โกลเบล็กกรุ๊ปวางกลยุทธ์รับปี53 ดันทองคำแท่ง-TFEXปั้นรายได้
โกลเบล็ก กรุ๊ป จัดทัพเสริมกลยุทธ์ทางธุรกิจ รับปี53 เร่งขยายฐานลูกค้า หวังดันรายได้เพิ่ม “ภาคภูมิ ภาคย์วิศาล” ระบุ ธุรกิจค้าทองคำแท่ง ยังไปได้สวย เตรียมเปิดตลาดซื้อขายทองคำผ่านอินเตอร์เน็ตรับวาเลนไทน์ พร้อมดันยอดขายปีนี้แตะ8,000 ล้านบาท ด้าน “ชนะชัย จุลจิราภรณ์” วางตัว TFEX ทำรายได้ ประกาศขอหั่นสัดส่วนรายได้ การซื้อขายหลักทรัพย์เหลือ 50% เหตุค่าคอมฯแข่งเดือด เชื่อบล.ปีนี้รายได้ประมาณ 710 ล้านบาท
นายภาคภูมิ ภาคย์วิศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทโกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานธุรกิจในปี2553 บริษัทฯยังคงมุ่งพัฒนาและขยายธุรกิจค้าทองคำแท่งอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มปริมาณการซื้อขาย และการขยายฐานลูกค้าของบริษัทฯ , การสร้าง Brand Awareness จนถึงการสร้าง Brand Loyalty ให้กับทองคำแท่งภายใต้ชื่อ “GBX” (Globlex) ตลอดจนการพัฒนาสินค้าและบริการที่มีอยู่ให้มีศักยภาพมากขึ้น
“ ปัจจุบันบริษัทฯให้บริการ อาทิ SMS ราคาทองคำ , บทวิเคราะห์ราคาทองคำ , การจัดสัมมนาให้ความรู้ด้านการลงทุนในทองคำ , และการรับ-ส่งทองคำในเขตพื้นที่ที่บริษัทฯกำหนด ดังนั้นในปีนี้ เราจะมีการขยายช่องทางในการซื้อขายและบริการต่างๆเพิ่มเติมให้กับลูกค้าของบริษัทฯให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น บริการการซื้อขายทองคำแท่งผ่านทาง Internet ซึ่งน่าจะเริ่มได้ในช่วงประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์(วันวาเลนไทน์) , บริการการซื้อขายทองคำในช่วงเวลากลางคืน(Night Trade) Campaign ต่างๆสำหรับลูกค้าปัจจุบันที่มีวอลุ่มสูง และสำหรับลูกค้าใหม่ที่มาเปิดบัญชีซื้อขายฯลฯ “ นายภาคภูมิ กล่าว
สำหรับภาพรวมของธุรกิจค้าทองคำแท่งในปี2553 เชื่อว่าทองคำแท่งยังคงมีบทบาทที่สำคัญในแง่ของเครื่องมือในการลงทุน การออม และการสะสมความมั่งคั่งอยู่ โดยจะสังเกตได้จากความสนใจของนักลงทุนไทยต่อการลงทุนในทองคำแท่งที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบในปีนี้บริษัทฯมีนโยบายเชิงรุกในการดำเนินธุรกิจค้าทองคำแท่งต่อเนื่องจากปีก่อน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 8,000 ล้านบาท ขณะที่อัตราผลกำไรได้ประมาณการไว้ที่ขั้นต่ำ 20 ล้านบาท โดยอิงกับฐานลูกค้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 คน
ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมของทิศทางและแนวโน้มของราคาทองคำในปี2553นั้น มองว่าราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนถึงปลายไตรมาส1/2553 ก่อนที่จะมีการพักฐาน โดยได้ประเมินTarget Price ของราคาทองคำโลกไว้ที่ 1,250-1,300 $/Oz. และราคาทองคำไทยไว้ที่ 19,500 – 20,500 บาท ในช่วงไตรมาสที่ 1/2553
“สำหรับช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของปี 2553 น่าจะเป็นช่วงที่ราคาทองคำมีการตกพักฐานเกิดขึ้น โดยราคาทองคำโลกน่าจะมีการปรับตัวลงมายังระดับ 1,000-1,050 $/Oz. และราคาทองคำไทยลงมาที่ราวๆ 16,500 บาท จึงเป็นช่วงที่น่าทยอยซื้อทองคำสะสมอีกครั้งในลักษณะ “Dollar Cost Average” เพื่อกระจายต้นทุนและ Market Timing “ นายภาคภูมิ กล่าว
ด้านนายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์
โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบล.ในปี2553 บริษัทฯยังคงเน้นกระจายความเสี่ยงของรายได้ โดยจะไม่เน้นสัดส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์เหมือนในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากในปีนี้ธุรกิจดังกล่าวเริ่มมีการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากที่เปิดใช้ค่าคอมมิสชั่นขั้นบันได และต่อเนื่องไปยังการเปิดเสรีการค้าหลักทรัพย์ในปี 2555 ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯต้องปรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯลง
ทั้งนี้ บริษัทฯได้ประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ของธุรกิจในปี2553ที่ระดับ 710 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2552 ที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 497 ล้านบาท โดยจะมาจากสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ 50% ซึ่งลดลงจากปีก่อนที่มีสัดส่วนรายได้ 63% , รายได้จากธุรกิจตราสารอนุพันธ์(TFEX)15-20% จากปีก่อนที่ 13% , รายได้จากการลงทุนของบริษัท20% จากปีก่อน16% , รายได้จากอัตราดอกเบี้ยการกู้ยืม 5% จากปีก่อน 5% , รายได้จากวาณิชธกิจ 5% และรายได้อื่นๆอีก 5%
นายชนะชัย ยังได้กล่าวอีกว่า บริษัทฯเตรียมรุกธุรกิจTFEXมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวยังมีแนวโน้มอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันหากเปรียบเทียบสัดส่วนการลงทุนในตลาดTFEX ระหว่างประเทศไทย กับตลาดในต่างประเทศ อาทิ ไต้หวัน , เกาหลี ฯลฯ ต้องยอมรับว่าสัดส่วนการลงทุนของนักลงทุนไทยในTFEX ถือว่าอยู่ในสัดส่วนที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับต่างประเทศ เนื่องจากพฤติกรรมของนักลงทุนในประเทศส่วนใหญ่มักจะลงทุนในตลาดหุ้นเป็นหลัก
“ บริษัทฯจะเน้นในการขยายฐานลูกค้าTFEXมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีบัญชีประมาณ 1,220 บัญชี โดยแบ่งเป็นบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวที่ 330 บัญชี พร้อมทั้งตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ของTFEXในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น12.5% จากปีก่อนอยู่ที่ 7.54% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปิดขาย Mini-Gold Futures และ Interest Rate Futures ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่ารายได้จากธุรกิจดังกล่าวจะสามารถเสริมรายได้ของธุรกิจโดยรวมของบริษัทหลักทรัพย์ได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับหากย้อนไปในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี2552 มาร์เก็ตเแชร์ของบริษัทฯปรับตัวขึ้นมาอยู่อันดับ1 เป็นระยะเวลาที่ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่าในปีนี้TFEXมีแนวโน้มการขยายตัวได้อย่างชัดเจน” นายชนะชัย กล่าว