เตรียมเปิด “บลูทรี ภูเก็ต” แหล่งท่องเที่ยวใหม่ สุดยิ่งใหญ่สำหรับครอบครัว

เตรียมเปิด “บลูทรี ภูเก็ต” แหล่งท่องเที่ยวใหม่ สุดยิ่งใหญ่สำหรับครอบครัว บนเกาะภูเก็ต


ในภาพจากซ้าย นายไมเคิล ไอลิง ผู้จัดการทั่วไป บลูทรี ภูเก็ต,นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน,นายมาร์ติน โคท ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บลูทรี ภูเก็ต

กรุงเทพฯ ประเทศไทย วันที่ 20 สิงหาคม 2561 – เตรียมเปิด “บลูทรี ภูเก็ต” (Blue Tree Phuket) ต้นปี 2562 แลนด์มาร์คใหม่แห่งการพักผ่อนและแหล่งความบันเทิงครบวงจร หรือ “Entertainment Complex” แห่งแรกในภูเก็ต พร้อม “บลูทรี ลากูน” ทะเลสาบสุดยิ่งใหญ่จากสหรัฐฯ ด้วยเงินลงทุนกว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บนพื้นที่ 140 ไร่ ยกระดับพื้นที่สาธารณะในจังหวัดภูเก็ตสู่ระดับโลก ตอบรับการเติบโตการท่องเที่ยวในภูเก็ตเพิ่มมากขึ้นเท่าตัวปีหน้า


นายไมเคิล ไอลิง ผู้จัดการทั่วไป บลูทรี ภูเก็ต อดีตกรรมการผู้จัดการลากูน่าภูเก็ต เปิดเผยว่า ตลอด 2 ปี ได้พัฒนาโครงการ “บลูทรี ภูเก็ต” สวนน้ำและศูนย์รวมบันเทิงสำหรับครอบครัวที่มีมาตรฐานระดับโลกแห่งแรกของเกาะภูเก็ต เพื่อตอบโจทย์ยุคสมัยของการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตที่เปลี่ยนไปอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเล็งเห็นจากการเติบโตของการท่องเที่ยวภูเก็ต และความต้องการแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพสูง ของกลุ่มนักท่องเที่ยว 3 กลุ่ม ได้แก่ ประชาชนท้องถิ่นภูเก็ต นักท่องเที่ยวครอบครัวชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเชื่อว่า “บลูทรี ภูเก็ต” จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแบบบูรณาการขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพสูงในจังหวัดภูเก็ตที่ทุกคนตั้งตารอคอย โดยพร้อมที่จะเปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2562 นี้

"เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศว่า บลูทรี ภูเก็ต พร้อมจะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้ และเราเชื่อมั่นว่า โครงการนี้จะเป็นองค์ประกอบสำคัญของการท่องเที่ยวภูเก็ตในอนาคต ซึ่งนอกจากชื่อเสียงในเรื่องของทะเลและหาดทรายอันงดงามของภูเก็ตแล้ว โครงการนี้จะเป็นอีกด้านหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้หลั่งไหลเข้ามาสู่ภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยกลุ่มเป้าหมายของเรา ได้แก่ ครอบครัวไทยระดับกลาง ไปจนถึงนักท่องเที่ยว ระดับไฮเอนด์” นายไมเคิลกล่าว

ด้าน นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า  “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาการคมนาคมและการขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ตจนสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 6 ล้านคนเป็น 18 ล้านคน ซึ่งจะนำนักท่องเที่ยวมาสู่ภูเก็ตได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันการเติบโตดังกล่าวทำให้เกิดความต้องการในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป นักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มใหม่ ๆ กลุ่มที่เคยเดินทางมาแล้ว รวมถึงประชาชนท้องถิ่น เริ่มมองหาความท้าทายในการท่องเที่ยวมากขึ้น นอกเหนือไปจากการพักผ่อนริมทะเล และการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม พวกเขายังต้องการประสบการณ์ความสนุกสนานและกิจกรรมที่น่าจดจำสำหรับการพักผ่อนอีกด้วย ซึ่งการพัฒนาครั้งล่าสุดของภาคเอกชนอย่าง “บลูทรี ภูเก็ต” ครั้งนี้ นับว่าสอดคล้องกับแผนการยกระดับการท่องเที่ยวภูเก็ตสู่ระดับโลก และเรียกความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยจะมุ่งเน้นเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ กิจกรรมที่หลากหลาย เทศกาลสำคัญ ๆ รวมถึงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ต เป็นต้น” นายฉัททันต์กล่าว

สำหรับ “บลูทรี ภูเก็ต” (Blue Tree Phuket) เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ระดับเวิลด์คลาสสำหรับคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่จะมาเยือนประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์’ (Entertainment Complex) แห่งแรกของภูเก็ต บนพื้นที่กว่า 146 ไร่ ด้วยเงินลงทุนกว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 พันล้านบาท) ประกอบไปด้วยพื้นที่บริการด้านการพักผ่อนและศูนย์รวมกีฬาทางน้ำอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บีชคลับ 4 ชั้น, ฟิตเนสโซน, คิดส์คลับ, ร้านอาหาร 17 ร้าน ทั้งภัตตาคารและอาหารราคาประหยัด และพื้นที่ศูนย์การค้า รวมไปถึง “บลูทรี ลากูน” (Blue Tree Lagoon) มหาสมุทรสไตล์ลากูนขนาดใหญ่กว่า 17,000 ตารางเมตร ก่อสร้างโดย คริสตัล ลากูนส์ (Crystal Lagoons) บริษัทผู้นำด้านนวัตกรรมลากูนยักษ์ใหญ่ ซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นโครงการลากูนในเมืองไมอามี่ ฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ล้อมรอบด้วยชายหาดเทียม และมีสนามเด็กเล่นน้ำที่ดีที่สุดเหมาะสำหรับคุณหนู ๆ และครอบครัว นอกจากนั้น ยังมีสลิปแอนด์ฟลาย (Slip N Fly) สไลด์เดอร์ยักษ์ที่น่าตื่นเต้น สแปลชโซน (Splash Zone) และกิจกรรมไต่หน้าผา นอกเหนือจากนี้ บลูทรี ลากูน ยังใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อรักษาความใสของน้ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้สารเคมีน้อยกว่า 100 เท่า และใช้พลังงานน้อยกว่าระบบสระว่ายน้ำธรรมดาถึง 50 เท่า

“บลูทรี ภูเก็ต” จะเป็นโครงการสุดยิ่งใหญ่ที่จะตอบรับการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้นสู่เกาะภูเก็ต โดยจะเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวในต้นปี 2562 นี้ ด้วยค่าเข้าชมในราคาที่ไม่แพง ด้วยแนวคิดเลือกจ่ายเฉพาะบริการที่เลือกใช้ หรือ Pay-and-Use หรือสามารถเลือกซื้อแบบเหมากิจกรรมทั้งหมดด้วยราคาต่ำกว่า 1,000 บาท สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าไปที่เว็บไซต์ https://bluetree-phuket.com/

WORLD-CLASS FAMILY WATERPARK AND ENTERTAINMENT DESTINATION UNVEILED FOR PHUKET

USD40 million, 140-rai Blue Tree Phuket signals maturing of the Phuket tourism industry as domestic and international demand drives growth of inland attractions


From left: Mr. Michael Ayling, General Manager, Blue Tree Phuket; Mr. Chattan Kunjara Na Ayudhya, Deputy Governor for Policy and Planning, Tourism Authority of Thailand; and Mr. Martin Cote, Operations Director, Blue Tree Phuket.

Bangkok, Thailand, 20 August 2018 – Phuket’s tourism industry has received a major shot in the arm with the unveiling of Blue Tree Phuket, a USD40 million investment and multi-dimensional destination waterpark and entertainment complex set over 140 rai in Cherng Talay.

Positioned as Phuket’s premier family attraction, Blue Tree is located within easy reach of Phuket’s popular central west coast and will be the island’s first international-standard, fully integrated waterpark and family entertainment complex, placing it at the cutting-edge of a growing demand for inland tourism on the island.

The complex will feature a compelling mix of retail, destination dining, waterpark, beach club, and health and fitness with its star attraction at its centre – Blue Tree Lagoon – designed and built by world-leading US-based water attraction specialists Crystal Lagoons.

Opening in the first quarter 2019, Blue Tree is led by Michael Ayling, former Managing Director of Laguna Phuket, a destination which set a benchmark in Phuket for large-scale, high-quality integrated tourism product, who now embarks on a new pioneering project for the island.

“We are delighted to be announcing what we feel will be a key component in Phuket’s tourism future as we are confident Blue Tree will appeal to families looking for high quality entertainment,” said Mr Ayling.


The 10 rai (17,000 sqm) Blue Tree Lagoon, designed by world-renouned Crystal Lagoons, is the star attraction of Blue Tree Phuket.

“Phuket’s tourism market has changed considerably over the past ten years. We now see strong demand for inland attractions driven by Thai families, residents of the island and the growth of the independent-travelling international tourism market. All three markets have one thing in common: a need for high-quality, family-focused entertainment away from the beach. This is what we will deliver,” he said.

Blue Tree Phuket will offer a Water and Entertainment park, a four-storey vertical Beach Club, Fitness Zone, Kid’s Club and multiple retail spaces. In addition, 17 restaurants and food outlets will cater to all tastes and budgets, centred around the complex’s star attraction: Blue Tree Lagoon.

The 17,000-square-metre man-made lagoon has been designed by Crystal Lagoons, who most recently completed a mega inland lagoon project in the family attraction capital of the world, Florida. It is flanked by artificial beaches and offers an aquatic playground for family-friendly and adrenaline-driven activities such as a Slip N Fly, water slides, splash zone and even cliff jumping.

Aside from utilising state-of-the-art technology to maintain water clarity, Blue Tree Lagoon also boasts eco-friendly credentials. Powered by Crystal Lagoons' sustainable technology, the lagoon uses up to 100 times fewer chemicals and 50 times less energy than conventional swimming pool systems.


The vertical Beach Club is open throughout the day and into the night.

Blue Tree has been in development for the past two years, from the master planning stages to partnership selections and management – with environmental sustainability a core component of the project’s DNA and fundamental to its promotion of an active and healthy lifestyle.

“Blue Tree has natural borders. These are thick, mature rubber plantations that surround the project and emphasise the lush tropical environment found throughout the grounds. The name itself is testament to our commitment – a green and blue oasis in the shape of a tree, with deep roots and strong connections to the destination, its heritage and its future,” said Mr Ayling.

“Phuket will always be known for its spectacular sea and sand, but there’s been a clear demand for inland entertainment alternatives for some time now and this will fit the bill, showcasing a lesser known side of Phuket but one that will appeal to both middle class Thai families and Amanpuri guests in one strategically located destination.”

Admission fees will be kept affordable with a pay-and-use concept, while full access to all activities will be priced lower than THB1,000.

For more information on Blue Tree, visit: https://bluetree-phuket.com/