wmt on August 25, 2018, 02:03:48 PM




กสอ.รุกอุตสาหกรรมกาแฟชวนคอกาแฟร่วมดื่มด่ำรสชาติกาแฟไทยชูเชียงใหม่เป็นฮับเมืองกาแฟไทยสู่สากล

กรุงเทพฯ24ส.ค.61- กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่1 เปิดแนวรุกอุตสาหกรรมกาแฟไทยสู่กาแฟโลกจัดงาน“Chiangmai Coffee Hub”เพื่อแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟครั้งที่3ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรและผู้ประกอบการในการประกอบธุรกิจดันจังหวัดเชียงใหม่เป็น“เมืองกาแฟ”เต็มรูปแบบพร้อมจัดทำยุทธศาสตร์กาแฟจังหวัดเชียงใหม่ปี2561-2565ภายใต้5กลยุทธ์มุ่งเป้าเป็นศูนย์กลางกาแฟแห่งภูมิภาค (Coffee Hub)




นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเปิดเผยว่ากรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่1จ.เชียงใหม่ ได้ผลักดันให้เกิดโครงการต่างๆที่เป็นการสนับสนุนส่งเสริมอุตสาหกรรมกาแฟภาคเหนือให้เติบโตและยั่งยืนมาโดยตลอดทั้งการสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มในลักษณะของ“คลัสเตอร์ (Cluster)” ให้เป็นเครื่องมือและกลไกสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมกาแฟโดยที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งถือเป็นจังหวัดต้นทางได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ความรู้ด้านการคัดเลือกสายพันธุ์การดูแลพื้นที่ปลูกการตัดแต่งกิ่งการเก็บเกี่ยวการแปรรูปเมล็ดกาแฟตลอดจนการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและมาตรฐานกลุ่มกลางสนับสนุนด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการควบคุมคุณภาพการผลิตเพื่อให้ได้มาตรฐานการผลิตและกลุ่มปลายทางได้สนับสนุนมุ่งเน้นด้านการประกอบธุรกิจกาแฟเสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะบุคลากรทั้งเรื่องเทคนิคการคัดคุณภาพสารกาแฟเทคนิคการคั่วการผสมสูตรที่มีลักษณะเฉพาะการชงกาแฟและการบริหารจัดการหน้าร้านเพื่อให้เกิดความอยู่รอดและยั่งยืน

“นอกเหนือจากการพัฒนาเกษตรกรผู้ผลิตและผู้ประกอบการกาแฟให้มีความพร้อมแล้วการสร้างภาพลักษณ์และการประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วไปได้รับรู้ว่าเชียงใหม่มีการพัฒนาตนเองสู่การเป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมกาแฟแล้วนั้นก็มีความสำคัญยิ่งจึงเป็นที่มาของการจัดงาน “Chiangmai Coffee Hub”ในครั้งนี้ซึ่งเป็นการจัดงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟครั้งที่3ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรและผู้ประกอบการในการประกอบธุรกิจ”โดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่1กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในงานประกอบด้วยบูธผู้ประกอบการร้านกาแฟผู้จำหน่ายรวมทั้งเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟจากพื้นที่ต่างๆของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนกว่า40บูธนิทรรศการที่ร้อยเรื่องราวแหล่งกำเนิดกาแฟเชียงใหม่จากการพลิกดอยฝิ่นให้เป็นถิ่นกาแฟกิจกรรมworkshop การชงกาแฟแบบไซฟ่อนและHome Brewing รวมทั้งเวทีเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับกาแฟจากกูรูด้านกาแฟ

ส่วนไฮไลต์ของงานคือการนำกาแฟคุณภาพดีจาก “กิจกรรมสร้างการรับรู้คุณภาพเมล็ดกาแฟ”ในโครงการเดียวกันนี้ซึ่งเปิดรับสมัครเมล็ดกาแฟดิบจากเกษตรกรเชียงใหม่และพื้นที่ภาคเหนือเพื่อทดสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลกคัดสรรจาก72ตัวอย่างได้เมล็ดที่มีคะแนนสูงสุดจำนวน10ตัวอย่างโดยแต่ละรายมีคะแนนตั้งแต่82.5 - 84.5ตามมาตรฐานของSpecialty Coffee Association (SCA) ซึ่งเป็นสถาบันรับรองตรวจสอบที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องกาแฟเป็นพิเศษจากประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งนี้ส่วนหนึ่งของกาแฟทั้ง10ตัวอย่างถูกนำไปประมูลเมื่อวันที่7สิงหาคมที่ผ่านมาโดยกาแฟจากแหล่งปลูกขุนช่างเคี่ยนของคุณเสาวลักษณ์อัศวพุทธิซึ่งได้คะแนนสูงสุด คือ84.5คะแนนถูกประมูลไปในราคาถึงกิโลกรัมละ1,600บาทโดยภายในงานได้นำกาแฟทั้ง10ตัวอย่างมาให้ชิมฟรี”นายกอบชัยกล่าว

อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกล่าวเพิ่มเติมว่
าก่อนหน้านี้ในช่วงการจัดงานSMEsสัญจรพลิกธุรกิจสู่ยุคอุตสาหกรรม4.0ที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการหารือแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคเหนือภายใต้แนวคิดNorthern Thailand Health Valley ที่มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเช่นผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรผลิตภัณฑ์สปาและอาหารเสริมโดยการขับเคลื่อนในลักษณะห่วงโซ่มูลค่าตั้งแต่การพัฒนาปัจจัยพื้นฐานการผลิตการสร้างมูลค่าเพิ่มและการส่งเสริมการตลาดเช่นเชียงใหม่เมืองกาแฟมุ่งเน้นพัฒนากาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยสู่ตลาดโลกการพัฒนากาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยสู่ตลาดโลกของโครงการNorthern Boutique Arabica Coffee ทั้งนี้กสอ. จะดำเนินการจัดตั้งสถาบันกาแฟณศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม4.0หรือITC ที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่1จังหวัดเชียงใหม่เพื่อให้บริการแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกาแฟในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนอย่างครบวงจร







จังหวัดเชียงใหม่ทุกวันนี้ถือว่าได้ก้าวเข้าสู่การเป็น “เมืองกาแฟ” อย่างเต็มรูปแบบโดยได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนจัดทำยุทธศาสตร์กาแฟจังหวัดเชียงใหม่ปี2561-2565ขึ้นภายใต้5กลยุทธ์สำคัญคือ1.เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาคุณภาพผลผลิตโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม2.พัฒนาการแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่ม3.พัฒนาด้านการตลาด4.การวิจัยและพัฒนาและ5.การบริหารจัดการทั้งนี้เป้าหมายลำดับต่อไปคือการเป็น“ศูนย์กลางกาแฟแห่งภูมิภาค”หรือ“Coffee Hub”

“ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้จังหวัดเชียงใหม่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานกาแฟระดับอาเซียนคือการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟอาเซียนครั้งที่1หรือACID2018อีกด้วยจึงเชื่อมั่นว่าจังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพสามารถก้าวไปถึงเป้าหมายในการเป็นCoffee Hub ได้อย่างแน่นอนในอนาคต”นายกอบชัย กล่าวทิ้งท้าย
« Last Edit: August 25, 2018, 02:08:52 PM by wmt »