แรบพิดซ์เพย์รุกตลาดไทยจับมือเมเจอร์กรุ๊ปลุยโปรโมทดิจิทัลเพย์เมนท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ แรบพิดซ์เพย์รุกตลาดไทยจับมือเมเจอร์กรุ๊ปลุยโปรโมทดิจิทัลเพย์เมนท์
 


กรุงเทพฯประเทศไทย : เมื่อเร็วๆนี้เมเจอร์ซินิเพล็กซ์กรุ๊ปและแรบพิดซ์เพย์ (RapidzPay)ร่วมสร้างสรรค์ระบบธุรกรรมการเงินดิจิทัลในธุรกิจบันเทิงเป็นครั้งแรกของประเทศไทยหลังร่วมเซ็นสัญญาตกลงความร่วมมือกันอย่างเป็นทางการณBlu-O Rhythm & Bowl สาขาสยามพารากอน

โดยบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างเมเจอร์กรุ๊ปและRapidzPayนั้นจะเป็นการทำงานภายใต้กรอบระบบการขายหรือPoint-of Saleที่เป็นการผนวกสกุลเงินคริปโตเข้ามาใช้ในการซื้อแบบดั้งเดิมกับสินค้าและบริการภายใต้แบรนด์เมเจอร์เพิ่มความสะดวกสบายง่ายและคล่องตัวรวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานมากยิ่งขึ้นRapidzPayอำนวยความสะดวกทั้งรูปแบบการใช้ชำระเงินส่วนตัวและการชำระในรูปแบบองค์กรโดยใช้แพลทฟอร์มของบล็อกเชนในการทำงานผู้ที่ถือเงินสกุลคริปโตสามารถชำระเงินผ่านกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของRapidzPayที่เป็นแอพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือและใช้เงินนั้นในการซื้อสินค้าและบริการรวมถึงโอนเงินให้เพื่อนได้ในขณะเดียวกันร้านค้าสามารถใช้เครื่องรับเงินRapidzPOSเพื่อรับเงินสกุลคริปโต และเงินสกุลอื่นๆ ได้

นางสาวชัญญ์ญาณ์ ธำรงวินิจฉัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัดกล่าวว่า“ในนามของกลุ่มบริษัทเมเจอร์ ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งในการทำงานร่วมกับRapidzPayดิฉันมั่นใจว่า แอพลิเคชั่นRapidzPayและเครื่อง RapidzPOSจะช่วยทำให้ทุกการซื้อสินค้าและบริการที่เมเจอร์ด้วยสกุลเงินคริปโต เป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นตั๋วภาพยนตร์ ขนมทานเล่น และอื่นๆ นอกจากนั้น ดิฉันยังเชื่อมั่นว่าRapidzPayจะขยายขอบข่ายของการให้บริการไปยังธุรกิจอื่นๆ และเป็นผู้นำในตลาดการเงินในประเทศไทย ที่กำลังมุ่งหน้าสู่สังคมไร้เงินสด”

ปัจจุบันศักยภาพในการเติบโตของสกุลเงินคริปโต และตลาดเงินดิจิทัลนั้นมีความเป็นไปได้มากขึ้นเมื่อพิจารณาถึงตัวเลขที่เกี่ยวข้อง จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์พบว่า “ตัวเลขของจำนวนผู้ใช้สกุลเงินคริปโต และเงินดิจิทัล อยู่ที่ระหว่าง 2.9-5.8 ล้านคนทั่วโลก” ซึ่งแม้จะคิดเป็นสัดส่วนเพียงแค่1%ของประชากรโลก แต่ความเป็นไปได้ในการขยายตลาดสู่พื้นที่ที่ยังเข้าไปไม่ถึงนั้นมีอีกค่อนข้างมาก มีการประเมินว่า มูลค่าตลาดเงินสกุลคริปโต คิดเป็นเงินประมาณ 3 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ ณ เดือนกรกฎาคม2018จากข้อมูลของ Coinmarketcap

จากการขยายการใช้งานลงสู่สังคมที่กว้างขึ้นตลาดที่กำลังเติบโตนี้สร้างประสบการณ์การใช้จ่ายรูปแบบใหม่ๆให้กับลูกค้าRapidzPayตั้งเป้าจับตลาดผู้บริโภคชาวไทยให้ได้ประมาณ 1 ล้านคนในปีแรกทั้งในกลุ่มของผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับเงินสกุลคริปโตอยู่แล้ว และผู้ใช้หน้าใหม่ที่มองหาความสะดวกสบายในการใช้จ่าย ที่จะช่วยเปลี่ยนเงินสดให้อยู่ในเงินสกุลคริปโต

เอ็ดดี้ เทรนท์ ประธาน และผู้ก่อตั้ง RapidzPayแสดงความคิดเห็นต่อข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่บริษัทของเราได้จับมือเป็นพันธมิตรร่วมกับบริษัทที่ยิ่งใหญ่อย่างเมเจอร์ กรุ๊ป  วันนี้พวกเราตื่นเต้นมากที่จะได้ดูแลให้ลูกค้าของเมเจอร์ กรุ๊ป และลูกค้าใหม่ๆ ให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น และสะดวกสบายขึ้นผ่านธุรกรรมการเงินรูปแบบใหม่นี้”

การพัฒนาแอพลิเคชั่นมือถือร่วมกับเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นค่อย ๆเติบโตขึ้น และผู้พัฒนาแอพลิเคชั่น กับผู้ใช้งานค่อยๆ ขยับเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆRapidzPayคาดหวังจะเป็นการใช้งานของโทรศัพท์มือถือ และแอพลิเคชั่นต่างๆร่วมกับเทคโนโลยีบล็อกเชนมากขึ้น  หลังจากที่มีการพิสูจน์แล้วว่าเป็นระบบที่มีความปลอดภัย ไม่แพง และมีประสิทธิภาพในหลากหลายธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในธุรกรรมของบัญชีที่มีมูลค่าสูง  ทั้งนี้ในปัจจุบัน บล็อกเชนสามารถใช้ได้ผ่านแอพลิเคชั่นที่มีการเรียกเก็บเงินบางประเภท เช่น เกมส์ หรือ แอพลิเคชั่นบนมือถือที่รักษาความปลอดภัยข้อมูลโดยใช้บัญชีแยกประเภท, ตลาดแอพลิเคชั่นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่, micropayments, แบบการบอกรับสมาชิกและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซโดยใช้เทคโนโลยี เป็นต้น

เกี่ยวกับRapidzPay
RapidzPayกำเนิดขึ้นในปี 2017 ด้วยเป้าหมายในการสร้างประสิทธิภาพสูงสุด บนจรรยาบรรณความโปร่งใส และใช้ต้นทุนต่ำในการทำงานของโซลูชั่นการจ่ายเงินอย่างไร้พรมแดนไปยังผู้ใช้งานทั่วโลก ด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน และรูปแบบการรวมศูนย์ในการทำงาน ด้วยมุ่งหวังในการรวบรวมธุรกรรมอี-คอมเมิร์สระดับโลก และเพิ่มฐานผู้ใช้งาน โดยให้ผลตอบแทนกับผู้ถือเงินบิทคอยนส์

เกี่ยวกับ เมเจอร์กรุ๊ป
เมเจอร์กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจด้านไลฟสไตล์ความบันเทิงในประเทศไทย ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2538ธุรกิจได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ (SET) ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2545 โดยมีธุรกิจหลักคือ โรงภาพยนตร์ โบว์ลิ่ง คาราโอเกะ ไอซ์สเก็ต การเช่าพื้นที่ การขายโฆษณาและสื่อภาพยนตร์ต่างๆ ในหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด สมกับความตั้งใจที่จะเป็นผู้ให้การบริการระดับโลก ในด้านโรงภาพยนตร์และศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ความบันเทิงครบวงจร นอกจากนั้น บริษัทยังมุ่งมั่นในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆที่ดีที่สุดรวมถึงนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การบริการที่ดีกว่าให้กับลูกค้าสมกับคำขวัญขององค์กรที่ว่า “Sharing the world’s best entertainment dreams”.