”Avatar” ของ “เจมส์ คาเมรอน” กำลังเดินหน้ากวาดเงินทั่วโลก แต่ในจีนหนังต้องเจอตอซะแล้ว เมื่อทางการจีนตัดสินใจแบนการฉายหนังเรื่องนี้ หลังต้องสงสัยว่าอาจก่อให้เกิดปัญหากับชนกลุ่มน้อย และเปิดโอกาสให้ “ขงจื้อ” หนังฟอร์มใหญ่ในประเทศเข้าฉายแทน
หนังสือพิมพ์ Apple Daily จากฮ่องกงได้รายงานว่า มีคำสั่งโดยตรงไปถึง China Film Group บริษัทจัดจำหน่าย และเจ้าของโรงภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดในเมืองจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีรัฐบาลเป็นผู้ดูแล ให้หยุดการฉายหนัง Avatar ภาพยนตร์ที่ดังที่สุดในโลกขณะนี้ ในฉบับ 2 มิติในประเทศจีนทั้งหมด ขณะที่แบบ 3 มิติ สามารถฉายต่อไปได้
Avatar เปิดฉายทั่วประเทศจีนมาตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. และได้รับ ความสนใจจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก ตั๋วหนังสำหรับโรง IMAX ต้องจองล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ และเพียงเข้าฉายมาได้ 2 สัปดาห์เท่านั้น ก็มีข่าวว่าหนังทำลายสถิติรายได้ของ Founding of the Republic และ กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในประเทศด้วยรายได้กว่า 500 ล้านหยวน โดยหนังมีกำหนดฉายไปถึง วันที่ 28 ก.พ. นี้ เพื่อรับวันตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงด้วย แต่ตอนนี้มีเวอร์ชั่นในโรงธรรมดาจะเปิดโอกาสให้ชาวจีนได้ดูกันถึงวันที่ 23 ม.ค. นี้เท่านั้น ขณะที่ยังจะฉายต่อไปในโรงหนังหนัง 3 มิติ และ IMAX แต่ในเมืองจีนนั้น โรงสองประเภทดังกล่าวมีอยู่จำนวนไม่มากนัก
โดยมีรายงานตามมาว่า เหตุผลเบื้องหลังการสั่งห้ามฉายหนังดังจากฮอลลีวูดเรื่องนี้ เพราะรัฐบาลเกรงว่าเนื้อหาในหนัง ที่ว่าด้วยการต่อสู้ระหว่าง ชาวนาวีชนพื้นเมืองแห่งดาวแพนดอร่า กับมนุษย์ผู้มาเยือน ซึ่งต้องการในทรัพยากรธรรมชาติของดาวนั้น อาจจะกระตุ้นให้เกิดปัญหาการต่อต้านของเหล่าชนกลุ่มน้อย กระทั่งประชาชนธรรมดาจำนวนมาก ผู้อยู่ภายใต้การปกครองในระบอบคอมมิวนิสท์ และได้รับผลกระทบต้องย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยจากนโยบายต่างๆ ของรัฐ
อย่างไรก็ตาม คนจีนส่วนใหญ่มองว่าเหตุผลที่แท้จริงในการถอด Avatar ออกจากโรงหนังค่อนประเทศ ก็เพื่อเปิดเป็นการทางให้หนังฟอร์มใหญ่ในประเทศอย่าง Confucius หรือ ขงจื้อ ได้เข้าฉายโกยเงินอย่างสะดวกโยธินพฤหัสนี้ต่างหาก
Confucius หนังชีวประวัติปราชญ์คนสำคัญของแผ่นดินจีน อย่างขงจื้อ ตั้งแต่อายุ 51 – 73 และได้ดาราชื่อดังชาวฮ่องกง โจวเหวินฟะ มาแสดงนำและมีผู้กำกับหญิงหน้าใหม่ที่ชื่อ หูเหม่ย ที่ก่อนหน้านี้เคยผ่านงานโทรทัศน์มาก่อนเท่านั้น มารับหน้าที่กำกับ ด้วยทุนสร้าง 150 ล้านหยวน โดยจะเปิดฉายใน 2,500 โรงฉายทั่วประเทศ เป็นการทำลายสถิติหนังเปิดตัวด้วยจำนวนโรงสูงสุด ทำลายสถิติของ Founding of the Republic ที่ออกฉายในกลางปี 2009
ขณะนี้เจ้าของโรงภาพยนตร์ยังคงแสดงความมั่นใจว่า Avatar ยังจะเดินหน้าทำเงินในเมืองจีนต่อไป ตัวแทนจาก UME อินเตอร์เนชั่นเนล คอมเพล็กซ์ ยืนยันว่าข่าวถอดหนัง Avatar จากโรงธรรมดาเป็นเรื่องจริง อย่างไรก็ตาม ทางโรงยังมั่นใจว่าจะไม่กระทบอะไรกับรายได้หนัง และยังเห็นด้วยกับเปิดโอกาสให้หนังในประเทศ “สำหรับ UME รายได้จากโรงหนัง 3 มิติ และ IMAX ถือเป็น 90%ของรายได้อยู่แล้ว มันจะไม่กระทบอะไรมากนั้น การถอน Avatar เป็นการเปิดโอกาสให้ Confucius ด้วย”
ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ฝ่ายโรงหนังยังคงเบาใจก็คือ ราคาตั๋วของโรง 3-D และ IMAX ยังค่อนข้างสูง แต่ความต้องการชมหนังเรื่องนี้ยังคงมีอยู่มาก ในเมืองจีน ราคาตั๋วสำหรับโรงธรรมดานั้นอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 หยวน ขณะที่โรงหนัง 3-D อยู่ที่ 60 – 80 หยวน และในโรง IMAX ค่าตั๋วพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 130 – 150 หยวนเลยทีเดียว ซึ่งนับว่าเป็นราคาที่แพงพอสมควรกับค่าครองชีพของชาวจีนในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าความคลั่งไคล้ในหนังเรื่องนี้ ก็ทำให้ตั๋วผีในบางพื้นที่มีราคาที่พุ่งสูงขึ้นไปถึงระดับ 200 หยวนเลยทีเดียว
ด้านนักแสดงผู้รับบทขงจื้อในหนัง Confucius อย่างโจวเหวินฟะ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าหนังฟอร์มใหญ่ทั้งสองเรื่อง สามารถประสบความสำเร็จในเมืองจีนไปด้วยกันได้ "ถ้าหนังสองเรื่องฉายพร้อมกัน คนที่ไปดู Avatar ต้องไปดู Confucius และคนดู Confucius ก็ต้องไปดู Avatar ด้วยเหมือนกัน" โจวเหวินฟะ แสดงความคิดเห็นในงานแถลงข่าวผลงานเรื่องนี้ของเขาที่ปักกิ่ง
"Confucius และ Avatar เป็นหนังคนละประเภทกัน แต่ทั้งคู่ล้วนนำเสนอเรื่องมนุษยธรรมเช่นเดียวกัน" นักแสดงชาวฮ่องกงวัย 54 ปีกล่าว
ASTV
