happy on April 29, 2018, 04:58:49 PM

จอห์นนี่ เด็ปป์ นำทีมพากย์เสียงในภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องใหม่ Sherlock Gnomes

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=lWeZOzHWDOs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=lWeZOzHWDOs</a>

จอห์นนี่ เด็ปป์ พากย์เสียง “เชอร์ล็อค โนมส์” ในภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องใหม่ Sherlock Gnomes เชอร์ล็อค โนมส์ และพบกับการกลับมาของทีมพากย์เดิมอย่าง เจมส์ แม็คอะวอย, เอมิลี บลันท์, ไมเคิล เคน, แม็กกี้ สมิธ, สตีเฟ่น เมอร์แชนท์ และออสซี่ ออสบอร์น นอกจากนี้ ยังได้ ชิเวเทล เอจิโอฟอร์ ในบทวัตสันและแมรี เจ. ไบลจ์ ในบทไอรีน มาเสริมทีมพากย์ในเรื่องนี้ด้วย

พบกับการกลับมาของตัวโนม (ตุ๊กตาประดับสวน) ที่แฟนๆ รักจาก Gnomeo And Juliet กับการผจญภัยครั้งใหม่ในกรุงลอนดอน ตอนที่โนมิโอและจูเลียตได้มาถึงนครหลวงแห่งนี้เป็นครั้งแรกพร้อมกับผองเพื่อนและครอบครัว สิ่งที่พวกเขากังวลที่สุดคือการเตรียมสวนใหม่ของพวกเขาให้พร้อมสำหรับฤดูใบไม้ผลิ อย่างไรก็ดี ไม่นานนัก พวกเขาก็ได้ค้นพบว่ามีใครบางคนกำลังลักพาตัวโนมทั่วทั้งลอนดอน ในตอนที่โนมิโอและจูเลียตกลับมาบ้านและพบว่าทุกคนในสวนของพวกเขาหายตัวไป พวกเขาก็สามารถพึ่งพาโนมได้ตัวเดียวเท่านั้น...เขาก็คือเชอร์ล็อค โนมส์ นักสืบเรืองนาม ผู้สาบานตนว่าจะคุ้มครองโนมประจำกรุงลอนดอน เขาปรากฏตัวพร้อมกับเพื่อนคู่หู วัตสัน เพื่อสืบคดีนี้ และปริศนาลึกลับครั้งนี้ก็จะนำโนมของเราไปสู่การผจญภัยสุดหฤหรรษ์ ที่ซึ่งพวกเขาจะได้พบกับของตกแต่งบ้านใหม่ๆ และได้สำรวจมุมที่ไม่เคยถูกสำรวจมาก่อนของเมือง

พบกับการผจญภัยของเจ้าตัวโนมใน Sherlock Gnomes เชอร์ล็อค โนมส์ 3 พฤษภาคม ในโรงภาพยนตร์









SHERLOCK GNOMES
วันเข้าฉาย: 3 พฤษภาคม ปี 2018

ข้อมูลงานสร้าง

                     พาราเมาท์ พิคเจอร์สและเมโทร-โกลด์วิน-เมเยอร์ พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างโดยร็อคเก็ต พิคเจอร์ส “SHERLOCK GNOMES”

                     ควบคุมงานสร้างโดยเซอร์เอลตัน จอห์น อำนวยการสร้างโดยสตีฟ แฮมิลตัน ชอว์, เดวิด เฟอร์นิชและแครอลิน โซเปอร์ จากตัวละครโดยร็อบ สแปร็คลิงและจอห์น สมิธร่วมด้วยแอนดี้ ไรลีย์และเควิน เซซิล, คีลลี แอสเบรีและสตีฟ แฮมิลตัน ชอว์ เรื่องราวโดยแอนดี้ ไรลีย์ และเควิน เซซิล ร่วมด้วยเอมิลี ดี คุ้กและเคธี กรีนเบิร์ก บทภาพยนตร์โดยเบน ซาโซฟ กำกับโดยจอห์น สตีเวนสัน

                     ตัวโนมในสวนที่เรารักจาก GNOMEO AND JULIET กลับมาอีกครั้งเพื่อพบกับการผจญภัยครั้งใหม่ในกรุงลอนดอน ในตอนที่โนมิโอและจูเลียตมาถึงเมืองหลวงแห่งนี้พร้อมกับเพื่อนๆ และครอบครัว สิ่งที่พวกเขากังวลมากที่สุดคือการเตรียมสวนของพวกเขาให้พร้อมรับฤดูใบไม้ผลิ แต่ไม่นานนัก พวกเขากลับพบว่ามีใครบางคนได้ลักพาตัวโนมสวนทั่วทั้งลอนดอน ในตอนที่โนมิโอและจูเลียตกลับบ้านและพบว่าทุกคนในสวนของพวกเขาหายตัวไป มีโนมตัวเดียวเท่านั้นที่จะช่วยพวกเขาได้...เชอร์ล็อค โนมส์ นักสืบชื่อดัง ผู้ปวารณาตัวเองว่าจะคุ้มครองโนมสวนในกรุงลอนดอนได้มาสืบสวนคดีนี้ร่วมกับวัตสัน คู่หูของเขา ปริศนาครั้งนี้จะนำโนมของเราไปสู่การผจญภัยสุดหฤหรรษที่พวกเขาจะได้พบกับของประดับใหม่ๆ และได้สำรวจด้านที่ยังไม่ถูกค้นพบของเมืองนี้ ซีเควลที่อัดแน่นไปด้วยแอ็กชันเรื่องนี้พากย์เสียงโดยทีมนักพากย์ชุดเดิมอย่างเจมส์ แม็คอะวอย, เอมิลี บลันท์, ไมเคิล เคน, แม็กกี้ สมิธ, สตีเฟน เมอร์แชนท์และออซซี ออสบอร์น ร่วมด้วยจอห์นนี เด็ปป์ในบทเชอร์ล็อค โนมส์, ชิเวเทล เอจิโอโฟร์ในบทวัตสันและแมรี เจ. ไบลจ์ในบทไอรีน
« Last Edit: April 29, 2018, 05:08:34 PM by happy »

happy on April 29, 2018, 05:05:43 PM



โนมไกลบ้าน

มีบางคนกำลังขโมยของประดับสวนในกรุงลอนดอน และมีนักสืบเพียงคนเดียวที่เล็กพอสำหรับปริศนาที่บิ๊กเบิ้มแบบนี้ นั่นก็คือเชอร์ล็อค โนมส์

“ตั้งแต่เริ่มต้น สิ่งสำคัญของซีเควลนี้ก็คือเราต้องหาเรื่องราวคลาสสิกเรื่องใหม่มาทำให้มัน ‘มีความเป็นโนม’ ครับ” ผู้อำนวยการสร้างสตีฟ แฮมิลตัน ชอว์กล่าว “เรามีไอเดียมากมาย แต่ไม่มีตัวละครตัวไหนเทียบเชอร์ล็อค โฮล์มส์ได้ในแง่ของความโด่งดังระดับโลกและนี่เป็นโอกาสที่เราจะผลักดันโนมิโอและจูเลียตให้เข้าสู่เรื่องราวแอ็กชันสืบสวนสอบสวนครับ”

“กับ Sherlock Gnomes เราได้เปลี่ยนแปลงแนวหนังของเราครับ” ผู้กำกับจอห์น สตีเวนสันกล่าว “ภาคแรกของเราเป็นโรแมนติกคอเมดีมิวสิคัลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสวนสองแห่ง โดยมีโลเกชันไม่กี่แห่ง และมีอันตรายน้อยมากๆ แต่ Sherlock Gnomes เป็นคอเมดีแอ็กชันผจญภัย มือเขียนบทเบน ซาโซฟได้ย้ายสถานที่เกิดเรื่องไปลอนดอนเพราะมันเป็นโลเกชันสำหรับเรื่องราวของเชอร์ล็อคที่เหมาะสมกว่า นอกจากนั้น ลอนดอนยังทำให้เรามีพื้นที่ทำงานที่กว้างขวางขึ้น ทำให้เราพาตัวเอกของเราออกจากสวนที่คุ้นตาไปสู่เมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยพื้นผิวแข็งกระด้าง ยานพาหนะที่เคลื่อนที่รวดเร็วและมนุษย์นับล้านๆ คน ซึ่งทุกอย่างสามารถกระแทกกับตัวโนมที่เปราะบางได้อย่างง่ายดายครับ”

“แค่สเกลของลอนดอนก็ทำให้มันเป็นแบ็คดร็อปที่เหลือเชื่อสำหรับเรื่องราวนี้แล้วค่ะ” ผู้อำนวยการสร้างแครอลิน โซเปอร์กล่าว “โลเกชันสำคัญๆ ทั้งหมดในกรุงลอนดอนดูเหมือนจะมีขนาดใหญ่ยักษ์เมื่อเทียบกับพวกตัวโนม ที่ตัวเล็กจิ๋วมากๆ ทีมออกแบบได้ทำงานอย่างเหลือเชื่อในการสร้างลอนดอนสมัยใหม่ที่ดูเหมือนของจริงมากๆ ขึ้นมา มันทำให้การผจญภัยทั้งหมดนี้ให้ความรู้สึกเหมือนว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ ราวกับเราอาจจะเห็นพวกตัวโนมวิ่งวุ่นถ้าเราไม่มัวแต่สนใจแต่โทรศัพท์ตัวเองน่ะค่ะ”

“จริงๆ แล้ว มันเป็นจดหมายรักถึงกรุงลอนดอนครับ” ผู้อำนวยการสร้างเซอร์เอลตัน จอห์น ผู้กลับมาพร้อมกับเพลงออริจินอลสองเพลง และผู้ซึ่งหนังสือเพลงของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ “มีฉากเยี่ยมๆ มากมายและโลเกชันที่หลากหลายมากมาย มันคงจะน่าเบื่อสุดๆ ถ้าทิ้งให้พวกเขาอยู่ในสวนตลอดทั้งเรื่องน่ะครับ”

หลังจากความพังพินาศของสวนมอนตาคิวและคาปูเล็ตใน Gnomeo and Juliet เพื่อนบ้านที่เคยเป็นคู่กัดกันก็ปล่อยวางความขัดแย้งระหว่างกันและอพยพครอบครัวที่ใหญ่กว่าเดิมอำลาชีวิตที่เงียบสงบในสแตรทฟอร์ด อัพพอน เอวอน ไปลงหลักปักฐานในลอนดอน เมื่อทุกอย่างลงตัว ลอร์ดเรดบริค (ไมเคิล เคน) และเลดี้บลูเบรี (แม็กกี้ สมิธ) ก็เกษียณ ทิ้งให้โนมิโอและจูเลียตต้องดิ้นรนกับความรับผิดชอบใหม่ในฐานะผู้นำสวน

“พวกเขาจะต้องโตขึ้นอีกหน่อย ซึ่งทำให้พวกเขาประหม่านิดๆ” แม็คอะวอยเล่า “จูเลียตกระโจนเข้าใส่งานใหม่ ในขณะที่โนมิโอนึกถึงความสนุกสนานที่พวกเขาเคยมี มันเป็นความขัดแย้งจริงๆ ครับ”

“จูเลียตรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่าโนมิโอ” บลันท์กล่าว “ตอนนี้ พวกเขาต้องรับผิดชอบพวกโนมทั้งหมดและการทำความสะอาดสวน มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขานึกถึงเลยในตอนเริ่มต้นความสัมพันธ์นี้น่ะค่ะ”

ระหว่างการทะเลาะกันครั้งหนึ่งของพวกเขา คนร้ายปริศนาได้แอบลอบเข้ามาในสวนและลักพาตัวเพื่อนๆ และครอบครัวของพวกเขาไป ผู้ที่ถูกลักพาตัวไปก็รวมถึงขวัญใจแฟนๆ อย่างเบนนี (แมทท์ ลูคัส), นาเน็ตต์ (แอชลีย์ เจนเซน), ปารีส (สตีเฟน เมอร์แชนท์) และฟอว์น (ออซซี ออสบอร์น) ที่กลับมาอีกครั้งเพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับทุกคนในครอบครัว

“แมทท์ ลูคัสและแอชลีย์ เจนเซนเป็นนักแสดงตลกอาชีพที่ทุ่มเทค่ะ” โซเปอร์กล่าว “สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับทั้งคู่คือการเลือกบทแค่เวอร์ชันเดียว เพราะพวกเขาพูดไม่หยุดและให้ตัวเลือกเราเยอะเหลือเกินค่ะ”

“ทีมนักพากย์ของเรานำเสนออะไรมากมายเพราะพวกเขาทุกคนต่างก็อิมโพรไวส์” ชอว์กล่าว “สตีเฟน เมอร์แชนท์มักจะเรียกเสียงฮาด้วยวิธีที่น่ารักที่สุด เขาอินกับมันจริงๆ และยอมรับความไร้สาระของเรื่องเป็นอย่างดีครับ”

ตารางการทำงานที่ยุ่งเหยิงของทีมนักพากย์ทำให้การบันทึกเสียงร่วมกันกลายเป็นเรื่องท้าทายแต่ก็ส่งผลให้เกิดเทคที่ดีที่สุดหลายเทคด้วย “เราสามารถบันทึกเสียงไมเคิล เคนและแม็กกี้ สมิธด้วยกัน ซึ่งเหลือเชื่อมากครับ” สตีเวนสันเล่า “เด็กซ์เตอร์ เฟล็ทเชอร์และจาโวน ปรินซ์ ที่รับบทรอนนีและเร็จจี้ สองพี่น้องการ์กอยล์ ก็ได้บันทึกเสียงด้วยกัน ซึ่งฮาสุดๆ เลย แต่พวกเขาขัดจังหวะกันอยู่เรื่อย ทำให้เซสชันบันทึกเสียงต้องใช้เวลานานขึ้นเป็นสองเท่าน่ะครับ”

เมื่อปราศจากเงื่อนงำว่าเพื่อนๆ ของพวกเขาหายไปไหน โนมิโอและจูเลียตก็ขอความช่วยเหลือจากเชอร์ล็อคและวัตสัน สองคู่หูนักสืบเซรามิกที่เก่งที่สุดในโลก

“เชอร์ล็อคนำความลึกลับและการผจญภัยที่แปลกใหม่เข้ามาค่ะ” โซเปอร์กล่าว “เขาเป็นตัวละครวรรณกรรมที่เขียนขึ้นมาได้ดีเหลือเกิน เขาฉลาดมากๆ แต่ก็ปิดกั้นตัวเอง แม้เขาจะมีสติปัญญาที่คิดวิเคราะห์อะไรได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เขามักจะมองข้ามคนที่อยู่รอบตัวเสมอ ซึ่งทำให้เกิดอารมณ์ขันขึ้นมากมายค่ะ”

“ตัวละครพวกนี้มีความหนักแน่นและความรู้สึกโหยหาความหลังบางอย่างค่ะ” เอมิลี บลันท์ ผู้กลับมาพากย์เสียง จูเลียต กล่าว “มันก็เลยมีอะไรที่สนุกจริงๆ เกี่ยวกับการได้จินตนาการพวกเขาใหม่ในโลกใบนี้น่ะค่ะ”

การจินตนาการลุคของตัวเอกแห่งโลกวรรณกรรมใหม่เป็นตัวโนมเป็นเรื่องยากทีเดียว สตีเวนสันกล่าวว่า “ตามปกติแล้ว เชอร์ล็อคจะถูกบรรยายถึงว่าเป็นคนร่างสูง ผอมเก้งก้าง ในขณะที่พวกโนมจะตัวสั้น ป้อม การพบกันครึ่งทางทำให้เขาดูเหมือนชาวนาร่างท้วมยุควิคตอเรียน เราก็เลยเลือกใช้วิธีที่คนจะจดจำได้มากขึ้น แล้วใส่ความเป็นโนมเข้าไปนิดๆ เช่นจะงอยบนหมวกนักสืบของเชอร์ล็อคและหมวกทรงสูงของวัตสันและเครา ‘ครัวซองขาว’ ของเชอร์ล็อคตรงคาง รายละเอียดเหล่านี้เป็นไปเพื่อทำให้พวกมันดูเหมือนเชอร์ล็อคและวัตสันเวอร์ชันโนมในสวนที่ขำขันกว่าที่เคยปรากฏในจอแก้วและจอเงินหลายร้อยเรื่อง แต่ผู้ชมก็จะสามารถจดจำได้ในทันทีด้วย”

อนิเมเตอร์ นีล บอยล์ ถูกว่าจ้างให้นำเสนอกลไกความคิดที่พลุ่งพล่านของเชอร์ล็อคออกมาในรูปแบบของซีเควนซ์อนิเมชันขาวดำ 2 มิติ โซเปอร์กล่าวว่า “นีลเป็นอนิเมเตอร์ที่มีพรสวรรค์มากค่ะ การที่ได้อนิเมชันวาดด้วยมือของเขามาทำให้เราสามารถแสดงให้เห็นถึงกระบวนการความคิดของเชอร์ล็อคในแบบที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายและอารมณ์ขันน่ะค่ะ”

“ในกรุงลอนดอน โนมิและจูเลียตพบว่าตัวเองต้องบุกตะลุยในถิ่นที่พวกเขาไม่รู้จัก และต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเชอร์ล็อคและวัตสัน” สตีเวนสันกล่าว “พวกเขาไม่ได้อยู่ในถิ่นของตัวเองและรู้สึกเปราะบาง ซึ่งส่งผลให้เกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์ของพวกเขา ในขณะที่หนังภาคแรกเกี่ยวกับการเอาชนะความกดดันภายนอกเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน แต่หนังภาคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความท้าทายในการอยู่ด้วยกันครับ”

“การมาถึงของเชอร์ล็อคและวัตสันทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาซับซ้อนขึ้นค่ะ” บลันท์กล่าว “พวกเขาช่วยเหลือทั้งคู่ในการตามหาเพื่อน แต่ก็ยังทำให้พวกเขาห่างเหินกันกว่าเดิมด้วย พวกเขาได้เรียนรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับตัวเองระหว่างการเดินทางครั้งนี้ค่ะ”

“โนมิโอไม่ได้ประทับใจกับเชอร์ล็อคนักหรอกครับ” เจมส์ แม็คอะวอย ผู้กลับมาพากย์เสียงโนมิโอ กล่าว “เขาหงุดหงิดที่จูเลียตประทับใจกับหนุ่มขี้อวด หยิ่งยะโสคนนี้ เขาพบว่าตัวเองเหมือนกับวัตสัน ที่ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เงาของเชอร์ล็อค มากกว่าน่ะครับ”

“โนมิโอและวัตสันรู้สึกโดดเดี่ยวในความสัมพันธ์ของพวกเขา” เอจิโอโฟร์กล่าว “ทั้งคู่มีอะไรต้องทำมากมายเพื่อเรียนรู้เรื่องการสื่อสารกับคู่รักของตัวเองให้ดีขึ้นน่ะครับ”

“เชอร์ล็อคและวัตสันเป็นคู่หูคู่ต่างที่น่าสนใจมาโดยตลอดครับ” แม็คอะวอยกล่าว “เชอร์ล็อคเป็นคนที่น่าแปลกใจ ความรู้สึกช้าและอาจดูติงต๊องในบางครั้ง แต่เขาก็ฉลาดเป็นกรด ในขณะที่วัตสันเป็นเพื่อนผู้อดทนและภักดีในตัวเพื่อน เชอร์ล็อคและวัตสันของเราก็มีความสัมพันธ์แบบนั้น แต่ในขณะเดียวกัน เราก็นำพวกเขาไปสู่ทิศทางที่ไม่คาดคิดด้วยครับ”

“ตอนที่พวกเขาส่งบทให้ผม ผมไม่คาดคิดว่ามันจะทำให้ผมหัวเราะออกมาดังๆ เลย” จอห์นนี เด็ปป์ ผู้พากย์เสียงเชอร์ล็อค กล่าว “ตัวละครตัวนี้ยอดเยี่ยมในแบบที่เกิดจากความซุ่มซ่ามของเขา เขาเป็นหมาล่าเนื้อ ที่มั่นใจตัวเอง และเป็นตัวละครที่น่าเล่นสนุกด้วยครับ”

ชิเวเทล เอจิโอโฟร์ ผู้พากย์เสียง วัตสัน คู่หูผู้ทุกข์ทรมานของเชอร์ล็อค ก็ชื่นชอบอารมณ์ขันของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน “ตัวละครพวกนี้มีความพิลึกบางอย่างที่ตลกขบขัน แต่ด้วยความที่พวกมันเป็นกระเบื้องเคลือบ พวกมันก็เลยเปราะบางด้วย ซึ่งก็ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นได้บ้างครับ”

สตีเวนสันกล่าวชื่นชมเด็ปป์และเอจิโอโฟร์ถึงความซับซ้อนในการพากย์เสียงของพวกเขา “จอห์นนีสามารถสับเปลี่ยนระหว่างคอเมดี และดรามา ความหยิ่งยะโสและความเปราะบางได้อย่างลื่นไหล ชิเวเทลอาจจะมีบทที่ยากที่สุดในหนังเรื่องนี้ ด้วยการพากย์เสียงวัตสันในลักษณะที่ดูเหมือนแบบฉบับในตอนแรก แล้วค่อยปรับความคลุมเครือของบทนี้ทีหลังน่ะครับ”





ชั่วร้ายชนะเลิศ

ผู้ที่ก้าวนำหน้าตัวเอกของเราไปอีกก้าวคือมอริอาตี้ ศัตรูที่เก่าแก่ที่สุดของเชอร์ล็อค พายมาสค็อตสติแตกที่หมกมุ่นกับเชอร์ล็อคและตัวโนมที่เขาสาบานว่าจะคุ้มครอง ชอว์กล่าวว่า “มอริอาตี้เป็นตัวแทนความหายนะสุดคลาสสิกที่พบว่าเชอร์ล็อคเป็นคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อครับ”

“การพัฒนาตัวละครมอริอาตี้เป็นกระบวนการยาวนานครับ” สตีเวนสันยอมรับ “ด้วยความที่เขาจะเป็นตัวโนมไม่ได้ เราก็เลยพิจารณาการทำให้เขาเป็นตุ๊กตุ่นฮัมเมลชั่วร้าย ที่ภายนอกดูไร้เดียงสา แต่ภายในชั่วร้าย แล้วเขาก็จะต้องมีวิธีที่จะเดินทางไปทั่วเมืองได้ เราก็เลยตัดสินใจทำให้เขาเป็นมาสค็อตตาโตของ ‘กูบาร์บา พายส์’ อาหารขยะที่มีสารอาหารน้อยนิด และเต็มไปด้วยวัตถุปรุงแต่งที่ทำจากของเสียจากอุตสาหกรรมและน้ำตาล ซึ่งทำให้เขาได้นั่งอยู่ด้านบนรถส่งของไปทั่วเมือง ตรงข้ามกับตัวละครส่วนใหญ่ ที่เป็นกระเบื้องเคลือบ ตัวเขาทำจากแป้ง ซึ่งทำให้เขาสามารถห่อตัว ยืดตัวและทำตัวเหมือนการ์ตูนได้แบบไม่บันยะบันยัง”

เสียงของมอริอาร์ตี้มาจากแหล่งที่คาดไม่ถึง ระหว่างการถ่ายทำ เจมี เดอเมทริโอ ได้บันทึกเสียงชั่วคราวสำหรับมอริอาร์ตี้ ซึ่งเป็นการพากย์เสียงออฟบีทที่ทีมผู้สร้างตกหลุมรักในทันที

“เจมีสมควรได้รับการยกย่องจากการค้นพบเสียงของมอริอาร์ตี้ครับ” ชอว์กล่าวชื่นชม “เราให้ไดอะล็อคสุดเพี้ยนกับเขาและเขาก็พูดได้อย่างสวยงาม”

“มอริอาร์ตี้เป็นตัวละครที่สุดโต่งที่สุดในหนังเรื่องนี้ และเราก็เจอแจ็คพ็อตกับเจมีครับ” สตีเวนสันกล่าว “เราจินตนาการถึงมอริอาร์ตี้ที่พูดแบบอื่นไม่ออกเลย”





นักเต้นตัวน้อย

เช่นเดียวกับใน Gnomeo and Juliet ความเป็นเอลตัน จอห์นปรากฏอยู่ใน Sherlock Gnomes ทั้งเรื่อง ในลักษณะของดนตรีที่คลอไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“การมีส่วนร่วมของเอลตันช่วยสร้างมิติใหม่ขึ้นมาครับ” เด็ปป์กล่าว “เขาและเบอร์นีย์ เทาปินได้แต่งเพลงคลาสสิกเยี่ยมๆ มากมาย พวกเขาใส่ความเป็นตัวเองเข้าไป และเผยแพร่มันออกไปให้คนทั้งโลกได้รับฟังครับ”

จอห์นและเทาปินได้ร่วมมือกันแต่งเพลงใหม่สองเพลงให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งก็คือ “Better Together” ที่ขับร้องโดยเจสซี แวร์และ “Stronger Than I Ever Was” ที่ขับร้องโดยแมรี เจ. ไบลจ์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดและเจ้าของหลายรางวัลแกรมมี ไบลจ์ได้ร้องเพลงนี้ในฐานะตัวละคร ไอรีน ตุ๊กตาวิคตอเรียน ที่มีความรู้สึกเย็นชากับเชอร์ล็อค

“ไอรีนเป็นหัวหน้าที่พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาครับ” จอห์นอธิบาย “เธอเคยมีความสัมพันธ์กับเชอร์ล็อคเมื่อหลายปีก่อน และเขาก็ปฏิบัติกับเธออย่างเลวร้ายมากๆ เพราะเขามัวแต่หมกมุ่นกับตัวเอง เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นเพื่อขอความช่วยเหลือจากเธอ เธอก็ไม่ค่อยดีใจนักที่ได้เห็นเขา เธอและตุ๊กตาตัวอื่นๆ ก็เลยร้องเพลงประกอบการเต้นเพื่อบอกว่า ‘คุณทำฉันเจ็บ แต่ตอนนี้ ฉันแข็งแกร่งกว่าเก่าแล้ว’ และแน่นอนครับว่าแมรีร้องได้อย่างสวยงาม”

“ไอรีนเป็นผู้หญิงที่ฉลาด มีอำนาจ” ไบลจ์กล่าว “แต่เชอร์ล็อคทำเธอเจ็บด้วยความไม่ใส่ใจของเขา เธอก็เลยทำให้เขาได้รู้ว่าเขาทำพลาดแค่ไหนน่ะค่ะ”

“ฉันได้ฟังเดโมเพลงของเอลตันที่เขาและเบอร์นีย์แต่งให้ไอรีนและฉันก็ชอบมันมากๆ” โซเปอร์เล่า “แล้วพอฉันได้ยินแมรี เจ. ร้องเพลงนี้ ฉันก็ทึ่งมากกับสิ่งที่เธอใส่เข้าไปในเพลงนี้ เธอทำให้มันเป็นเพลงของเธอจริงๆ ค่ะ”

จอห์นยอมรับว่าเขาและเทาปินนึกถึงไบลจ์ตอนที่แต่งเพลงนี้ “แมรีเป็นเพื่อนผมมาหลายปีแล้ว และเป็นคนที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับเพลงนี้ เธอเป็นนักแสดงที่ดีและผมก็ยินดีมากที่เธออยู่ในหนังของเราด้วย”

สำหรับแฟนๆ ของเอลตัน จอห์น ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยไข่อีสเตอร์ ทั้งทางภาพวิชวลและดนตรี “ดนตรีโดยคริส เบคอนของเราเต็มไปด้วยสิ่งที่อ้างอิงถึงเมโลดี้คลาสสิกของเอลตัน จอห์นร้อยเรียงอยู่ทั้งเรื่อง” สตีเวนสันเล่า “แล้วมันก็ยังมีการปรากฏตัวสั้นๆ ของโนมที่หน้าตาคุ้นๆ ที่ถูกลักพาตัวไปในเรื่องด้วย คอยจับตาดูให้ดีนะครับ!”

“ดนตรีของเอลตันเป็นอีกหนึ่งตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้” แม็คอะวอยกล่าว “มันมีพลังงานแง่บวกมากเหลือเกิน และเป็นความรู้สึกโหยหาอดีต ไม่เพียงแต่สำหรับผู้ใหญ่ที่โตมากับการฟังเพลงพวกนั้นเท่านั้น แต่ยังสำหรับเด็กๆ ที่พ่อแม่เปิดเพลงพวกนี้ให้ฟังด้วย มันมีเสน่ห์สำหรับคนหลายรุ่นครับ”

ซาวน์แทร็คของเรื่องยังรวมถึงเวอร์ชันใหม่ของเพลง “Don’t Go Breaking My Heart,” “Saturday Night’s Alright For Fighting,” “Philadelphia Freedom” และ “The One” ที่รีมิกซ์และอำนวยการสร้างโดยพาเนา

จอห์นมีแต่เสียงชมเชยให้กับศิลปินที่ดัดแปลงผลงานของเขา “คริสและพาเนาทำงานได้อย่างวิเศษสุด ผมให้อิสระกับพวกเขาที่จะทำอะไรก็ได้ตามต้องการ ผมก็เลยทั้งยินดีและแปลกใจเมื่อได้ดูหนังเรื่องนี้และได้ฟังว่ามันถูกใช้งานอย่างไร ตอนที่คุณสร้างหนังอนิเมชัน คุณมักจะได้เห็นมันเป็นช่วงเป็นตอน และพอคุณได้เห็นมันในรูปแบบเสร็จสมบูรณ์ มันก็ดีกว่าที่คุณคิดฝันเอาไว้อีกมากมายเลยล่ะครับ”
« Last Edit: April 29, 2018, 05:12:01 PM by happy »