‘อีสท์ เวสท์ ซีด’ ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ เจาะตลาดคนเมือง ใช้กิจกรรมขยายฐานลูกค้า

‘อีสท์ เวสท์ ซีด’ ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ เจาะตลาดคนเมือง ใช้กิจกรรมขยายฐานลูกค้าใหม่ พร้อมเอาใจเกษตรกร เตรียมวางจำหน่ายเมล็ดพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ กว่า 10 ชนิด





   21 พฤษภาคม 2561 (กรุงเทพมหานคร): ผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผักอันดับหนึ่ง ‘อีสท์ เวสท์ ซีด’ ตอกย้ำความเป็นผู้นำ พร้อมสู้ศึกตลาดการเกษตร รุกตลาดคนเมืองต่อเนื่อง ด้วยกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำโฮมการ์เดนนิ่ง  พร้อมรักษาฐานลูกค้าเกษตรกร จ่อเปิดตัวเมล็ดพันธุ์ใหม่กว่า 10 ชนิดภายในปี 2561

   ‘อีสท์ เวสท์ ซีด’ ผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผักอันดับหนึ่งภายใต้ตราสินค้า ‘ตราศรแดง’ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ผักเขตร้อนที่มีคุณภาพสูง และยังถือเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเมล็ดพันธุ์ดังกล่าว ที่มีประสบการณ์อันยาวนานมากว่า 35 ปี และได้รับการตอบรับที่ดีจากเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งหน้ารุกตลาดคนเมืองต่อเนื่อง เพื่อให้เท่าทันกับเทรนด์การบริโภคของคนยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนไป


   คุณวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไปบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ได้เปิดเผยถึงการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดครั้งนี้ว่า “ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของอีสท์ เวสท์ ซีด แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักได้แก่ เกษตรกรมืออาชีพ, เกษตรกรรายย่อย และกลุ่มโฮม การ์เดนนิ่ง หรือคนที่ปลูกผักรับประทานเองในบ้าน ซึ่งตั้งแต่เทรนด์การรักษาสุขภาพเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้ลูกค้ากลุ่มโฮม การ์เดนนิ่ง ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ในปีนี้เป็นอีกปีที่เรามีแผนที่จะเจาะกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้มากขึ้น ซึ่งเป็นคนเมืองเป็นส่วนมาก”

   “โดยในปีนี้เรามีแคมเปญที่จะจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ ไปสู่กลุ่มคนเมืองมากขึ้น โดยเน้นการใช้การจัดกิจกรรมทั้งกิจกรรมในเชิงส่งเสริมการขาย และกิจกรรมสาธิตให้ความรู้ในการทำการเกษตรอย่างถูกต้อง และทำตามได้ง่ายๆ โดยในปีนี้เราได้ไปร่วมกิจกรรมในงาน The Farm 2018 ของเครือเซ็นทรัล ใน  4 สาขาใหญ่รอบกรุงเทพได้แก่ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์, เซ็นทรัลบางนา, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า และเซ็นทรัลเวสต์เกต และในช่วงปลายปีจะมีบูธกิจกรรมภายในงานบ้านและสวน, โครงการที่ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร จัดทำแปลงสาธิตปลูกผัก และกิจกรรมเวิร์คช็อป ในบริเวณสวนสาธารณะต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร และรายการ ‘ความสุขปลูกได้ ซีซั่น 3’ กับภารกิจการปลูกผักของคนเมือง ที่รับรองว่าซีซั่นนี้สนุกไม่แพ้กับซีซั่นก่อนๆ แน่นอน” คุณวิชัยกล่าวเพิ่มเติม

   คุณวิชัยกล่าวต่อไปอีกว่า “นอกจากการสร้างการรับรู้ผ่านกิจกรรมแล้ว เรายังใช้การสื่อสารบนโลกออนไลน์ควบคู่ไปด้วย เพราะในปัจจุบันทั้งกลุ่มเกษตรกรมืออาชีพ เกษตรกรรายย่อย และกลุ่มโฮม การ์เดนนิ่ง ก็ต่างใช้ช่องทางออนไลน์ในการหาความรู้ และข้อมูลเพิ่มเติมทั้งสิ้น อีสท์ เวสท์ ซีด จึงได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มอย่างตรงจุดมากขึ้น โดยเรามีช่องทางทั้งเว็บไซต์หลัก www.eastwestseed.com และแฟนเพจเฟชบุ๊คสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต่างกัน โดยแฟนเพจ เฟชบุ๊ค ‘เมล็ดพันธุ์ศรแดง’ จะเน้นเจาะกลุ่มเกษตรกรมืออาชีพ และเกษตรกรรายย่อย ส่วนแฟนเพจ เฟชบุ๊ค ‘East-West Seed Thailand’ จะเน้นไปที่กลุ่มโฮม การ์เดนนิ่ง และผู้ที่สนใจจะริเริ่มปลูกผัก ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ในปีนี้เรามีแผนที่จะเปิดตัวไลน์ ออฟฟิเชียล ในชื่อ ‘East-West Seed Thailand’ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสาร และรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าด้วย”

   นอกจากการสร้างการรับรู้เพิ่มเติมสำหรับคนเมืองผ่านกิจกรรม และช่องทางต่างๆ แล้ว อีสท์ เวสท์ ซีด ยังรองรับความต้องการของตลาดกลุ่มคนเมืองที่อยากปลูกผักด้วย ซองฉลาดพร้อมปลูก Go Grow  บรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก ที่ภายในบรรจุเมล็ดพันธุ์คุณภาพ ทนโรค ทนต่อสภาพอากาศ และการันตีเปอร์เซ็นการงอกเช่นเดียวกับเมล็ดพันธุ์ในบรรจุภัณฑ์ขนาดปกติ พิเศษด้วยการรวบรวมข้อมูลการปลูกของพืชผักชนิดนั้นๆ ไว้แบบครบครัน โดยที่คุณมีแค่ซองก็สามารถปลูกได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นวิธีให้ปุ๋ย ช่วงเวลาการปลูกและการเก็บเกี่ยว คุณค่าสารอาหารของผักชนิดนั้น และยังมีคิวอาร์โค๊ดที่คุณสามารถสแกนดูข้อมูลการป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชได้บนมือถือ นับเป็นการปฏิวัติตลาดเมล็ดพันธุ์ ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ในท้องตลาดอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง

   สำหรับกลุ่มลูกค้าเกษตรกรมืออาชีพ และเกษตรกรรายย่อยในปีนี้ทางอีสท์ เวสท์ ซีด ก็มีแผนที่จะปล่อยเมล็ดพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เพื่อตอบรับความต้องการของตลาดที่มีมากขึ้น โดยคุณวิชัยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าวว่า “ทางอีสท์ เวสท์ ซีด ให้ความสำคัญในการพัฒนาสายพันธุ์ของเมล็ดพันธุ์ผักของเรา ให้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพที่ดีเยี่ยมอยู่ตลอดเวลา โดยในแต่ละปีเราทุ่มเงินไม่ต่ำกว่าปีละ 100 ล้านบาทไปกับการวิจัย และในปีนี้เรามีแผนที่จะเปิดตัวเมล็ดพันธุ์ใหม่ ในช่วงไตรมาสที่ 1-3 จำนวน 10 ชนิดในกลุ่มพริก มะเขือ ฟักทอง แตงโม เมล่อน มะละกอ และดาวเรือง ซึ่งจะเน้นโชว์ความโดดเด่นด้านวัตกรรมการพัฒนาสายพันธุ์โดยใช้เครื่องหมายโมเลกุลของเรา”

   “ภาคการเกษตรก็ยังมีความสำคัญในระบบเศรษฐกิจในฐานะแหล่งผลิตอาหาร ถึงแม้สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัวไปบ้าง แต่สำหรับภาคการเกษตรก็ยังถือว่าทรงตัวต่อไปได้ ประกอบกับความสนใจในเรื่องการเกษตรที่เพิ่มขึ้นของคนเมือง ในปีนี้เราคาดว่าตลาดสินค้าเพื่อการเกษตรอย่างเมล็ดพันธุ์ ก็น่าจะเติบโตไปได้ในทิศทางที่ดีเช่นเดียวกัน” คุณวิชัยกล่าวทิ้งท้าย

   สำหรับผู้ที่สนใจเมล็ดพันธุ์ผักคุณภาพดี และข้อมูลสาระดีๆ เกี่ยวกับการเพาะปลูก สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.eastwestseed.com และแฟนเพจเฟชบุ๊ค www.facebook.com/SornDaengHomeGardening