แต่ยังคงเป็นบวก และการเติบโตของกำไรสุทธิในปี 2562 โดยฝ่ายวิจัยของบลจ.กรุงไทยประเมินไว้ที่ 10% นอกจากนี้ยังมีการเข้ามาเก็งกำไรหุ้นที่ได้รับผลดีจากการเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ปีหน้าเข้ามาช่วยเป็นปัจจัยสนับสนุน ซึ่งหากดัชนีฯ สามารถผ่าน 1,730 จุดขึ้นมาได้ น่าจะเห็นดัชนีฯ ไปได้ถึง 1,800 – 1,820 จุด

          ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
« Last Edit: October 02, 2018, 07:53:41 AM by MSN »

MSN on October 02, 2018, 07:51:32 AM
]
« Last Edit: October 02, 2018, 07:53:52 AM by MSN »