MSN on September 27, 2018, 03:42:12 PM
นิด้าโพลชี้โชห่วยอ่วมพิษเก็บภาษีบุหรี่เพิ่มต่อเนื่อง ส.การค้ายาสูบวอนนายกฯ ช่วยร้านค้าขนาดเล็กทั่วประเทศ

สมาคมการค้ายาสูบไทย เผยผลสำรวจนิด้าโพล ระบุร้านค้าปลีกขนาดเล็กทั่วประเทศได้รับผลกระทบมากจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ เชื่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนี้จะเห็นใจร้านค้าขนาดเล็กไม่เก็บภาษีบุหรี่ใดๆเพิ่มขึ้นและชะลอการขึ้นภาษี 40% ออกไปก่อนเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบต่อร้านค้าปลีกทั่วประเทศกว่า 500,000 ราย

นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของร้านค้าปลีกในช่วง 8 เดือนหลังการประกาศใช้โครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่ จัดทำโดยนิด้าโพล เพื่อสำรวจความคิดเห็นของร้านค้า 1,000 รายทั่วประเทศเกี่ยวกับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่และการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ในอนาคตอันใกล้ พบว่า ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 65.17 ได้รับผลกระทบมากจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่เมื่อปีที่แล้ว โดยร้านค้าปลีกในกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล และภาคกลางได้รับผลกระทบมากที่สุด 81.58% และ 91.75% ตามลำดับ และยังส่งผลให้สถานการณ์ปัญหาบุหรี่เถื่อน และความนิยมในยาเส้น มีระดับความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งมีปัจจัยมาจากภาษีและราคาบุหรี่ถูกกฎหมาย สภาพเศรษฐกิจ และกระแสนิยม หากมีการขึ้นภาษีบุหรี่อีกในเดือนตุลาคม 2562 อาจทำให้ราคาบุหรี่ที่ถูกที่สุดเริ่มต้นที่ 90-95  บาท ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่ (72.33%) เห็นว่าต้องได้รับผลกระทบมากแน่นอน ส่วนแนวทางสำคัญที่สุดที่ร้านค้าร้อยละ 70.5 เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของร้านค้าได้มากคือชะลอการขึ้นภาษีในอัตรา 40% ออกไปก่อน และอย่าเพิ่งเก็บอื่นๆ เพิ่มจากสินค้าบุหรี่

“ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็ขึ้นภาษีบุหรี่ไปแล้วตั้งหลายครั้ง ทั้งภาษีกองทุนกีฬา 2% ภาษีเพื่อมหาดไทย 10% กองทุนผู้สูงอายุอีก 2% นี่ยังคิดจะเก็บบัตรทองอีก 2 บาท และวันก่อนก็มีข่าวว่า จะเก็บภาษีจากยาสูบ เข้า พ.ร.บ. ธนาคารที่ดินอีก มันเป็นการซ้ำเติมร้านค้าขนาดเล็กให้ค้าขายได้ยากลำบากมากขึ้น ขณะที่ร้านค้ารายใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าเรา เท่ากับสร้างความเหลื่อมล้ำในสังคมมากยิ่งขึ้นสวนทางกับนโยบายของ คสช. อย่างสิ้นเชิง” นางวราภรณ์กล่าว

ตัวแทนร้านโชห่วย ร้านเจ้วรรณ ในเขตประชาราษฎร์บำเพ็ญ กล่าวว่า “ปกติแล้วจะขายบุหรี่ไม่เกิน 1 พันบาทต่อวัน แม้จะดูเป็นเงินไม่มากนัก แต่สำหรับร้านค้าเล็กๆ เงินทุกบาททุกสตางค์ก็ถือว่าสำคัญ คนที่เข้ามาซื้อบุหรี่ก็จะซื้ออย่างอื่นด้วย ทำให้ขายสินค้าอย่างอื่นได้เพิ่มด้วย ทุกครั้งที่ราคาบุหรี่เพิ่มขึ้น ลูกค้าก็บ่น แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมเลิก ถ้าซื้อไม่ไหว ลูกค้าก็จะเปลี่ยนไปสูบยาเส้นแทน กำไรที่ร้านค้าได้ก็น้อยลง”





“การขึ้นภาษีทุกครั้ง มีผลกระทบต่อร้านค้าขนาดเล็กอย่างเรา เพราะต้นทุนสูงขึ้น ทั้งเป็นการเร่งการเติบโตของบุหรี่เถื่อน ดังนั้นการที่กระทรวงการคลังตัดสินใจเลื่อนการบังคับใช้ภาษีบุหรี่อัตรา 40% ออกไปก่อนถือเป็นการช่วยแก้ปัญหาให้กับร้านค้าได้ระดับนึง แต่กระทรวงสาธารณสุขกลับต้องการเก็บเงินสมทบกองทุน สปสช. จากบุหรี่อีกซองละ 2 บาท ก็เท่ากับเป็นการขึ้นภาษีบุหรี่อีก เพราะทำให้บุหรี่ต้องขยับไปเสียภาษี 40% ซึ่งผลกระทบจะไม่ต่างกับจากการปรับขึ้นภาษีร้อยละ 40 จะทำให้ร้านค้าได้รับผลกระทบ หากนายกรัฐมนตรีเห็นใจร้านค้าขนาดเล็กด้วยเชื่อว่าจะได้รับกำลังใจจากร้านค้าโชห่วยขนาดเล็กทั่วประเทศกว่า 500,000 รายอย่างแน่นอน” นางวราภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

สมาคมการค้ายาสูบไทย Thai Tobacco Trade Association (TTTA)
31/1208 ซอยคลองหลวง 17 หมู่ 16
ต. คลองหนึ่ง อ. คลองหลวง จ. ปทุมธานี 12120
โทร: 02-516-3958
โทรสาร: 02-516-3946
อีเมล์: info@ttta.or.th
เฟสบุ้ค: http://www.facebook.com/thaitobaccotrade

เกี่ยวกับสมาคมการค้ายาสูบไทย
สมาคมการค้ายาสูบไทย หรือ Thai Tobacco Trade Association (TTTA) เป็นสมาคมที่ก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 มีจุดประสงค์ในการสะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง ผู้จัดจำหน่าย และผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบ โดยมุ่งเน้นเสนอการแก้ไขปัญหาและข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจค้าปลีกยาสูบ ทั้งในด้านกฎหมายและกฎระเบียบ การจัดเก็บภาษี การต่อต้านการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมาย การรณรงค์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับยาสูบ เช่น การป้องกันเยาวชนจากการสูบบุหรี่ และกิจกรรมเพื่อสังคมในชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งเพื่อเป็นศูนย์กลางในการสื่อสารระหว่างผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาสูบและภาครัฐกับสื่อมวลชน
« Last Edit: September 27, 2018, 04:08:55 PM by happy »