Dyson เผยโฉมพัดลมกรองอากาศเทคโนโลยีล่าสุด เพื่ออากาศบริสุทธิ์ทุกมุมห้อง

Dyson เผยโฉมพัดลมกรองอากาศเทคโนโลยีล่าสุด เพื่ออากาศบริสุทธิ์ทุกมุมห้อง

•   ผลิตภัณฑ์ที่ถูกพัฒนาให้ความสามารถในการกรองอากาศที่โดดเด่น จากความเชี่ยวชาญของ Dyson ในด้านอิเล็กทรอนิกส์ การกรอง และการไหลเวียนของอากาศ

•   ผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถกรองอากาศที่โดดเด่น พัฒนาขึ้นจากความเชี่ยวชาญของ Dyson ในด้านอิเล็กทรอนิกส์ การกรอง และการไหลเวียนของอากาศ

•   พัดลมกรองอากาศ Dyson Pure Cool™ เผยมลภาวะและสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น ผ่านจอ LCD ใหม่ ด้วยการรายงานมลภาวะภายในบ้านแบบเรียลไทม์ และจัดการกับปัญหาอย่างอัตโนมัติผ่านอัลกอริทึมเฉพาะของ Dyson

•   Dyson Pure Cool™ มีระบบฟิลเตอร์ทั้งเครื่องปิดสนิท 360 องศา ที่รวมคาร์บอนฟิลเตอร์เพื่อกำจัดแก๊ส และฟิลเตอร์แก้ว HEPA ที่มีความสามารถดักจับสารก่อภูมิแพ้และมลภาวะที่มีขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอน1ได้ถึง 99.95%

•   เทคโนโลยี Air Multiplier™ และการปล่อยกระแสลมแบบ 350 องศา จะช่วยกระจายอากาศที่กรองสะอาดไปทั่วห้อง โดยสามารถปรับใช้งานในโหมด Fan และโหมด Diffused เพื่อกรองอากาศสะอาดได้ตลอดทั้งปี
 


25 พฤษภาคม 2561 Dyson เปิดตัวพัดลมกรองอากาศเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Dyson Pure Cool™ ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากความเชี่ยวชาญในการหมุนเวียนของอากาศ การกรอง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อจัดการกับปัญหามลภาวะภายในบ้านและกรองอากาศทั่วทุกมุมห้อง

เราอาศัยและหายใจรับอากาศภายในบ้านเป็นส่วนใหญ่ หรือประมาณ 90% ของเวลาทั้งหมด โดยอากาศอาจมีการปนเปื้อนของอนุภาคขนาดเล็กที่ตาเปล่ามองไม่เห็น แหล่งที่ก่อให้เกิดมลภาวะ อาทิ มลพิษภายในเมือง ฝุ่นละออง และละอองเกสรดอกไม้ที่สามารถลอยเข้าสู่ภายในบ้าน และรวมกับมลภาวะที่เกิดภายในบ้าน เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ขนสัตว์ มูลสัตว์ที่กระจัดกระจาย การเผาไหม้จากเทียนหอม สีทาภายใน และควันจากการหุงต้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านสมัยใหม่ที่ออกแบบให้มิดชิดเพื่อประหยัดพลังงาน อาจกักเก็บมลพิษอยู่ภายใน การไหลเวียนของอากาศจึงไม่ดีเท่าที่ควร

พัดลมกรองอากาศ Dyson Pure Cool™ มีทั้งแบบทรงสูงสำหรับวางบนพื้น และขนาดเล็กสำหรับตั้งโต๊ะและบนพื้น มีระบบการกรองอากาศทั้งห้องแบบอัตโนมัติ ตรวจจับแก๊สและอนุภาคเล็กขนาด 0.1 ไมครอนได้ 99.95%

*มาตรฐาน AHAM AC1-2015 กำหนดไว้ว่าผู้ผลิตเครื่องกรองอากาศสามารถกำหนดประสิทธิภาพได้จาก “ปริมาณฝุ่นที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้องทดลองตามเกณฑ์กำหนด” หมายความว่าประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ขึ้นอยู่กับอัตราการทำความสะอาดเท่านั้น ขณะที่ Dyson ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความสามารถในการกรองอากาศเหนือกว่าการใช้ในคุณสมบัติของห้องทดลอง และเน้นการใช้งานกับสภาพอากาศของบ้านที่ใช้อยู่อาศัยจริง จึงทำให้ Dyson Pure Cool™ มีคุณสมบัติมากกว่าการมีตัวกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพ วิศวกรของ Dyson ได้เริ่มออกแบบผลิตภัณฑ์และสรุปผลวิจัยถึงการกรองอากาศสะอาดทั้งห้องอย่างเหมาะ ต้องสามารถตรวจวัดมลภาวะได้อย่างอัตโนมัติ ดักจับมลภาวะที่มีอนุภาคเล็ก และปล่อยลมที่กรองสะอาดไปรอบๆห้อง ด้วยเทคโนโลยี  Air Multiplier™ พัดลมกรองอากาศ Dyson ถูกออกแบบและทดสอบประสิทธิภาพคุณสมบัติดังกล่าวอย่างครบถ้วน5

พอล ดอว์สัน รองประธาน กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม Dyson กล่าวว่า “ที่ Dyson เราพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อผู้ใช้และการใช้งานภายในบ้านที่ใช้อยู่อาศัยจริง โดยสร้างเทคโนโลยีที่ประสิทธิภาพผ่านห้องปฏิบัติการทดสอบ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือสามารถตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าในการใช้งานจริง การกรองอากาศภายในบ้าน เครื่องกรองควรมีคุณสมบัติมากกว่าการมีตัวกรองอากาศที่ดี และสามารถทำหน้าที่ได้มากกว่าการเป็นเครื่องกรองอากาศ ทั้งความสามารถในการตรวจวัดมลพิษได้อย่างอัตโนมัติ ดักจับแก๊สและอนุภาคขนาดเล็ก และการกระจายลมสะอาดไปทั่วทุกมุมห้อง พัดลมกรองอากาศ Dyson Pure Cool™ พัฒนาขึ้นให้มีประสิทธิภาพครบถ้วน และเป็นผลิตภัณฑ์เดียวที่สามารถกรองอากาศสะอาดทั้งห้องได้อย่างเหมาะสม*

การตรวจวัด: พัดลมกรองอากาศใหม่ Dyson Pure Cool™ มีหน้าจอ LCD ที่แสดงผลการตรวจวัดอนุภาคขนาดเล็กและแก๊สได้อัตโนมัติแบบเรียลไทม์ อัลกอริทึมเฉพาะของ Dyson ประมวลข้อมูลจากเซ็นเซอร์ทั้ง 3 ตัว ที่ติดอยู่บนเครื่อง และแสดงค่าคุณภาพอากาศ

เลเซอร์จะวัดและดักจับอนุภาคขนาดเล็ก โดยเซ็นเซอร์อีกตัวจะทำหน้าที่ตรวจจับปริมาณสาร VOCs (ส่วนประกอบสารอินทรีย์ระเหยง่าย เช่น เบนซินและฟอร์มัลดีไฮด์ที่ปล่อยออกมาจากสี ควันที่เกิดจากเผาไหม้ทูปและเทียน และวัสดุในเฟอร์นิเจอร์) และไนโตรเจนออกไซด์ในอากาศ ส่วนเซ็นเซอร์ตัวที่สามจะวัดค่าความชื้นสัมพัทธ์และอุณหภูมิภายในห้อง

การตรวจจับ: ฟิลเตอร์ในพัดลมกรองอากาศ Dyson Pure Cool™ ถูกพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อดักจับทั้งฝุ่นละอองและแก๊ส วิศวกร Dyson ใส่ตัวกลางระบบฟองอากาศ HEPA เพิ่มขึ้นถึง 60% ในตัวกรองที่ผลิตขึ้นให้สูงขึ้นและลึกขึ้น และเพิ่มถ่านกัมมันต์ (activated carbon) มากขึ้น 3 เท่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับแก๊ส กลิ่นไม่พึงประสงค์ ควันพิษ และสาร VOCs

แผ่นบอโรซิลิเกตไมโครไฟเบอร์ขนาดความยาว 9 เมตร จะดักจับอนุภาคขนาดเล็ก 0.1 ไมครอนได้ถึง 99.95% รวมทั้งสารที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ แบคทีเรีย ขนสัตว์ และเชื้อรา ส่วนฟิลเตอร์ผงถ่านเคลือบด้วย Tris (Trishydroxymethylaminomethane)  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับ จะช่วยกำจัดแก๊ซต่างๆ เช่นไนโตรเจนออกไซด์ ฟอร์มัลดีไฮด์ และเบนซิน

ฟิลเตอร์ของ Dyson ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม EN1822 และ H13-A

การปล่อยกระแสลม: Dyson Pure Cool™ เป็นพัดลมกรองอากาศหนึ่งเดียวที่มีเทคโนโลยี Air Multiplier™ และการปล่อยกระแสลมแบบ 350 องศา ช่วยให้ปล่อยอากาศบริสุทธิ์ทั่วทุกมุมห้อง ด้วยการทำงานที่ผสานกันนี้ ทำให้พัดลมกรองอากาศสามารถปล่อยอากาศที่ผ่านการกรองไปยังทั่วทุกมุมห้องได้ถึง 290 ลิตร ต่อวินาที

พัดลมกรองอากาศจะปล่อยลมเย็นไปในทิศทางด้านหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยอากาศเย็นในช่วงฤดูหนาว Dyson Pure Cool™  เพิ่มโหมดกระจายลม (diffused mode) ขึ้นมาใหม่ ให้สามารถเลือกใช้เพียงโหมดกระจายลมหรือโหมดกรองอากาศเพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องการความเย็น 

ภายในวงแหวน วาล์วจะทำงานโดยสเต็ปมอเตอร์แบบไร้แปรงถ่าน (brushless stepper motor) เพื่อปรับโหมดการทำงานระหว่างโหมดกระจายลมและโหมดพัดลม

โหมดพัดลม
การใช้งานในโหมดพัดลม กระบังจะอยู่กับที่เพื่อส่งอากาศที่กรองแล้วไปข้างหน้าด้วยความแรง ช่วยทำความเย็นได้ดีในหน้าร้อน ไปพร้อมกับการกรองอากาศภายในห้องได้เป็นอย่างดี

โหมดกระจายลม
กระบังจะเคลื่อนตัวไปบังช่องด้านหน้า เพื่อเปลี่ยนการไหลเวียนของลมให้ไปด้านหลังผ่านวงแหวนในมุมระดับ 45 องศา ช่องที่มีความกว้างเพิ่มขึ้น ช่วยให้อากาศกระจายได้มากขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง และทำงานได้เงียบมาก ประสิทธิภาพการกรองอากาศยังคงเดิม โดยไม่ปล่อยความเย็นออกไป

แอพฯ Dyson Link: สามารถใช้บนโทรศัพท์มือถือระบบ iOS และ Android ผู้ใช้สามารถตรวจระดับมลภาวะภายในและภายนอกอาคาร รวมทั้ง อุณหภูมิและระดับความชื้น นอกจากนี้ยังใช้ควบคุมการทำงานของเครื่องและเช็คเวลาที่เหลือในการใช้งานตัวฟิลเตอร์

พัดลมกรองอากาศรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับระบบการทำงานผ่านทางอากาศแบบสมบูรณ์ หรือ  Over the Air Update Capability (OTA) ลูกค้าจะยังคงได้รับซอฟท์แวร์ทันสมัยที่สุดหลังจากซื้อผลิตภัณฑ์7

ออกแบบสำหรับการใช้งานภายในบ้านอย่างแท้จริง: พัดลมกรองอากาศ Dyson ถูกออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานจริงภายในบ้าน ผู้ผลิตเครื่องกรองอากาศบางแห่งประเมินประสิทธิภาพการทำงานผ่านการทดสอบในห้องทดลองเพียงอย่างเดียว หรือวัดผลเพียงอัตราอากาศบริสุทธิ์หรือ Clean Air Delivery Rate ซึ่งกระบวนการนี้เกิดขึ้นในห้องขนาด 12 ตารางเมตร ที่มีพัดลมสำหรับช่วยให้อากาศหมุนเวียนและเซ็นเซอร์เพียงหนึ่งตัวเพื่อวัดคุณภาพของอากาศ ซึ่งไม่ใช่บรรยากาศทั่วไปของการอยู่อาศัยจริง

วิศวกร Dyson จึงสร้างห้องทดลองที่มีชื่อว่า POLAR test ที่สร้างขึ้นให้มีขนาดเทียบเท่ากับห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ โดยไม่มีพัดลม ภายในห้องประกอบด้วยเซ็นเซอร์ 8 ตัว ติดอยู่ทุกมุมห้อง และเซ็นเซอร์อีก 1 ตัว ติดตั้งไว้กลางห้องเพื่อเก็บข้อมูลคุณภาพอากาศในทุกๆ 5 วินาที พร้อมตรวจจับฝุ่นมลภาวะทางอากาศที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของมนุษย์ถึง 300 เท่า โดยผลการวิเคราะห์จากเซ็นเซอร์ทั้ง 9 ตัว ทำให้วิศวกร Dyson มั่นใจว่าพัดลมกรองอากาศ  Dyson Pure Cool™ มีประสิทธิภาพในการความสะอาดได้ทั่วถึงทั้งห้อง 

อีวาน สตีเฟน ผู้อำนวยการฝ่ายวิศกร แผนกควบคุมสิ่งแวดล้อม Dyson กล่าวว่า “เราจำเป็นต้องทดสอบผลิตภัณฑ์ในสิ่งแวดล้อมการใช้งานและห้องที่พวกเขาอาศัยจริง เราจึงสร้างห้องไร้พัดลมขนาด 27 ตารางเมตร และติดเซ็นเซอร์จำนวน 9 ตัวเพื่อตรวจจับอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของมนุษย์ 300 เท่า และแสดงประสิทธิภาพของพัดลมกรองอากาศในรูปแบบ 3 มิติ ที่บ่งชี้ว่าสภาพอากาศภายในห้องสะอาดแล้วจริงๆ”

หมายเหตุบรรณาธิการ
แหล่งกำเนิดมลภาวะในบ้าน
•   มลภาวะทางอากาศภายนอก: มีสาเหตุมาจากละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง และมลพิษทางอากาศในเมือง ซึ่งสามารถเข้าสู่บ้าน และติดอยู่ตามบริเวณต่างๆ ของบ้านได้
•   เตาเผาไม้และเตาหุงต้ม: เตาเผาไม้และเตาหุงต้มจะปล่อยฝุ่นละอองออกมาขณะเผาไม้
•   เกสรดอกไม้: ต้นไม้และดอกไม้จะปล่อยละอองเกษรขนาดเล็กเข้าไปในอากาศ
•   ขนสัตว์และมูลสัตว์ที่กระจัดกระจายไม่เป็นที่: ทั้งแมว สุนัข และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ก็สามารถปล่อยอนุภาคขนาดเล็กไปในบ้านได้
•   กลิ่นเผาไหม้จากเทียนหอม: สารเคมีบางอย่างที่พบในเทียนหอมจะปล่อยสารเบนซินและฟอร์มัลดีไฮด์สู่อากาศขณะเผาไหม้
•   เฟอร์นิเจอร์ผลิตจากโฟม: โฟมในเฟอร์นิเจอร์จะปล่อยก๊าสฟอร์มัลดีไฮด์ออกมา
•   สีทาภายในบ้าน: สีทาบ้านบางชนิดใช้สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ซึ่งจะปล่อยออกมาในรูปแบบแก๊สเมื่อแห้งแล้ว และมีแนวโน้มจะปล่อยออกมาตลอด
•   น้ำยาปรับอากาศ: น้ำยาปรับอากาศที่ใช้ในบ้านเรือนบางชนิดประกอบด้วยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) และเบนซิน ซึ่งปล่อยออกในรูปแบบน้ำหอม
•   เตาแก๊ซและควันหุงต้ม: เตาแก๊ซและกระบวนการหุงต้ม โดยปกติแล้วจะปล่อยควัน กลิ่น และอนุภาคขนาดเล็กไปยังอากาศ
•   ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด: ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดครัวเรือนมีส่วนผสมของเบนซินและกลิ่นหรือควันในบ้านเรือน
•   พรม ผ้าขี้ริ้ว และกระเบื้องปูพื้น: พรม ผ้าขี้ริ้ว กระเบื้องปูพื้น และอุปกรณ์รองพื้นต่างๆ ปล่อยสารฟอร์มัลดีไฮด์เมื่อก่อสร้างใหม่ๆ และมีแนวโน้มจะปล่อยออกมาตลอดชีวิต

ผู้นำด้านการกรองอากาศ
Dyson เข้าสู่อุตสาหกรรมกรองอากาศครั้งแรกในปี พ.ศ. 2558 เพื่อช่วยแก้ปัญหาการมลภาวะทางอากาศภายในบ้านที่เพิ่มขึ้น
Dyson ยังคงเดินหน้านำร่องออกแบบพัดลมกรองอากาศทั่วโลก โดยทำการทดสอบในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดเครื่องกรองอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 สถาบันด้านมาตารฐานและเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน Household Appliance Standard and Technology Industry Alliance  (CHEARI) แห่งประเทศจีน บัญญัติการรับรองคุณภาพสำหรับพัดลมกรองอากาศอัจฉริยะครั้งแรก โดยได้พัฒนาวิธีทดสอบคุณภาพครั้งแรกที่ศูนย์เทคโนโลยี Dyson Technology Campus สหราชอาณาจักร ทำให้ Dyson เป็นบริษัทแรกที่ได้ทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานใหม่นี้


การพัฒนาเซ็นเซอร์
วิศวกร Dyson ได้ปรับเซ็นเซอร์ภายในพัดลมกรองอากาศ Dyson Pure Cool™ ด้วยการใช้ตัวอ่านค่าฝุ่นละอองทางวิทยาศาสตร์มูลค่าถึง 20,000 ปอนด์ โดยใช้เซ็นเซอร์จำนวน 30 ตัว ตั้งตั้งในห้องแล็ปทดสอบคุณภาพอากาศที่คิงส์ คอลเลจ ลอนดอนและมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เพื่อศึกษาปฏิกิริยาเซ็นเซอร์และทดสอบคุณภาพการตรวจวัดการรายงานผลของเซ็นเซอร์ที่แม่นยำเช่นเดียวกับอุปกรณ์ในสถาบันการศึกษาระดับโลก

เซ็นเซอร์ถูกเปิดให้ทำงานในกล่องซึ่งตั้งอยู่ภายนอกอาตารเป็นเวลา 6 เดือน ตลอดทั้ง 3 ฤดูกาล ท่ามกลางสภาวะอากาศ ที่แตกต่างกัน ทั้ง สกปรก  ร้อน เปียกชื้น และเย็นจัด เพื่อรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นในระยะยาว การเก็บข้อมูลทั้งหมด 288 ชิ้นต่อ 1 วินาที ทำให้วิศวกรได้ข้อมูลราว 5 พันล้านจุด เพื่อการวิเคราะห์ ช่วนให้วิศวกรได้ทำการพัฒนาการทำงานของเซ็นเซอร์ให้มีประสิทธิภาพสำหรับผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ในอนาคต

รุ่น: พัดลมกรองอากาศ Dyson Pure Cool™ ได้รับการออกแบบมาทั้งหมด 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ ทรงสูงสำหรับวางบนพื้น และขนาดเล็กสำหรับใช้วางตั้งบนโต๊ะและบนพื้น โดยทั้ง 2 รุ่นประกอบด้วยสี White/Silver และ Iron/Blue

การรับประกัน: พัดลมกรองอากาศ Dyson Pure Cool™ รับประกันเป็นเวลา 2 ปี

รีโมต คอนโทรล: รีโมต คอนโทรลแม่เหล็กสามารถวางติดไว้บนตัวเครื่อง

การตั้งเวลา Sleep: สามารถตั้งล่วงหน้าทำได้ตั้งแต่ 15 นาทีถึง 9 ชั่วโมง

โหมดกลางคืน: ตรวจวัดและกรองอากาศโดยใช้การตั้งค่าที่มีเสียงเบาที่สุด พร้อมหรี่ไฟแสดงผล

การส่งกระแสลมแบบ 350 องศา: สเต็ปมอเตอร์แบบไร้แปรงถ่าน (brushless stepper motor) ที่มีความแม่นยำสูง และการอ่านค่าแบบ Infra-red Encoder จะช่วยบังคับและเปลี่ยนทิศทางการส่งกระแสลมได้มากถึง 350 องศา นอกจากนี้ แม่เหล็กจำนวน 28 ตัว ที่ติดตั้งภายในช่วยให้สามารถเซ็ตมุมได้แบบแมนนวล

การเชื่อมต่อ: พัดลมกรองอากาศ Dyson Pure Cool™ เชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกับแอพฯ Dyson Link เวอร์ชั่น 4.1 ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อใช้กับโทรศัพท์มือถือระบบ iOS และ Android นอกจากนี้ ยังทำงานได้ดีบน Dual Band ความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz มาพร้อมกับการทำงานทางอากาศ หรือ Over the Air Update Capability (OTA) ผู้ใช้ Dyson จะยังได้รับซอฟท์แวร์ที่ทันสมัยที่สุดหลังจากการซื้อผลิตภัณฑ์

การลงทุน: บริษัทลงทุนสร้างห้องแล็ปทดลองมูลค่า 22 ล้านปอนด์ เพื่อวิจัยและพัฒนาด้านวิศวกรรม การผลิตผลิตภัณฑ์ต้นแบบ การวิจัยการเชื่อมต่อ และการป้องกัน IP

ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ: วิศวกร 75 คนที่ประจำอยู่ 6 ประเทศ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบและส่วนประกอบต่างๆ จำนวนกว่า 2,605 ชิ้น

ราคาและการวางจำหน่าย: เครื่องกรองอากาศ Dyson Pure Cool™ จะวางจำหน่ายที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า และห้างสรรพสินค้าชั้นนำตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เครื่องกรองอากาศ Dyson Pure Cool™ แบบตั้งโต๊ะ (DP04)   

ราคา:    19,900 บาท   
เครื่องกรองอากาศ Dyson Pure Cool™ แบบตั้งพื้น (TP04)

ราคา:    28,900 บาท

สีที่วางจำหน่าย: White/Silver และ Iron/Blue

เกี่ยวกับ Dyson
Dyson เป็นบริษัทที่คิดค้นและออกแบบเทคโนโลยีระดับโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองมัลส์เบอร์รี่ สหราชอาณาจักร Dyson พลิกโฉมผลิตภัณฑ์ทุกชนิดตั้งแต่การคิดค้นรากฐานและรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์ สามารถทำงานได้ดีและมีความแตกต่างจากผู้อื่น เรามุ่งสร้างสรรค์ความคิดและเทคโนโลยีที่ดีกว่าเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้อื่นมักมองข้าม

Dyson มีประสบการณ์มากกว่า 2 ปี และมีความเชี่ยวชาญด้านฟิลเตอร์ HEPA และไส้กรอง และยังมีห้องปฏิบัติการของตนเองสำหรับการทดลองด้านจุลชีววิทยา จากการสนับสนุนด้านอุปกรณ์จากห้องแล็บในโรงพยาบาลหลายแห่ง ห้องแล็บของ Dyson จำนวน 2 แห่ง จะใช้วิจัยและสนับสนุนทีมวิศวกรเพื่อพัฒนาอุปกรณ์สำหรับกรองอากาศอย่างถูกสุขลักษณะอนามัย
การวิจัยระดัลโลกยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง Dyson ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นระบบพลังงาน มอเตอร์ ระบบวิชั่น ระบบกรองอากาศ หุ่นยนต์ เครื่องจักร และเทคโนโลยี AI ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้ได้ผสมผสานสิ่งต่างๆ ข้างต้นเข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่เราคิดค้น โดยเความเชี่ยวชาญระดับโลกนี้จะอยู่ที่สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และจีน
•   5: ปัจจุบัน Dyson ได้พัฒนาเครื่องจักรทั้งหมด 5 ประเภทด้วยกันได้แก่ เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสายและไร้สาย เครื่องควบคุมสิ่งแวดล้อม ไดร์เป่าผม Dyson Supersonic™ เครื่องเป่ามือ Dyson Airblade™ และ หลอดไฟ Dyson ในปี พ.ศ. 2560 Dyson เปิดเผยว่ากำลังพัฒนารถไฟฟ้าในศูนย์วิจัยและพัฒนา ณ เมืองมัลส์เบอร์รี่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
•   2.5 พันล้านปอนด์: Dyson เดินหน้าลงทุนด้านเทคโนโลยีระยะยาวด้วยเม็ดเงินจำนวน 2,500 ล้านปอนด์ มีการจ้างวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์จำนวน 4,450 คน โดย 50% อยู่ที่สหราชอาณาจักร
•   8 ล้านปอนด์: จำนวนเงินลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา 8 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ในปี พ.ศ. 2561
•   11,750: Dyson จ้างพนักงานกว่า 11,750 คนทั่วโลก
•   40 ล้าน: Dyson คิดค้นมอเตอร์ดิจิทัลตัวที่ 40 ล้านในปี พ.ศ. 2560
•   100 ล้าน: ยอดการผลิตของ Dyson ถึง 100 ล้านเครื่องในปี พ.ศ. 2560
•   การวิจัยและพัฒนาระดับโลก พ.ศ. 2560: Dyson สร้างศูนย์เทคโนโลยีแห่งใหม่ในประเทศสิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และสหราชอาณาจักร งบประมาณจำนวน 330 ล้านปอนด์ถูกใช้สำหรับการดำเนินงานในประเทศสิงคโปร์ Dyson ให้พันธะสัญญาจะพัฒนาให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้มีประสิทธิภาพและทันสมัยเพื่อการดำเนินงานในอนาคต ในปี พ.ศ. 2561 ทีมวิศวกรด้านยานยนตร์จำนวน 400 คนจะย้ายไปยังเมือง Hullavington Airfield ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยและพัฒนาอันทันสมัยแห่งที่ 2 ในสหราชอาณาจักร ที่มีพื้นที่ขนาด 750 เอเคอร์
•   31 ล้านปอนด์: Dyson ลงทุนจำนวน 31 ล้านปอนด์เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนวิศวกรในสหราชอาณาจักร สถาบันแทคโนโลยีและวิศวกรรมแห่ง Dyson ได้เปิดตัวในเดือนกันยายน พ.ศ. 2560 ที่เมืองมัลส์เบอร์รี่ พร้อมวิศวกรมืออาชีพที่จบการศึกษาระดับปริญญาโทจำนวน 33 คน โดย 28% เป็นผู้หญิง ซึ่งคิดเป็นเกือบ 2 เท่ากับที่เป็นสัญชาติอังกฤษ 15%