รัฐมนตรีวิทย์ฯ และคณะ เยี่ยมชมสถาบันวิจัยชั้นนำของอิสราเอล เพื่อศึกษาพร้อมสร้าง

รัฐมนตรีวิทย์ฯ และคณะ เยี่ยมชมสถาบันวิจัยชั้นนำของอิสราเอล เพื่อศึกษาพร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและเกษตรสมัยใหม่ เสริมแกร่งผู้ประกอบการและเกษตรกร หนุน EECi ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0






รัฐมนตรีวิทย์ฯ และคณะ เยี่ยมชมสถาบันวิจัยชั้นนำของอิสราเอล



ภาพแสดงเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่

ณ เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล : ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วยผู้บริหาร สวทช. หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เยี่ยมชมบริษัท Israel Aerospace Industries Ltd. (IAI) จำกัด ผู้พัฒนาและผลิตเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ  บริษัท ทาฮาล กรุ๊ป (TAHAL Group) จำกัด ผู้พัฒนาเทคโนโลยีการเกษตร น้ำและการบำบัดน้ำเสีย และ Agricultural Research Organization (ARO) - Volcani Center (Bet Dagan) โดยมีผู้บริหารของบริษัท และหน่วยงานต่างๆ ให้การต้อนรับ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการวิจัยเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ ยกระดับผลผลิตการเกษตรอย่างยั่งยืน เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ หนุน EECi ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า การเดินทางเยี่ยมชมประเทศอิสราเอลในครั้งนี้ มีนโยบายในการสนับสนุนและเสริมสร้างงานวิจัยและพัฒนา พร้อมทั้งเชิญชวนให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนมาร่วมลงทุนในการพัฒนาพื้นที่โครงการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi: Eastern Economic Corridor of Innovation) พร้อมทั้งศึกษาดูงานภาคการเกษตร และการรักษาความปลอดภัยและป้องกันประเทศ ได้แก่ บริษัท Israel Aerospace Industries Ltd. (IAI) จำกัด บริษัทผู้พัฒนาและผลิตเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และอวกาศที่ใหญ่ที่สุดของรัฐบาลอิสราเอล ซึ่งก่อตั้งขึ้นในฐานะบริษัท ปัจจุบัน IAI เป็นผู้ส่งออกอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่สุดในอิสราเอล โดยเฉพาะด้าน dual-use technology การใช้งานเทคโนโลยีใดที่สามารถตอบสนองเป้าหมายได้มากกว่าหนึ่งเป้าหมายในแต่ละช่วงเวลา ดังนั้น เทคโนโลยีที่มีราคาแพงซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผลประโยชน์ทางการค้าของพลเรือน นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เพื่อทำหน้าที่ทางทหาร หรือการเกษตรเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสำหรับ Smart Farmer

นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชม บริษัท ทาฮาล กรุ๊ป จำกัด ที่เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีการเกษตร น้ำและการบำบัดน้ำเสีย ขนาดใหญ่ของอิสราเอล ซึ่งได้ดำเนินโครงการหลายร้อยโครงการกับรัฐบาล/เทศบาล และองค์กรเอกชนในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก โดยได้หารือร่วมกันในเรื่องการเกษตร น้ำ และการบำบัดน้ำเสีย เพื่อหาความร่วมมือให้กับผู้ประกอบการไทยในการนำเทคโนโลยีด้านการเกษตรสมัยใหม่ น้ำ และการบำบัดน้ำเสีย ไปต่อยอดธุรกิจเพิ่มผลผลผลิตและสร้างรายได้ต่อไป

ดร.สุวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการสนับสนุนและเสริมแกร่งการวิจัยและพัฒนาด้านการเกษตรสมัยใหม่แล้ว กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยังร่วมหารือเพื่อสร้างเครือข่ายกับ Agricultural Research Organization (ARO) - Volcani Center (Bet Dagan) ที่เป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (Ministry of Agriculture and Rural Development) ของอิสราเอล ซึ่งทำหน้าที่ในการพัฒนางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีสัดส่วนงานวิจัยด้านการเกษตรราว 70 % ของงานวิจัยด้านนี้ทั้งประเทศ โดยมีความเชี่ยวชาญ 6 ด้านด้วยกัน ได้แก่ 1) Plant Sciences 2) Animal Science 3) Plant Protection 4) Soil, Water and Environmental Sciences 5) Agricultural Engineering และ 6) Postharvest and Food Sciences ซึ่ง Volcani Center มีความสนใจที่จะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ให้การอบรมนักวิจัย สร้างเครือข่ายงานวิจัยร่วมกัน ทั้งในด้าน Smart Farming, Genome และ Advanced Technology Precision รวมถึงจะมีการจัดสัมมนาร่วมกันภายในเดือนตุลาคมศกนี้ โดยจะเชิญมหาวิทยาลัยในประเทศและภาคเอกชนมาร่วมสัมมนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย อันจะนำมาสู่การสร้างงานวิจัยใหม่ๆ และส่งผลต่อเกษตรกรให้ได้รับประโยชน์จากงานวิจัยสร้างผลผลิตและรายได้ให้ประเทศต่อไป