ฟิลิปส์ ไลท์ติ้ง เปลี่ยนเป็น “ซิกนิฟาย”
“ซิกนิฟาย” (Euronext: LIGHT) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์แสงสว่างระดับโลก ได้เปิดตัวชื่อบริษัทใหม่ ตามระเบียบข้อบังคับทางกฎหมาย โดยบริษัท ฟิลิปส์ ไลท์ติ้งทั่วโลกจะเปลี่ยนสู่ชื่อ “ซิกนิฟาย” (Signify)“ที่มาของชื่อบริษัทใหม่นี้มาจากการที่เรามองว่า ‘แสง’ ได้กลายเป็นภาษาอัจฉริยะใหม่ ที่ทั้งเชื่อมต่อและสื่อความหมายที่มากไปกว่าการให้ความสว่าง” นายเอริค รอนโดลัต ประธานผู้บริหาร บริษัท ซิกนิฟาย กล่าว “ชื่อนี้เป็นการแสดงออกที่ชัดเจนของเราในวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธและวัตถุประสงค์ของเราในการปลดล็อกศักยภาพอันเหนือชั้นของแสง เพื่อชีวิตที่สว่างสดใสและโลกที่ดียิ่งกว่า”เฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ (ซ้าย) ธวัชชัย บุญทวีกิจ ผู้อำนวยการผ่ายการตลาด (ขวา) เฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ ทั้งนี้ บริษัท ซิกนิฟายจะยังคงใช้ชื่อ “แบรนด์ฟิลิปส์” สำหรับผลิตภัณฑ์ในตลาดเช่นเดิม ภายใต้สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ (Licensing Agreement) ที่มีกับรอยัล ฟิลิปส์ (Royal Philips) โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลในทุกประเทศภายในต้นปี 2562
ตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท ฟิลิปส์ ที่เมืองไอโทเว่น ประเทศเนเธอร์แลนด์ ฟิลิปส์ ไลท์ติ้งก็ได้เป็นผู้นำอุตสาหกรรมแสงสว่าง ด้วยนวัตกรรมสำหรับทั้งอุตสาหกรรมและผู้บริโภคมากว่า 127 ปี โดยในปี 2559 ฟิลิปส์ ไลท์ติ้งได้แยกตัวออกจากกลุ่มฟิลิปส์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์ที่อัมสเตอดัม (Euronext Stock Exchange) และอยู่ในดัชนี AEX ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561
ด้วยการดำเนินงานในกว่า 70 ประเทศ พร้อมพนักงานกว่า 32,000 คนทั่วโลก ซิกนิฟายสร้างยอดขายถึง 7 พันล้านยูโร และลงทุนในโครงการวิจัยและพัฒนาในปี 2560 ถึง 354 ล้านยูโร
“เราขับเคลื่อนธุรกิจด้วยหลักการที่ว่าแสงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้” นายเอริค กล่าวเสริม “และด้วยการเชื่อมต่อแสงสว่างเข้ากับเครือข่าย ซอฟต์แวร์ และระบบคลาวด์ เราจะเปิดประตูสู่โลกที่ฉลาดยิ่งขึ้น ที่แสงจะมอบคุณค่าที่เหนือกว่าการส่องสว่าง”
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวซิกนิฟาย ได้ที่ Newsroom, Twitter และ LinkedIn. และสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักลงทุนสัมพันธ์ได้ที่หน้า Investor Relations###
เกี่ยวกับ Signify Signify (Euronextr: LIGHT) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านผลิตภัณฑ์แสงสว่างสำหรับทั้งอุตสาหกรรมและผู้บริโภคด้วยเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) โดยผลิตภัณฑ์เครือฟิลิปส์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นระบบ Connected Lighting Interact หรือบริการเชื่อมต่อกับข้อมูลต่างๆ (Data-enabled Services) ล้วนเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจและพลิกโฉมการใช้ชีวิตในครัวเรือน อาคาร และพื้นที่ในเมืองต่างๆ ด้วยยอดขาย 7 พันล้านยูโรในปี พ.ศ. 2560 พนักงานประมาณ 32,000 คน และการดำเนินงานในกว่า 70 ประเทศ เราได้ปลดล็อกศักยภาพที่เหนือชั้นของแสงเพื่อชีวิตที่สว่างสดใสและโลกที่ดีกว่า สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวซิกนิฟาย ได้ที่ Newsroom, Twitter และ LinkedIn. และสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักลงทุนสัมพันธ์ได้ที่หน้า Investor Relationsจากงาน ฟิลิปส์ ไลท์ติ้ง เปลี่ยนเป็น “ซิกนิฟาย”
17 พฤษภาคม 2561
• บรรยายโดย เฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด
• เราจะเปลี่ยนไปจากสิ่งที่ทำในอดีต จากการพูดถึงผลิตภัณฑ์แสงสว่าง สู่การต่อยอดแสงสว่างสู่ Internet of Things (IoT) และนำสู่ Industry transformation
• มีประวัติยาวนานถึง 127 ปี โดยเข้ามาในประเทศไทยปีพ.ศ. 2495 ปีนี้เป็นปีที่ 66
• นับแต่ปี 2557 เราได้ประกาศเจตจำนงค์ในการแยกบริษัท โดยรอยัล ฟิลิปส์จะดำเนินนวัตกรรมเกี่ยวกับสุขภาพ ชื่อในไทยคือ บริษัท ฟิลิปส์ ไทยแลนด์ ในขณะที่ฟิลิปส์ ไลท์ติ้งจะเป็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แสงสว่าง ชื่อในไทยคือ บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด
• หนึ่งในสาเหตุหลักในการเปลี่ยนคือ ข้อกำหนดในทางกฎหมายกับรอยัล ฟิลิปส์ที่ต้องเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่หลังการแยกตัวภายใน 18 เดือน
• การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ยังแสดงวิสัยทัศน์ในการมุ่งสู่ Internet of Things อย่างเต็มตัว
• Signify N.V. คือชื่อบริษัทแม่ที่อัมสเตอร์ดัม โดยจดทะเบียนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 สำหรับในประเทศไทยกำลังดำเนินการขอจดทะเบียนชื่อใหม่อยู่
• สำหรับพัฒนาการแสงสว่างในปัจจุบัน LED กำลังใกล้ถึงจุดอิ่มตัว และกำลังมุ่งสู่การเป็นระบบแสงสว่าง (Integrated system) ซึ่งอัตราการเจริญเติบโตกำลังสูงขึ้น รวมถึงการนำเสนอบริการต่างๆ (Services) โดยเฉพาะตลาดอุตสาหกรรม เราต้องการเป็นผู้นำในการนำเทรนด์ใหม่ที่เหนือยิ่งกว่า คือ “Light as a new intelligent language”
• แสงสว่างในฐานะภาษาใหม่ กลายเป็นสิ่งที่ต้องการการเชื่อมต่อและสื่อความหมายได้ โดยเราต้องการเป็นผู้นำในการปลดล็อกศักยภาพที่เหนือกว่าของแสงสว่าง
• ทั้งนี้ ชื่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะยังคงเป็นแบรนด์ฟิลิปส์เช่นเดิม
• ซิกนิฟาย ยังคงดำเนินค่านิยมในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นในการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางและเป็นผู้นำแสงสว่างที่ผนวกเทคโนโลยี IoT เพื่อชีวิตที่สดใสและโลกที่ดีกว่าเดิม (Brighter lives, better world)
• ลงทุน 4.8% ไปกับการทำ R&D เรื่อง Internet of Things
• Signify Internet of Things (Si-Ot)
> Hospitality room piece เพื่อให้ผู้พักมีประสบการณ์กรพักที่ดีที่สุด มีการเซ็ทซีนต่างๆ ได้ ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ผ่านศูนย์กลาง
> Retail ผู้ใช้สามารถค้นหาตำแหน่งสินค้า มีแผนที่พาไป และสามารถทำป๊อบอัพบอกโปรโมชั่นได้วัดโฟลว์คนเดินเพื่อการวางแผนได้
• Mega trend ของโลกเกี่ยวกับการใช้แสง
จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป และการขยายของเมือง ทำให้ต้องการใช้แสงเพิ่มขึ้น โดยที่ยังประหยัดไฟอยู่ พร้อมเชื่อมต่อกับระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประโยชน์การใช้งานนอกเหนือไปจากความสว่าง