เรื่องย่อ : นางบาป

นางบาป
          นางบาป
          บทประพันธ์ กิ่งฉัตร
          บทโทรทัศน์ จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
          กำกับการแสดง คุณวีระชัย รุ่งเรือง
          ผู้จัด คุณมณีรัตน์ กาญจนชัยภูมิ/คุณวีระชัย รุ่งเรือง
          ผลิตในนาม บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
          ออกอากาศ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เริ่ม 9 สค.นี้
          ประชาสัมพันธ์ น้ำ รัชนี/081-4315121

          บางสิ่งรู้จริง..แต่คิดว่าไม่รู้ บางสิ่งรู้ไม่จริง..แต่คิดว่ารู้ บางสิ่งไม่รู้..และไม่มีวันจะรู้
          เรื่องย่อ
          บริษัทเบญจแปลงกาย โปรดักชั่นเฮาส์ชื่อดัง ของ วิษณุ ผู้กำกับสารคดีมือรางวัล ได้รับงานตัดต่อ รายการ "เล่าเรื่องตึกเก่า" ซึ่งมี ปาล สถาปนิกหนุ่ม ทำหน้าที่เป็นพิธีกร โดยเทปรายการเทปนี้ เป็นการ เล่าเรื่องตึกเก่าของ "เรือนพระวนาเทพ" ที่ตั้งอยู่ ณ อำเภอ นางบาป ซึ่งว่ากันว่าเดิมทีอำเภอนี้ชื่อว่า อำเภอบางบาป แต่ที่เพี้ยนมาเป็นชื่ออำเภอนางบาปก็เพราะ วีรกรรมของนางหยาดทาสใจบาปในตำนาน ซึ่งหลงรัก พระวนาเทพ ข้าราชการหนุ่มที่มาดูแลกิจการค้าซุงที่บางบาปและตัดสินใจตั้งรกราก แต่งงานกับ คุณกำไล โดยมีนางหยาดทาสรับใช้คนโปรดของ คุณกำไลตามมารับใช้ด้วย คุณกำไลแต่งงานกับพระวนาเทพ จนมีบุตรสาว 2 คน นางหยาดได้โอกาสยั่วยวนพระวนาเทพ จนมันได้กลายเป็นเมียทาสในที่สุด นางหยาดเที่ยวไปลือว่ามันจะได้ปลดแอก และพระวนาเทพจะแต่งตั้งมันให้ขึ้นมาเสมอคุณกำไล แต่สุดท้ายกำไลก็ตั้งท้องลูกคนที่ 3 ทำให้นางหยาดแค้นใจมาก จึงคิดวางยาคุณกำไลที่ตั้งท้องอ่อนลูกชายอยู่และลูกสาวอีกสองคนจนถึงแก่ชีวิต เหล่าบรรดาทาสเมื่อรู้เรื่อง ก็โกรธแค้นและรักตัวกลัวความผิดจะสาดทอดมาถึงตัวเอง จึงรวมหัวกันนำร่างของนางหยาดไปแขวนคอที่ใต้ต้นไม้ในเรือนวนาเทพ ความโหดร้ายของนางหยาด กลายเป็นตำนานที่ถูกเล่า ทั่วไปในหมู่บ้านบางบาป จนทำให้ชื่อหมู่บ้านเพี้ยนมาเป็น นางบาปอย่างทุกวันนี้ และตั้งแต่ที่บริษัทเบญจกายแปลงรับงาน ตัดต่อเทปนี้มา วิษณุก็เริ่มฝันเห็นผู้หญิงในชุดสไบสีม่วง และเรื่องราวตามตำนานเป็นฉากๆ
          คืนประกาศรับรางวัลนาฎราช ซึ่งคราคร่ำไปด้วยนักแสดง บุคคลในวงการบันเทิง และ นักข่าวมากมาย ต้น ธนัตถ์ และ กิฟท์ ภาพิมล นักแสดงที่ฮอตที่สุดของเมืองไทยตอนนั้น ได้ขึ้นรับรางวัลร่วมกัน ในฐานนะนักแสดงนำชายและนำหญิง ส่วนวิษณุได้ขึ้นรับรางวัลสารคดียอดเยี่ยม จากสารคดีแนวประวัติศาสตร์งานถนัดของเขา โดยได้กล่าวขอบคุณ เรืองริน โปรดิวเซอร์สาวมือขวา ของเขาที่ชื่นชมในตัวเขามาตั้งแต่ตอนที่เขาเคยไปเป็นอาจารย์พิเศษที่คณะ จนขอตามมาฝึกงาน และทำงานกับเขามาตลอดตั้งแต่นั้น และในงานนี้เอง วิษณุก็ไปร่วมงานด้วย
          หลังงานรับรางวัลเลิก ขณะวิษณุขับรถกลับ วิษณุก็มองเห็นผู้หญิงในชุดสไบสีม่วง ผูกคอตายที่ริมต้นไม้ข้างทาง แต่รินที่นั่งมาด้วย กลับมองไม่เห็นภาพนั้น และเมื่อกลับ มาถึงที่บริษัท ก็เห็นภาพของผู้หญิงในชุดสไบม่วงคนเดียวกับที่เห็นข้างทาง ผูกคอตายใต้ต้นไม้ในตำนานนั้น แต่ครั้งนี้มีเสียงผู้หญิงเพรียกหา เรียกเขาว่าคุณพระ และขอให้เขาเดินทางมาหาเธอที่ต้นไม้แห่งนี้ วิษณุประหลาดใจมาก เพราะที่แท้แล้วนางบาป ก็คือบ้านเกิดของเขานั่นเอง วิษณุจึงตัดสินใจเดินทางไปที่อำเภอ นางบาปในวันรุ่งขึ้น
          เมื่อเดินทางไปถึงที่อำเภอนางบาป วิษณุขอตัวไปดูรอบๆ และให้รินไปติดต่อเจ้าของเรือนวนาเทพ ที่ได้ดัดแปลงสถานที่มาเป็นรีสอร์ทบ้านชายน้ำ ทำให้รินได้เจอกับปาลที่บนเรือน และเข้าใจผิดว่าปาลเป็นเจ้าของเรือนวนาเทพ ปาลแกล้งสวมรอยก่อนสุดท้ายจะเฉลยว่า เขาเป็นแค่พิธีกรที่เคยมาถ่ายรายการที่นี่ ปาลก็คือรุ่นน้องที่สถาปัตย์ของวิษณุ ส่วนวิษณุที่ยืนมองต้นไม้ในตำนานอยู่ ก็เหมือนตกอยู่ในมนต์สะกดใต้ต้นไม้ในตำนานต้นนั้น เขาสัมผัสต้นไม้ และรู้สึกถึงเลือดสีแดงฉาน ที่ไหลออกมาจากลำต้นอาบรดมือเขา ก่อนจะปรากฏร่างของหญิงสาวในชุดสไบม่วงให้เขาเห็นเต็มๆ ตา และขอร้องเขาอีกครั้ง ว่าให้กลับมาปิดตำนานนางบาปเสียที เมื่อกลับจากการเดินทาง วิษณุจึงตัดสินใจจะทำเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานนางบาปเป็นละคร
          วิษณุสามารถทาบทาม ต้น พระเอกชื่อ ดังให้ข้ามช่องมาเล่นเป็นพระวนาเทพได้ ขอกิฟท์นางเอกเบอร์ 1 ของช่องมารับบทเป็นคุณกำไล ส่วนบทบาทของ นางหยาด รับโดย พายภัคตรา นางร้ายนิสัยดี ที่ถูกชะตากับปาลตั้งแต่เจอกันวันแคสติ้ง รินถูกกดดันหนัก จากการเป็นผู้จัดหน้าใหม่ ถูกทีมงานต่อว่าลับหลัง แม้กระทั่งพีอาร์กอง เธอยังต้องนำ เดือน น้องสาวของ ฝน แฟนเก่าของเขา มารับหน้าที่ประชาสัมพันธ์กองแทน เดือน น้องสาวของแฟนเก่าวิษณุ ก็ไม่พอใจที่ริน สนิทสนมกับวิษณุเช่นกัน กิฟท์ ที่ไม่พอใจ ทั้งธนัตถ์และปาล ให้ความสนใจในตัวรินเป็นพิเศษ รินกลายเป็นศัตรูของทั้งเดือน กิฟท์ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร มีแต่ พาไล ผู้จัดการสาวมาดนิ่งของต้น ที่คอยให้กำลังใจริน เรื่องราวมีปัญหาไปจนถึงคนเขียนบท จนทำให้วิษณุ ต้องเขียนบทเองด้วยความช่วยเหลืออย่างลับๆ จากผีหยาดที่คอยมาช่วยพิมพ์บท โดยที่วิษณุเองก็ไม่รู้ตัว จนเมื่อได้เห็นบทที่เขาเขียนเองกับมือ ชื่อหยาดกลับกลายเป็นชื่อหยด และหญิงสาวในชุดสไบสีม่วงยังบอกเขาว่า ช่วยปลดปล่อยเธอกับพี่หยดที ทำให้วิษณุเริ่มสงสัยว่าชื่อ หยดมาจากไหน
          เริ่มเปิดกล้องถ่ายทำ โดยไปถ่ายทำที่เรือนวนาเทพ คืนนั้นเอง ก็เป็นครั้งแรกที่วิษณุฝันถึงผู้หญิงในชุดสไบสีแดงที่ชื่อหยด โดยเห็นตัวเองเป็นพระวนาเทพ เข้าไปช่วยเหลืออีหยดที่ถูกชายฉกรรจ์ฉุด และได้เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดเนื้อตัวมอมแมมของอีหยด และมอบไว้ให้มัน ซึ่งอีหยดก็สัญญามั่นว่า จะนำผ้าผืนนี้ไปคืนไม่ว่าวิษณุจะอยู่แห่งหนใด ส่วนอีหยดเมื่อวิษณุจำมันได้แล้ว วิญญาณของมันเลยได้รับการปลดปล่อยออกจากมีดที่ปักหลังและเชือกที่รัดมันไว้ ให้ออกจากห้องเก็บของ และเพ่นพ่านไปมาบนเรือนนี้ได้
รินออกไปตลาดนางบาป มีคนบอกว่า จริงๆ แล้วนางหยาดไม่ได้ร้าย ตามตำนานและไม่ใช่คนฆ่ากำไล แต่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าแล้วใครทำวิษณุเริ่มคิวแรกด้วยการถ่ายทำฉากนางหยาดถูกแขวนคอ แต่เมื่อถึงฉากที่พายต้องขึ้นนั่งร้านเพื่อถ่ายทำฉากแขวนคอ พายเกิดกลัวขึ้นมา จนการถ่ายทำสะดุด รินจึงตัดสินใจเป็นสแตนด์อินแทนพาย แต่แล้วกลับเกิดอุบัติเหตุหนักกลางกอง เมื่อเชือกที่รินห้อยกลับขาดลงมา รินร่วงจากนั่งร้านตกลงที่พื้น ปาลรีบพารินไปโรงพยาบาล ที่วิษณุระเบิดลงกลางกอง แต่ก็หาตัวคนผิดไม่ได้ กิฟท์เมื่อว่างจากคิวถ่าย ก็นึกพิเรนชวนทีมงานเล่นผีถ้วยแก้ว ผีหยดปรากฏตัวขึนกลางวงและประกาศกร้าวว่า ข้าจะกลับมาเอาคืนในสิ่งที่ ควรเป็นของข้า ไม่ว่าอ้ายอี หน้าไหนขวางหน้า ข้าจะฆ่าให้หมด แล้วผีหยดก็ตามประกบกิฟท์ขณะเข้าฉาก จนกิฟท์ไม่เป็นอันทำการแสดง วิษณุเครียด กับปัญหาทุกอย่าง จึงหลบไปสงบใจที่วัดบางบาป แล้วเขาก็ได้คุยกับหลวงพ่อ ที่วัดบางบาป จนระลึกได้ว่าชาติที่แล้วเขาคือพระวนาเทพ และ กิฟท์ก็คือคุณกำไลนั่นเอง และยิ่งกว่านั้น ทาสที่รับใช้กำไลมีสองคน คือหยาด และ อีกคนก็คือ...หยด วิษณุ จึงกลับไปเล่าเรื่องทุกอย่างให้รินฟัง
          อีหยดพยายามจะเข้าสิงร่างริน แต่ก็ถูกขัดขวางโดยนางหยาดทุกครั้ง อีหยดแค้นใจนางหยาด เป็นอย่างมาก แต่ไม่เท่าที่รู้สึกน้อยใจในตัววิษณุ ที่รักรินอย่างเหลือเกิน เพราะในอดีต เธอก็เคยพลาดหวังมาแล้ว เมื่อรู้ว่าพระวนาเทพจะมาแต่งงานกับคุณกำไล ซึ่งนางเยื้อนเห็นว่านิสัยของหยดจะนำพาแต่ปัญหา เลยสั่งให้หยดทำงานอยู่แค่เรือนครัวเท่านั้น และส่งหยาดไปรับใช้คุณกำไล วันแต่งงานและเข้าหอของพระวนาเทพ นางเยื้อนจับหยดกักขังไว้ในห้องเก็บของบรรยากาศ หยดร้องไห้น้ำตาไหลเป็นสายเลือดด้วยความเสียใจ ปัจจุบัน หยดยังแค้นใจ และคิดจะสิงร่างของรินให้ได้
          ยิ่งนับวัน ปาลก็เริ่มชอบในตัวรินมากขึ้น มาก และขอรินเป็น แฟนตรงๆ แต่รินกลับขอเวลาพิสูจน์ปาล ฝั่งอีหยด เมื่อเห็นว่ารินไม่ได้สวมพระ เพราะพระไปอยู่ที่พายแล้วตามแผนที่มันวางไว้ มันก็สามารถเข้าสิงร่างรินได้อย่างง่ายดาย หลังจากวันนั้น รินก็มีอาการแปลกไป หาเรื่องกิฟท์อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังยั่วยวนวิษณุตลอดเวลา จนปาลเริ่มไม่ชอบใจ
          ในอดีต หลังจากที่พระวนาเทพแต่งงานกับกำไลแล้ว ก็ยังแอบมาหาหยดอยู่เช่นเดิม แล้ววิษณุ ก็เห็นภาพในอดีตอีก ทำให้รู้ว่า กำไลและหยด มีสามีคนเดียวกันคือพระวนาเทพ กำไลคลอดลูกสาวออกมา รู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจเรื่องที่หยดมายุ่งเกี่ยวกับสามีตน จนไม่ยอมเลี้ยงลูก ทำให้หยาดมาเลี้ยงดูลูกของกำไลแทน จนถึงลูกคนที่สองของกำไล พระวนาเทพเริ่มเห็นความรัก ความซื่อสัตย์ที่หยาดมีต่อกำไล จึงอยากได้หยาดไปเป็นเมียอีกคน แต่หยาดไม่ยอม พระวนาเทพ จึงไปขอกับกำไลตรงๆ คุณกำไลเจ็บช้ำ แต่ก็สั่งให้หยาดไปเป็นเมียพระวนาเทพทั้งน้ำตา จากนั้นก็ไม่เคยยอมให้หยาดรับใช้ข้างกายอีกเลย ตัดกลับมาปัจจุบัน วิษณุมองต้นไม้ที่หยาดถูกแขวนคอแล้วน้ำตารื้น ที่หยาดถูกใส่ร้าย จึงคิดจะปรับบทละครอีกครั้ง
          ระหว่างพักกอง ปาลมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับรินมากขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้น อย่างรวดเร็ว แต่รินยังเกรงใจพาย ที่คอยโทรหาปาลเป็นระยะๆ และรู้ว่า ถ้าเธอเปิดเผย ความสัมพันธ์นี้ อาจจะทำให้กองมีปัญหาอีกก็ได้ รินจึงไม่กล้าเทใจให้ปาลมากนัก วิษณุ ต้องเร่งกลับมาถ่ายทำละครอีกครั้ง หลังจากที่ผู้อำนวยการช่อง ไม่ยอมให้เลื่อนการถ่ายทำออกไปอีก เขาถ่ายทำด้วยความฝืนใจที่ทุกครั้งหยาดต้องเล่นบทเป็นผีร้ายในละครที่เขากำกับ เขาเข้าใจแล้วทำไมตอนนั้น บทของเขาจึงถูกเปลี่ยนกลายเป็นชื่อหยดโดยที่เขาไม่รู้ตัว หยาดต้องการมาบอกให้เขาได้รู้บาปกรรมในอดีตที่เคยกระทำลงไป และการถ่ายทำละครก็เดินทางมาถึงตอนที่หยาดเริ่มคิดจะวางยาพิษกำไล ภาพในละครที่วิษณุกำกับคือหยาดเริ่มกร่าง แต่เมื่อตัดเข้าไปภาพในอดีตของจริง คนที่กร่างจริงๆ คืออีหยด ยิ่งเมื่อหยดรู้ว่า พระวนาเทพ ปรารถนาในตัวหยาด จึงหาทางกลั่นแกล้ง หยาดทุกรูปแบบ หยดท้องในที่สุด พระวนาเทพสัญญาว่า ถ้าเป็นลูกชายจริง จะให้หยดได้ขึ้นไปอยู่เรือนใหญ่ ไม่ต้องเป็นลูกทาสอีกต่อไป แต่แล้วคุณกำไล ก็ท้องอีก ส่วนหยด ดันสะดุดบันไดแท้งลูก เธอสั่งหมอ ไม่ให้บอกความจริงแก่พระวนาเทพ และสั่งให้คนไปฆ่าหมออีกด้วย เพื่อปิดทุกอย่างเป็นความลับ
          แล้วหยด ก็หลอกให้หยาด เอายาพิษไปให้กำไลกิน จนกำไลเริ่มป่วย หยาดถูกหยดใส่ร้ายว่าจะฆ่ากำไลและลูก จนหยาดถูกแขวนคอบนต้นไม้ขาดใจตาย ท่ามกลางรอยยิ้มสะใจของหยด กับเสียงร้องไห้ของนางเยื้อนที่รู้ว่าหยดทำร้ายทุกคน และยังหลอกอีกว่ายังท้องอยู่ เยื้อนทนไม่ไหว ใช้มีดแทงหยดคามือ บอกว่าถ้ามีใครสักคนต้อง หยุดหยด ขอให้เป็นแม่เองและเอ็งอย่าไปสร้างเวรสร้างกรรมที่ไหนอีก แม่ขอสาปแช่งหยด "ขอให้เอ็งต้องอยู่ชดใช้กรรม ที่บ้านหลังนี้ ไม่ต้องไปผุด ไปเกิดสร้างเวร ที่ไหนอีก ขอให้เอ็งติดอยู่ ที่นี่ ดูทุกสิ่งที่เอ็งต้องการ แต่ไม่มีวันได้มาครอบครอง ติดให้นาน นานเทียบเท่ากับทุกหยดน้ำตาของแม่
กำไลที่กำลังจะตาย เอ่ยปากบอก พระวนาเทพ บอกว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากความมักมาก หลายใจไม่รู้จักพอ ของชายเพียงคนเดียว กำไลใช้แรงเฮือก สุดท้ายสาปพระวนาเทพ เอ่ยตัดคำสัญญาต่อกัน ขอให้ความสัมพันธ์ผัวเมีย สิ้นสุดกันในชาตินี้ ในเมื่อชาตินี้พี่ผิดคำสัญญารัก ยกย่องใครคนอื่นมากกว่า ฉันชาติหน้าขอให้พี่ รักหญิงใดไม่ได้อีกเลย จากนั้นก็สิ้นใจต่อหน้า พระวนาเทพ โดยมือยังกุมลูกในท้องไว้
          ที่กิฟท์เมื่อเห็นท่าทีของรินที่สนิทกับปาล ก็ไปเมาท์กับเดือนเรื่องที่จริงๆ พาไลกับปาลเคย มีอะไรกัน ผีหยดในร่างเดือนนึกสนุก ต้องการทำลายคนอื่น เลยปล่อยข่าวเรื่องนี้ให้ถึงหูริน ทำให้ความสัมพันธ์ของรินกับปาลที่กำลังจะพัฒนาต้องสะดุดลงไปอีก และรินเข้าใจแล้ว สาเหตุที่ดาราอย่างต้นยอมข้ามช่องมาเล่นละครเรื่องนี้ เพราะต้นชอบวิษณุนั่นเอง ส่วนผีหยดเองก็เริ่มเปลี่ยนเป้าหมายจากรินหันไปปองร้ายต้น ด้วยเหตุการณ์ลึกลับต่างๆ นานา วิษณุ อัญเชิญหลวงพ่อมาทำพิธี ด้วยการไหว้ขอขมานังหยดกันแบบลับๆ แต่นางหยดกลับไม่ยอมอภัยให้ รินเอาพระไปให้ต้นสวมเมื่อไม่สามารถทำลายต้นได้ ผีหยดจึงออกอาละวาดหลอกกองถ่ายทั้งทีม แม้ผีหยาดจะคอยปรามพี่สาวตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงอาฆาตนั้นได้
          หยาดปรากฏกายให้กิฟท์เห็น และมาขอโทษเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ทำให้กิฟท์ตกใจมาก แต่กิฟท์ก็ไปเล่าเรื่องทุกอย่างให้วิษณุฟัง ว่าเธอคือคุณกำไล และวิษณุคือคุณวนาเทพ หน้ากระดานผีถ้วยแก้ว ปาล ริน กิฟท์ ช่วยกันทำพิธีส่งวิญญาณหยาดและหยดกลับ ที่ผีหยาดปรากฏตัวขึ้นอำลาทุกคน พอตอนจะเชิญผีหยดกลับ วิษณุกล่าวขอโทษหยด ถึงความผิด ในอดีตของเขา และขอให้หยดอโหสิกรรม และหากจะมีสักคนที่หยดอยากจะทำร้ายก็ควรเป็นเขา ไม่ใช่ต้นหรือริน เพราะเขาคือต้นเหตุเรื่องทั้งหมด ผีหยดยืนฟังคำขอโทษของวิษณุน้ำตาอาบหน้า ขณะที่แก้วเคลื่อนเหมือนจะไปที่จุดทางออก พอเกือบถึงช่องนั้น แก้วกลับแตกกระจายและบาดวิษณุจนเลือดอาบ แล้วภาพก็ดับวูบไป
          ทีมงานเตรียมถ่ายทำซ่อมฉากสุดท้ายคือฉากแขวนคอ ถ่ายทำฉากแขวนคอครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี โดยที่พายขอแก้มือด้วยการแสดงเองเพื่อโชว์สปิริตชดเชยครั้งก่อน วิษณุสั่งปิดกล้อง ทีมงานทุกคนเฮลั่น งานเลี้ยงปิดกล้อง เสียงเพลงดังลั่น สื่อมากันหมด รวมทั้งผู้จัดการของต้นและกิฟท์ กิฟท์หาทางจะมาเคลียร์กับต้น ปาลขึ้นไปร้องเพลงบอกรักริน และเปิดตัวอย่างเป็น ทางการ ต่อหน้าการทำข่าวปิดกล้องของสื่อ ผีหยดในร่างเดือนคอยจ้องต้นตลอดเวลา รับหน้าพาไล เห็นเดือนที่จ้องต้น อยู่ ก็มีท่าทีไม่พอใจ แล้วกิฟท์ ก็ถูกมีดปาดเข้าที่คอ โดยไม่เห็นหน้าคนร้าย ที่เดือนเข้ามาในห้องพักต้น มองไปรอบๆ เตรียมมีดไว้ในมือ แล้วเดือนก็เดินเข้ามาในห้องอีกคน พาไลแสดง ธาตุแท้ออกมา พาไลไม่ได้รู้เลยว่าเดือนต้องการปองร้ายต้นต่างหาก ส่วนมันเองก็ฆ่าผิดคน จริงๆ ต้นอาจไม่ได้รัก วิษณุ แต่ รักพาไลหรือเปล่า วิษณุ ปาล ริน รีบวิ่งตามไปเสียงนั้นทันที เมื่อเปิดประตูห้องต้นเข้าไป ทุกคนก็แทบช็อค กับภาพเดือนที่เลือดอาบคามีดในมือของพาไล ต้นวิ่งตามมาพร้อมกิฟท์ เมื่อพาไลเห็นต้นก็พร่ำเพ้อ ความน้อยใจที่เกิดจากความหึงหวงทันที ที่รินกับปาลรีบพาร่างของเดือนขึ้นไปส่งโรงพยาบาล
          ร่างของเดือนถูกระโยงระยางด้วยสายยางเต็มไปหมด ผีหยดในร่างเดือนระส่ำระสาย และไม่แน่ใจว่าจะอาศัยร่างนี้ต่อไปได้หรือไม่และเมื่อน้าเยื้อน แม่ของเดือนปรากฏตัวเยี่ยม ผีหยดก็ต้องอึดอัดแทบหายใจไม่ออก เพราะที่แท้แม่ของเดือน คือนางเยื้อนแม่ของนางหยดและนางหยาดในชาติที่แล้ว ที่ร่างของเดือน เมื่อน้ำตาของแม่หยดลงบนร่าง คำสาปก็ถูกปลุก วิญญาณ
ของหยดต้องกลับไปสิงสถิตย์อยู่ที่ห้องเก็บของในบ้านชายน้ำ เห็นภาพนางหยด ในสภาพที่น่าสงสารอย่างที่สุด มันเอามือประคองท้องของมันที่เต็มไปด้วยเลือด และมีดที่ปักกลางตัวมันไว้
          ส่วนกิฟท์กับต้นตกลงเป็นแฟนกันเพื่อผลประโยชน์ สื่อออกข่าวคู่จิ้นครึกโครม รินกลับมาที่บ้านชายน้ำ ปาลตามมาช่วยดูแลและรินรับรักปาลในที่สุด ที่เรือนวนาเทพ ทุกครั้งที่มีคนไปเยี่ยมชมเรือน และเดินผ่านห้องเก็บของ ยังคงได้ยิน เสียงกรีดร้องของวิญญาณหยดที่ถูกขังไว้ในทุกค่ำคืน ดังหลอกหลอนอยู่อย่างนั้น .....................
          จรณ โสรัตน์ รับบท ปาล
          ปรียากานต์ ใจกันทะ รับบท เรื่องริน
          มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล รับบท หยด
          นันทนัช โล่ห์สุวรรณ รับบท หยาด
          นาวิน เยาวพลกุล รับบท วิษณุ/วนาเทพ
          วรรณปิยะ ออมสินนพกุล รับบท กิฟท์/กำไล
          วัทธิกร เพิ่มทรัพย์หิรัญ รับบท ต้น ธนัตถ์
          วิรากานต์ เสณีตันติกุล รับบท เดือน
          สุทธิกานต์ หวังเจริญศิริกุล รับบท พายภัคตรา
          พริมรตา เดชอุดม รับบท พาไล
          ต่อ เตชธุวานันท์ รับบท บอล
          พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ รับบท ยุพดี/เยื้อน
          ธนะวิทย์ ปิยะธนะศิริกุล รับบท พ่อของเรื่องริน
          นาตยา จันทร์รุ่ง รับบท แม่ของเรื่องริน
          นุศรา ประวันนา รับบท นายแม่(แม่คุณกำไล)
          กรกฎ พวงสวัสดิ์ รับบท ลูกหมี
          สุธาทิพย์ วุฒิชัยประดิษฐ์ รับบท แอมแปร์
          วรานันต์ ยูสานนท์ รับบท เจ้าสัวไกร
          นาตยา จันทร์รุ่ง รับบท แม่เรืองริน
          รัชนีกร พันธุ์มณี รับบท แม่ปุก
          ธนะวิทย์ ปิยะธนะศิริกุล รับบท พ่อเรืองริน
          นุชระวินท์ ภูมิรัตน รับบท เตย
          จันทร์จิรา จูแจ้ง รับบท ผู้จัด
          แซนดี้ พลอยปภัส รับบท หน่อย
          กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ รับบท น้อย
          ปีเตอร์หลุยส์ ไมอ๊อกชิ รับบท แฟนคุณน้อย
          วรพรต ชะเอม รับบท นายชด
          เอก ธนากร รับบท นายฤทธิ์
          ธีรตี บุดรดีหงส์ รับบท ฝน

เรื่องย่อละคร นางบาป ตอนที่ 1 – 3 ออกอากาศ วันพฤหัสบดีที่ 9 และ 15-16 สค.

          นางบาปตอนที่ 1 ออกอากาศ วันพฤหัสบดีที่ 9 สค.
          ปัจจุบัน
          วิษณุและริน ทำงานด้านสารคดีด้วยกัน โดยมีบอล เป็นผู้ช่วยดูแลเรื่องการตัดต่อ วิษณุ ได้รับรางวัล สารคดีย้อนรอยประวัติศาสตร์ ชุด หญิงสามัญชนในสยาม ด้านต้นกับกิฟท์ ซึ่งเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง ก็ได้รับรางวัลจากงานนี้เช่นกัน ต้นได้พูดคุยกับวิษณุ เพราะทั้งสองรู้จักกันมาก่อน วิษณุจึงแนะนำให้ต้น ได้รู้จักกับรินด้วย
          วิษณุเห็นภาพผู้หญิงนุ่งผ้าแถบอยู่บ่อยครั้ง ทั้งในฝัน และตามสถานที่ต่าง ๆ เขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปที่บางบาป ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา พร้อมกับรินและบอล และที่นี่เอง ที่ทำให้รินได้พบกับปาล เพราะปาล กำลังพาเจ้าหน้าที่จากกรมศิลป์ มาสำรวจสถานที่ ที่วังวนาเทพนั่นเอง ปาลมีโอกาสได้คุยกับวิษณุ โดยทั้งสองเคยเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน โดยปาลเป็นรุ่นน้องของวิษณุ
          ด้านวิษณุ ก็ไปหาข้อมูลของตำนานบางบาป จากคนเก่าแก่ ที่ยังเปิดร้านทำผมอยู่ในตอนนี้ เขาเล่าให้วิษณุฟัง ว่า หลังจากพระวนาเทพ แต่งงานและตัดสินใจมาตั้งรกรากที่บางบัวบาน เจ้าสัวไกร พ่อของกำไล ก็เลยสร้างตึกวนาเทพขึ้น ส่วนนางหยาดมันก็ตามมารับใช้คุณกำไลที่ตึกใหม่ แล้วมันก็เกิดรักพระวนาเทพ พระวนาเทพก็ให้คำมั่นกับมัน ว่าจะให้มันขึ้นเป็นเมีย แต่ก็ไม่เคย..รักษาสัญญานางหยาดทาสใจบาปจึงวางยาพิษคุณกำไลและลูก เพื่อหวังทวงคำสัญญาที่จะได้ขึ้นเป็นเมียพระวนาเทพ....
วิษณุ มาที่เรือนวนาเทพ เขายังเห็นวิญญาณของหยาดอยู่บนต้นไม้ใหญ่ วิษณุ ตัดสินใจ ทำละครเรื่อง นางบาปบางบัวบาน วิษณุเสนอกับผู้อำนวยการช่อง ว่าอยากได้กิฟท์กับต้น มาเป็นนางเอก และพระเอก ซึ่งทางด้านของต้น ก็หมดสัญญา จากทางช่องเก่าพอดี ต้นบอกกับพาไล ผู้จัดการส่วนตัวของเขา ว่าอยากไปทำงานกับวิษณุ
          วิษณุให้ริน ติดต่อกับน้อยทายาทตึกวนาเทพ เพื่อไปถ่ายทำละครที่ตึกวนาเทพ โดยมีปาล เป็นคนช่วยพูดให้อีกแรง เพราะปาลรู้จักกับน้อย ทายาทเจ้าของตึกอยู่แล้ว ด้านวิษณุ ก็พยายามติดต่อเพื่อให้ได้กิฟท์ มาเป็นนางเอกให้ แต่กิฟท์ ก็ยังไม่ยอมตกลงใจ จนเมื่อกิฟท์รู้ว่าต้น ย้ายช่อง ไปเล่นละครกับวิษณุ กิฟท์ จึงตกลงใจในที่สุด วิษณุออกไอเดีย อยากได้ปาลมาเล่นบทนายปั้น นายช่างที่มาช่วยสร้างเรือนหอให้วนาเทพ แล้วมาหลงรักพาย
          ปาลมาแคสบทกับวิษณุ และได้พบกับรินและบอล วิษณุให้ปาลรับบทเป็นนายปั้น สายยู นายช่างที่เข้ามาช่วยดูเรือนหอ ของวนาเทพกับกำไล ทำให้ได้พบกับนางหยาดที่นั่นเอง เวลาต่อมา พายก็เข้ามาแคสบท เป็นหยาดอีกคน ส่วนกิฟท์ ก็มาแคสบทกับต้น พาไล รู้สึกได้ว่ากิฟท์ พยายามทำตัวใกล้ชิดกับต้น แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร
          เหลือเวลาอีกหนึ่งเดือน ละครก็จะต้องเปิดกล้องถ่ายทำ ณุกับริน วางตัวละครเรียบร้อย จึงทำการฟิตติ้งนักแสดงทุกคน รินยังคงถูกซุบซิบนินทา เหตุจากการได้ขึ้นมาเป็นผู้จัดหน้าใหม่ วิษณุ มาหาฝนที่บ้าน ในอดีต ฝนเคยเป็นแฟนเก่าของณุ และชวนเดือน น้องสาวของฝน ไปทำงานที่กองถ่ายด้วยกัน เดือนรีบรับปากทันที เพราะอยากทำงานกับณุมานานแล้ว แต่เมื่อได้พบกับริน และรู้ว่าวิษณุ ให้ความวางใจกับรินทุกอย่าง เดือนก็เริ่มไม่ชอบใจในตัวรินขึ้นมาอีก
วิษณุไม่ถูกใจบทละครที่ถูกส่งมา คืนนั้น วิษณุจึงใช้เวลาทั้งคืนแก้บททีเดียวถึง 12 ตอนรวด แถมยังเปลี่ยนคำพูดของหยาด เป็นชื่อหยดทั้งหมด

          นางบาปตอนที่ 2 ออกอากาศ วันพุธที่ 15 สค.
          การถ่ายทำละครเริ่มเดินกล้องในเวลาต่อมาที่ตึกพระวนาเทพ ซึ่งเป็นสถานที่ ซึ่งดวงวิญญาณของหยด และหยาด ยังคงเฝ้าวนเวียนอยู่ที่นี่ วิญญาณของหยดดีใจที่ได้เห็นวิษณุ ซึ่งก็คือพระวนาเทพในอดีต ถึงแม้วิญญาณของหยาด น้องสาวของหยด จะมาเตือนให้หยดลืมเรื่องราวต่าง ๆ เสีย แต่หยดก็ไม่ฟัง ยังคงยึดติดอยู่ในคำมั่นของวนาเทพครั้งอดีต และฝังใจกับรักแรกพบ ครั้งที่วนาเทพ เคยช่วยตนไว้ จากคนใจร้าย พร้อมทั้งมอบผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกรักไว้ให้ หยดหาทางมอบมันคืนแก่วนาเทพ และหยดก็ได้เป็นเมียบ่าวของวนาเทพในที่สุด
          รุ่งขึ้นวิษณุ จะถ่ายทำฉากแขวนคอตาย พายร้องเสียงหลง เมื่อเห็นคราบเลือดใต้ต้นไม้ใหญ่ วิษณุจึงต้องนำทีม พาย ปาล ริน และทุกคน จุดธูป ไหว้ขอขมาด้วยตนเอง วิญญาณของหยดไม่พอใจ ที่รินกับวิษณุ มีท่าทีสนิทสนมกัน
ส่วนหยาด เมื่อได้เห็นกิฟท์ มาเล่นละคร ก็ดีใจ เพราะ กิฟท์ หน้าตา เหมือนกับคุณกำไล นายของหยาด อย่างไม่มีผิดเพี้ยน หยาดก็ก้มลงกราบกิฟท์ ด้วยความคิดถึง แต่กิฟท์ ไม่เห็น
          วิษณุ กำลังจะเตรียมตัวถ่ายทำ ฉากแขวนคอหยาด พาย ซึ่งรับบทหยาด ตั้งใจเล่นฉากนี้ด้วยตนเอง วิญญาณของหยด มองดูการถ่ายทำอย่างสะใจ โดยที่มีหยาดยืนอยู่ข้าง ๆ ตัดพ้อ ถึงเหตุการณ์ที่หยด เอายาพิษให้ตน นำไปใส่ในอาหารให้กับกำไล และหยดใส่ร้ายตนอย่างน่าเวทนา หยดวางแผนฆ่ากำไล พร้อมลูกในท้อง และลูกอีกสองคน โดยโยนความผิดให้หยาด เป็นคนรับโทษแทน หยาดร้องขอชีวิตแก่วนาเทพ แต่วนาเทพก็ช่วยไว้ไม่ทัน วิญญาณของหยาดยืนร้องไห้ ไม่ยอมไปไหน จนกว่ากำไล จะอโหสิให้กับตน
          พายเตรียมตัวเข้าฉาก แต่หน้าตาซีดเซียว จนปาลต้องเข้าไปให้กำลังใจ ต้น เดือน พาไล กิฟท์ ยืนรวมกันอยู่มุมหนึ่ง ผีหยด ปรากฏตัวให้พายเห็น จนพายช็อคแทบหมดสติ รินจึงให้วิษณุ พักการถ่ายทำไว้ก่อน รินตัดสินใจเดินหน้าถ่ายทำต่อเพื่อไม่ให้เสียงาน โดยริน เล่นเป็นแสตนด์อินให้กับพาย แต่พอเสร็จจากการถ่ายทำ นั่งร้านก็หักลง ทำให้รินร่วงตกลงมาด้วย บอล ปาล พารินไปโรงพยาบาลทันที ปาลเตือนสติให้รินรู้ ว่าการที่รินไปเป็นแสตนด์อินของพาย ทำให้พายขาดความมั่นใจในความสามารถของตนเอง พอกลับไปที่กองถ่าย รินจึงไปขอโทษพาย ทั้งคู่เริ่มสนิทใจกันมากขึ้น ส่วนต้นก็มีท่าทีเป็นห่วงรินมาก จนพาไล ถามตรง ๆ ว่าต้นชอบรินหรือไม่ พาไลบอกรับได้ทุกอย่าง ขอเพียงอย่างเดียว ต้นอย่าทิ้งพาไลเท่านั้น

          นางบาปตอนที่ 3 ออกอากาศ วันพฤหัสบดีที่ 16 สค.
          วันต่อมา ระหว่างที่กิฟท์ กำลังเข้าฉากเป็นกำไล กำลังร้องเพลงกล่อมเด็ก ฝ่ายเสื้อผ้า ก็ได้ยินเสียงเพลงออกมาจากตู้ สุดท้าย วิษณุ จับได้ว่าเป็นฝีมือของเดือนที่ต้องการโปรโมทละคร ทำให้วิษณุโกรธมาก เตือนไม่ได้เดือนทำอย่างนี้อีก ทั้งนักแสดงละทีมงานทุกคน จึงคลายกังวลไปได้
          วิษณุสั่งพักกองครึ่งวัน กิฟท์อยากพิสูจน์เรื่องผีหยาด ว่ามีจริงหรือไม่ จึงชวนทีมงานไปเล่นผีถ้วยแก้วในห้องที่มีวิญญาณของหยดสิงอยู่ วิญญาณหยด แกล้งทุกคน จนต้องวิ่งกระเจิงออกมา เหลือเพียงกิฟท์ที่ติดอยู่ในห้องออกไม่ได้ หยดหลอกกิฟท์จนสลบไป แล้ว ปาล พาย ก็พาทีมงาน มางัดห้องช่วยกิฟท์ออกไป พอกิฟท์ฟื้นขึ้นมา ก็ขอกลับบ้านทันที
กิฟท์กดดันริน และวิษณุ ด้วยการไปบอกกับทางช่อง ให้รินมาขอโทษตนก่อน ถึงจะยอมกลับมาเล่นละครให้อีกครั้ง รินจำใจต้องทำ เพื่อให้งานทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ วันต่อมา กิฟท์กลับมาเข้าฉากเป็นกำไล ส่วนพายเป็นหยาด วิญญาณของหยดยังแกล้งกิฟท์ไม่หยุด สวมรอยหน้าพายเป็นผีหยด จนทำให้กิฟท์ตกใจ แต่ยังฝืนใจเล่นต่อจนจบ ยิ่งทำให้หยดหมั่นไส้ ถึงแม้วิญญาณของหยาดมาเตือนให้หยด หยุดเพียงแค่นี้ แต่หยดก็ไม่เชื่อ
ในอดีต
          หยดออกอุบาย เอาผ้ายกของกำไลมานุ่ง นายแม่ของกำไล เห็นแล้วโกรธหนัก สั่งให้สาย และบ่าวคนอื่น ๆ จับตัวหยดไว้ แล้วถอดผ้าออกนำไปเผาล้างเสนียดให้จงได้ หยดพูดอ้างว่าตนก็เป็นลูกเหมือนกัน ศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับกำไล เพราะแม่ของหยดก็คือเยื้อน เมียบ่าวของเจ้าสัวไกร พ่อเดียวกับกำไลนั่นเอง นายแม่ยิ่งโกรธหนัก สั่งให้หยดอยู่รับใช้อยู่แต่ในเรือนบ่าว ไม่มีวันได้ขึ้นเรือนของกำไลอีก เมื่อกลับถึงเรือนนางเยื้อนก็เฆี่ยนหยดอีก แล้วขังไว้ที่ห้องใต้ดิน
          กิฟท์ยังช็อคไม่หายที่เห็นหน้าพายเป็นผีหยด ขอร้องไม่ให้พายเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ ซ้ำคืนนี้ยังขอไปนอนกับพาไลอีกด้วย พายน้อยใจหนัก วันต่อมายังคงมีการถ่ายทำอย่างต่อเนื่อง วิษณุเห็นวิญญาณหยาด เดินนำทางไปยังห้องต่าง ๆ เขาเดินตามไป จนไปถึงรูปพระวนาเทพ ที่มีหน้าตาเหมือนกับตนเอง หยาดเดินทะลุภาพเข้าไป วิษณุเดินตาม แล้วก็เห็นภาพในอดีต เป็นความทรงจำของพระวนาเทพ
          ในอดีต เป็นภาพที่วนาเทพ ตั้งใจจะมาตั้งรกรากที่บางบัวบาน และมาพบกับเจ้าสัวไกร พ่อของกำไล และได้พบกับกำไลที่นี่เอง เขาหลงใหลในความงามของกำไลตั้งแต่แรกเห็น ต่อมาพระวนาเทพ ยังมีโอกาสได้ไปก่อเจดีย์ทรายร่วมกับกำไล โดยมีหยาด บ่าวคนสนิท ติดตามกำไลไปด้วย หยาดจึงได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง และที่นี่เอง หยดก็มีโอกาสได้พบกับวนาเทพ จากการช่วยเหลือ หลังจากที่มีโจรเข้ามาทำร้ายหยดกลางตลาด ความประทับใจที่วนาเทพได้ช่วยเหลือตนไว้ ทำให้หยดหมายมั่นที่จะได้ใกล้ชิดกับวนาเทพสักวัน
          วนาเทพหาทางใกล้ชิดกับกำไล จนพ่อของกำไล ตกลงใจให้ทั้งสองแต่งงานกัน เจ้าสัวไกร ให้วนาเทพ ปลูกเรือนหอบนที่ดินของตน หยด อดที่จะริษยาไม่ได้ วนาเทพ มานอนเฝ้าที่ห้องหอ สามคืนก่อนวันแต่งงาน และคืนสุดท้ายนั่นเอง หยดวางแผนที่จะขึ้นไปหาวนาเทพ แต่เยื้อนมาพบเข้าเสียก่อน เฆี่ยนตีจนหยดไปไหนไม่ได้ แล้วงานแต่งงานระหว่างวนาเทพ กับกำไล ก็ถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต

ช่อง 3 ปัดฝุ่นรีเมคละครดังสุดปัง !! พร้อมเปิดตำนานแรงรักแรงแค้น กับวิญญาณอาฆาตที่กำลังจะกลับมาทวงคืน ! ใน “นางบาป”

          "บางสิ่งรู้จริง.. แต่คิดว่าไม่รู้ บางสิ่งไม่จริง.. แต่คิดว่ารู้ บางสิ่งไม่รู้.. และไม่มีวันจะรู้"

          ได้เวลามาค้นหาความจริงที่ถูกซ่อนงำอยู่ในตำนาน ! กับเรื่องราวสุดลึกลับซับซ้อน และหวาดผวา ในละครเรื่อง "นางบาป" ที่ค่ายดวงมาลีมณีจันทร์นำกลับมารีเมคใหม่ให้แฟน ๆ ละครได้รับชมกันอีกครั้ง ซึ่งเป็นละครแนวระทึกขวัญ-ดราม่าที่ดังเปรี้ยงปร้างเป็นพลุแตกในอดีต ด้วยเรื่องราวลี้ลับสุดเข้มข้นที่มีทั้ง พีเรียดและยุคปัจจุบัน โดยงานนี้ได้ "พี่โหน่ง - วีระชัย รุ่งเรือง" ผู้กำกับฯมากความสามารถที่ได้ฝากผลงานชิ้นเยี่ยมในละครดังหลายต่อหลายเรื่องอย่างคู่เดือดและหงส์สะบัดลาย แถมยังเสริมทัพด้วยคู่พระนางดาวรุ่ง ท็อป - จรณ โสรัตน์ มารับบท ปาล ประกบคู่กับ ยิหวา – ปรียากานต์ ใจกันทะ รับบท เรืองริน ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมืออย่าง มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล, นาวิน เยาวพลกุล, นันทนัช โล่สุวรรณ, วิรากานต์ เสณีตันติกุล, วรรณปิยะ ออมสินนพกุล, วัทธิกร เพิ่มทรัพย์หิรัญ และนักแสดงอีกคับคั่ง

          ด้านพระเอกมาดเข้ม ท็อป- จรณ ได้เผยถึงความท้าทายในการแสดงครั้งนี้ว่า "ในเรื่องรับบทเป็นปาล จะเป็นละครซ้อนละครครับ ตัดสลับระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ในชีวิตจริงของเขาในเรื่องจะเป็นพิธีกรเกี่ยวกับรายการสถาปนิก สร้างบ้าน อนุรักษ์ตึกเก่า ซึ่งตึกพระวนาเทพเป็นตึกที่ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น ทำให้เรื่องราวในอดีตกับปัจจุบันมาบรรจบกัน คอนเซปต์ของละครเรื่องนี้ คือ สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่ความจริง เป็นการสอนว่าอย่าตัดสินคนจากภายนอกแต่ให้มองสิ่งดี ๆ ที่อยู่ในสิ่งแย่ ๆ จะดีกว่า สำหรับละครเรื่องนี้มีข้อคิดมากมายมีฉากเซอร์ไพรส์ตลอดต้องติดตามตั้งแต่ต้นจนจบครับ"

          ส่วนนางเอกสาวหน้าหวาน ยิหวา – ปรียากานต์ นักแสดงดาวรุ่งน้องใหม่ เผยว่า "เรื่องนี้เล่นกับ พี่ท็อปค่ะ พี่ท็อปจะช่วยหนูเยอะเลยค่ะ หนูเป็นคนเชียงใหม่ ภาษาบางคำก็จะไม่เข้าใจ ก่อนเข้าซีนเขาก็จะมาช่วย ส่วนซีนที่พี่โดเข้าสิงยากทุกซีนเลยค่ะ ก็กลัวว่าคนดูจะรู้สึกได้ไหมว่าตอนนี้พี่โดเข้าสิง ไม่ใช่ตัวเราและเรื่องนี้ยังสอนถึงบาปบุญคุณโทษทุกอย่างต้องอยู่ในความพอดี สุดท้ายอยากฝากแฟน ๆ ติดตามนางบาปในเวอร์ชั่นนี้ด้วยนะคะ จะแตกต่างจากเวอร์ชั่นเก่าประมาณหนึ่ง ซึ่งทีมงานทุกคนตั้งใจทำงานมากค่ะ"

          สำหรับ "นางบาป" เป็นเรื่องราวของบริษัทเบญจแปลงกาย โปรดักชั่นเฮาส์ ของ วิษณุ (รับบทโดย นาวิน เยาวพลกุล) โดยมี ปาล (รับบทโดย จรณ โสรัตน์) สถาปนิกหนุ่มเป็นพิธีกร ต่อมาต้องการนำตำนานเรื่องเล่าความเก่าแก่ของหมู่บ้านบางบาปมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ซึ่งจะเล่าถึงวีรกรรมของ นางหยาด (รับบทโดย นันทนัช โล่ห์สุวรรณ) ทาสใจบาปที่หลงรัก พระวนาเทพ ข้าราชการหนุ่มที่ดูแลกิจการค้า และตัดสินใจแต่งงานกับ คุณกำไล (รับบทโดย วรรณปิยะ ออมสินนพกุล) นางหยาดได้โอกาสยั่วยวนจนกลายเป็นเมียทาส คุณกำไลตั้งท้องลูกคนที่ 3 และมีแววว่าจะเป็นลูกชาย พระวนาเทพหมดความสนใจในตัวนางหยาด ทำให้เธอแค้นใจ คิดวางยาถึงแก่ชีวิต เมื่อบรรดาทาสรู้จึงรวมหัวกันนำร่างของนางหยาดไปแขวนคอที่ใต้ต้นไม้ในเรือนวนาเทพ ความโหดร้ายจึงกลายเป็นตำนานที่ถูกเล่าไปทั่วหมู่บ้าน ซึ่งในการถ่ายทำละครจะเลือกใช้สถานที่จริง คือ เรือนพระวนาเทพ จึงทำให้พบกับเหตุการณ์ลึกลับน่ากลัวเกิดขึ้นหลายครั้ง อย่างที่วิษณุเองได้ฝันเห็นผู้หญิงในชุดสไบและเรื่องราวตามตำนาน ครั้งหนึ่งทีมงานนึกพิเรนทร์จับกลุ่มเล่นผีถ้วยแก้ว ความผูกพันของเหล่าผู้คนทั้งในปัจจุบันและอดีตชาติมีความเกี่ยวพันกันมาแต่ก่อน ทำให้วิญญาณของ นางหยด (รับบทโดย มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) และ นางหยาด ทาสสองพี่น้องที่นิสัยต่างกันถูกจองจำติดอยู่ในเรือนไทยหลังนี้ออกอาละวาด นางหยดออกมาสิงร่าง เรืองริน (รับบทโดย ปรียากานต์ ใจกันทะ) เพื่อกลับมาแก้แค้นกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนนางหยาดพยายามขัดขวางนางหยดเพื่อจะบอกเล่าถึงเป็นความจริงในอดีต และตำนานที่เคยเกิดขึ้นในหมู่บ้านนางบาปแห่งนี้ ซึ่งเป็นการบอกเล่าจากผู้คนในแต่ละยุคสมัยทำให้เรื่องราวผิดเพี้ยนไป

          เรื่องเล่าแห่งตำนานที่ถูกเล่าขานจะมีความจริงเป็นเช่นไร และเรื่องราวความรัก ความอาฆาตแค้นพยาบาท จากอดีตชาติที่สืบเนื่องมาถึงปัจจุบันจะมีจุดจบอย่างไร ติดตามชมได้ในละคร "นางบาป" ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม 2561 ทางช่อง 3, ช่อง 33 และรับชมผ่าน Application Ch 3 Thailand

สกู๊ปละคร นางบาป เสนอเป็นตอนแรก ออกอากาศ วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 3



          เป็นละครที่ชวนติดตามที่สุดในขณะนี้ เพราะท่านผู้ชม อาจจะไม่ได้เห็นละครผี ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเท่าไหร่นัก จนมาถึงวันนี้ เราก็มีละครเรื่องนางบาป มาให้ได้ชมกัน รับรองว่า ความหลอนนั้น ไม่แพ้ใครแน่นอน เรื่องราวถ่ายทอดมาตั้งแต่ห้วงเวลาในปัจจุบัน แล้วเหตุการณ์ ก็นำพาให้ดำดิ่ง ลงไปสู่เรื่องราวในอดีต เริ่มที่ นาวิน ตาร์ (วิษณุ) ผู้กำกับ สารคดีชื่อดัง จนได้รับรางวัลการัณตี ได้หันเหไปผลิตละครเรื่องนางบาปบางบัวบาน ซึ่งนาวินตาร์ นั่งแท่นเป็นผู้กำกับ ส่วนยิหวา ปรียากานต์ (ริน) ผู้ร่วมงานคนสนิท เป็นผู้จัด และได้ทำการแคสติ้งนักแสดงกันเป็นที่เรียบร้อย ทอป จรณ ซึ่งเป็นนักเรียนรุ่นน้องของนาวินตาร์ (ปาล) มาเล่นละครเรื่องนี้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีนักแสดงอีกมากมาย อาทิ กวาง วรรณปิยะ(กิฟท์) , เกี๊ยก วัทธิกร (ต้น) ,สุทธิกานต์(พาย) แต่ที่สำคัญ จะขาดเสียไม่ได้ ก็วิญญาณผีที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกวนาเทพ ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักในละคร ก็คือ คุณโดนัท มนัสนันท์ (หยด) และ ฝ้าย นันทนัช(หยาด) สองพี่น้อง ที่คอยจับจ้อง ดูเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

          ฉากใหญ่ในวันนี้ที่เป็นฉากเปิดตัวของละครนางบาป คืองาน รับรางวัล การผลิตสารคดียอดเยี่ยมของนาวินตาร์ และมียิหวา ปรียากานต์ ไปแสดงความยินดีด้วย ฉากนี้ไปถ่ายทำกันที่โรงแรมย่านสุขุมวิท งานนี้ทั้งกวาง และเกี๊ยก ก็มาเข้าฉากด้วย แต่เป็นการรับรางวัลในฐานะนักแสดง ซึ่งการพบกันในวันนี้ ทำให้นาวินตาร์ เชิญทั้งสองคน ไปเล่นละครเรื่องนางบาป บางบัวบานด้วยกัน

          แต่ที่สนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจ ก็เห็นจะเป็นตอนที่นักแสดงทุกคน ใส่ชุดไทยโบราณ มาฟิตติ้งละครเรื่องนางบาปบางบัวบาน เรียกว่า เสื้อผ้าที่ทุกคนสวมใส่ ทำให้ดูงดงามมาก โดยในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ นักแสดง จะต้องเล่นเป็นทั้งในแสดงยุคปัจจุบัน และเป็นละครในยุคอดีตอีกด้วย ฝ่ายนาวินตาร์ นั้นต้องนั่งแท่น ควบคุมคาแรคเตอร์นักแสดงทุกคนด้วยตัวเอง และที่สำคัญ น้องยิหวา นางเอกของเรา จะต้องสวมบทบาทเป็นผู้จัดละคร ถึงแม้เจ้าตัว จะผ่านงานละครมาหลายเรื่อง แต่การรับบทเป็นผู้จัดในครั้งนี้ ยิหวา ถึงกับสารภาพเลยว่า เล่นยาก และวางตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว และหลังจากมีการฟิตติ้ง ละครกันแล้ว หลังจากนี้ กองถ่าย ก็จะยกกองไปถ่ายทำกันที่ตึกวนาเทพในเรื่อง ซึ่งเราจะได้เห็นวิญญาณ ของสองพี่น้อง หยด และหยาด ออกมาอาลาวาดก็คราวนี้เอง ขอบอกว่าอย่ากระพริบตา ห้ามพลาดกันเลยทีเดียว

          ติดตามละครนางบาปได้ ออกอากาศ ทุกวันพุธและวันพฤหัส หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 3

สกู๊ปละครนางบาป ออกอากาศ วันพุธที่ 15 สค. หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 3









          เบื้องหลังละครนางบาปในวันนี้ เรื่องราวก็ยังคงเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฉากภาคปัจจุบันในวันนี้ เป็นฉากที่ ผู้กำกับหนุ่ม นาวิน ตาร์(วิษณุ) ก็ทำพิธีบวงสรวง เปิดกล้องพร้อมถ่ายทำ ละครเรื่องนางบาป บางบัวบาน โดยนักแสดงก็มากันอย่างพร้อมหน้า ทั้งกวาง วรรณปิยะ(กิฟท์) เกี๊ยก (วัทธิกร) มะปราง (เดือน) ยิหวา ปรียากานต์ (เรื่องริน) ทอป จรณ(ปาล) และนักแสดงอีกคับคั่ง ซึ่งในพิธีบวงสรวงนี้ พลาดไม่ได้ ที่ผีอีหยด อย่างโดนัท มนัสนันท์ จะมาเฝ้าคอยมองอยู่ไม่ห่าง

          เหตุการณ์ ตอนนี้ก็จะเล่าถึงเรื่องความรักที่โดนัท มีต่อ นาวินตาร์ ตั้งแต่ชาติภพก่อน ด้วยความรัก และภักดี ที่โดนัท เฝ้ารอคอยกันมาอย่างยาวนานอีกด้วย

          โดยฉากบวงสรวงในวันนี้ เรามาถ่ายทำกันที่สวนซึ่งมีต้นไทร ต้นใหญ่ ทรงสวยงาม ตั้งตระหง่านอยู่หน้าโต๊ะพิธี เรียกว่า เพียงต้นไม้ต้นเดียว ก็สร้างมนต์ขลังได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว นักแสดงมากันพร้อมหน้า ยิ่งพอถึงตอนที่ทุกคนกำลังไหว้ แล้วทีมงานเบื้องหลัง ก็ทำพายุลมพัดหมุน เข้ามาที่โต๊ะพิธี ยิ่งทำให้ดูน่ากลัวขึ้นไปอีก แต่ที่พีคสุด ก็เห็นจะเป็นครั้งที่โดนัท มายืนเฝ้าคอยดู อยู่ที่ต้นไม้นั่นเอง จะหลอนแค่ไหน ต้องติดตามชม

          ทางฝ่ายโดนัท มนัสนันท์(หยด ) ซึ่งเฝ้าดูเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่นั้น ก็พยายามจะทำให้นาวินตาร์ (วนาเทพ) ระลึกชาติให้ได้ และรับรู้ว่าตนเองเป็นเมียที่ภักดีเสมอมา ทั้งเข้าฝัน และเข้าไปสิงร่าง นางเอกสาว อย่าง ยิหวา เพื่อให้ตนเองได้ใกล้ชิด นาวิน ตาร์ โดยฉากครั้งแรกที่ทั้งสองได้พบกัน และเป็นรักแรกพบ เหตุการณ์ เกิดที่ตลาด ซึ่งทีมงานเซ็ทการถ่ายทำขึ้นที่วัดเก่าแห่งหนึ่ง ย่านนนทบุรี เป็นฉากที่โดนัทไปเดินตลาด แล้วถูกคนร้าย ทำร้าย นาวินตาร์มาเห็น จึงเข้าไปช่วยเหลือ ปกป้องโดนัท ซ้ำยังเอาผ้าเช็ดหน้า มาเช็ดหน้าให้กับเธออีกด้วย ทำให้โดนัท ซึ้งในน้ำใจของนาวินตาร์มาก เธอบอกจะจงรัก ภักดีกับนาวินตาร์ไปตลอด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทุกอย่าง งานนี้ฝ่ายนาวินตาร์ ก็จะต้องมีคิวบู๊เล็กน้อย เพื่อแสดงให้เห็นถึงน้ำใจของชายหนุ่ม ที่มีต่อทาสสาว ส่วนโดนัทก็ต้องก้มลงกราบนาวินตาร์อย่างซาบซึ้ง กลางตลาดเลยทีเดียว บรรยากาศ ในการถ่ายทำก็ราบรื่นเป็นอย่างดี ถึงแม้อากาศจะร้อนระอุ ทุกคนที่เข้าฉากในวันนี้ ก็ต้องแต่งตัวย้อนยุค ทำให้เห็นความงดงาม แบบไทย ๆ ซึ่งปัจจุบัน หาดูไม่ได้แล้ว

          ฝากติดตามความเข้นข้น ของละคร นางบาปได้ ทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 3

“ยิหวา” รับกดดัน เล่นละคร “นางบาป” ทำการบ้านหนักมาก เจอทั้งผี สู้ทั้งคน





กำลังเข้มข้นสนุกสนานกันเลยทีเดียว กับละครดราม่าพีเรียดย้อนยุค ใน "นางบาป" ที่ตอนนี้ ทำเอาแฟนๆละคร หลอนไปตามๆกัน ไม่ว่าจะเจอกับผีหรือคน งานนี้ทำเอานางเอกหน้าหวานอย่าง "ยิหวา ปรียากานต์ ใจกันทะ" ถึงกับต้องเครียดจัด กดดันสุดๆ ในบทบาทของเรืองริน จะเป็นอย่างนั้น ยิหวา มาเล่าให้ฟังว่า

"กดดันมากคะเรื่องนี้ เราต้องทำการบ้านหนักมากคะ เพราะพี่ต้าร์ พี่โดนัท นักแสดงคนอื่นๆ คือเล่นกันเต็มที่มากๆคะ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องจัดเต็มด้วยเช่นกันคะ ในเรื่องนี้นะคะ ยิหวา รับบทเป็น "เรื่องริน" เป็นรุ่นน้องที่ทำงานร่วมกันกับ "พี่ต้าร์" ทำรายการสารคดีมาด้วยกัน แล้วก็ได้ขยับมาทำละครโดยที่พี่ต้าร์เป็นผู้กำกับและเราเป็นผู้จัด เราแอบมีความรู้สึกดีๆ กับพี่ต้าร์ แต่ว่าเค้าไม่มีใจให้เราไม่ได้เสียใจค่ะคือก็รู้สึกดีๆ เป็นพี่เป็นน้องที่ดูแลให้คำปรึกษากันได้ แล้วเราจะรู้สึกว่าเค้าเหมือนมีอะไรบางอย่างปิดกั้นระหว่างเรา และเค้าก็บอกให้เราลองเปิดใจให้กับ "พี่ท็อป" ซึ่งเป็นพระเอกในละครที่เราผลิตและเค้าก็ชอบเราตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เรื่องราวมันจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าละครที่เราทำมันดันไปเกี่ยวกับเรื่องในอดีต ซึ่งมีผีที่เล่นโดย "พี่โดนัท" ที่เค้าจะต้องมาสิงร่างเรา ต้องบอกว่าซีนที่พี่โดเข้าสิงยากทุกซีนเลยค่ะ หนูกังวลว่าคนดูจะรู้สึกได้ไหมว่าตอนนี้ที่พี่โดเข้าสิงนะไม่ใช่เรา เพราะมันยากมากมันแสดงออกด้วยพี่โดจะพันผมก็ไม่ได้ ผมเขาเก็บหมดจะเสยผมก็ไม่ได้ ก็เลยต้องใช้ความมั่น พี่โดเค้าจะมั่นใจมาก คาแร็คเตอร์จะชัดเจนมากกว่าตัว "เรืองริน" ที่หนูเล่น ซึ่งพี่โดก็แนะนำแยอะค่ะว่าให้เล่นตามความต้องการ ไม่ต้องมาเล่นแบบพี่ เช่นต้องการแก้แค้นเราก็จะเล่นแบบต้องการแก้แค้นจริงๆ ส่วนกับพี่ท็อปคือต้องบอกว่าหนูเป็นคนเชียงใหม่ภาษาบางคำจะไม่เข้าใจ เพราะอยู่ที่บ้านจะใช้ภาษาเหนือ มาอยู่กรุงเทพก็จะต้องพูดกลาง มันจะมีศัพท์บางคำที่หนูไม่เข้าใจ พี่ท็อปก็เลยจะช่วยเรื่องบทได้เยอะ"

เรื่องราวความรัก ความอาฆาตแค้นพยาบาท จากอดีตชาติที่สืบเนื่องมาถึงปัจจุบันจะมีจุดจบอย่างไร ติดตามชมได้ในละคร "นางบาป" ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 - 22.50 น. ทางช่อง 3, ช่อง 33 และรับชมผ่าน Application Ch 3 Thailand

“ต้าร์-นาวิน เยาวพลกุล” ปลื้ม!! ความท้าทาย ใน “นางบาป” เจอความรัก ความอาฆาต แค้นพยาบาท ต่างภพต่างชาติ



          เรียกได้ว่ากำลังสนุกสนานกันเลยทีเดียว กับละครผีพีเรียดต่างภพต่างชาติที่ตามหลอกหลอนอย่างไม่หยุดยั้ง ใน "นางบาป" ที่งานี้นักแสดงหนุ่มมากความสามารถอย่าง "ต้าร์-นาวิน เยาวพลกุล" ออกอาการปลื้มสุดๆ กับบท "พระวนาเทพ" หรือ "วิษณุ" ถือเป็นอีกความท้าทายหนึ่งที่เจ้าตัวนั้นเล่นแล้ว สนุก อินกับบทมากๆ จะเป็นอย่างไรนั้น ต้าร์ ให้สัมภาษณ์ว่า

          "เรื่องนางบาปพอผมได้อ่านโครงเรื่องก็คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ปกติผมรับละครปีละเรื่องก็เลือกมาจากหลายๆ เรื่องที่ติดต่อเข้ามา คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่เราถูกใจที่สุดครับ ตัวละครในอดีตและปัจจุบันเค้าต่างกันเลย เกิดกันคนละชาติ แต่ว่ามันมีความต่อเนื่องตรงที่ว่าบาปกรรมที่เค้าทำในชาติที่แล้ว มันมีความเชื่อมโยงกับชาติปัจจุบัน อดีตเป็นคนเจ้าชู้ขี้เล่น เห็นแก่ตัว คิดถึงแต่เรื่องตัวเอง ความยากของ "พระวนาเทพ" จะเป็นเรื่องคำพูดที่เป็นภาษาโบราณ ซึ่งตอนแรกไม่ค่อยชินแต่พอพูดไปพูดมามันก็เริ่มจับจุดได้ว่าคำนี้มันหมายความว่ายังไง ทีนี้ก็พูดได้ไม่หยุดเลยครับ ส่วน "วิษณุ" ตัวละครในปัจจุบัน ก็เป็นตัวที่ยากกว่าในเรื่องของการแสดง คือเค้าไม่ปลื้มผู้หญิง คือเค้าเกิดมาแล้วเค้าก็เป็นอย่างงี้รึเปล่าหรือว่าเค้าเข้าใจรึเปล่าว่าเค้าถูกสาป มันมีหลายเรื่องหลายชั้น คือมันไปทางไหนก็ได้ ต้าร์ไม่ได้ติดเลยนะว่าจะให้เล่นเป็นเกย์หรือเป็นตัวละครแบบไหน แต่สุดท้ายมันก็มาลงเอยกับคนที่เค้าเป็นเกย์เนี่ยแหละ แต่การแสดงออกของเค้ามันไม่ได้มีความสาวหรือความดัดจริตเลย ยอมรับว่าเล่นแล้วเครียดนะ เล่นเป็นวิษณุแล้วเครียดมาก แล้วพอเข้ามาในกองก็เครียดมาก่อนเลย ตอนแรกต้าร์จะไม่คุยกับใครเลย พอรู้ว่าเล่นตัวนี้แล้วมันต้องเครียดแล้วมันจะไปเล่นไม่ได้ และเราต้องการรักษาความเครียดของวิษณุไว้ ไม่ให้ใครมาแตะ คือต้าร์ก็อยากจะใช้ส่วนนี้ให้นักแสดงรุ่นน้องมองเราเครียดๆ ไว้ ให้คนมันเกร็งๆ ไว้ กดดันมันเข้าไป (ยิ้ม) ไม่งั้นถ้ามาฮาๆ แล้วพอเข้าฉากมันไม่ดี ใช่เหมือนเราช่วยเค้าด้วย แล้วเราก็ช่วยตัวเราด้วย เราจะได้อยู่ในคาแร็คเตอร์ที่ดีขึ้น แต่พอหลังๆ มันเริ่มไม่ไหวแล้วไงเครียดไป ก็เลยต้องเล่นกันไป ผมว่าทั้งสองคาแรคเตอร์มันก็จะเป็นความท้าทายของผมอีกเรื่องหนึ่งเลยครับ"

          เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ในละคร "นางบาป" ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 - 22.50 น. ทางช่อง 3, ช่อง 33 และรับชมผ่าน Application Ch 3 Thailand

เรื่องย่อละคร นางบาป ตอนที่ 4 – 5 ออกอากาศ วันพุธที่ 22 ส.ค. – วันพฤหัสบดีที่ 23 ส.ค. 2561

          นางบาปตอนที่ 4 ออกอากาศ วันพุธที่ 22 ส.ค.
          ในอดีต หยาดดีใจนักที่กำไลได้แต่งงานกับวนาเทพ แต่หยดกลับไม่คิดเช่นนั้น ยังคงอิจฉาริษยาไม่เลิก หาทางให้ได้พบกับวนาเทพในที่สุด และยังว่าจ้างให้บ่าวในเรือนเอาผ้าเช็ดหน้ามาให้คุณพระถึงบนเรือนอีก คืนนั้น วนาเทพจึงมาหาหยดถึงเรือน หยดจึงกลายเป็นเมียบ่าวของพระวนาเทพ หยดดีใจได้ไม่นาน ก็ได้ข่าวกำไลท้อง หยดผิดหวัง คิดวิธี หาทางออกให้กับตนเอง หยดเอายาพิษใส่ในอาหารของกำไล แล้วให้หยาดยกเอาแกงเลียงไปให้กำไล แต่แม่กำไลพบเข้าเสียก่อน จึงเอาอาหารไปเท หยดแค้นใจ ไม่เป็นไปตามแผน
          วิญญาณของหยาดมาเข้าฝันวิษณุ บอกให้วิษณุหาทางปลดปล่อยหยดจากความแค้น หยดคิดจะเอาร่างของริน เพื่อเข้าหาวิษณุ วันรุ่งขึ้นที่กองถ่าย วิษณุจึงนำสร้อยคอที่มีพระอยู่ มาสวมให้กับรินด้วยความเป็นห่วง เดือนเห็นรินใส่สร้อยพระของวิษณุ ก็ไม่พอใจ บอกให้รินถอดสร้อยคอออก แต่พอดีณุมาเห็น จึงเข้ามาห้ามทัน
          ณุไม่สบายใจ จึงเดินทางมาที่วัด เพื่อปรึกษาหลวงพ่อ ถึงความฝันของตนเอง ซึ่งที่วัดนั้นเอง วิษณุเห็นภาพในอดีต ที่วนาเทพพากำไลและลูกมาเที่ยวที่วัด โดยมีหยาดเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ติดตามมาด้วย
          วิษณุจุดธูปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เรียกให้หยาดออกมาคุยกับเขาด้วย เขาอยากรู้ว่าพระวนาเทพทำอะไรกับหยาดไว้ จนต้องผูกคอตาย หยาดเล่าเรื่องอดีตให้วิษณุฟัง ว่าหยดชอบขังตนเองไว้ที่ห้องใต้ดิน ทั้งที่เรื่องหยดไปมีความสัมพันธ์กับพระวนาเทพ แล้วพยายามขึ้นไประรานกำไลบนเรือน พอหยาดห้าม หยดก็ขังหยาดไว้ทันที กำไลตามมาช่วยหยาด ให้ขึ้นกลับไปบนเรือนเช่นเดิม กำไลทนไม่ได้ ที่ต้องใช้สามีร่วมกับหยด หอบผ้า ขอกลับไปอยู่ที่เรือนเจ้าสัวไกร กับนายแม่ที่เรือนดังเดิม แม่ปลอบใจให้ยอมรับ อย่าทำตัวเป็นทุกข์ให้คนอื่นเห็น แล้วแม่จะกลับไปจัดการกับหยดเอง ให้กำไลกลับเรือนไปในที่สุด
          นายแม่ของกำไล มาที่เรือนคนใช้ของกำไล เพื่อมาจัดการกับหยด เมื่อมาถึง ก็สั่งให้บ่าวไพร่จับตัวหยดไว้ แล้วใช้น้ำมันร้อน ๆ ราด หยดเบี่ยงตัวหนี น้ำมันเลยโดนที่หลังเต็ม ๆ แม่เยื้อนเวทนาลูกนัก หยดได้ที บอกกับพระวนาเทพ ว่ากำไลเป็นคนทำร้ายตน พระวนาเทพ กลับมาเรือนก็ต่อว่าหนัก ว่ากำไลมีจิตใจคับแคบ เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะกำไลต้องดูแลลูก ตนเองไปมีหยดอีกคน เพื่อแบ่งเบาภาระของกำไล พระวนาเทพ ไม่ขออยู่ร่วมห้องกับกำไลอีก กำไลหมดหนทาง ส่งหยาดไปปรนนิบัติพระวนาเทพในห้อง พระวนาเทพ พยายามจะเอาหยาดมาเป็นของตน แต่หยาดตกใจ บอกไม่อยากทำให้กำไลเสียใจ เมื่อหยาดกลับเรือนไป ก็ถูกกำไลดุ ที่ไม่ยอมช่วยเหลือตน หยาดจึงต้องกลับไปหาพระวนาเทพอีกครั้ง คราวนี้หยาดขอร้องให้พระวนาเทพกลับไปยกย่องกำไลเหมือนเดิม เพราะไม่อยากให้กำไลช้ำใจ พระวนาเทพ เอ็นดูในความซื่อสัตย์ของหยาด แล้วคืนนั้น หยาดก็เสียสละตนเองเพื่อเจ้านายที่ตนรัก
          คืนนั้นปาลกำลังซ้อมบทของนายปั้น พูดถึงเรื่องราวในละครที่เขาตักเตือนหยาดไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพระวนาเทพ แล้วทันใดนั้นปาลก็ได้ยินเสียงหยด ปาลเดินตามเสียงไปจนถึงคุกใต้ดิน พอเขาเข้าไปข้างใน วิญญาณของหยดก็ขังปาลเอาไว้ในนั้น ทั้งกองถ่าย พยายามหาตัวปาลจนทั่ว ปาลพยายามหาอุปกรณ์มางัดประตู จนได้เจอ สมุดบันทึกต้นตระกูล ปูมประวัติที่มาของสกุล วนทิพย์ ตระกูลพระวนาเทพ

          นางบาปตอนที่ 5 ออกอากาศ วันพฤหัสบดีที่ 23 ส.ค.
          ปาลยังคงถูกขังอยู่ที่คุกใต้ดิน ต้นกับกิฟท์ แยกกันไปค้นหา ส่วนพายกับรินก็ไปด้วยกัน พายหกล้มจนหัวแตก หยาดเห็นห้องที่ถูกล็อค รู้ว่าเป็นฝีมือหยด จึงไปตามวิษณุมาช่วย วิษณุเข้ามาช่วยพร้อมด้วย ต้น กิฟท์ พาย ริน ทุกคนรีบพาปาลกลับโรงแรม แล้วปาลก็มอบสมุดบรรทุกให้กับวิษณุอ่าน วิษณุ จึงได้รู้ความเป็นไปที่แท้จริงในอดีต และจะนำมาปรับบท แก้ไขเรื่องราวในละครได้อย่างถูกต้องเสียที
          วันรุ่งขึ้น ยังมีการถ่ายทำกันต่อไป หยาดเข้ามาดูการถ่ายทำด้วย เห็นพายเล่นเป็นหยาด กิฟท์ ยังคงด่าพายไม่เลิกที่แย่งสามีตนไป เมื่อหยาดได้ยินก็เสียใจมาก ไปอาศัยร่างของพาย เพื่อบอกความจริงกับกิฟท์ วิญญาณหยาดในร่างพาย มาเกาะขา ขอให้กิฟท์ อโหสิกรรมให้ ทุกอย่างที่ทำไปเพราะรักกิฟท์ หรือคุณกำไล เมื่อพายเงยหน้ามา กลับกลายเป็นหน้าของหยาด กิฟตกใจ วิ่งหนีไป วิษณุมาเจอ รู้ว่าหยาดเข้าสิงพาย รินเดินมาพอดี ตอนแรกก็ไม่เชื่อ แต่พอเห็นหน้าหยาดเข้าเต็มสองตา ก็เริ่มเชื่อในสิ่งที่ณุพูด วิษณุกับปาล เรียกสติพายกลับคืนกลับมาได้ในที่สุด
          รุ่งเช้าทีมงานพูดกันถึงแต่เรื่องที่พายถูกผีเข้า จนพายกลัว กิฟท์ท้าให้ริน ถอดสร้อยให้พาย รินจึงถอดสร้อยพระให้พายห้อยไว้ วิญญาณหยดเข้าสิงร่างริน หยดในร่างรินตบหน้ากิฟท์ด้วยความหมั่นไส้ พอวิญญาณหยดออกจากร่างริน รินก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง
          วันต่อมา รินกำลังจะถ่ายทำฉากแต่งงานของกิฟท์ กับต้น แต่วิษณุบอกกับริน ว่ารู้สึกผิดต่อหยาด ไม่สามารถทำงาน แล้วใส่ร้ายหยาดต่อไป จึงขอพักกองไปก่อน รินรับไม่ไหว แอบเดินไปร้องไห้ ปาลเข้าไปปลอบ
          พาไลมาหาต้นที่กอง รับรู้เรื่องพักกองจากกิฟท์ ก็ไปโวยใส่รินหนัก ว่าทำให้คิวต้นเสียหาย แต่ต้นกลับออกรับแทนริน และบอกจะช่วยกันแบ่งเบาภาระ วิษณุรู้สึกผิด จึงขอกลับกรุงเทพฯกับรินด้วย รินกลับมาหาแม่ที่ภูเก็ต พบปาลบนเครื่องบิน ปานไปพักที่บ้านพักของแม่ริน เป็นความบังเอิญอย่างเหลือเชื่อ ทำให้ปาลได้พบกับพ่อรินด้วย ริน ปาล ที กอล์ฟ ได้ไปดูสถานที่ เป็นตึกโบราณที่ภูเก็ต และไปดูอาทิตย์ตกด้วยกัน แม่รินดีใจมาก ที่รู้ว่าปาลเป็นลูกของแม่ปุก เพื่อนของตนเอง สมัยเรียน
          วิษณุมาชี้แจงต่อธานีที่สถานีโทรทัศน์ทรีเวริคส์ เรื่องที่ต้องพักกอง เพราะต้องการแก้ไขบทให้ถูกต้อง หลังจากที่กองถ่ายย้ายออกไป หยดก็กลัดกลุ้ม คิดหาทางเจอกับวิษณุ ตั้งใจว่าเมื่อคืนเดือนดับมาถึง จะแย่งร่างรินมาเป็นของตน และจะได้อยู่กับวิษณุไปจนวันตาย

“กวาง” ท้าทาย พลิก เล่น “นางบาป” มีความเยอะ ควบสองบทที่แตกต่าง



          เรียกได้ว่ากำลังเข้มข้นสนุกสนานได้ที่กันเลยทีเดียวในละครเรื่อง "นางบาป" กับนักแสดงสาวหุ่นดี กวาง (เดอะเฟซไทยแลนด์) วรรณปิยะ ออมสินนพกุล ที่มารับบทเป็น "กิฟท์หรือกำไล" ที่จะมาโชว์ฝีมือในการแสดงให้แฟนๆละคร ได้หายคิดถึงกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้นกับการที่ต้องมารับเล่นสองบท ทั้งในพาร์ตอดีตและปัจจุบัน กับละครพีเรียดสุดสนุก นักแสดงสาวเล่าว่า

          "ในพาร์ตอดีตเราจะเล่นเป็นภรรยาของ "พี่ต้าร์" เป็นลูกคหบดีก็จะมีความเป็นกุลสตรีไทยถูกอบรมถูกเลี้ยงมาดี แต่ด้วยความที่คนสมัยก่อนเค้าจะมีเมียได้หลายคน "พระวนาเทพ" ก็จะเลยมีภรรยาหลายคน แต่เราเป็นภรรยาหลวง แล้วเราจะรู้สึกว่าพระวนาเทพเป็นเหมือนพ่อเราที่มีเมียน้อยหลายคนทำให้แม่เราเสียใจ ไม่อยากเจอคนที่เหมือนพ่อ แต่สุดท้ายก็เจอเพราะเราไปหลงคารมของผู้ชายเจ้าชู้ ทำให้เรารู้สึกว่าทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นกับเรา แล้วก็เป็นปมที่ทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ในอดีต ในปัจจุบันก็จะเป็นอีกคาเร็คเตอร์นึง คือเป็นดาราเบอร์เอกของช่อง ที่จะมีความเยอะแต่เราไม่ได้ร้ายนะ เราแค่มีความเยอะ กินยาก อยู่ยาก รีเควสโน่นนั่นนี่ ทุกคนต้องหาทุกอย่างมาให้ฉัน ทุกคนต้องง้อฉัน เพราะฉันเป็นมือหนึ่งของช่อง คือช่องต้องง้อฉันช่องอยู่ได้ เป็นการเล่นละครพีเรียดครั้งแรกของกว่าง ต้องบอกว่าภาษายากมาก มันยังแยกคำไม่ถูก แต่ว่าพอเล่นมาเรื่อยๆ ก็เริ่มปรับตัวเริ่มชินค่ะ ท้าทายมาก เป็นครั้งแรกที่เล่นเป็นคนเรียบร้อยด้วย แต่ว่าเราก็ต้องทำให้ได้ เราเป็นนักแสดงเราก็ต้องไปถึง เรื่องก็สนุกคือเรื่องราวมันจะเกี่ยวโยงกับอดีตชาติ เพราะว่า เราไปเล่นเรื่องนางบาปบางบัวบานซึ่งเป็นตำนานที่เล่าขานกันมาเราก็ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องจริง ซึ่งเรื่องในตำนานที่เราฟังมาน่ะคือมันเป็นเรื่องที่ถูกบิดเบือนมา แล้วทีนี้เรื่องราวมันก็จะถูกเฉลยออกมาเรื่อยๆ แต่จะเป็นยังไงอยากให้ติดตามชมกันดูในเรื่องค่ะ"

          เรื่องราวจะเป็นอย่างไร จะหลอน หรือน่ากลัวมากน้อยแค่ไหน ต้องติดตามชมได้ในละคร "นางบาป" ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 - 22.50 น. ทางช่อง 3, ช่อง 33 และรับชมผ่าน Application Ch 3 Thailand